ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
1ขนมไทย
1ขนมไทย
• ในสมัยโบราณคนไทยจะทาขนมเฉพาะวาระสาคัญเท่านัน เป็ นต้ นว่างานทาบุญ เทศกาลสาคัญ หรื อ
้
ต้ อนรับแขกสาคัญ เพราะขนมบางชนิดจาเป็ นต้ องใช้ กาลังคนอาศัยเวลาในการทาพอสมควร ส่วนใหญ่
เป็ น ขนบประเพณี เป็ นต้ นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื ้นบ้ าน เช่น ขนมครก ขนมถ้ วย ฯลฯ
ส่วนขนมในรัวในวังจะมีหน้ าตาจุ๋มจิ๋ม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรู ปทรงขนมสวยงาม
้
• ขนมไทยดังเดิม มีสวนผสมคือ แปง น ้าตาล กะทิ เท่านัน ส่วนขนมที่ใช้ ไข่เป็ นส่วนประกอบ เช่น ทองหยิบ
้
่
้
้
ทองหยอด เม็ดขนุน นัน มารี กีมาร์ เดอ ปี นา (ท้ าวทองกีบม้ า) หญิงสาวชาวโปรตุเกส เป็ นผู้คดค้ นขึ ้นมา
้
ิ
• ขนมไทยที่นิยมทากันทุกๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่างๆ ก็คือขนมจากไข่ และเชื่อกันว่าชื่อและ
ลักษณะของขนมนันๆ เช่น รับประทานฝอยทอง เพื่อหวังให้ อยู่ด้วยกันยืดยาว มีอายุยืน รับประทาน ขนม
้
ชันก็ให้ ได้ เลื่อนขันเงินเดือน รับประทาน ขนมถ้ วยฟูก็ขอให้ เจริญ รับประทานขนมทองเอก ก็ขอให้ ได้ เป็ น
้
้
เอก เป็ นต้ น
• ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการพิมพ์ตาราอาหารออกเผยแพร่ รวมถึงตาราขนมไทยด้ วย จึงนับได้ ว่าวัฒนธรรม
ขนมไทยมีการบันทึกเป็ นลายลักษณ์อกษรครังแรก ตาราอาหารไทยเล่มแรกคือแม่ครัวหัว ป่ าก์
ั
้
• ในสมัยต่อมาเมื่อการค้ าเจริ ญขึ ้นในตลาดมีขนมนานาชนิดมาขาย และนับว่าเป็ นยุคที่ขนมไทยเป็ นที่นิยม
ขนมไทย 4 ภาค
• ภาคใต้
• ชาวใต้ มีความเชื่อในเทศกาลวันสารท เดือนสิบ จะทาบุญด้ วยขนมที่มีเฉพาะในท้ องถิ่นภาคใต้
เท่านัน เช่น ขนมลา ขนมพอง ข้ าวต้ มห่อด้ วยใบกะพ้ อ ขนมบ้ าหรือขนมลูกสะบ้ า ขนมดีซาหรือ
้
เมซา ขนมเจาะหูหรือเจาะรู ขนมไข่ปลา ขนมแดง เป็ นต้ นตัวอย่างของขนมพื ้นบ้ านภาคใต้ ได้ แก่
• ขนมหน้ าไข่ ทาจากแปงข้ าวเจ้ านวดกับน ้าตาล นาไปนึ่ง หน้ าขนมทาด้ วย กะทิผสมไข่ น ้าตาล
้
