ݺߣ
Submit Search
ตัวอย่างการเขียนบทคามวิจัย
•
0 likes
•
1,427 views
K
kasetpcc
Follow
1 of 4
Download now
Downloaded 10 times
More Related Content
ตัวอย่างการเขียนบทคามวิจัย
1.
การเขียน คือ ศิลปะการสื่อสารขอมูลที่กระชับ
และชัดเจน 1 (ตัวอยางการเขียนบทความยุววิจย) ั ทุกขอความมีหนาที่และความสําคัญ ไมสามารถตัดได หากตัดออกจะทําใหความหมายเปลี่ยน การควบคุมโรครากขาวจากเชื้อรา Rigidoporus lignosus ของตนยางพาราโดยใช ระยะหางจากขอบกระดาษ เชื้อจุลินทรียปฏิปกษ (ชื่อ: Browallia ขนาด 16) ขอบบน 2.5 cm ขอบซาย 3.0 cm อรวรรณ ปยะบุญ* ธนพร จิระวิชชเลิศ และศุทธินี เผือกขาวผอง (ที่เหลือ : Browallia ขนาด 12) ขอบขวา 1.0 cm โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ อ.พุธมณฑล จ.นครปฐม 73170 ขอบลาง 1.0 cm *E-mail : orawan_bio@mwit.ac.th บทคัดยอ (เขียนแบบยอเรื่อง บอกวาทําทําไม ทําอยางไร และไดอะไร microorganisms in laboratory scale, we found, T. harzianum ไมมีการอางอิง ไมบอกวิธีการ บอกผลเชิงเปรียบเทียบกับปจจุบัน เขียน (CBPIN01), T. harzianum (PM 51) and G. virens could inhibit ใหอานรูเรื่องโดยไมตองอานทั้งหมด) the growth of P. parasitica without significantly different ยางพาราเป นพื ช เศรษฐกิ จที่ สํ า คั ญ ของประเทศไทย efficiency (p=0.05). Compared with 100% Calixin, the เนื่ อ งด ว ยในป จ จุ บั น เกษตรกรประสบป ญ หาโรครากขาว จาก antagonistic fungi were equally efficient. For B. การศึกษาประสิ ทธิ ภาพของจุ ลินทรี ยป ฏิป กษ คือ Trichoderma amyloliquefaciens was significantly equally efficient (p=0.05) harzianum (CBPIN01) Trichoderma harzianum (PM 51) with 100% Calixin. After Trichoderma harzianum (CBPIN01), Chaetomium globosum Gliocladium virens Bacillus subtilis Trichoderma harzianum (PM 51), Gliocladium virens, and Bacillus amyloliquefaciens และStreptomyces aureofaciens ใน Bacillus amyloliquefaciens were used to inhibit the growth of การควบคุมโรครากขาวที่เกิดจากเชื้อรา Rigidoporus lignosus P. parasitica on the leaves of Para rubber. We found that T. ดวยวิธี dual culture โดยมีการวางชิ้นวุนของเชื้อรา R. lignosus harzianum (CBPIN01), T. harzianum (PM 51), G. virens, and กั บ จุ ลิ น ทรี ย ป ฏิ ป ก ษ ร ว มกั น ในห อ งปฏิ บั ติ ก าร พบว า T. Bacillus amyloliquefaciens was significantly equally efficient harzianum (CBPIN01) T. harzianum (PM 51) และ G. virens (p=0.05) with 100% Calixin. ไมแตกตางกันและมีประสิทธิภาพดีกวาสารเคมี Calixin ความ เขมขน 100% อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (p=0.05) สําหรับการ Keywords: White root, Antagonistic microorganism, Bioilogical ยับยั้งเชื้อรา R. lignosus ของเชื้อแบคทีเรีย B. amyloliquefaciens control มีประสิทธิภาพการยับยั้งเทียบเทาสารเคมี Calixin ความเขมขน 100% อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (p=0.05) หลังจากนั้นจากการ 1. บทนํา ( แนะนําเขียนบอกใหทราบสถาณการณปจจุบัน