ݺߣ
Submit Search
สหภาพแรงงาȨȨะบอบผด็จการ
•
Download as DOCX, PDF
•
1 like
•
273 views
Thongkum Virut
Follow
สหภาพแรงงาȨȨะบอบผด็จการในประเทศไทย
Read less
Read more
1 of 5
Download now
Download to read offline
More Related Content
สหภาพแรงงาȨȨะบอบผด็จการ
1.
สหภาพแรงงาȨȨะบอบผด็จการ กรรมกรเป็นพลังผลิตสาคัญในเศรษฐกิจเสรีนิยมคู่กับนายทุนซึ่งป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตในระบบเสรีนิยมนั้น เจ้าของปัจจัยการผลิตเอกชนกับพลังผลิตจะต้องอยู่คู่กันๆปขาดข้างหนึ่งข้างใดไม่ได้ ขาดข้างหนึ่งก็ยอมไม่มีอีกข้างหนึ่ง และก็จะไม่มีระบบเสรีนิยมถ้าไม่มีนายทุนก็จะไม่มีกรรมกรถ้าไม่มีกรรมกรก็จะไม่มี สหภาพแรงงานเป็นองค์การของกรรมกรสมาคมนาบทุนเป็รองค์การของนายทุนฉะนั้น ในระบบเศรษฐกิจนิยมจึงมีสหภาพแรงงานและสมาคมนายทุนดารงอยู่คู่กัน แต่ระบบเสรีนิยมของแต่ละประเทศมีระบอบการปกครองที่ไม่เหมือนกัน เพราะระบบเสรีนิยมของบางประเทศมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย และระบบเสรีนิยมบางประเทศมีการปกครองระบอบเผด็จการเช่นระบเสรีนิยมของอังกฤษฝรั่งเศสอเมริกาญี่ปุ่นและอินเดีย ฯลฯมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยระบอบการปกครองเยอรมันอิตาลีญี่ปุ่น (ก่อนสงครามโลกครั้งที่2) มีการปกครองระบอบเผด็ดการเป็นต้น สหภาพแรงงานในฐานะเป็นองค์การของกรรมกรมีหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของกรรมกร แต่ในการทาหน้าที่รักษษผลประโยชน์ของกรรมกรนั้น สหภาพแรงงานจะต้องปฎิบัติตามฐานะและบทบาทของตนซึ่งเป็นสถาบันอันแน่นอนแล้ว
2.
คือฐานะทางเศรษฐกิจและบทบาทในการต่อรองกับนายจ้าง สหภาพแรงงานไม่สามารถจะมีฐานะและบทบาทเหนือไปจากสถาบันนี้ได้ และสถาบันนี้เรียกว่า “ลัทธิสหภาพแรงงาน”( THEDE
UNIONISM) ระบอบประชาธิปไตยคือระบอบที่อานาจการปกครองประเทศ(อานาจอธิปไตย)เป็นของประชาชนโดยเฉพาะคือ เป็นของนายทุนและกรรมกรร่วมกันแม้ว่าอานาจอธิปไตยของนายทุนจะเหนือกว่ากรรมกร แต่กรรมกรก็คงมีอานาจอธิปไตยอยู่ส่วนหนึ่งจึงเป็นระบอบประชาธิปไตย ระบอบเผด็จการคือระบอบการปกครองประเทศหรืออานาจอธิปไตยเป็นของชนส่วนน้อยโดนเฉพ่ะ คือเป็นของนายทุนเพียงฝ่ ายเดียวโดยกรรมกรไม่มีส่วนรวม ฉะนั้นระบอบประชาธิปไตยจึงสามารถเฉี่ยผลประโยชน์ระหว่างนายทุนและกรรมกรได้ตามสมควรคือรักษษหลัก “ผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างนายทุนและกรรมกร”ไว้ได้ตามสมควรแม้ว่านายทุนจะมีส่วนในผลประโยชน์มากกว่ากรรมกร แต่กรรมกรก็มรส่วนในผลประโยชน์ตามสมควรแก่อัตภาพ แต่ระบอบเผด็จการไม่สามารถเฉี่ยผลประโยชน์ระหว่างนายทุนกับกรรมกรเพราะอานาจอธิปไตยอยู่กับฝ่ ายนายทุนข้างเดียว จึงรักษษผลประโยชน์ของนายทุนฝ่ ายเดียวกรรมกรถูกกดขี่เอาเปรียบอย่างหนักไม่สามารถรักษาหลัก “ผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างนายทุนกับกรรมกร”ไว้ได้ จะเห็นได้ว่าในระบอบเสรีนิยมที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยนั้น สหภาพแรงงานสามารถทาหน้าที่รักษษาผลประโยชน์ของกรรมกรได้อย่างมีผล และการที่สหภาพแรงงานมีพลังอย่างเพียงพอเพราะอานาจอธิปไตยมิได้อยู่กับนายทุนเพียงฝ่ ายเดียว แต่กรรมกรก็มีอานาจอธิปไตยอยู่ส่วนหนึ่งด้วยเมื่อนายทุนกับกรรมกรต่างมีออานาจอธิปไตยด้วยเหมือนกัน สหภาพแรงงานจึงมีพลังที่จะต่อรองกับนายทุนอย่างได้ผล แต่ในระบบเสรรีนิยมที่มีการปกครองเป็นเผด็จการสหภาพแรงงานไม่สามารถจาทาหน้าที่รักษษผลประโยชน์ของกรรมกร หรือไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ของกรรมกรได้เท่าที่ควรในระบอบเผด็จการนั้น ทั้งๆที่มีสหภาพแรงงานก็ไม่สามารถแก้ปัญหาแรงงานอันร้ายกาจไห้ตกไปได้
3.
ทั้งนี้เพราะว่าในระบบเผด็จการนั้นอานาจอธิปไตยเป็นของนายทุนฝ่ายเดียวกรรมกรไม่มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของอานาจอธิปไตย จึงทาให้สหภาพแรงงานไม่มีพลังในการต่อรองกับนายทุนมีสหภาพแรงงานก็ทาอะไรไม่ได้ กรรมกรมีสหภาพแรงงานเสียเปล่า ระบอบเผด็จการที่ไม่มีสหภาพแรงงานนั้นไม่ต้องพูดถึงเห็นกันอยู่แล้วว่ากรรมกรหมดท่าเพียงใด อย่างเช่นกรรมกรจีนสมัยก๊กมินตั๋งระบบอบเผด็จการในประเทศไทยบางสมัยไม่มีสหภาพแรงงานบางสมัยมีสหภาพแรงงาน ในสมัยที่ไม่มีสหภาพแรงงานนั้นกรรมกรเป็นอันมากคิดว่าถ้ามีสหภาพแรงงานก็แก้ปัญหาแรงงานได้ แต่ในสมัยที่มีสหภาพแรงงานย่มดีกว่าในสมัยที่ไม่มีสหภาพแรงงานแต่ข้อเท็จจริงในปัจจุบันมีสหภาพแรงงานนับร้อย ทั้งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจและสหภาพแรงงานวิสาหกิจเอกชน มีผู้นาแรงงานที่มีความสามารถเป็นจานวนมากและทาการเคลื่อนไหวกับนายทุนอย่างมากมาย ก็ได้พิสูจน์ให้กรรมกรเห็นขึ้นเป็นลาดับว่าลาพังแต่สหภาพแรงงานไม่สามารถแก้ปัญหาของกรรมกรได้ ข้อเรียกร้องของกรรมกรที่มีเหตุผลประโยชน์ของกรรมกรที่ควรได้ และการดาเนินการอย่างถูกต้องของกฎหมายแรงงาน กัยมีอานาจลึกลับมาขัดขวางให้ล้มเหลวอย่างไม่น่าเชื่อ หลักประกันต่างๆที่บัญญัติไว้ในกฎหมายมีผลทางปฎิบัติแก่กรรมกรส่วนน้อยแต่กลายเป็นเศษกระดาษของกรรมกรส่วนใหญ่ ซึ่งพื้นฐานเป็นเช่นเดียวกับประเทศที่มีการปกครองระบอบเผด็จการทั้งหลายแต่ ตรงกันข้ามกับประเทศที่มีการปกครองระบบอบประชาธิปไตย ซึ่งสหภาพแรงงานสามารถรักษาผลประโยชน์ของกรรมกรได้เท่าที่ควรจะเป็นเช่นในอังกฤษ