เกลือ ตะไคร้ และหัวหอม ราดบนตัวขนม แล้ วนาไปนึ่งอีกครัง
้
• ขนมฆีมันไม้ เป็ นขนมของชาวไทยมุสลิม ทาจากมันสาปะหลังนาไปต้ มให้ สก โรยด้ วยแปงข้ าว
ุ
้
หมาก เก็บไว้ 1 คืน 1 วันจึงนามารับประทาน
• ขนมจู้จุน ทาจากแปงข้ าวเจ้ านวดกับน ้าเชื่อม แล้ วเอาไปทอด มีลกษณะเหนียวและอมน ้ามัน
้
ั
• ขนมคอเป็ ด ทาจากแปงข้ าเจ้ าผสมกับแปงข้ าวเหนียว นวดรวมกับไข่ไก่ รีดเป็ นแผ่น ตัดเป็ นชิ ้นๆ
้
้
เอาไปทอด สุกแล้ วเอาไปเคล้ ากับน ้าตาลโตนดที่เคี่ยวจนเหนียวข้ น
ขนมก้ านบัว
ภาคกลาง
•
ขนมไทยภาคกลาง
ขนมไทยภาคกลาง ส่ วนใหญ่ ทามาจากข้ าวเจ้ า เช่ น ข้ าวตัง
นางเล็ด ข้ าวเหนียวมูล และมีขนมที่หลุดลอดมาจากรั ววัง จน
้
แพร่ หลายสู่สามัญชนทั่วไป เช่ น ลูกชุบ หม้ อ ข้ าวหม้ อแกง
ฝอยทอง ทองหยิบเป็ นต้ น
1ขนมไทย
ภาคอีสาน
• ขนมไทยภาคอีสาน
• เป็ นขนมที่ทากันง่ายๆ ไม่พิถีพิถนมากเหมือนขนมภาคอื่น ขนมพื ้นบ้ านอีสานได้ แก่
ั
ข้ าวจี่ บายมะขาม หรือมะขามบ่ายข้ าว ข้ าวโป่ ง นอกจากนันมักเป็ นขนมในงานบุญ
้
พิธี ที่เรียกว่า ข้ าวประดับดิน โดยชาวบ้ านนาข้ าวที่ห่อใบตอง มัดด้ วยตอกแบบ
ข้ าวต้ มมัด กระยาสารท ข้ าวทิพย์ ข้ าวยาคู ขนมพื ้นบ้ านของจังหวัดเลยมักเป็ นขนม
ง่ายๆ เช่น ข้ าวเหนียวนึงจิ ้มน ้าผึ ้ง ข้ าวบ่ายเกลือ คือข้ าวเหนียวปั นเป็ นก้ อนจิ ้มเกลือ
่
้
ให้ พอมีรสเค็ม ถ้ ามีมะขามจะเอามาใส่เป็ นไส้ เรียกมะขามบ่ายข้ าว น ้าอ้ อยกะทิ ทา
ด้ วยน ้าอ้ อยที่เคี่ยวจนเหนียว ใส่ถวลิสงคัวและมะพร้ าวซอย ข้ าวพองทามาจากข้ าว
ั่
่
ตากคัวใส่มะพร้ าวหันเป็ นชิ ้นๆ และถัวลิสงคัว กวนกับน ้าอ้ อยจนเหนียวเทใส่ถาด ใน
่
่
่
่
งานบุญต่างๆจะนิยมทาขนมปาด (คล้ ายขนมเปี ยกปูนของภาคกลาง) ลอดช่อง และ
ขนมหมก (แปงข้ าวเหนียวโม่ ปั นเป็ นก้ อนกลมใส่ไส้ กระฉีก ห่อเป็ นสามเหลี่ยมคล้ าย
้
้
ขนมเทียน นาไปนึง) ข้ าวจี่ ข้ าวจี่ทาไม่ยาก เพียงนึงข้ าวเหนียวเตรียมไว้ ก่อนปิ ง
่
่
้
จะเสียบด้ วยไม้ เสียบลูกชิ ้นสักหน่อยก็ดี
1ขนมไทย
• ขนมไทยภาคเหนือ
• ขนมไทยภาคเหนือ ส่วนใหญ่จะทาจากข้ าวเหนียว และส่วนใหญ่จะใช้ วิธีการต้ ม เช่น ขนม