มีปญหามีโทษ ทดลองการควบคุมเชื้อรา R. lignosus ดวยเชื้อรา G. virens เชื้อ หรือ ผลกระทบอะไรบาง คาดวาจะคนพบอะไร แสดงความใหมดวยการ รา T. harzianum (CB-Pin01) เชื้อรา Trichoderma harzianum ทบทวนเอกสาร และชี้ชองวางของความรูที่ขาดเขี้นเปนหัวขอหลังสุด (PM 51) เชื้อแบคทีเรีย B. amyloliquaefaciens บนใบยางพารา เพื่อใหสามารถนําเสนอความคิดเชื่อมไปสูหวขออื่น ๆที่ตามมาไดอยางลื่น ั ไหล ) พบวาประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อรา R. lignosus สาเหตุเกิดโรค ยางพาราเปนพืชที่มีความสําคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ รากขาวดวยเชื้อรา G. virens เชื้อรา T. harzianum (CB-Pin01) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใตและเปนพืชเศรษฐกิจหลักของเกษตรกร เชื้อรา T. harzianum (PM 51) และเชื้อแบคทีเรีย B. ในภาคใต เนื่องจากหลายจังหวัดในภาคใตไดประสบปญหาน้ํา amyloliquefaciens มีผลเทียบเทากับสารเคมี Calixin ความ ทวม ทําใหเกิดการแพรระบาดของโรครากของยางพาราตามมา เขมขน100% อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (p=0.05) สาเหตุเ กิ ด จากเชื้ อ ราโดยจะเข า ทํ า ลายระบบราก ซึ่ ง หากเกิ ด คําสําคัญ: โรครากขาว จุลินทรียปฏิปกษ โรคทาทางชีวภาพ ระบาดรุนแรงมีผลทําใหตนยางตายกอนกําหนด เกษตรกรตอง สูญเสียทั้งผลผลิตและรายไดไป อีกทั้งการใชสารกําจัดศัตรูพืชใน Abstract (เขียนหรือไมเขียน abstract ก็ได) การแก ปญ หาเป น ผลให สภาพแวดล อ มถู ก ทํ า ลาย โรครากของ Para rubber is an important economic plant of ยางพาราที่สําคัญ คือ โรครากขาวซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อรา Thailand. However, Para rubber farmers confront a problem of Rigidoporus lignosus white root disease. We studied the efficiency of antagonistic ดังนั้นการศึกษาคนควาในการควบคุมเชื้อรา R. lignosus microorganisms, such as Trichoderma harzianum (CBPIN01), มีสวนชวยเหลือเกษตรกรไทยผูปลูกยางพาราใหไดผลผลิตมากขึ้น Trichoderma harzianum (PM 51), Chaetomium globosum, เนื่ อ งจากโรครากขาวมี สว นทําให ผ ลผลิ ตที่ ได จากต น ยางพารา Gliocladium virens, Bacillus subtilis Bacillus amyloliquefaciens ลดลง ทั้ ง นี้ การควบคุม โรครากขาวโดยชี ววิ ธี เ ป นอี ก ทางหนึ่ ง ที่ and Streptomyces aureofaciens. In this study, Trichoderma น า ส น ใ จ โ ด ย ใ ช เ ชื้ อ จุ ลิ น ท รี ย ป ฏิ ป ก ษ ต า ง ๆ ไ ด แ ก B. harzianum (CBPIN01), Trichoderma harzianum (PM 51), amyloliquefaciens B. subtilis C. globosum G.virens S. Chaetomium globosum, Gliocladium virens, Bacillus subtilis aureofaciens และ T. harzianum ในการเขายับยั้งเชื้อรากอโรค Bacillus amyloliquefaciens and Streptomyces aureofaciens ดวยเหตุนี้การศึกษาเชื้อ จุลินทรียปฏิปกษที่ควบคุมโรครากขาว were used to inhibit the growth of P. parasitica by dual จากเชื้อรา R. lignosus ของตนยางพารา จะเปนขอมูลสําคัญเพื่อ culture, which placed the P. parasitica with the นําไปใชในการแกปญหาโรครากขาวในอนาคต
2.