อเมริกาญี่ปุ่นอินเดีย สะแกนดิเนเวียเป็นต้น จึงเห็นได้ว่าการที่รักษาผลประโยชน์ของกรรมกรไว้ได้นั้นกรรมกรจะมีแต่สหภาพแรงงานไม่เพียงพอ แต่ข้อสาคัญประเทศจะต้องมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยด้วย เพราะว่าสหภาพแรงงานจะรักษาผลประโยชน์ของกรรมกรได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการปกครองว่าเป็นประชาธิปไตยหรือเป็นเผด็จการ สหภาพแรงงานจะรักษาผลประโยชน์ของกรรมกรภายใต้ระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น แต่สหภาพแรงงานจะไม่มีน้ายาในระบอบเผด็จการ ด้วยเหตุนี้กรรมกรในประเทศที่การปกครองเป็นเผด็จการไม่เพียงจะต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มาเพื่อสหภาพแรงงาน หรือในขอบเขตของสถาบันแรงงานเท่านั้นแต่ข้อสาคัญจะต้องต่อสู่เพื่อให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยด้วย
4.
ไม่ว่าประเทศใดๆระบอบประชาธิปไตยสถาปนาข้นได้ด้วยการต่อสู้ของประชาชนในรูปแบบต่างๆกันตาม สภาวะการณ์ของแต่ละประเทศกรรมกรเป็นส่วนสาคัญส่วนหนึ่งของประชาชนเพื่อให้ได้มาเพื่อระบอบประชาธิปไตย จึงหมายถึงการต่อสู้ของกรรมกรด้วยถ้ามีการต่อสู้ของประชาชนประเภทอื่น แต่ไม่มีการต่อสู้ของกรรมกรก็จะไม่ใช่การต่อสู้ของประชาชนจึงไม่ใช่การต่อสู้เพื่อได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตย ข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในทุกประเทศว่า ถ้ากรรมกรมิได้มีส่วนสาคัญส่วนหนึ่งในการต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยแล้ว ระบอบประชาธิปไตยก็ไม่สามารถจะสถาปนาขึ้นได้ ระบอบประชาธิปไตยในอังกฤษฝรั่งเศสอเมริกาญี่ปุ่น และสะแกนดิเนเวียฯลฯล้วนแต่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ของกรรมกรเป็นส่วนสาคัญส่วนหนึ่งทั้งสิ้น เมื่อกรรมกรในประเทศเหล่านี้บรรลุผลสาเร็จในการต่อสู้เพื่อสถาปนาระบอบประชาธิปไตยแล้ว สหภาพแรงงานจึงทาหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของกรรมกรได้อย่างเต็มภาคภูมิ สหภาพแรงงานในประเทศเหล่านั้นแสดงบทบาทอย่างได้ผลก็ภายหลังที่กรรมกรได้ ต่อสู้ เพื่อสถาปนาระบอบประชาธิปไตยสาเร็จแล้วในขณะที่ประเทศเหล่านั้นยังมีการปกครองระบอบเผด็จการ สหภาพแรงงานก็ไม่มีความหมายเช่นเดียวกับประเทศไทยในขณะนี้มีผู้สงสัยว่าทาไม