เทียน ขนมวง ข้ าวต้ มหัวหงอก มักทากันในเทศกาลสาคัญ เช่นเข้ าพรรษา สงกรานต์
• ขนมที่นิยมทาในงานบุญเกือบทุกเทศกาลคือขนมใส่ไส้ หรือขนมจ๊ อก ขนมที่หาซื ้อได้ ทวไป
ั่
คือ ขนมปาดซึงคล้ ายขนมศิลาอ่อน ข้ าวอีตหรือข้ าวเหนียวแดง ข้ าวแตนหรือข้ าวแต๋น ขนม
่
ู
เกลือ ขนมที่มีรับประทานเฉพาะฤดูหนาว ได้ แก่ ข้ าวหนุกงา ซึงเป็ นงาคัวตากับข้ าวเหนียว
่
่
ถ้ าใส่น ้าอ้ อยด้ วยเรียกงาตาอ้ อย ข้ าวแคบหรือข้ าวเกรียบว่าว ลูกก่อ ถัวแปะยี ถัวแระ ลูก
่
่
ลานต้ ม[9] ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขนมพื ้นบ้ านได้ แก่ ขนมอาละหว่า ซึงคล้ ายขนมหม้ อแกง
่
ขนมเปงม้ ง ซึงคล้ ายขนมอาละหว่าแต่มีการหมักแปงให้ ฟก่อน ขนมส่วยทะมินทาจากข้ าว
่
้
ู
เหนียวนึ่ง น ้าตาลอ้ อยและกะทิ ในช่วงที่มีน ้าตาลอ้ อยมากจะนิยมทาขนมอีก 2 ชนิดคือ งา
โบ๋ ทาจากน ้าตาลอ้ อยเคี่ยวให้ เหนียวคล้ ายตังเมแล้ วคลุกงา กับ แปโหย่ ทาจากน ้าตาลอ้ อย
และถัวแปยี มีลกษณะคล้ ายถัวตัด
่
ั
่
1ขนมไทย
ตัวอย่างขนมไทย
ทองหยิบทองหยอด
ขนมโค
ขนมถังแตก
ตัวอย่าง วิธีทาขนมไทย
• ขนมเทียน
ส่ วนประกอบสาหรั บแปงที่ห่อ
้
- แปงข้ าวเหนียว 500 g
้
- นาตาลปี บ 200 g (ถ้ า ทาขนมไส้ หวาน ไม่ ต้องใส่ นาตาล)
้
้
- นามันพืช สาหรั บทาใบตอง
้
ส่ วนผสมไส้ ขนมเค็ม
- หมูสับ 100 g
- ถั่วเขียวเลาะเปลือก 200 g
- หอมแดงซอย 1/2 ถ.
- รากผักชี 2 ราก
- พริกไทยป่ น 1/2 ช.
- กุ้งแห้ งป่ น 1 ช ( ไม่ ใส่ ก็ได้ )
- นา้มันพืช
้ ้
- ซอสปรุ งรส
- นาตาลทราย
้
- ซีอวขาว
ิ้
•

…….วิธีทาไส้ ……..
1. ล้ างถั่วเขียวแล้ วแช่ ทงไว้ 3 ชม. นาไปนึ่งให้ สุก แล้ วนามาบดหยาบๆ
ิ้
2. ซอยหอมแดงแล้ วนาไปเจียวในนามันให้ เหลือ พักไว้ ก่อน
้
3. โขลกรากผักชีให้ แหลก ใส่ พริกไทยป่ นเอาหมูสับลงไปคลุก แล้ วนากระทะ
ตังไฟ ใส่ นามันพอประมาณ เอาหมูลงผัดให้ สุกตามด้ วย ข้ อ 1ปรุงรสด้ วยซอสปรุงรส ซีอวขาว นาตาลทราย ตามด้ วยกุ้งแห้ งป่ น
้
้
ิ้
้
ชิมรสให้ พอดี
ส่ วนผสมไส้ ขนมหวาน
- มะพร้ าวทึนทึก ขูด 1 ถ.
