ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
รู้ทันทักษิณ
Blog เถกิง สมทรัพย์
คัดมาจาก: กรุงเทพธุรกิจ จุดประกาย ปีที่ 16 ฉบับที่
5756 วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2547
http://www.osknetwork.com/modules.php?name=News&file=article&sid=445

ในขณะที่กระแสสังคมเกี่ยวกับจานวนผู้คนที่ก่อตัวเป็น ชมรมรู้ทัน
ทักษิณ เพิ่มมากขึ้นทุกขณะ พร้อมทั้งข่าวที่ท่าน นายกฯ ทักษิณ
ชินวัตร รู้สึกหงุดหงิดกับการที่มีชาวหนองคายสองคน ได้นาหนังสือ
รูทันทักษิณ มาให้ท่านนายกฯ เซ็น เมื่อครั้งที่คณะรัฐบาลจัด
  ้
รายการนกขมิ้นทัวร์ไปเยี่ยมเยือนประชาชนทางภาคอีสาน จนท่าน
นายกฯ บ่นเสียงดังว่า...คนเขียนหนังสือเล่มนี้มัน โง่ นั้น ช่างเป็น
โอกาสที่สอดคล้องกันอย่างยิ่ง

นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นการเพิ่มอุณหภูมิทางการเมืองให้เร่าร้อน
มากขึ้นอีกด้วย ขณะเดียวกัน ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่าง
กว้างขวาง

ดังนั้น....แน่นอนที่สุด คนที่โดนหมัดเต็มๆ ไม่ใช่แต่เพียงคนเขียน
เท่านั้น แต่ที่ยากจะเลี่ยงหลบได้ ก็คือ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ใน
ฐานะที่เป็นบรรณาธิการ และอีกคนหนึ่งที่ถือว่ามีส่วนสาคัญอย่าง
ยิ่ง ก็คือ เถกิง สมทรัพย์ ผู้ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการสานักพิมพ์ฃ
อคิดด้วยฅน บริษัท ว็อชด็อก จากัด และเป็นผู้ริเริ่มในฐานะ
ผู้จัดการโครงการจัดพิมพ์หนังสือชุด รู้ทันทักษิณ เล่ม 1 และ 2 ที่
กาลังฮือฮาและมียอดขายพุ่งพรวดอยู่ในขณะนี้นั่นเอง

และจากความร้อนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น....จุดประกาย
วรรณกรรมจึงขอพาท่านผู้อ่านไปสัมผัสกับความรู้สึกนึกคิดของ
เถกิง สมทรัพย์ ได้เลย ณ บัดนี้

 รู้สึกอย่างไรบ้างกับข่าวที่เกิดขึ้น?

ผมค่อนข้างประหลาดใจมาก เมื่อทราบข่าวว่าที่มีสุภาพสตรี 2 คน
เอาหนังสือ รู้ทันทักษิณ ไปขอลายเซ็นท่านนายกรัฐมนตรีที่จังหวัด
หนองคาย พร้อมกับเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์และทีวีไปทั่ว
ประเทศ ซึ่งท่านนายกฯ ได้หลุดคาพูดประวัติศาสตร์ออกมาอีกครั้ง
ว่า คนเขียนหนังสือรู้ทันทักษิณ...โง่ ที่ผมประหลาดใจ ก็เพราะ
หนังสือ รู้ทันทักษิณ เล่มแรกวางตลาดมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2547
และเล่มที่ 2 วางตลาดเมื่อเดือนสิงหาคม 2547
 ทาไมเพิ่งมีคนเอามาให้เซ็นในเดือนกันยายน 2547 หรือมีนัย
  อะไรบางอย่าง โดยเฉพาะการโพรโมต?

มีเพื่อนฝูงแซวว่า เป็นแผนโพรโมตหนังสือหรือเปล่า...โธ่! จะ
มาโพรโมตอะไรตอนนี้ เพราะหนังสือที่พิมพ์ออกมาขายไปจวนจะ
หมดเกลี้ยงแล้ว...แต่ก็ต้องยอมรับว่าวันสองวัน หลังมีข่าวคาว่า โง่
กระจายออกไป บรรดาร้านหนังสือทั่วประเทศทยอยสั่งหนังสือไป
ขายเพิ่มภายในวันเดียวถึง 1,600 เล่ม

 โดยส่วนตัวคิดอยากจะเอาหนังสือเล่มนี้ไปให้ท่านนายกฯ เซ็น
  หรือไม่?

จริงๆ แล้ว ผมตั้งใจจะมอบหนังสือให้ท่านในงานไทยแลนด์ เพรส
แฟร์ ที่เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา เพราะท่านไป
เป็นประธานเปิดงาน และมีโอกาสเดินผ่านร้านขายหนังสือของ
สานักพิมพ์ แต่บังเอิญผมเดินทางไปไม่ทัน

 ในฐานะที่เป็นกรรมการผู้จัดการสานักพิมพ์และริเริ่มโครงการนี้
  คิดยังไงกับเหตุการณ์ที่หนองคาย?
สาหรับผมแล้ว...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนองคายนั้น ผมไม่ทราบ
เหมือนกันว่า เป็นการจัดฉากของใคร หรือเป็นความบริสุทธิ์ใจของ
ประชาชน ที่อยากได้ลายเซ็นจริงๆ แต่ผมคิดว่าการขอลายเซ็น
ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเรื่องที่ฮือฮาไปทั้งประเทศ คือคาบริภาษ โง่
ของนายกรัฐมนตรี ที่มีต่อผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ทุกคน

 ตกใจไหมที่คนระดับนายกฯ พูดอย่างนั้น เพราะอาจจะทาให้
  บรรณาธิการพลอยโง่ตามไปด้วย?