การเขียน คือ ศิลปะการสื่อสารขอมูลที่กระชับ
และชัดเจน 2 (ตัวอยางการเขียนบทความยุววิจย) ั ทุกขอความมีหนาที่และความสําคัญ ไมสามารถตัดได หากตัดออกจะทําใหความหมายเปลี่ยน 2. วัสดุอุปกรณและวิธีการ (เขียนบอกวิธีการที่ถูกตองและแมนยํา หาค า เฉลี่ ย ความยาวรั ศ มี ข องโคโลนี แ ล ว นํ า มา บอกใหละเอียดสามารถทําซ้ําได เปนสวนที่เขียนไดกอน) คํ า นวณหาค า PIRG แล ว นํ า ข อ มู ล มาวิ เ คราะห ท างสถิ ติ โ ดย Duncan’s multiple range ดวยโปรแกรม SPSS for Windows 2.1 เชื้อจุลินทรียและสารเคมี R. lignosus ไดรับความอนุเคราะหจากศูนยวิจัย 2.5 การทดสอบประสิทธิภาพ ในการควบคุมเชื้อราบนใบยางพารา ยางพารา ฉะเชิงเทรา T. harzianum สายพันธุ CB-PIN01 และ เตรี ย มเชื้อ ราสาเหตุ เ กิ ด โรครากขาวบนใบยางพารา PM51 รวมทั้ง B. amyloliquefaciens ไดรับความอนุเคราะหจาก บริเวณที่เกิดแผล เลี้ยงไวที่อุณหภูมิหองเปนเวลา 3 วัน จากนั้นนํา ภาควิชาจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร วิทยาเขต เชื้ อ จุ ลิ น ทรี ย ป ฏิ ป ก ษ แ ขวนลอยของ G. virens กําแพงแสน B. subtilis ไดรับความอนุเคราะหจากโรงพยาบาล T. harzianum (CB-PIN01) T. harzianum (PM51) และ B. รามาธิบดี C. globosum G. virens และ S. aureofaciens ไดรับ amyloliquefaciens ที่ความเขมขน 108 cell/ml ฉีดพนลงบนใบ ความอนุเคราะหจาก สถาบันวิจัยวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี สวน ยางพารา สั ง เกตผลการควบคุ ม การเกิ ด โรคของเชื้ อ จุ ลิ น ทรี ย สารเคมีที่ใชในการทดลองคือ สารเคมี Calixin ปฏิปกษ และทําการวิเคราะหจาก 2.2 การศึกษาลักษณะทั่วไปของเชื้อจุลินทรีย 5 ชนิด ดัชนีความรุนแรงของโรค = แบคทีเรีย ทําการศึกษาลักษณะโคโลนี รูปรางเซลล ∑(ระดับอาการ x จํานวนตนที่เปนโรคในระดับนั้น) X 100 และการติดสีแบบแกรมของเชื้อแบคทีเรีย B. amyloliquefaciens ระดับอาการสูงสุด X จํานวนตนทั้งหมด B. subtilis และ S. aureofaciens เชื้ อ รา ทํ า ศึ ก ษาลั กษณะสปอรแ ละเส น ใยเชื้ อ รา 3. ผลการทดลอง (และอภิปรายผล) (เขียนใหผอานมองเห็น ู C. globosum G. virens T. harzianum (CB-PIN01) และ T. ความรู โดยการเชื่อมโยงขอมูลกับขอมูล หรือกับทฤษฎี ดวยตรรกะ การ harzianum (PM51) รวมทั้งเชื้อรากอโรคราขาว R. lignosus วิเคราะห(แยกแยะ) การสังเคราะห (สรุปรวมความรูที่แยกแยะ) ใชการ เปรียบเทียบกับผลงานผูอื่นเพื่อเพิ่มคุณคา คือหาพวกมาชวยยืนยันเพิ่ม 2.3 การทดสอบการควบคุมและยับยั้งรา R. lignosus คุณคาทางวิชาการ) การใชแบคทีเรียปฏิปกษ 3.1 ลักษณะทั่วไปของเชื้อจุลินทรีย นํา cork borer ที่ผานการฆาเชื้อแลวเจาะเพื่อนําชิ้นวุน จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า ลั ก ษ ณ ะ เ ส น ใ ย ข อ ง เ ชื้ อ ร า เชื้อรา R. lignosus ที่บมไว 7 วันวางในจานเพาะเชื้อตรงจุด