- งาขาว หรือ งาดา 1/4 ถ.
- นาตาลปี ้ บ 100 กรัม
้
- นาตาลทราย 100 กรัม
้
…….วิธีทาไส้ ……..
1. ตังกะทะ ผัดมะพร้ าว จนเหลือง
้
2. เติมนาตาลปี ้ บ และนาตาลทราย พอส่ วนผสมเข้ ากัน (สังเกตุ โดย มะพร้ าว สามารถปั ้นเป็ นก้ อนได้ )
้
้
3. เติมงา แล้ วผัดต่ อ สักครู่ แล้ วปิ ดไฟ พักไว้ ให้ เย็น
…….วิธีทาขนม…….
- ละลายนาตาลกับนา ยกขึ่นตังไฟ เคี่ยวให้ หอม ( แปงขนมไส้ หวาน เติมเกลือ 1 ชต. ไม่ ต้องใส่ นาตาล )
้
้
้
้
้
- เอาแปงทังสองอย่ างผสมกันในชา เทนาตาลที่ละลายแล้ วลงไป นวดจนทุกอย่ างเข้ ากันดี ( สามารถ เติมนาได้ ถ้ าแปง ยังไม่ จับ
้ ้
้
้
้
กันดี )
- ปั ้นแปงเป็ นก้ อนกลมก่ อนแล้ วแผ่ แปงออกบางๆ ตักไส้ ใส่ ห้ มแปงให้ มิด
้
้
ุ ้
- เอานามันทาใบตองเล็กน้ อยค่ ะ แล้ วห่ อขนมได้ เลยค่ ะ
้
- เสร็จแล้ วเอาไปนึ่งให้ สุกประมาณ 45 นาที
ขนมลูกชุบ
เครื่ องปรุ ง
ถัวเขียวนึงสุกบดละเอียด 1 กิโลกรัม, น ้าตาลทราย 2 1/2 ถ้ วยตวง, หัวกะทิ (มะพร้ าว 400 กรัม) 1 ถ้ วยตวง,
่
่
สีผสมอาหารสีตางๆ
่
• ส่ วนที่ชุบ
• วุ้นผง 1 1/2 ช้ อนโต๊ ะ, น ้า 2 1 /2 ถ้ วยตวง, น ้าตาลทราย 1 ถ้ วยตวง
• วิธีทา
ผสมถั่วบด น ้าตาลทราย กะทิ เข้ าด้ วยกัน ยกขึ ้นตังไฟ
้
• กวนด้ วยไฟอ่ อนๆ จนล่อนจับกันไม่ตดกระทะ
ิ
• พักถั่วกวนไว้ ให้ เย็น นามาปั นเป็ นรู ปผลไม้ ตางๆตามต้ องการ เสียบไม้ ไว้
้
่
• ใช้ พ่ ูกันจุ่มสีระบายลงบนขนมที่ปั้น โดยระบายเลียนแบบของจริง ทิ ้งไว้ ให้ แห้ งจึงนาไปชุบวุ้น
• ผสมวุ้นกับนายกขึนตังไฟ ให้ ละลายก่อนจึงใส่น ้าตาลทราย เคี่ยววุ้นจนข้ น
้
้ ้
• เอาขนมที่ปั้นแล้ วเสียบไม้ ลงชุบวุ้นครั งเดียวให้ ท่ ว ทิ ้งไว้ จนแห้ งแล้ วชุบอีก ทาเช่นนี ้ประมาณ 3- 4
้
ั
ครัง จะชุบแต่ละครังต้ องให้ เย็น วุ้นแข็งตัวก่อนทุกครัง
้
้
้
• เมื่อวุ้นแข็งจึงเอาไม้ เสียบออก ตกแต่งด้ วยก้ านและใบให้ สวยงาม
จบการนาเสนอ
• ขอบคุณค่ะ/ครับ

More Related Content

1ขนมไทย