ในฐานะของผู้จัดการสานักพิมพ์ฃอคิดด้วยฅน และในฐานะของคน
ที่อยู่ในแวดวงสื่อสารมวลชน ผมยอมรับว่า ตกใจ และ สับสน ...
ตกใจ เพราะไม่คาดว่านายกฯ ทักษิณ จะโกรธจัดขนาดพูดออกมา
ว่า บรรดาอาจารย์นักวิชาการที่มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น
โง่ และฉลาดไม่ทันท่าน

 แล้วรู้สึกว่าโง่จริงรึเปล่า?

ผมไม่ทราบว่า ท่านเอาอะไรมาเป็นมาตรวัดไอคิวระหว่างท่านกับ
บรรดาคณาจารย์ทั้ง 30 คน ว่าใครสูงกว่ากัน...แต่ถึงท่านจะมีไอคิว
มากกว่า แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่พูดออกมาแบบนั้น เพราะ
บางทีคาพูดของคนที่มีไอคิวสูงมันก็สะท้อนคุณภาพของอีคิว
เหมือนกัน ส่วนในเรื่องของความสับสนนั้น ก็คือ นายกฯ ทักษิณ
ต้องการสร้างสังคมไทยไปสู่สังคมฐานความรู้ แต่ความรู้ที่
ประชาชนจะต้องเสพหรือสร้างขึ้นมานั้น ดูเหมือนว่านายกฯ
ทักษิณ จะเป็นผู้ชี้ขาดว่า อะไรคือความรู้ อะไรคือความไม่รู้ที่
ประชาชนควรเลือกเสพ

 นั่นแสดงว่าทุกวันนี้มีคนกาหนดความโง่?

ความรู้ ความดี ความงาม ที่จะเกิดในสังคมนี้ ไม่ได้ยืนอยู่บน
พื้นฐานแห่งความเข้าใจที่เคยมีมาแต่ในอดีต หากแต่ถูกกาหนด ถูก
วางมาตรฐานโดยนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร

อะไรที่ท่านว่าดี ประชาชนต้องว่าดี

อะไรที่ท่านว่าไม่ดี ประชาชนต้องเชื่อท่าน

สังคมฐานความรู้ สังคมแห่งภูมิปัญญาที่กาลังเกิดขึ้นในสังคมไทย
วันนี้และวันต่อไป จะต้องอยู่บนฐานแห่งความรู้ของ นายกฯ
ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียวหรืออย่างไร? สับสนนะครับ...
 กลับไปพูดถึงผลพวงของคาว่า โง่ ที่ออกจากปากท่านนายกฯ อีก
  ครั้งหนึ่ง ว่ามันส่งผลกระทบอะไรบ้าง?

ประการแรก ทาให้เส้นแบ่งระหว่างท่านกับบรรดา คนโง่ ที่เขียน
หนังสือรู้ทันทักษิณ พร้อมบรรดาพันธมิตรทางวิชาการชัดเจนขึ้น
จนอาจเรียกได้ว่าตัดขาดกันไปเลย

ประการที่สอง ทาให้จานวนการขายหนังสือ รู้ทันทักษิณ ในร้าน
หนังสือทั่วประเทศเคลื่อนไหวคึกคัก สร้างรายได้ให้กับคนในวงการ
หนังสือเป็นจานวนไม่น้อย และนั่นหมายความว่า สร้างรายได้
ให้กับกรมสรรพากรเพื่อนากลับไปจัดสรรเป็นงบประมาณของ
ประเทศ ซึ่งในที่สุด ก็จะหมุนกลับไปสร้างงานอีกรอบหนึ่ง พร้อม
กับเกิดรายได้เข้ากระเป๋านักการเมืองด้วย

ประการที่สาม การวิจารณ์ว่าหนังสือเล่มนี้เขียนด้วยคนที่โง่กว่านั้น
แทนที่ผู้อ่านจะโยนหนังสือทิ้ง กลับแห่แหนกันไปซื้อมาอ่านมากขึ้น
ไปอีก คนที่มีอยู่ในมือก็จะกลับไปอ่านกันอีก...เรียกว่าแตกตื่นไป
ค้นหาความโง่กันยกใหญ่

ประการที่สี่ จานวนยอดขายที่มากขึ้น ย่อมหมายถึงการอ่านที่มาก
ขึ้น นั่นหมายความว่า การทาความเข้าใจเรื่องราวที่ไม่ถูกต้องของ
รัฐบาลนี้จะมากขึ้น ทั้งเรื่อง คอร์รัปชันเชิงนโยบาย การมี
ผลประโยชน์ทับซ้อน การเอื้อประโยชน์เครือญาติ การกอบโกย
ผลประโยชน์ของนักการเมืองจากตลาดหุ้น การเอาผลประโยชน์
ของชาติไปแลกผลประโยชน์ส่วนตัว ฯลฯ ยิ่งเห็นความไม่ชอบมา
พากลไปกันใหญ่...

 ถ้ายังงั้นคาว่า โง่ ก็ส่งผลถึงวงการหนังสือได้?

เห็นไหมว่า เพียงคาว่า โง่ ที่ออกมาจากปากท่านนายกฯ เพียงครั้ง
เดียว มันสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการหนังสืออย่างมหาศาล

 แต่ถ้าพิมพ์หนังสือเชียร์นายกฯ ล่ะ?

ใครพิมพ์หนังสือในแนวเชียร์นายกฯ แล้วไปให้เขียนคานาเชียร์ว่า
อ่านแล้ว ฉลาด ก็ขายดี

 ถ้าพิมพ์หนังสือขายไม่ดี น่าจะเอาไปให้นายกฯ เซ็น?

ใช่...ใครพิมพ์หนังสือในแนววิจารณ์นายกฯ แล้วเอาไปให้ท่านเซ็น
พร้อมคาด่าว่า โง่ ก็ขายดี...แปลกดีครับ...
 ตอนนี้ยอดพิมพ์ไปทั้งหมดเท่าไรแล้ว?