C. globosum พบวา เสนใยสีขาว การเจริญบนอาหารเลี้ยงเชื้อ ศูนยกลาง บมเชื้อไว 2 วัน หลังจากนั้นจึงวางเชื้อแบคทีเรีย B. แบบรางแห มีผนังกั้นตามขวาง จะแบงเสนใยออกเปนชองๆแตละ amyloliquefaciens B. subtilis และ S. aureofaciens ไว 4 จุดใน ชองอาจเปน uninucleate เชื้อรา G. virens พบวาการสรางสปอร แนวจัตุรัสโดยหางจากขอบจานเพาะเชื้อ 1.5 เซนติเมตรและในชุด มีสีเขียวเขม conidiophoresใน phialides (อัปสปอร) กระจุกอยู ควบคุ ม จะไม มี ก ารวางเชื้ อ แบคที เ รี ย จากนั้ น บ ม เชื้ อ ไว 7 วั น อยางหนาแนนและสปอรชูตั้งตร เชื้อรา T. harzianum (CB-Pin จากนั้นจึงทําการวัดความยาวรัศมีเสนใยของรา R. lignosus ทํา 01) และเชื้อรา T. harzianum (PM 51) พบวาพบ conidiophores การทดลองซ้ํา 3 ครั้ง มีสีจาง แตกแขนงมาก phialides เกิดเดี่ยวๆ หรือ เปนกลุม การใช เชื้อราปฏิปกษ conidia (phialospore) เปนแบบเซลลเดียวรูปไข ไมมีสี เกิดเปน นํา cork borer ที่ผานการฆาเชื้อแลวเจาะเพื่อนําชิ้นวุน กลุมเล็กๆ ที่ปลาย phialides โคโลนีสามารถเจริญบนอาหารได เชื้อรา R. lignosus ที่บมไว 7 วันวางในจานเพาะเชื้อตรงจุ ด อยางรวดเร็ว ลักษณะของเสนใย ที่เจริญออกมาเริ่มแรกจะมีสีขาว ศูนยกลาง บมเชื้อไว 3 วัน หลังจากนั้นจึงวาง เชื้อรา C. เมื่อเชื้อรามีอายุมากขึ้นจะเปลี่ยนเปนสีเขียวเขม เนื่องจากมีการ globosum G. virens T. harzianum (CB-PIN01) และ T. สรางสปอรมากขึ้น กานชู สปอรจะแตกกิ่งกานเปนชอ โดยลักษณะ harzianum (PM51) ไว 1 จุดในแนวเดียวกันกับ R. lignosus โดย ของโคโลนีมีความตางกันที่เสนใยของ T. harzianum (CB-Pin 01) หางจากขอบจานเพาะเชื้อ 1.5 เซนติเมตร และในชุดควบคุมจะไม มีความหนาแนนมากกวา เชื้อรา T. harzianum (PM 51) มีการวางเชื้อรา T. harzianum จากนั้นบมเชื้อ ไว 7 วัน จากนั้น เชื้อแบคทีเรีย B. amyloliquefaciens รูปรางโคโลนีเปน จึงทําการวัดความยาวรัศมีเสนใยของรา R. lignosus ทําการ รูปกลม ขอบของโคโลนีเรียบ มีสีเหลืองออน สวน B. subtilis ทดลองซ้ํา 3 ครั้ง รูปรางโคโลนีเปนรูปกลม มีสีเหลือง ขอบของโคโลนีเปนคลื่นเวา เขาไปมากคลายนิ้วมือ (Lobate) 2.4 เปอรเซ็นตการยับยั้งการเจริญ เชื้อแบคทีเรีย S. aureoliquefaciens โคโลนีใน เปอรเซ็นตการยับยั้งการเจริญ (percent inhibition of ระยะแรกผิวโคโลนีเรียบ เมื่ออายุมากขึ้นเสนใยอากาศจะพัฒนา radial growth-PIRG) คํานวณไดดังนี้ เปนสปอร ทําใหผิวโคโลนีมีลักษณะคลายแปง (powdery) หรือ PIRG = (R1-R2) x100 กํามะหยี่ (velvet) มีหลายสี R1 จากการศึกษา R. lignosus มีเสนใยสีขาวและสปอรสี เมื่อ R1 = ความยาวรัศมีของโคโลนีเชื้อในจานควบคุม R2 = ความยาวรัศมีของโคโลนีเชื้อในจานทดสอบ ขาว เสนใยมีผนังกั้น (septate hypha) และอัดตัวกันแนนเปนแทง คลายลําตน ความสามารถในการเจริญเติบโตอยางรวดเร็ว โดย
3.
