ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
พระอภัยมณีเห็นเป็นโอกาสดีจึงทานายฝันไป
ว่านางนั้นจะมีเคราะห์ร้ายอาจถึงแก่ชีวิตและแนะนาให้
นางไปบาเพ็ญศีลอยู่บนเขา ๓ วัน เพื่อเป็นการสะเดาะ
เคราะห์และห้ามกินเนื้อสัตว์เป็นอันขาด นางผีเสื้อ
สมุทรหลงกลพระอภัยมณี สินสมุทรทราบความโดย
ตลอดก็เสียใจจนพระอภัยมณีต้องห้าม ดังความว่า
สินสมุทรสุดแสนสงสารแม่ ด้วยรู้แน่ว่าบิดาจะพาหนี
ให้ห่วงหลังกังวลด้วยชนนี เจ้าโศกีกราบก้มบังคมคัล
บิดาดูรู้แจ้งจึงแกล้งห้าม จะวอนตามเขาไปไยในไพรสัณฑ์
อยู่เป่าปี่ตีเกราะเสนาะครัน แล้วรับขวัญลูกน้อยกลอยฤทัย
พระอภัยมณีและสินสมุทรได้หนีไปกับ
ครอบครัวเงือก เมื่อครบ ๓ วัน นางผีเสื้อสมุทรกลับมา
ไม่พบใครจึงออกตระเวนทะเลตามหาด้วยร่างเนรมิต
เป็นยักษ์แล้วเรียกภูตผีในทะเลมาถามจนได้ความและ
ตามพระอภัยมณีไปทันภายใน ๓ วัน สินสมุทรพยายาม
ห้ามแล้วแต่นางผีเสื้อสมุทรไม่ฟัง สินสมุทรจึงหลอกล่อ
ให้มารดาหลงทางเพื่อให้เงือกลูกสาวพาพระอภัยมณีหนี
ไปให้ถึงเกาะแก้วพิสดารเงือกชราสองผัวเมียถูกนาง
ผีเสื้อฆ่าตายซึ่ง
ในขณะเดียวกัน
พระอภัยมณี สิน
สมุทรและเงือก
สาวได้หนีขึ้นเกาะ
แก้วพิสดารทัน
พระโยคีออกมา
ห้ามปรามนางผีเสื้อสมุทรแต่นางไม่ฟังและต่อว่า
ย้อนกลับมา พระโยคีจึงเสกทรายปกป้องเกาะไว้เพื่อ
ไม่ให้นางผีเสื้อสมุทรเข้ามาได้
ข้อคิด
เรื่องพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนาง
ผีเสื้อสมุทร สะท้อนให้เห็นถึงอานุภาพของความรักที่
อาจทาลายหรือสร้างสรรค์ก็ได้ เช่นรักของนางยักษ์
เป็นรักที่เกิดจากความหลง เป็นความรักที่ต้องการ
การครอบครองเป็นเจ้าของ มิใช่เป็นรักที่เสียสละ
และแสดงให้เห็นว่า บางครั้งเมื่อรักไม่เป็นไปอย่างที่
ต้องการ ความรักอาจแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นได้
รักมากก็แค้นมากดังเช่นนางยักษ์เป็นต้น ดังนั้นหาก
นักเรียนจะมีความรักก็ควรจะรักอย่างมีสติ
จัดทาโดย
นางสาวจันทิมา รอดใส
รหัสนักศึกษา ๕๖๘๑๑๒๔๐๑๖ เลขที่ ๕
คณะครุศาสตร์ สาขาวิชา ภาษาไทย
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
เนื้อเรื่องย่อ
พระอภัยมณีและศรีสุวรรณพระอนุชาเดินทางออก
จากบ้านเมืองหลังถูกท้าวสุทัศน์เนรเทศเพราะโกรธ
พระโอรสที่ไปเรียนวิชาเป่าปี่และกระบี่กระบองไม่สมกับ
ที่เป็นโอรสกษัตริย์ ทั้งสองเดินทางมาพบกับพราหมณ์
วิเชียร โมรา สานนท์ พราหมณ์ทั้ง ๓ แปลกใจที่พระอภัย
มณี เลือกเรียนวิชาปี่ พระอภัยจึงเป่าปี่อวดอานุภาพของ
เพลงปี่ ทาให้พราหมณ์
ทั้งสามและศรีสุวรรณ
หลับไป ขณะนั้นนาง
ผีเสื้อสมุทรได้ฟังเสียงปี่
และหลงใหลรูปโฉมพระ
อภัยมณี จึงได้ใช้ฤทธิ์จับ
ตัวพระอภัยมณีไปอยู่ในถ้า และนางได้แปลงกายเป็นหญิง