สานักพิมพ์ฃอคิดด้วยฅน วางโครงการหนังสือชุด รู้ทันทักษิณ ไว้
หลายเล่ม ปัจจุบันมี 4 เล่ม คือ รู้ทันทักษิณ 1 (65,000 เล่ม), รู้ทัน
ทักษิณ 2 (25,000 เล่ม), แปลงทักษิณเป็นทุน (15,000 เล่ม) และฅน
ดวงแตก (10,000 เล่ม) และจะมีออกมาอีกในเร็วๆ นี้ เป็นเรื่องการ
วิเคราะห์ วาทกรรมทางการเมืองในยุคทักษิณ อาจใช้ชื่อ รู้ทัน
ภาษายุคทักษิณ

 ทารายได้ให้กับสานักพิมพ์สูงมาก?

ได้กาไรตามสมควรของการค้า แต่ต้องยอมรับว่าร้านหนังสือทั่ว
ประเทศก็แฮปปี้ เพราะเราขายส่งให้ส่วนลดมากถึง 35% จากราคา
ปกทุกเล่มเลย บอกตัวเลขส่วนลดนี้ไปก็คงจะคานวณกันได้
สานักพิมพ์ไม่ได้กาไรมากมายมหาศาลอย่างที่หลายคนเข้าใจ

 รู้สึกอย่างไรที่สื่อหนังสือพิมพ์ระบุว่าหนังสือเล่มเล็กๆ เล่มนี้
  สามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้กับรัฐบาลทักษิณมากกว่าสื่อ
  ประเภทอื่นๆ?
ก็ต้องขอบคุณที่กรุณาให้เกียรติ แต่ทุกท่านคงทราบว่าพลังที่
แท้จริงของหนังสือเล่มนี้ อยู่ที่การตอบรับของประชาชน ซึ่งมี
ความรู้สึกบางประการต่อรัฐบาลเป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว หนังสือไม่ได้
ไปปลุกเร้าให้คนลุกขึ้นมาตั้งคาถามกับรัฐบาล เขารู้สึกของเขามา
ก่อนหน้านั้นแล้ว เหมือนกับว่ามันมีน้ามันอยู่แล้ว บังเอิญเราทาไม้
ขีดไฟไปตกใส่เข้า มันเลยพรึบขึ้นมา

 แล้วไปเกี่ยวอะไรกับ ชมรมคนรู้ทัน ที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล
  ด้วยหรือเปล่า?

ผมกับอาจารย์เจิมศักดิ์ ได้รับทราบจาก น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ กับ
คุณประพันธ์ คูณมี ว่ามีคนอยากจะตั้ง ชมรมคนรู้ทัน ขึ้นมา เพราะ
เห็นว่าหนังสือ รู้ทันทักษิณ ทาให้เกิดกระแสในวงการเมืองอย่าง
แรง โดยบอกว่าจะมี พล.ท.เจริญศักดิ์ เที่ยงธรรม เป็นประธาน
ชมรม อาจารย์เจิมศักดิ์ก็ตรวจสอบความเหมาะสมแล้ว ก็ไม่
ขัดข้อง แต่วางจุดยืนของสานักพิมพ์ รวมทั้งตัวของผมกับตัวของ
อาจารย์ ว่า เราจะไม่ไปเคลื่อนไหวอะไรกับชมรม เราเป็นแค่สื่อที่
นาเสนอข้อเขียนเชิงวิชาการเท่านั้น เราขายหนังสือ ขายความ
คิดเห็น ใครเห็นว่ามีประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ ก็ไม่ขัดข้องที่ให้
เอาไปใช้ เราจะไม่เข้าไปร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น...
 มองอนาคตหนังสือแนวต่อต้านทักษิณอย่างไร?

รู้ทันทักษิณ ไม่ใช่หนังสือต่อต้านนายกฯ นะ เราวางตาแหน่งของ
มันไว้ตรงกลางๆ จะสังเกตได้ว่าเรามีอารมณ์ขันเป็นตัวนา หยอก
ล้อสนุกๆ ทั้งชื่อหนังสือและภาพเด็กบนหน้าปกที่เรียกรอยยิ้มจาก
ทุกคนที่เห็น ผิดกับหนังสืออีกหลายเล่ม ที่ออกตามมาแล้ววาง
จุดยืนไปในทางที่ ด่า รัฐบาล ก็จะได้เฉพาะคนที่เกลียดรัฐบาล แต่
ไม่ได้คนชอบรัฐบาลและคนทั่วไป อนาคตของหนังสือแนวนี้ก็
เป็นไปตามกลไกตลาด คือมันจะลดลงเรื่อยๆ แต่ถึงจะลดลง ก็ยัง
ถือว่าขายใช้ได้ อย่าเล่มที่ 3 ที่จะออกมาในแนววิเคราะห์สังคม
เรื่องภาษายุคทักษิณ ก็จะฉีกออกจากเรื่องการเมือง เรื่องเศรษฐกิจ
ไปเลย ต้องคอยดูว่าคนจะตอบรับอย่างไร ซึ่งคาดว่าคงจะไม่มาก
เหมือนเรื่องการเมือง

 เมื่อหมดชุด รู้ทันทักษิณ แล้วจะทาอะไรต่อ?