การเขียน คือ ศิลปะการสื่อสารขอมูลที่กระชับ
และชัดเจน 3 (ตัวอยางการเขียนบทความยุววิจย) ั ทุกขอความมีหนาที่และความสําคัญ ไมสามารถตัดได หากตัดออกจะทําใหความหมายเปลี่ยน เส น ใยเจริ ญ เติ บ โตแผ ข ยายโดยรอบจนมองเห็ น ลั ก ษณะเป น ตารางที่ 2 เปอรเซ็นตการยับยั้งการเกิดโรคของเชื้อราปฏิปกษ วงกลม เมื่ อ ย อ มเส น ใยด ว ยสี ย อ มพบว า เส น ใยติ ด สี ย อ มสี ฟ า เปรียบเทียบกับสารเคมี Calixin conidiospore หรือ conidia เปนสปอรที่ไมมีสิ่งหุม เคลื่อนที่ไมได 1 อักษรหลังคาเฉลียแสดงความแตกตางทางสถิติอยางมีนัยสําคัญ ่ เกิดที่ปลายเสนใยconidiophore ที่ปลายของเสนใยมี sterigma สราง conidia เชื้อราปฏิปกษและสารเคมี คา PIRG (%)1 C. globosum 39.30 ± 10.83 bc G. virens 100.00 ± 0.00 a T. hazianium (CB-PIN01) 87.39 ± 8.36 a T. hazianium (PM 51) 97.27 ± 4.50 a รูปที่ 1 ลักษณะเสนใยของ R. lignosus Calixin 0.25% (ความเขมขนที่ 28.57 ± 11.20 c เกษตรกรใช)2 Calixin 100%2 45.50 ± 16.80 b 2 R. lignosus 0.00 ± 0.00 d ทดสอบโดยDuncan’s multiple range (P=0.05) 2 ชุดควบคุม รูปที่ 2 ลักษณะเสนใย R. lignosus ที่ยอมสี ภายใต กลองจุลทรรศน กําลังขยาย 200X 3.4 ผลของการควบคุมเชื้อรา R. lignosus บนใบยางพารา ในการควบคุมเชื้อรา R. lignosus บนใบยางพารา 3.2 ผลของ B. subtilis และ B. amyloliquefaciens และ ดวยเชื้อรา G. virens เชื้อรา T. hazianium (CB-PIN01) เชื้อรา T. S. aureoliquefaciens harzianum (PM 51) เชื้อแบคทีเรีย B. amyloliquaefaciens และ B. amyloliquefaciens มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อ สารเคมี Calixin พบวาการยับยั้งการเกิดโรคไมแตกตางกันอยางมี รา R. lignosus ไดเทียบเทากับสารเคมี Calixin ความเขมขน นัยสําคัญทางสถิติ (p=0.05) 100% อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (p=0.05) ดังตารางที่ 1 4. สรุป และอภิปรายผล (เขียนบอกวาไดอะไร ที่เปนของใหม เชน 3.3 ผลของเชื้อรา C. globosum G. viriens T. hazianium ความสัมพันธใหม สรุปใหตรงกับปญหาในบทนํา แสดงความชัดเจนเปน (CB-PIN01) และ T. hazianium (PM 51) ขอ ๆ อานสรุปไมรูเรื่องหากไมอานเนื้อหาตั้งแตตนจนจบ) การคํานวณเปนเปอรเซ็นตการยับยั้ง (PIRG) ของ G. เ ชื้ อ แ บ ค ที เ รี ย B. amyloliquefaciens แ ล ะ S. viriens