งาม พระอภัยมณีทราบดีว่าหญิงที่อยู่ด้วยเป็นยักษ์แต่ก็ไม่
สามารถหนีความต้องการของ
นางได้ จึงจาใจเป็นสามีของ
นาง และให้นางสัญญาว่าจะไม่
จับพระองค์กินเป็นอาหาร
พระอภัยมณีครองคู่กับนาง
ผีเสื้อสมุทรจนมีบุตรคนหนึ่งชื่อ สินสมุทร พระอภัยมณี
เลี้ยงดูสินสมุทรจนอายุแปดปี สินสมุทรมีลักษณะผสม
ระหว่างพระอภัยมณีและนางผีเสื้อสมุทรดังความว่า
ไม่คลาดเคลื่อนเหมือนองค์พระทรงเดช แต่ดวงเนตรแดงดูดังสุริย์
ฉายทรงกาลังดังพระยาคชาพลาย มีเขี้ยวคล้ายชนนีมีศักดา
พระอภัยมณีได้เลี้ยงและถ่ายทอดความรู้ที่พระองค์
มีให้กับสินสมุทรจนหมดและมอบ
ของสาคัญไว้ให้ คือ พระธามรงค์
และผ้าคาดเอว วันหนึ่งเมื่อนาง
ผีเสื้อสมุทรออกไปหาอาหาร ด้วย
ความซุกซนสินสมุทรได้ทดลอง
ผลักหินปากถ้าจนเปิดแล้วออกไป
เที่ยวเล่นในทะเล สินสมุทรพบ
เงือกชราแต่ไม่รู้จักว่าคืออะไรจึงนา
เงือกกลับไปให้พระอภัยมณีทอดพระเนตร พระอภัยมณีเห็น
ดังนั้นจึงเล่าความจริงให้สินสมุทรฟังทั้งหมด สินสมุทร
ทราบความแล้วก็เสียใจเป็นอันมาก เงือกฟังแล้วได้อ้อน
วอนให้พระอภัยมณีสั่งให้สินสมุทรปล่อยตนไปเสียและให้
สัญญาว่าจะพาพระอภัยมณีหนีพึ่งพระโยคีที่เกาะแก้ว
พิสดารซึ่งอยู่ห่างออกไปราว ๑๐๐ โยชน์ เงือกชราบอกว่า
การไปที่เกาะแก้วพิสดารนั้นตนต้องใช้เวลาถึง ๗ วัน ว่าย
น้าไปในมหาสมุทรแต่กลัวนางผีเสื้อสมุทรจะตามทันเพราะ
นางผีเสื้อสมุทรนั้นมีพละกาลังมากเมื่ออยู่ในทะเลซึ่งใช้
เวลาเพียง ๓ – ๔ วันก็ไปถึงเกาะแล้ว เงือกชราแนะให้พระ
อภัยมณีทาอุบายลวง นางผีเสื้อสมุทรเพื่อจะได้มีเวลาใน
การหลบหนีตกกลางคืนในวันเดียวกัน นางผีเสื้อสมุทรเกิด
ฝันร้ายว่ามีเทวดามาควักเอานางทั้งสองออกแล้วเหาะ
หายไป นางตกใจตื่นแล้วเล่าความฝันนั้นให้พระอภัยมณีฟัง
ทั้งหมด
เรื่อง : พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร
ผู้แต่ง : พระสุนทรโวหาร (สุนทรภู่)
ประวัติของสุนทรภู่
สุนทรภู่เป็นกวีสาคัญสมัยต้นรัตนโกสินทร์
และได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก(UNESCO)
ให้สุนทรภู่เป็นบุคคลสาคัญของโลกท่านสุนทรภู่เกิดวัน
จันทร์เดือน ๘ ขึ้น ๑ ค่า ปีมะเมียตรงกับวันที่ ๒๖
มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๙ ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๑
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ณ พระราชวังหลัง
แก่กรรมในรัชกาลที่ ๔ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๘ อายุ ๖๙ ปี
ลักษณะคาประพันธ์ : กลอนสุภาพในลักษณะนิทาน
ที่มาของเรื่อง : สุนทรภู่ผูกเรื่องขึ้นเองโดยนาเรื่องที่ได้
ยินได้ฟังมาหรืออ่านมาจากวรรณคดีไทยและวรรณคดี
ต่างชาติมาผสมผสานเข้ากับเรื่องจริงที่ได้พบเห็นและ