คงจะทาชุด...รู้ทันบัญญัติล่ะมั้ง
ดร.เจิมศักดิ์ ปินทอง บรรณาธิการหนังสือ รู้ทันทักษิณ
                ่

จากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกอาการ ด่า
กลางตลาด ถึงหนังสือ รู้ทันทักษิณ ที่มียอดขายสูงเป็น
ประวัติการณ์ของหนังสือสาระเชิงวิพากษ์วิจารณ์สังคมการเมือง
โดยเอ่ยปากผ่านทางจอทีวีไปทั่วประเทศว่า

คนเขียนพวกนี้มันโง่ ฉลาดไม่ทันผมหรอก ต้องเรียนอีกเยอะ ถึง
ฉลาดเท่าผม

ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในฐานะบรรณาธิการหนังสือ รู้ทันทักษิณ ได้
ออกมาให้ความเห็นต่อคาวิจารณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ดังต่อไปนี้

การที่นายกรัฐมนตรี ออกมาด่าว่า โง่ เป็นการยืนยันสิ่งที่ผมเคยได้
ยินมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่รับฟัง
เสียงสะท้อนที่มีต่อตนเองของเพื่อนร่วมสังคม จึงรู้สึกเสียใจแทน
เหล่าผู้ทรงคุณวุฒิผู้เขียนในหนังสือรู้ทันทักษิณทั้ง 2 เล่ม ที่ต้องมา
ถูกนายกฯ ด่าว่าให้เป็นที่เสื่อมเสียในที่สาธารณะ ซึ่งผมเชื่อแน่ว่า
ท่านผู้ทรงคุณวุฒิเหล่านี้มีวุฒิภาวะสูง มีเมตตาธรรม จึงพอจะ
มองเห็นแล้วว่า สังคมคิดอย่างไร เมื่อได้ยินนายกรัฐมนตรีออกมา
ด่าว่าดังกล่าว

ในความเป็นจริง ผู้ทรงคุณวุฒิผู้เขียนหนังสือรู้ทันทักษิณทั้ง 2 เล่ม
อาทิ พระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ, ม.ร.ว.อคิน รพีพัฒน์, ดร.อัมมาร
สยามวาลา, ศ.นพ.ประเวศ วะสี, อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์, ดร.
เกษม ศิริสัมพันธ์, อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี, ศ.รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์,
ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล, ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์, ดร.สมชัย
จิตสุชน, ดร.เกษียร เตชะพีระ, ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์, กล้า
ณรงค์ จันทิก, ดร.สมคิด เลิศไพรฑูรย์, ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร,
อัษฎา ชัยนาม, ดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์, ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร, ดร.
สุเมธ วงศ์พานิชเลิศ, ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์, ดร.สมชาย ภคภาสน์
วิวัฒน์ ฯลฯ ล้วนแต่เป็นผู้หวังดีต่อบ้านเมืองไม่แพ้ผู้หนึ่งผู้ใด มีผล
การทางานเป็นที่ประจักษ์ในประโยชน์ต่อสังคม

หลายท่านมีความรู้ความสามารถถึงขั้นเป็นอาจารย์ของอาจารย์ที่
สอนในมหาวิทยาลัย ก็ทาให้แปลกใจว่า ถ้าท่านเหล่านั้นโง่จริงแล้ว
ทาไม พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงได้พยายามใช้ทุกวิถีทางที่จะให้ลูกๆ ได้เข้า
เรียนมหาวิทยาลัยในประเทศ ทาให้ได้คิดว่า นายกฯ คงไม่ได้
หมายความว่าคนพวกนี้โง่จริง แต่อาจจะเป็นความรู้สึกของ พ.ต.ท.
ทักษิณเอง ที่ตรงกับภาษิตว่า เกลียดนักคนรู้ทัน จึงได้โกรธ เกลียด
แล้วใช้คาว่า โง่ กับเหล่าบรรดาผู้เขียน รู้ทันทักษิณ

ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เขียนทั้ง 28 ท่าน คงจะให้อภัย โดยไม่รู้สึก
เดือดร้อน ไม่อยากโต้ตอบหรือถือสาอะไรกับคาพูดกลางตลาดของ
พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะท่านเหล่านี้รู้ทันดีอยู่แล้วว่าวุฒิภาวะทาง
การเมืองในระบอบประชาธิปไตยของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีปัญหา
เพียงใด

ในความเป็นจริง ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่า ผู้เขียนทั้ง 28 ท่าน ยังรู้
ไม่ทันในประเด็นใด หรือต้องการชี้แจงในประเด็นใด พ.ต.ท.
ทักษิณ ก็อาจจะเปิดเผยตัวเองก็ได้ว่าถ้าจะรู้ให้ทันจริงๆ ต้องรู้ทัน
ในประเด็นใดอีกหรือ มีกลวิธีใดอีกบ้าง ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับ
ชาวบ้าน และคนในแวดวงปัญญาชนได้มากกว่านี้

อย่างไรก็ตาม แม้ รู้ทันทักษิณ ดูจะเป็นหนังสือ ต้องห้าม ของท่าน
ผู้นา แต่ขณะนี้ ก็ปรากฏว่ามีประชาชนต้องการอ่าน รู้ทันทักษิณ
ทั้ง 2 เล่ม เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในหัวเมืองใหญ่ๆ หลายเมืองตาม
ต่างจังหวัด เป็นต้นว่าจังหวัดเชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น
สงขลา หรือจังหวัดที่ไม่ใหญ่มากอย่างหนองคายก็มีผู้อ่านไม่น้อย
เพราะหนังสือขายดีเหมือนกัน ถึงขนาดว่า ข้ามฝั่งแม่น้าโขง ใน
ประเทศลาวก็ยังมีการสั่งซื้อไปจานวนมาก

ขณะนี้ สานักข่าวต่างประเทศ สถานทูตของประเทศต่างๆ ประจา
ประเทศไทย ต่างต้องการให้มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้คน
ต่างภาษาได้ รู้ทัน ด้วย ซึ่งก็อยู่ระหว่างการตัดสินใจ และในระหว่าง
นี้ ก็มีเสียงเรียกร้องมามากว่าอยากจะ รู้ทันทักษิณ ง่ายๆ ไม่ต้อง
อ่าน แต่สามารถดูและฟังในรูปวิดีทัศน์หรือหนังสารคดี ซึ่งก็กาลัง
พิจารณาอยู่เหมือนกันว่า อาจจะทาเป็นวิดีโอซีดีออกจาหน่าย