  • 3. • ในสมัยโบราณคนไทยจะทาขนมเฉพาะวาระสาคัญเท่านัน เป็ นต้ นว่างานทาบุญ เทศกาลสาคัญ หรื อ ้ ต้ อนรับแขกสาคัญ เพราะขนมบางชนิดจาเป็ นต้ องใช้ กาลังคนอาศัยเวลาในการทาพอสมควร ส่วนใหญ่ เป็ น ขนบประเพณี เป็ นต้ นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื ้นบ้ าน เช่น ขนมครก ขนมถ้ วย ฯลฯ ส่วนขนมในรัวในวังจะมีหน้ าตาจุ๋มจิ๋ม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรู ปทรงขนมสวยงาม ้ • ขนมไทยดังเดิม มีสวนผสมคือ แปง น ้าตาล กะทิ เท่านัน ส่วนขนมที่ใช้ ไข่เป็ นส่วนประกอบ เช่น ทองหยิบ ้ ่ ้ ้ ทองหยอด เม็ดขนุน นัน มารี กีมาร์ เดอ ปี นา (ท้ าวทองกีบม้ า) หญิงสาวชาวโปรตุเกส เป็ นผู้คดค้ นขึ ้นมา ้ ิ • ขนมไทยที่นิยมทากันทุกๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่างๆ ก็คือขนมจากไข่ และเชื่อกันว่าชื่อและ ลักษณะของขนมนันๆ เช่น รับประทานฝอยทอง เพื่อหวังให้ อยู่ด้วยกันยืดยาว มีอายุยืน รับประทาน ขนม ้ ชันก็ให้ ได้ เลื่อนขันเงินเดือน รับประทาน ขนมถ้ วยฟูก็ขอให้ เจริญ รับประทานขนมทองเอก ก็ขอให้ ได้ เป็ น ้ ้ เอก เป็ นต้ น • ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการพิมพ์ตาราอาหารออกเผยแพร่ รวมถึงตาราขนมไทยด้ วย จึงนับได้ ว่าวัฒนธรรม ขนมไทยมีการบันทึกเป็ นลายลักษณ์อกษรครังแรก ตาราอาหารไทยเล่มแรกคือแม่ครัวหัว ป่ าก์ ั ้ • ในสมัยต่อมาเมื่อการค้ าเจริ ญขึ ้นในตลาดมีขนมนานาชนิดมาขาย และนับว่าเป็ นยุคที่ขนมไทยเป็ นที่นิยม
  • 4. ขนมไทย 4 ภาค • ภาคใต้ • ชาวใต้ มีความเชื่อในเทศกาลวันสารท เดือนสิบ จะทาบุญด้ วยขนมที่มีเฉพาะในท้ องถิ่นภาคใต้ เท่านัน เช่น ขนมลา ขนมพอง ข้ าวต้ มห่อด้ วยใบกะพ้ อ ขนมบ้ าหรือขนมลูกสะบ้ า ขนมดีซาหรือ ้ เมซา ขนมเจาะหูหรือเจาะรู ขนมไข่ปลา ขนมแดง เป็ นต้ นตัวอย่างของขนมพื ้นบ้ านภาคใต้ ได้ แก่ • ขนมหน้ าไข่ ทาจากแปงข้ าวเจ้ านวดกับน ้าตาล นาไปนึ่ง หน้ าขนมทาด้ วย กะทิผสมไข่ น ้าตาล ้ เกลือ ตะไคร้ และหัวหอม ราดบนตัวขนม