เรื่องที่สุนทรภู่จินตนาการขึ้นอย่างกลมกลืน

More Related Content

แผ่นพับพระอภัยมณี

  • 1. พระอภัยมณีเห็นเป็นโอกาสดีจึงทานายฝันไป ว่านางนั้นจะมีเคราะห์ร้ายอาจถึงแก่ชีวิตและแนะนาให้ นางไปบาเพ็ญศีลอยู่บนเขา ๓ วัน เพื่อเป็นการสะเดาะ เคราะห์และห้ามกินเนื้อสัตว์เป็นอันขาด นางผีเสื้อ สมุทรหลงกลพระอภัยมณี สินสมุทรทราบความโดย ตลอดก็เสียใจจนพระอภัยมณีต้องห้าม ดังความว่า สินสมุทรสุดแสนสงสารแม่ ด้วยรู้แน่ว่าบิดาจะพาหนี ให้ห่วงหลังกังวลด้วยชนนี เจ้าโศกีกราบก้มบังคมคัล บิดาดูรู้แจ้งจึงแกล้งห้าม จะวอนตามเขาไปไยในไพรสัณฑ์ อยู่เป่าปี่ตีเกราะเสนาะครัน แล้วรับขวัญลูกน้อยกลอยฤทัย พระอภัยมณีและสินสมุทรได้หนีไปกับ ครอบครัวเงือก เมื่อครบ ๓ วัน นางผีเสื้อสมุทรกลับมา ไม่พบใครจึงออกตระเวนทะเลตามหาด้วยร่างเนรมิต เป็นยักษ์แล้วเรียกภูตผีในทะเลมาถามจนได้ความและ ตามพระอภัยมณีไปทันภายใน ๓ วัน สินสมุทรพยายาม ห้ามแล้วแต่นางผีเสื้อสมุทรไม่ฟัง สินสมุทรจึงหลอกล่อ ให้มารดาหลงทางเพื่อให้เงือกลูกสาวพาพระอภัยมณีหนี ไปให้ถึงเกาะแก้วพิสดารเงือกชราสองผัวเมียถูกนาง ผีเสื้อฆ่าตายซึ่ง ในขณะเดียวกัน พระอภัยมณี สิน สมุทรและเงือก สาวได้หนีขึ้นเกาะ แก้วพิสดารทัน พระโยคีออกมา ห้ามปรามนางผีเสื้อสมุทรแต่นางไม่ฟังและต่อว่า ย้อนกลับมา พระโยคีจึงเสกทรายปกป้องเกาะไว้เพื่อ ไม่ให้นางผีเสื้อสมุทรเข้ามาได้ ข้อคิด เรื่องพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนาง ผีเสื้อสมุทร สะท้อนให้เห็นถึงอานุภาพของความรักที่ อาจทาลายหรือสร้างสรรค์ก็ได้ เช่นรักของนางยักษ์ เป็นรักที่เกิดจากความหลง เป็นความรักที่ต้องการ การครอบครองเป็นเจ้าของ มิใช่เป็นรักที่เสียสละ และแสดงให้เห็นว่า บางครั้งเมื่อรักไม่เป็นไปอย่างที่ ต้องการ ความรักอาจแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นได้ รักมากก็แค้นมากดังเช่นนางยักษ์เป็นต้น ดังนั้นหาก นักเรียนจะมีความรักก็ควรจะรักอย่างมีสติ จัดทาโดย นางสาวจันทิมา รอดใส รหัสนักศึกษา ๕๖๘๑๑๒๔๐๑๖ เลขที่ ๕ คณะครุศาสตร์ สาขาวิชา ภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
  • 2. เนื้อเรื่องย่อ พระอภัยมณีและศรีสุวรรณพระอนุชาเดินทางออก จากบ้านเมืองหลังถูกท้าวสุทัศน์เนรเทศเพราะโกรธ พระโอรสที่ไปเรียนวิชาเป่าปี่และกระบี่กระบองไม่สมกับ ที่เป็นโอรสกษัตริย์ ทั้งสองเดินทางมาพบกับพราหมณ์ วิเชียร โมรา สานนท์ พราหมณ์ทั้ง ๓ แปลกใจที่พระอภัย มณี เลือกเรียนวิชาปี่ พระอภัยจึงเป่าปี่อวดอานุภาพของ เพลงปี่ ทาให้พราหมณ์ ทั้งสามและศรีสุวรรณ หลับไป ขณะนั้นนาง ผีเสื้อสมุทรได้ฟังเสียงปี่ และหลงใหลรูปโฉมพระ อภัยมณี จึงได้ใช้ฤทธิ์จับ ตัวพระอภัยมณีไปอยู่ในถ้า