นั่นคือ ความในใจของบรรณาธิการ ที่นอกจากจะรู้ทันทักษิณแล้ว
....ยังถูกหาว่าเป็น ขาประจา สาหรับนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร อีก
ด้วย

More Related Content

รู้ทันทักษิณ

  • 1. รู้ทันทักษิณ Blog เถกิง สมทรัพย์ คัดมาจาก: กรุงเทพธุรกิจ จุดประกาย ปีที่ 16 ฉบับที่ 5756 วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2547 http://www.osknetwork.com/modules.php?name=News&file=article&sid=445 ในขณะที่กระแสสังคมเกี่ยวกับจานวนผู้คนที่ก่อตัวเป็น ชมรมรู้ทัน ทักษิณ เพิ่มมากขึ้นทุกขณะ พร้อมทั้งข่าวที่ท่าน นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร รู้สึกหงุดหงิดกับการที่มีชาวหนองคายสองคน ได้นาหนังสือ รูทันทักษิณ มาให้ท่านนายกฯ เซ็น เมื่อครั้งที่คณะรัฐบาลจัด ้ รายการนกขมิ้นทัวร์ไปเยี่ยมเยือนประชาชนทางภาคอีสาน จนท่าน นายกฯ บ่นเสียงดังว่า...คนเขียนหนังสือเล่มนี้มัน โง่ นั้น ช่างเป็น โอกาสที่สอดคล้องกันอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นการเพิ่มอุณหภูมิทางการเมืองให้เร่าร้อน มากขึ้นอีกด้วย ขณะเดียวกัน ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่าง กว้างขวาง ดังนั้น....แน่นอนที่สุด คนที่โดนหมัดเต็มๆ ไม่ใช่แต่เพียงคนเขียน เท่านั้น แต่ที่ยากจะเลี่ยงหลบได้ ก็คือ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ใน
  • 2. ฐานะที่เป็นบรรณาธิการ และอีกคนหนึ่งที่ถือว่ามีส่วนสาคัญอย่าง ยิ่ง ก็คือ เถกิง สมทรัพย์ ผู้ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการสานักพิมพ์ฃ อคิดด้วยฅน บริษัท ว็อชด็อก จากัด และเป็นผู้ริเริ่มในฐานะ ผู้จัดการโครงการจัดพิมพ์หนังสือชุด รู้ทันทักษิณ เล่ม 1 และ 2 ที่ กาลังฮือฮาและมียอดขายพุ่งพรวดอยู่ในขณะนี้นั่นเอง และจากความร้อนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น....จุดประกาย วรรณกรรมจึงขอพาท่านผู้อ่านไปสัมผัสกับความรู้สึกนึกคิดของ เถกิง สมทรัพย์ ได้เลย ณ บัดนี้  รู้สึกอย่างไรบ้างกับข่าวที่เกิดขึ้น? ผมค่อนข้างประหลาดใจมาก เมื่อทราบข่าวว่าที่มีสุภาพสตรี 2 คน เอาหนังสือ รู้ทันทักษิณ ไปขอลายเซ็นท่านนายกรัฐมนตรีที่จังหวัด หนองคาย พร้อมกับเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์และทีวีไปทั่ว ประเทศ ซึ่งท่านนายกฯ ได้หลุดคาพูดประวัติศาสตร์ออกมาอีกครั้ง ว่า คนเขียนหนังสือรู้ทันทักษิณ...โง่ ที่ผมประหลาดใจ ก็เพราะ หนังสือ รู้ทันทักษิณ เล่มแรกวางตลาดมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2547 และเล่มที่ 2 วางตลาดเมื่อเดือนสิงหาคม 2547
  • 3.  ทาไมเพิ่งมีคนเอามาให้เซ็นในเดือนกันยายน 2547 หรือมีนัย อะไรบางอย่าง โดยเฉพาะการโพรโมต? มีเพื่อนฝูงแซวว่า เป็นแผนโพรโมตหนังสือหรือเปล่า...โธ่! จะ มาโพรโมตอะไรตอนนี้ เพราะหนังสือที่พิมพ์ออกมาขายไปจวนจะ หมดเกลี้ยงแล้ว...แต่ก็ต้องยอมรับว่าวันสองวัน หลังมีข่าวคาว่า โง่ กระจายออกไป บรรดาร้านหนังสือทั่วประเทศทยอยสั่งหนังสือไป ขายเพิ่มภายในวันเดียวถึง 1,600 เล่ม  โดยส่วนตัวคิดอยากจะเอาหนังสือเล่มนี้ไปให้ท่านนายกฯ เซ็น หรือไม่? จริงๆ แล้ว ผมตั้งใจจะมอบหนังสือให้ท่านในงานไทยแลนด์ เพรส แฟร์ ที่เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา เพราะท่านไป เป็นประธานเปิดงาน และมีโอกาสเดินผ่านร้านขายหนังสือของ สานักพิมพ์ แต่บังเอิญผมเดินทางไปไม่ทัน  ในฐานะที่เป็นกรรมการผู้จัดการสานักพิมพ์และริเริ่มโครงการนี้ คิดยังไงกับเหตุการณ์ที่หนองคาย?