T. hazianium (CB-PIN01) และ T. hazianium (PM 51) aureoliquefaciens มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโต พบวา G. viriens T. hazianium (CB-PIN01) และ T. hazianium ของเชื้ อ R. lignosus โดยในอาหารเลี้ ย งเชื้ อ ที่ มี B. (PM 51) ประสิทธิภาพการยับยั้งเชื้อรา R. lignosus ดีกวาสารเคมี amyloliquefaciens เปนแบคทีเรียปฏิปกษ มีเปอรเซ็นตการยับยั้ง Calixin ความเขมขน 100% อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (p=0.05) เชื้อรา R. lignosus เทากับ 35.14% ซึ่งเทียบเทาสารเคมี Calixin ดังตารางที่ 2 ความเขมขน100% อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (p=0.05) สวนเชื้อ B. subtilis ไมมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อรา R. lignosus ตารางที่ 1 เปอรเซ็นตการยับยั้งการเกิดโรคของเชื้อแบคทีเรีย เมื่ อ นํ า เชื้ อ รา R. lignosus ทดสอบกั บ เชื้ อ รา C. ปฏิปกษเปรียบเทียบกับกลุมควบคุม globosum G. virens T. harzianum (CB-Pin01) และ T. เชื้อแบคทีเรียปฏิปกษและ harzianum (PM 51) พบวา G. virens T. harzianum (CB-Pin01) คา PIRG (%)1 สารเคมี และ T.harzianum (PM 51) มีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งการ B. amyloliquefaciens 35.14± 27.05 ab เจริญของเชื้อ R. lignosus ซึ่งในอาหารเพาะเลี้ยงเชื้อที่มี G. virens T. harzianum (CB-Pin01) และ T. harzianum (PM 51) B. subtilis 0.00± 0.00c เปนเชื้อราปฏิปกษ มีเปอรเซ็นตการยับยั้ง 100% 87.39 % และ S. aureofaciens 14.11± 21.37 bc 97.27 % ตามลําดับ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกวาสารเคมี Calixin Calixin 0.25% 2.35± 6.37 c ความเขมขน100% อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (p=0.05) 2 Calixin 100% 55.85± 6.62 a จากการทดลองการควบคุมเชื้อรา R. lignosus ดวย R. lignosus 2 0.00± 0.00 c เชื้อรา G. virens เชื้อรา T. harzianum (CB-Pin01) เชื้อรา 1 อักษรหลังคาเฉลียแสดงความแตกตางทางสถิติอยางมีนัยสําคัญ ่ Trichoderma harzianum (PM 51) เชื้อแบคทีเรีย B. ทดสอบโดยDuncan’s multiple range (P=0.05) amyloliquaefaciens บนใบยางพาราพบวา ผลการวิเคราะหทาง 2 ชุดควบคุม สถิติของดัชนีความรุนแรงของโรค เชื้อรา G. virens เชื้อรา T.
4.