แล้ วนาไปนึ่งอีกครัง ้ • ขนมฆีมันไม้ เป็ นขนมของชาวไทยมุสลิม ทาจากมันสาปะหลังนาไปต้ มให้ สก โรยด้ วยแปงข้ าว ุ ้ หมาก เก็บไว้ 1 คืน 1 วันจึงนามารับประทาน • ขนมจู้จุน ทาจากแปงข้ าวเจ้ านวดกับน ้าเชื่อม แล้ วเอาไปทอด มีลกษณะเหนียวและอมน ้ามัน ้ ั • ขนมคอเป็ ด ทาจากแปงข้ าเจ้ าผสมกับแปงข้ าวเหนียว นวดรวมกับไข่ไก่ รีดเป็ นแผ่น ตัดเป็ นชิ ้นๆ ้ ้ เอาไปทอด สุกแล้ วเอาไปเคล้ ากับน ้าตาลโตนดที่เคี่ยวจนเหนียวข้ น
  • 6. ภาคกลาง • ขนมไทยภาคกลาง ขนมไทยภาคกลาง ส่ วนใหญ่ ทามาจากข้ าวเจ้ า เช่ น ข้ าวตัง นางเล็ด ข้ าวเหนียวมูล และมีขนมที่หลุดลอดมาจากรั ววัง จน ้ แพร่ หลายสู่สามัญชนทั่วไป เช่ น ลูกชุบ หม้ อ ข้ าวหม้ อแกง ฝอยทอง ทองหยิบเป็ นต้ น
  • 8. ภาคอีสาน • ขนมไทยภาคอีสาน • เป็ นขนมที่ทากันง่ายๆ ไม่พิถีพิถนมากเหมือนขนมภาคอื่น ขนมพื ้นบ้ านอีสานได้ แก่ ั ข้ าวจี่ บายมะขาม หรือมะขามบ่ายข้ าว ข้ าวโป่ ง นอกจากนันมักเป็ นขนมในงานบุญ ้ พิธี ที่เรียกว่า ข้ าวประดับดิน โดยชาวบ้ านนาข้ าวที่ห่อใบตอง มัดด้ วยตอกแบบ ข้ าวต้ มมัด กระยาสารท ข้ าวทิพย์ ข้ าวยาคู ขนมพื ้นบ้ านของจังหวัดเลยมักเป็ นขนม ง่ายๆ เช่น ข้ าวเหนียวนึงจิ ้มน ้าผึ ้ง ข้ าวบ่ายเกลือ คือข้ าวเหนียวปั นเป็ นก้ อนจิ ้มเกลือ ่ ้ ให้ พอมีรสเค็ม ถ้ ามีมะขามจะเอามาใส่เป็ นไส้ เรียกมะขามบ่ายข้ าว น ้าอ้ อยกะทิ ทา ด้ วยน ้าอ้ อยที่เคี่ยวจนเหนียว ใส่ถวลิสงคัวและมะพร้ าวซอย ข้ าวพองทามาจากข้ าว ั่ ่ ตากคัวใส่มะพร้ าวหันเป็ นชิ ้นๆ และถัวลิสงคัว กวนกับน ้าอ้ อยจนเหนียวเทใส่ถาด ใน ่ ่ ่ ่ งานบุญต่างๆจะนิยมทาขนมปาด (คล้ ายขนมเปี ยกปูนของภาคกลาง) ลอดช่อง และ ขนมหมก (แปงข้ าวเหนียวโม่ ปั นเป็ นก้ อนกลมใส่ไส้ กระฉีก ห่อเป็ นสามเหลี่ยมคล้ าย ้ ้ ขนมเทียน นาไปนึง) ข้ าวจี่ ข้ าวจี่ทาไม่ยาก เพียงนึงข้ าวเหนียวเตรียมไว้ ก่อนปิ ง ่ ่ ้ จะเสียบด้ วยไม้ เสียบลูกชิ ้นสักหน่อยก็ดี