  • 4. สาหรับผมแล้ว...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนองคายนั้น ผมไม่ทราบ เหมือนกันว่า เป็นการจัดฉากของใคร หรือเป็นความบริสุทธิ์ใจของ ประชาชน ที่อยากได้ลายเซ็นจริงๆ แต่ผมคิดว่าการขอลายเซ็น ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเรื่องที่ฮือฮาไปทั้งประเทศ คือคาบริภาษ โง่ ของนายกรัฐมนตรี ที่มีต่อผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ทุกคน  ตกใจไหมที่คนระดับนายกฯ พูดอย่างนั้น เพราะอาจจะทาให้ บรรณาธิการพลอยโง่ตามไปด้วย? ในฐานะของผู้จัดการสานักพิมพ์ฃอคิดด้วยฅน และในฐานะของคน ที่อยู่ในแวดวงสื่อสารมวลชน ผมยอมรับว่า ตกใจ และ สับสน ... ตกใจ เพราะไม่คาดว่านายกฯ ทักษิณ จะโกรธจัดขนาดพูดออกมา ว่า บรรดาอาจารย์นักวิชาการที่มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น โง่ และฉลาดไม่ทันท่าน  แล้วรู้สึกว่าโง่จริงรึเปล่า? ผมไม่ทราบว่า ท่านเอาอะไรมาเป็นมาตรวัดไอคิวระหว่างท่านกับ บรรดาคณาจารย์ทั้ง 30 คน ว่าใครสูงกว่ากัน...แต่ถึงท่านจะมีไอคิว มากกว่า แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่พูดออกมาแบบนั้น เพราะ บางทีคาพูดของคนที่มีไอคิวสูงมันก็สะท้อนคุณภาพของอีคิว
  • 5. เหมือนกัน ส่วนในเรื่องของความสับสนนั้น ก็คือ นายกฯ ทักษิณ ต้องการสร้างสังคมไทยไปสู่สังคมฐานความรู้ แต่ความรู้ที่ ประชาชนจะต้องเสพหรือสร้างขึ้นมานั้น ดูเหมือนว่านายกฯ ทักษิณ จะเป็นผู้ชี้ขาดว่า อะไรคือความรู้ อะไรคือความไม่รู้ที่ ประชาชนควรเลือกเสพ  นั่นแสดงว่าทุกวันนี้มีคนกาหนดความโง่? ความรู้ ความดี ความงาม ที่จะเกิดในสังคมนี้ ไม่ได้ยืนอยู่บน พื้นฐานแห่งความเข้าใจที่เคยมีมาแต่ในอดีต หากแต่ถูกกาหนด ถูก วางมาตรฐานโดยนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร อะไรที่ท่านว่าดี ประชาชนต้องว่าดี อะไรที่ท่านว่าไม่ดี ประชาชนต้องเชื่อท่าน สังคมฐานความรู้ สังคมแห่งภูมิปัญญาที่กาลังเกิดขึ้นในสังคมไทย วันนี้และวันต่อไป จะต้องอยู่บนฐานแห่งความรู้ของ นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียวหรืออย่างไร? สับสนนะครับ...
  • 6.  กลับไปพูดถึงผลพวงของคาว่า โง่ ที่ออกจากปากท่านนายกฯ อีก ครั้งหนึ่ง ว่ามันส่งผลกระทบอะไรบ้าง? ประการแรก ทาให้เส้นแบ่งระหว่างท่านกับบรรดา คนโง่ ที่เขียน หนังสือรู้ทันทักษิณ พร้อมบรรดาพันธมิตรทางวิชาการชัดเจนขึ้น จนอาจเรียกได้ว่าตัดขาดกันไปเลย ประการที่สอง ทาให้จานวนการขายหนังสือ รู้ทันทักษิณ ในร้าน หนังสือทั่วประเทศเคลื่อนไหวคึกคัก สร้างรายได้ให้กับคนในวงการ หนังสือเป็นจานวนไม่น้อย และนั่นหมายความว่า สร้างรายได้ ให้กับกรมสรรพากรเพื่อนากลับไปจัดสรรเป็นงบประมาณของ ประเทศ ซึ่งในที่สุด ก็จะหมุนกลับไปสร้างงานอีกรอบหนึ่ง พร้อม กับเกิดรายได้เข้ากระเป๋านักการเมืองด้วย ประการที่สาม การวิจารณ์ว่าหนังสือเล่มนี้เขียนด้วยคนที่โง่กว่านั้น แทนที่ผู้อ่านจะโยนหนังสือทิ้ง กลับแห่แหนกันไปซื้อมาอ่านมากขึ้น ไปอีก คนที่มีอยู่ในมือก็จะกลับไปอ่านกันอีก...เรียกว่าแตกตื่นไป ค้นหาความโง่กันยกใหญ่ ประการที่สี่ จานวนยอดขายที่มากขึ้น ย่อมหมายถึงการอ่านที่มาก ขึ้น นั่นหมายความว่า การทาความเข้าใจเรื่องราวที่ไม่ถูกต้องของ
  • 7. รัฐบาลนี้จะมากขึ้น ทั้งเรื่อง คอร์รัปชันเชิงนโยบาย การมี ผลประโยชน์ทับซ้อน การเอื้อประโยชน์เครือญาติ การกอบโกย ผลประโยชน์ของนักการเมืองจากตลาดหุ้น การเอาผลประโยชน์ ของชาติไปแลกผลประโยชน์ส่วนตัว ฯลฯ ยิ่งเห็นความไม่ชอบมา พากลไปกันใหญ่...  ถ้ายังงั้นคาว่า โง่ ก็ส่งผลถึงวงการหนังสือได้? เห็นไหมว่า เพียงคาว่า โง่ ที่ออกมาจากปากท่านนายกฯ เพียงครั้ง เดียว มันสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการหนังสืออย่างมหาศาล  แต่ถ้าพิมพ์หนังสือเชียร์นายกฯ ล่ะ? ใครพิมพ์หนังสือในแนวเชียร์นายกฯ แล้วไปให้เขียนคานาเชียร์ว่า อ่านแล้ว ฉลาด ก็ขายดี  ถ้าพิมพ์หนังสือขายไม่ดี น่าจะเอาไปให้นายกฯ เซ็น? ใช่...ใครพิมพ์หนังสือในแนววิจารณ์นายกฯ แล้วเอาไปให้ท่านเซ็น พร้อมคาด่าว่า โง่ ก็ขายดี...แปลกดีครับ...