การเขียน คือ ศิลปะการสื่อสารขอมูลที่กระชับ
และชัดเจน 4 (ตัวอยางการเขียนบทความยุววิจย) ั ทุกขอความมีหนาที่และความสําคัญ ไมสามารถตัดได หากตัดออกจะทําใหความหมายเปลี่ยน harzianum (CB-Pin01) เชื้อรา T. harzianum (PM 51) และ Trichoderma harzianum (PM 51) เชื้อแบคทีเรีย B. สารเคมี Calixin ความเขมขน100% ไมมีความแตกตางกันอยางมี amyloliquaefaciens พบว า เชื้ อ รา G. virens เชื้ อ รา T. นัยสําคัญทางสถิติ (p=0.05) จากการคํานวณเปอรเซ็นตการยับยั้ง harzianum (CB-Pin01) เชื้อรา T. harzianum (PM 51) และเชื้อ การเกิดโรค พบวาประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อรา R. lignosus แบคที เรีย B. amyloliquaefaciens มีผลเทียบเท ากั บสารเคมี สาเหตุ เ กิ ด โรครากขาวด ว ยเชื้ อ รา G. virens เชื้ อ รา Calixin ความเขมขน100% อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (p=0.05) T. harzianum (CB-Pin01) และเชื้อรา T. harzianum (PM 51) มี โดยสอดคลองกับงานวิจัยของปรียาพรและคณะ (2550) ที่พบวา ผลเทียบเทากับสารเคมี Calixin ความเขมขน100% อยางมี เชื้อรา T. harzianum (CB-Pin01) และเชื้อรา T. harzianum (PM นัยสําคัญทางสถิติ (p=0.05) 51) มีประสิทธิภาพดีเทียบเทาสารเคมี Metalaxyl วิจารณผลการทดลอง ในการทดลองเชื้อราปฏิปกษในการยับยั้งเชื้อรา R. 5. ขอเสนอแนะ lignosus พบวา G. virens T. harzianum (CB-Pin01) และ T. 1. ทําการทดลองในตนยางพาราที่สภาวะแวดลอมจริง harzianum (PM 51) มีเปอรเซ็นตการยับยั้งสูงกวาสารเคมี Calixin เพื่อใหไดขอมูลในสภาพใชงานจริง ความเขมขน 100% อยางมีนัยสํ าคัญทางสถิติ (p=0.05) ซึ่ ง 2. พัฒนาเชื้อเปนผลิตภัณฑสําเร็จรูป สําหรับใชกับตน สอดคลอ งกั บ งานวิ จัย ของอารมณ โรจน สุจริต และคณะ (2541) ยางพาราที่เกิดโรครากขาว โดยทดลองในสภาพหองปฏิบัติการพบวาเชื้อ Trichoderma spp. สวนใหฐสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ R. lignosus สวน กิตติกรรมประกาศ (เขียนใหเกียรติผูที่ชวยเหลือ และยืนยันการ Chaetomium spp. ในสภาพหองปฏิบัติการพบวาไมมีสายพันธุใด มีตัวตนของงาน) ที่เปนเชื้อราตอตานเชื้อรา R. lignosus เนื่องจาก G. virens โครงการวิ จั ย นี้ ไ ด รั บ การสนั บ สนุ น ทุ น การวิ จั ย จาก T. harzianum (CB-Pin01) และ T. harzianum (PM 51) เปนเชื้อ โครงการยุววิจัยยางพารา สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ราปฏิปกษยับยั้งเชื้อรา R. lignosus โดยใชกลไกการแขงขัน การ (สกว.) ได รับ คํ า ปรึ ก ษาและชี้ แ นะ ตลอดจนได รั บการเอื้ อ เฟ อ เปนปรสิต และปลอยสารปฏิชีวนะ เนื่องกลไกดังกลาวทําใหเชื้อรา อุปกรณ และสถานที่ จากสาขาวิชาชีววิทยา โรงเรียนมหิดลวิทยา ปฏิ ป ก ษ ทั้ ง สามชนิ ด สามารถยั บ ยั้ ง การเจริ ญ เติ บ โตของเชื้ อ รา นุสรณ สาเหตุเกิดโรครากขาวได โดยสอดคลองกับงานวิจัยของจิราเดช แจมสวาง (2547) พบวาเชื้อรา T. harzianum เปนเชื้อราที่มี เอกสารอางอิง (อะไรที่เปนความจริงไมตองอางอิง เชน โลกหมุนรอบ คุณสมบัติและศักยภาพสูงในการใชควบคุมเชื้อราสาเหตุเกิดโรค ดวงอาทิตย ความรูของผูอื่นตองอางถึง) พืชเพราะความสามารถในการเจริญอยางรวดเร็วสรางสปอรไดใน พรพรรณ อูสุวรรณ และโสภณ วงศแกว. 