  • 10. • ขนมไทยภาคเหนือ • ขนมไทยภาคเหนือ ส่วนใหญ่จะทาจากข้ าวเหนียว และส่วนใหญ่จะใช้ วิธีการต้ ม เช่น ขนม เทียน ขนมวง ข้ าวต้ มหัวหงอก มักทากันในเทศกาลสาคัญ เช่นเข้ าพรรษา สงกรานต์ • ขนมที่นิยมทาในงานบุญเกือบทุกเทศกาลคือขนมใส่ไส้ หรือขนมจ๊ อก ขนมที่หาซื ้อได้ ทวไป ั่ คือ ขนมปาดซึงคล้ ายขนมศิลาอ่อน ข้ าวอีตหรือข้ าวเหนียวแดง ข้ าวแตนหรือข้ าวแต๋น ขนม ่ ู เกลือ ขนมที่มีรับประทานเฉพาะฤดูหนาว ได้ แก่ ข้ าวหนุกงา ซึงเป็ นงาคัวตากับข้ าวเหนียว ่ ่ ถ้ าใส่น ้าอ้ อยด้ วยเรียกงาตาอ้ อย ข้ าวแคบหรือข้ าวเกรียบว่าว ลูกก่อ ถัวแปะยี ถัวแระ ลูก ่ ่ ลานต้ ม[9] ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขนมพื ้นบ้ านได้ แก่ ขนมอาละหว่า ซึงคล้ ายขนมหม้ อแกง ่ ขนมเปงม้ ง ซึงคล้ ายขนมอาละหว่าแต่มีการหมักแปงให้ ฟก่อน ขนมส่วยทะมินทาจากข้ าว ่ ้ ู เหนียวนึ่ง น ้าตาลอ้ อยและกะทิ ในช่วงที่มีน ้าตาลอ้ อยมากจะนิยมทาขนมอีก 2 ชนิดคือ งา โบ๋ ทาจากน ้าตาลอ้ อยเคี่ยวให้ เหนียวคล้ ายตังเมแล้ วคลุกงา กับ แปโหย่ ทาจากน ้าตาลอ้ อย และถัวแปยี มีลกษณะคล้ ายถัวตัด ่ ั ่
  • 16. ตัวอย่าง วิธีทาขนมไทย • ขนมเทียน ส่ วนประกอบสาหรั บแปงที่ห่อ ้ - แปงข้ าวเหนียว 500 g ้ - นาตาลปี บ 200 g (ถ้ า ทาขนมไส้ หวาน ไม่ ต้องใส่ นาตาล) ้ ้ - นามันพืช สาหรั บทาใบตอง ้ ส่ วนผสมไส้ ขนมเค็ม - หมูสับ 100 g - ถั่วเขียวเลาะเปลือก 200 g - หอมแดงซอย 1/2 ถ. - รากผักชี 2 ราก - พริกไทยป่ น 1/2 ช. - กุ้งแห้ งป่ น 1 ช ( ไม่ ใส่ ก็ได้ ) - นา้มันพืช ้ ้ - ซอสปรุ งรส - นาตาลทราย ้ - ซีอวขาว ิ้
  • 17. • …….วิธีทาไส้ …….. 1. ล้ างถั่วเขียวแล้ วแช่ ทงไว้ 3 ชม. นาไปนึ่งให้ สุก แล้ วนามาบดหยาบๆ ิ้ 2. ซอยหอมแดงแล้ วนาไปเจียวในนามันให้ เหลือ พักไว้ ก่อน ้ 3. โขลกรากผักชีให้ แหลก ใส่ พริกไทยป่ นเอาหมูสับลงไปคลุก แล้ วนากระทะ ตังไฟ ใส่ นามันพอประมาณ เอาหมูลงผัดให้ สุกตามด้ วย ข้ อ 1ปรุงรสด้ วยซอสปรุงรส ซีอวขาว นาตาลทราย ตามด้ วยกุ้งแห้ งป่ น ้ ้ ิ้ ้ ชิมรสให้ พอดี ส่ วนผสมไส้ ขนมหวาน - มะพร้ าวทึนทึก ขูด 1 ถ. - งาขาว หรือ งาดา 1/4 ถ. - นาตาลปี ้ บ 100 กรัม ้ - นาตาลทราย 100 กรัม ้ …….