  • 8.  ตอนนี้ยอดพิมพ์ไปทั้งหมดเท่าไรแล้ว? สานักพิมพ์ฃอคิดด้วยฅน วางโครงการหนังสือชุด รู้ทันทักษิณ ไว้ หลายเล่ม ปัจจุบันมี 4 เล่ม คือ รู้ทันทักษิณ 1 (65,000 เล่ม), รู้ทัน ทักษิณ 2 (25,000 เล่ม), แปลงทักษิณเป็นทุน (15,000 เล่ม) และฅน ดวงแตก (10,000 เล่ม) และจะมีออกมาอีกในเร็วๆ นี้ เป็นเรื่องการ วิเคราะห์ วาทกรรมทางการเมืองในยุคทักษิณ อาจใช้ชื่อ รู้ทัน ภาษายุคทักษิณ  ทารายได้ให้กับสานักพิมพ์สูงมาก? ได้กาไรตามสมควรของการค้า แต่ต้องยอมรับว่าร้านหนังสือทั่ว ประเทศก็แฮปปี้ เพราะเราขายส่งให้ส่วนลดมากถึง 35% จากราคา ปกทุกเล่มเลย บอกตัวเลขส่วนลดนี้ไปก็คงจะคานวณกันได้ สานักพิมพ์ไม่ได้กาไรมากมายมหาศาลอย่างที่หลายคนเข้าใจ  รู้สึกอย่างไรที่สื่อหนังสือพิมพ์ระบุว่าหนังสือเล่มเล็กๆ เล่มนี้ สามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้กับรัฐบาลทักษิณมากกว่าสื่อ ประเภทอื่นๆ?
  • 9. ก็ต้องขอบคุณที่กรุณาให้เกียรติ แต่ทุกท่านคงทราบว่าพลังที่ แท้จริงของหนังสือเล่มนี้ อยู่ที่การตอบรับของประชาชน ซึ่งมี ความรู้สึกบางประการต่อรัฐบาลเป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว หนังสือไม่ได้ ไปปลุกเร้าให้คนลุกขึ้นมาตั้งคาถามกับรัฐบาล เขารู้สึกของเขามา ก่อนหน้านั้นแล้ว เหมือนกับว่ามันมีน้ามันอยู่แล้ว บังเอิญเราทาไม้ ขีดไฟไปตกใส่เข้า มันเลยพรึบขึ้นมา  แล้วไปเกี่ยวอะไรกับ ชมรมคนรู้ทัน ที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ด้วยหรือเปล่า? ผมกับอาจารย์เจิมศักดิ์ ได้รับทราบจาก น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ กับ คุณประพันธ์ คูณมี ว่ามีคนอยากจะตั้ง ชมรมคนรู้ทัน ขึ้นมา เพราะ เห็นว่าหนังสือ รู้ทันทักษิณ ทาให้เกิดกระแสในวงการเมืองอย่าง แรง โดยบอกว่าจะมี พล.ท.เจริญศักดิ์ เที่ยงธรรม เป็นประธาน ชมรม อาจารย์เจิมศักดิ์ก็ตรวจสอบความเหมาะสมแล้ว ก็ไม่ ขัดข้อง แต่วางจุดยืนของสานักพิมพ์ รวมทั้งตัวของผมกับตัวของ อาจารย์ ว่า เราจะไม่ไปเคลื่อนไหวอะไรกับชมรม เราเป็นแค่สื่อที่ นาเสนอข้อเขียนเชิงวิชาการเท่านั้น เราขายหนังสือ ขายความ คิดเห็น ใครเห็นว่ามีประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ ก็ไม่ขัดข้องที่ให้ เอาไปใช้ เราจะไม่เข้าไปร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น...
  • 10.  มองอนาคตหนังสือแนวต่อต้านทักษิณอย่างไร? รู้ทันทักษิณ ไม่ใช่หนังสือต่อต้านนายกฯ นะ เราวางตาแหน่งของ มันไว้ตรงกลางๆ จะสังเกตได้ว่าเรามีอารมณ์ขันเป็นตัวนา หยอก ล้อสนุกๆ ทั้งชื่อหนังสือและภาพเด็กบนหน้าปกที่เรียกรอยยิ้มจาก ทุกคนที่เห็น ผิดกับหนังสืออีกหลายเล่ม ที่ออกตามมาแล้ววาง จุดยืนไปในทางที่ ด่า รัฐบาล ก็จะได้เฉพาะคนที่เกลียดรัฐบาล แต่ ไม่ได้คนชอบรัฐบาลและคนทั่วไป อนาคตของหนังสือแนวนี้ก็ เป็นไปตามกลไกตลาด คือมันจะลดลงเรื่อยๆ แต่ถึงจะลดลง ก็ยัง ถือว่าขายใช้ได้ อย่าเล่มที่ 3 ที่จะออกมาในแนววิเคราะห์สังคม เรื่องภาษายุคทักษิณ ก็จะฉีกออกจากเรื่องการเมือง เรื่องเศรษฐกิจ ไปเลย ต้องคอยดูว่าคนจะตอบรับอย่างไร ซึ่งคาดว่าคงจะไม่มาก เหมือนเรื่องการเมือง  เมื่อหมดชุด รู้ทันทักษิณ แล้วจะทาอะไรต่อ? คงจะทาชุด...รู้ทันบัญญัติล่ะมั้ง
  • 11. ดร.เจิมศักดิ์ ปินทอง บรรณาธิการหนังสือ รู้ทันทักษิณ ่ จากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกอาการ ด่า กลางตลาด ถึงหนังสือ รู้ทันทักษิณ ที่มียอดขายสูงเป็น ประวัติการณ์ของหนังสือสาระเชิงวิพากษ์วิจารณ์สังคมการเมือง โดยเอ่ยปากผ่านทางจอทีวีไปทั่วประเทศว่า คนเขียนพวกนี้มันโง่ ฉลาดไม่ทันผมหรอก ต้องเรียนอีกเยอะ ถึง ฉลาดเท่าผม ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในฐานะบรรณาธิการหนังสือ รู้ทันทักษิณ ได้ ออกมาให้ความเห็นต่อคาวิจารณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดังต่อไปนี้ การที่นายกรัฐมนตรี ออกมาด่าว่า โง่ เป็นการยืนยันสิ่งที่ผมเคยได้ ยินมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่รับฟัง เสียงสะท้อนที่มีต่อตนเองของเพื่อนร่วมสังคม จึงรู้สึกเสียใจแทน เหล่าผู้ทรงคุณวุฒิผู้เขียนในหนังสือรู้ทันทักษิณทั้ง 2 เล่ม ที่ต้องมา ถูกนายกฯ ด่าว่าให้เป็นที่เสื่อมเสียในที่สาธารณะ ซึ่งผมเชื่อแน่ว่า ท่านผู้ทรงคุณวุฒิเหล่านี้มีวุฒิภาวะสูง มีเมตตาธรรม จึงพอจะ