2543. การใชเชื้อ ปริมาณสูง และมีการรัดพันเสนใย แลวแทงเขาไปในสวนของเสน Bacillus spp. และ Streptomyces spp. ใยของเชื้อราสาเหตุเกิดโรคพืช ทําใหเสนใยตาย สวนสารเคมีจาก ในการควบคุมโรคเชื้อราในองุน (Biocontrol of grape การศึ ก ษาพบว า สารเคมี จ ะทํ า งานได ดี ใ นสภาวะแวดล อ มที่ fungul diseases by bacillus spp and เหมาะสม เชน อุณหภูมิไมสูงหรือต่ําจนเกินไป (Sunslow, 1982) steptomyce spp) : 149 -156. จากผลการทดลองจะเห็นไดวาเชื้อราปฏิปกษสามารถยับยั้งเสนใย จิระเดช แจมสวาง. 2547. การควบคุมโรคผักโดยชีววิธี. ของเชื้อราสาเหตุเกิดโรคที่เกิดขึ้นไดดีกวาสารเคมีโดยใชการเจริญ (เอกสารประกอบการสอน). กรุงเทพฯ : คลุมทับเสนใยของเชื้อราสาเหตุเกิดโรคสวนการใชสารเคมีจะยับยั้ง ภาควิชาโรคพืช คณะเกษตรศาสตร เสนใยของเชื้อราที่เกิดขึ้นใหมเกิดเปนบริเวณยับยั้ง (clear zone) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร วิทยาเขต ซึ่งพบวาลักษณะเสนใยใหมที่งอกจะเปนกอนพูนขึ้นตามแนวขอบ กําแพงแสน. รัศมี มีสีขาวและเหลือง ปรียาพร คงจรรักษ, นภันต สุธารัตนพงษ และวทัญู ตั้งศิริ สวนเปอรเซ็นตการยับยั้งเชื้อรา R. lignosus ของเชื้อ อํานวย. 2551. การประยุกตใชเชื้อรา แบคทีเรีย B. subtilis และ S. aureoliquefaciens มีคาต่ํากวา Trichoderma harzianum และเชื้อแบคทีเรีย Bacillus sp. เพื่อ สารเคมี Calixin ความเขมขน 100% อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ ควบคุมโรคใบรวงซึ่งเกิดจากเชื้อรา (p=0.05) เนื่องดวยปริมาณสารปฏิชีวนะที่แบคทีเรียชนิดนี้หลั่งไม Phytophthora parasitica ในตนกลายางพารา.โรงเรียน เพียงพอตอการยับยั้งเชื้อรา และสารปฏิชีวนะที่หลั่งทํางานไดดีที่ มหิดลวิทยานุสรณ: 33. อุณ หภู มิเหมาะสม เช น เอนไซม ไคติเนสทํา งานไดดี ที่ อุณ หภูมิ Cease K. R., Blanchette R. A., and Highley T. L. 1988. ประมาณ 30 องศาเซลเซียส pH 7.0 (Han, 2001) นอกจากนี้ Interactions between Scytalidium สภาวะแวดล อ มไม เ หมาะสมต อ การเจริ ญ เติ บ โตของ S. species and brown- or white-rot basidiomycetes in aureoliquefaciens ซึ่งเจริญไดดีที่อุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียส birch wood: 109-192. และ pH 6.5-8.0 โดยเจริญไดดีในอาหารเลี้ยงเชื้อ yeast-malt Ehrenberg. 1835. Bacillus subtilis Cohn .1872. 2007. Phys. extract Rev. Lett.: 768-798. การควบคุมเชื้อรา R. lignosus บนใบยางพาราดวยเชื้อ รา G. virens เชื้ อราT. harzianum (CB-Pin01) เชื้อรา
Download