?สหภาพแรงงานในประเทศไทย จึงไม่มีบทบาทในการรักษาผลประโยชน์ของกรรมกรเท่าที่ควรจากเหตุผลข้อเท็จจริงที่กล่าวมาคาตอบคือ ประเทศไทยยังมีการปกครองระบอบเผด็จการซึ่งในปัจจุบันเรียกว่าระบอบเผด็จการรัฐสภาหรือระบอบเผด็จการระบบรัฐสภา และเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้จึงมัผู้สงสัยว่าทาไมผู้นากรรมกรบางส่วนจึงเรียกร้องไม่ไห้กรรมกรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ต้องการให้กรรมกรต่อสู้ทางเศรษฐกิจเท่านั้นต้องการให้กรรมกรต่อสู้เพื่อแก้ปัญหาแรงงานเท่านั้น ไม่ต้องการให้กรรมกรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อแก้ปัญหาประชาธิปไตยซึ่งเป็นหัวใจของการต่อสู้ทางการเมืองนั้น เป็นการทาลายผลประโยชน์ของกรรมกร มีผู้สงสัยว่าทาไมผู้นากรรมกรบางส่วนจึงมีทรรศนะเช่นนี้และจากเหตุผลข้อเท็จจริงที่กล่าวมาก็ได้คาตอบว่า เนื่องด้วยระบอบเผด็จการเป็นเครื่องมืออันสาคัญที่สุดของนายทุนในการกดขี่และเอาเปรียบกรรมกร นายทุนจึงต้องการที่จะรักษาระบอบเผด็จการไว้ จึงไม่ต้องการกรรมกรต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องการให้กรรมกรจากัดการต่อสู้ในขอบเขตของลัทธิสหภาพแรงงานเท่านั้น ในประเทศที่มีการปกครองระบอบเผด็จการนั้นการต่อสู้ของกรรมกรเพื่อให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยใช้รูปแบบต่างๆกัน เช่นตั้งพรรคการเมืองของตนและไม่ตั้งพรรคการเมืองของตนเช่นในอังกฤษกรรมกรตั้งพรรคการเมืองของตนขึ้น
5.
เรียกว่าพรรคแรงงานแต่ในอเมริกาไม่ได้ตั้งพรรคการเมืองของตนแต่ใช้พรรคการเมืองพรรคอื่น เป็นเครื่องมือในการต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตย กรรมกรในประเทศไทยเริ่มเข้าใจมานานแล้วว่าการที่จะรักษาผลประโยชน์ของกรรมกรไว้ได้นั้นไม่เพียงแต่จะต้องสู้ทาง เศรษฐกิจอย่างเดียวแต่จะต้องต่อสู้ทางการเมืองด้วยบรรดาผู้นาที่มีการตื่นตัวจึงปฎิเสธการต่อสู้ทางลัทธิสหภาพแรงงาน ในขณะที่การปกครองยังไม่เป็นระบบอบประชาธิปไตยพวกเขาไม่เพียงแต่จัดตั้งสหภาพแรงงานเท่านั้น หากเขายังตั้งพรรคการเมืองของกรรมกรขึ้นด้วยในเวลาเดียวกันแต่จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังมีผู้นาบางส่วนเรียกร้องให้กรรมกรไทย ยึดถือเพียงแค่ลัทธิสหภาพแรงงานเท่านั้นไม่เห็นด้วยกับการที่กรรมกรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ต้องการที่จะให้กรรมกรมีแต่สหภาพแรงงานเพียงอย่างเดียวปฎิเสธการมีส่วนร่วมสร้างระบอบประชาธิปไตย ทรรศนะของผู้นากรรมกรเหล่านั้นตรงกันกับทรรศนะของนายทุนในปัญหากรรมกรฉะนั้นไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าจะเจตนาหรือว่าไม่เจตนาก็ตามผู้นากรรมกรเหล่านั้นเป็นผู้แทนนายทุนในขบวนกรรมกรหรือเป็นปฎิปักษ์ต่อการ ปฏิวัติประชาธิปไตย. Credit: วันชัยพรหมภา edit: thongkrm_virut@yahoo.com
Download