  • 12. มองเห็นแล้วว่า สังคมคิดอย่างไร เมื่อได้ยินนายกรัฐมนตรีออกมา ด่าว่าดังกล่าว ในความเป็นจริง ผู้ทรงคุณวุฒิผู้เขียนหนังสือรู้ทันทักษิณทั้ง 2 เล่ม อาทิ พระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ, ม.ร.ว.อคิน รพีพัฒน์, ดร.อัมมาร สยามวาลา, ศ.นพ.ประเวศ วะสี, อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์, ดร. เกษม ศิริสัมพันธ์, อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี, ศ.รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์, ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล, ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์, ดร.สมชัย จิตสุชน, ดร.เกษียร เตชะพีระ, ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์, กล้า ณรงค์ จันทิก, ดร.สมคิด เลิศไพรฑูรย์, ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร, อัษฎา ชัยนาม, ดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์, ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร, ดร. สุเมธ วงศ์พานิชเลิศ, ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์, ดร.สมชาย ภคภาสน์ วิวัฒน์ ฯลฯ ล้วนแต่เป็นผู้หวังดีต่อบ้านเมืองไม่แพ้ผู้หนึ่งผู้ใด มีผล การทางานเป็นที่ประจักษ์ในประโยชน์ต่อสังคม หลายท่านมีความรู้ความสามารถถึงขั้นเป็นอาจารย์ของอาจารย์ที่ สอนในมหาวิทยาลัย ก็ทาให้แปลกใจว่า ถ้าท่านเหล่านั้นโง่จริงแล้ว ทาไม พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงได้พยายามใช้ทุกวิถีทางที่จะให้ลูกๆ ได้เข้า เรียนมหาวิทยาลัยในประเทศ ทาให้ได้คิดว่า นายกฯ คงไม่ได้ หมายความว่าคนพวกนี้โง่จริง แต่อาจจะเป็นความรู้สึกของ พ.ต.ท.
  • 13. ทักษิณเอง ที่ตรงกับภาษิตว่า เกลียดนักคนรู้ทัน จึงได้โกรธ เกลียด แล้วใช้คาว่า โง่ กับเหล่าบรรดาผู้เขียน รู้ทันทักษิณ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เขียนทั้ง 28 ท่าน คงจะให้อภัย โดยไม่รู้สึก เดือดร้อน ไม่อยากโต้ตอบหรือถือสาอะไรกับคาพูดกลางตลาดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะท่านเหล่านี้รู้ทันดีอยู่แล้วว่าวุฒิภาวะทาง การเมืองในระบอบประชาธิปไตยของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีปัญหา เพียงใด ในความเป็นจริง ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่า ผู้เขียนทั้ง 28 ท่าน ยังรู้ ไม่ทันในประเด็นใด หรือต้องการชี้แจงในประเด็นใด พ.ต.ท. ทักษิณ ก็อาจจะเปิดเผยตัวเองก็ได้ว่าถ้าจะรู้ให้ทันจริงๆ ต้องรู้ทัน ในประเด็นใดอีกหรือ มีกลวิธีใดอีกบ้าง ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับ ชาวบ้าน และคนในแวดวงปัญญาชนได้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม แม้ รู้ทันทักษิณ ดูจะเป็นหนังสือ ต้องห้าม ของท่าน ผู้นา แต่ขณะนี้ ก็ปรากฏว่ามีประชาชนต้องการอ่าน รู้ทันทักษิณ ทั้ง 2 เล่ม เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในหัวเมืองใหญ่ๆ หลายเมืองตาม ต่างจังหวัด เป็นต้นว่าจังหวัดเชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น สงขลา หรือจังหวัดที่ไม่ใหญ่มากอย่างหนองคายก็มีผู้อ่านไม่น้อย
  • 14. เพราะหนังสือขายดีเหมือนกัน ถึงขนาดว่า ข้ามฝั่งแม่น้าโขง ใน ประเทศลาวก็ยังมีการสั่งซื้อไปจานวนมาก ขณะนี้ สานักข่าวต่างประเทศ สถานทูตของประเทศต่างๆ ประจา ประเทศไทย ต่างต้องการให้มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้คน ต่างภาษาได้ รู้ทัน ด้วย ซึ่งก็อยู่ระหว่างการตัดสินใจ และในระหว่าง นี้ ก็มีเสียงเรียกร้องมามากว่าอยากจะ รู้ทันทักษิณ ง่ายๆ ไม่ต้อง อ่าน แต่สามารถดูและฟังในรูปวิดีทัศน์หรือหนังสารคดี ซึ่งก็กาลัง พิจารณาอยู่เหมือนกันว่า อาจจะทาเป็นวิดีโอซีดีออกจาหน่าย นั่นคือ ความในใจของบรรณาธิการ ที่นอกจากจะรู้ทันทักษิณแล้ว ....ยังถูกหาว่าเป็น ขาประจา สาหรับนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร อีก ด้วย