และนางได้แปลงกายเป็นหญิง งาม พระอภัยมณีทราบดีว่าหญิงที่อยู่ด้วยเป็นยักษ์แต่ก็ไม่ สามารถหนีความต้องการของ นางได้ จึงจาใจเป็นสามีของ นาง และให้นางสัญญาว่าจะไม่ จับพระองค์กินเป็นอาหาร พระอภัยมณีครองคู่กับนาง ผีเสื้อสมุทรจนมีบุตรคนหนึ่งชื่อ สินสมุทร พระอภัยมณี เลี้ยงดูสินสมุทรจนอายุแปดปี สินสมุทรมีลักษณะผสม ระหว่างพระอภัยมณีและนางผีเสื้อสมุทรดังความว่า ไม่คลาดเคลื่อนเหมือนองค์พระทรงเดช แต่ดวงเนตรแดงดูดังสุริย์ ฉายทรงกาลังดังพระยาคชาพลาย มีเขี้ยวคล้ายชนนีมีศักดา พระอภัยมณีได้เลี้ยงและถ่ายทอดความรู้ที่พระองค์ มีให้กับสินสมุทรจนหมดและมอบ ของสาคัญไว้ให้ คือ พระธามรงค์ และผ้าคาดเอว วันหนึ่งเมื่อนาง ผีเสื้อสมุทรออกไปหาอาหาร ด้วย ความซุกซนสินสมุทรได้ทดลอง ผลักหินปากถ้าจนเปิดแล้วออกไป เที่ยวเล่นในทะเล สินสมุทรพบ เงือกชราแต่ไม่รู้จักว่าคืออะไรจึงนา เงือกกลับไปให้พระอภัยมณีทอดพระเนตร พระอภัยมณีเห็น ดังนั้นจึงเล่าความจริงให้สินสมุทรฟังทั้งหมด สินสมุทร ทราบความแล้วก็เสียใจเป็นอันมาก เงือกฟังแล้วได้อ้อน วอนให้พระอภัยมณีสั่งให้สินสมุทรปล่อยตนไปเสียและให้ สัญญาว่าจะพาพระอภัยมณีหนีพึ่งพระโยคีที่เกาะแก้ว พิสดารซึ่งอยู่ห่างออกไปราว ๑๐๐ โยชน์ เงือกชราบอกว่า การไปที่เกาะแก้วพิสดารนั้นตนต้องใช้เวลาถึง ๗ วัน ว่าย น้าไปในมหาสมุทรแต่กลัวนางผีเสื้อสมุทรจะตามทันเพราะ นางผีเสื้อสมุทรนั้นมีพละกาลังมากเมื่ออยู่ในทะเลซึ่งใช้ เวลาเพียง ๓ – ๔ วันก็ไปถึงเกาะแล้ว เงือกชราแนะให้พระ อภัยมณีทาอุบายลวง นางผีเสื้อสมุทรเพื่อจะได้มีเวลาใน การหลบหนีตกกลางคืนในวันเดียวกัน นางผีเสื้อสมุทรเกิด ฝันร้ายว่ามีเทวดามาควักเอานางทั้งสองออกแล้วเหาะ หายไป นางตกใจตื่นแล้วเล่าความฝันนั้นให้พระอภัยมณีฟัง ทั้งหมด เรื่อง : พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร ผู้แต่ง : พระสุนทรโวหาร (สุนทรภู่) ประวัติของสุนทรภู่ สุนทรภู่เป็นกวีสาคัญสมัยต้นรัตนโกสินทร์ และได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก(UNESCO) ให้สุนทรภู่เป็นบุคคลสาคัญของโลกท่านสุนทรภู่เกิดวัน จันทร์เดือน ๘ ขึ้น ๑ ค่า ปีมะเมียตรงกับวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๙ ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ณ พระราชวังหลัง แก่กรรมในรัชกาลที่ ๔ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๘ อายุ ๖๙ ปี ลักษณะคาประพันธ์ : กลอนสุภาพในลักษณะนิทาน ที่มาของเรื่อง : สุนทรภู่ผูกเรื่องขึ้นเองโดยนาเรื่องที่ได้ ยินได้ฟังมาหรืออ่านมาจากวรรณคดีไทยและวรรณคดี ต่างชาติมาผสมผสานเข้ากับเรื่องจริงที่ได้พบเห็นและ เรื่องที่สุนทรภู่จินตนาการขึ้นอย่างกลมกลืน