วิธีทาไส้ …….. 1. ตังกะทะ ผัดมะพร้ าว จนเหลือง ้ 2. เติมนาตาลปี ้ บ และนาตาลทราย พอส่ วนผสมเข้ ากัน (สังเกตุ โดย มะพร้ าว สามารถปั ้นเป็ นก้ อนได้ ) ้ ้ 3. เติมงา แล้ วผัดต่ อ สักครู่ แล้ วปิ ดไฟ พักไว้ ให้ เย็น …….วิธีทาขนม……. - ละลายนาตาลกับนา ยกขึ่นตังไฟ เคี่ยวให้ หอม ( แปงขนมไส้ หวาน เติมเกลือ 1 ชต. ไม่ ต้องใส่ นาตาล ) ้ ้ ้ ้ ้ - เอาแปงทังสองอย่ างผสมกันในชา เทนาตาลที่ละลายแล้ วลงไป นวดจนทุกอย่ างเข้ ากันดี ( สามารถ เติมนาได้ ถ้ าแปง ยังไม่ จับ ้ ้ ้ ้ ้ กันดี ) - ปั ้นแปงเป็ นก้ อนกลมก่ อนแล้ วแผ่ แปงออกบางๆ ตักไส้ ใส่ ห้ มแปงให้ มิด ้ ้ ุ ้ - เอานามันทาใบตองเล็กน้ อยค่ ะ แล้ วห่ อขนมได้ เลยค่ ะ ้ - เสร็จแล้ วเอาไปนึ่งให้ สุกประมาณ 45 นาที
  • 18. ขนมลูกชุบ เครื่ องปรุ ง ถัวเขียวนึงสุกบดละเอียด 1 กิโลกรัม, น ้าตาลทราย 2 1/2 ถ้ วยตวง, หัวกะทิ (มะพร้ าว 400 กรัม) 1 ถ้ วยตวง, ่ ่ สีผสมอาหารสีตางๆ ่ • ส่ วนที่ชุบ • วุ้นผง 1 1/2 ช้ อนโต๊ ะ, น ้า 2 1 /2 ถ้ วยตวง, น ้าตาลทราย 1 ถ้ วยตวง • วิธีทา ผสมถั่วบด น ้าตาลทราย กะทิ เข้ าด้ วยกัน ยกขึ ้นตังไฟ ้ • กวนด้ วยไฟอ่ อนๆ จนล่อนจับกันไม่ตดกระทะ ิ • พักถั่วกวนไว้ ให้ เย็น นามาปั นเป็ นรู ปผลไม้ ตางๆตามต้ องการ เสียบไม้ ไว้ ้ ่ • ใช้ พ่ ูกันจุ่มสีระบายลงบนขนมที่ปั้น โดยระบายเลียนแบบของจริง ทิ ้งไว้ ให้ แห้ งจึงนาไปชุบวุ้น • ผสมวุ้นกับนายกขึนตังไฟ ให้ ละลายก่อนจึงใส่น ้าตาลทราย เคี่ยววุ้นจนข้ น ้ ้ ้ • เอาขนมที่ปั้นแล้ วเสียบไม้ ลงชุบวุ้นครั งเดียวให้ ท่ ว ทิ ้งไว้ จนแห้ งแล้ วชุบอีก ทาเช่นนี ้ประมาณ 3- 4 ้ ั ครัง จะชุบแต่ละครังต้ องให้ เย็น วุ้นแข็งตัวก่อนทุกครัง ้ ้ ้ • เมื่อวุ้นแข็งจึงเอาไม้ เสียบออก ตกแต่งด้ วยก้ านและใบให้ สวยงาม