ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ครูมือใหม่
1. กระบวนทัศน์ของการออกแบบการสอนเป็นอย่างไร และสิงใด
                                                  ่
เป็นพืนฐานที่สาคัญในการเปลียนกระบวนทัศน์ดงกล่าว
      ้                    ่             ั
 เป็นกระบวนการวางแผนการเรียนการสอนโดยการเปลี่ยนแปลงหลักของ
การเรียนรู้ (Learning) การเรียนการสอน (Instruction) ลงสู่การ วางแผน
(Planning) สาหรับการเรียนการสอนได้แก่ เนื้อหา วัสดุ สื่อ กิจกรรม
แหล่งสารสนเทศ และการประเมิน โดยสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สาคัญในการ
เปลี่ยนกระบวนการดังกล่าว ก็คอ นักเรียน หรือ ผู้เรียน
                              ื
2.พืȨานทฤษฎีการ๶รียนรู้ที่สาคัญใȨารออกแบบการสอนมี
     ้
อะไรบ้างและมีสาระสาคัญอย่างไร และมีความแตกต่างกัน
อย่างไร
 ทฤษฎีการเรียนรู้เป็นกลุ่มของหลักการทั้งหลายที่อธิบายวิธการ
                                                         ี
เรียนรู้ของ มนุษย์ ซึ่งรวมทั้งวิธีการได้มาซึ่งความสามารถ(Abilities)
และความรู้ใหม่ (Knowledge) แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ การ
เรียนรู้ตามแนวพฤติกรรมนิยม การเรียนรู้ตามแนวพุทธิปัญญานิยม
และการเรียนรู้ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์
การเรียนรูตามแนวพฤติกรรมนิยม กลุมพฤติกรรมȨยม (Behaviorism
          ้                     ่
หรือ S-R Associationism) มุ่งที่ศกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิงเร้า
                                 ึ                                ่
(Stimulus) กับการ ตอบสนอง (Response) หรือพฤติกรรมทีแสดงออกมา ซึ่งจะ
                                                          ่
ให้ความสนใจกับ พฤติกรรมที่สามารถวัดและสังเกต จากภายนอกได้และเน้น
ความสาคัญของสิ่งแวดล้อม เพราะเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวทีกาหนด
พฤติกรรม ่ ในกลุ่มพฤติกรรมนิยม ได้แบ่งพฤติกรรมมนุษย์ออกเป็น 2
ประเภทใหญ่ๆ คือ พฤติกรรมเรสปอนเดนส์ (Respondent Behavior) และ
พฤติกรรม โอเปอร์แรนต์ (Operant Behavior)
พฤติกรรมเรสปอนเดนส์ หมายถึง พฤติกรรมที่เกิดขึ้นโดยสิ่งเร้า เมื่อมีสิ่งเร้า
พฤติกรรมตอบสนองก็จะเกิดขึน ซึงจะสามารถสังเกตได้ และทฤษฎีที่นามาใช้
                           ้
ในอธิบายกระบวนการเรียนรู้ประเภทนี้ เรียกว่า ทฤษฎีการวางเงือนไขแบบ
                                                             ่
คลาสสิค นักจิตวิทยาทีศึกษาพฤติกรรมเรสปอนเดนส์ ได้แก่ PAVLOV และ
                     ่
WATSON
พฤติกรรมโอเปอร์แรนต์ เป็นพฤติกรรมทีบคคลหรือสัตว์แสดงพฤติกรรม
                                        ่ ุ
ตอบสนองออกมาโดยปราศจากสิงเร้าที่แน่นอน และพฤติกรรมที่มผลต่อ
                                 ่                             ี
สิ่งแวดล้อม มีทฤษฎีการเรียนรูที่ใช้อธิบาย คือ ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบโอ
                             ้
เปอร์แรนต์ และนักจิตวิทยาที่ศกษาพฤติกรรมโอเปอรแรนต์ ได้แก่
                               ึ
Thorndike และ Skinner
การเรียนรูตามแȨพุทธิปญญานิยม
          ้           ั
การเรียนรู้ตามแนวพุทธิปัญญา หมายถึง การเปลี่ยนแปลงความรู้
ของผู้เรียนทั้งทางด้านปริมาณและด้านคุณภาพ คือ นอกจากผู้เรียน
จะมีสิ่งที่เรียนรู้เพิมขึนแล้ว ยังสามารถจัดรวบรวมเรียบเรียงสิ่งที่
                      ่ ้
เรียนรู้เหล่านั้นให้เป็นระเบียบ เพื่อให้สามารถเรียกกลับมาใช้ได้
ตามทีต้องการ และสามารถถ่ายโยงความรูและทักษะเดิม หรือสิง
       ่                                    ้                      ่
ที่เรียนรูมาแล้ว ไปสูบริบทและปัญหาใหม่ ส่งผลให้ผู้เรียนเกิด ความ
          ้             ่
จาระยะยาว
การเรียนรูตามแȨทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
          ้
ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์อธิบายว่า การเรียนรู้เกิดขึ้นเมื่อผู้เรียน สร้าง
ความรู้อย่างตืนตัวด้วยตนเองโดยพยายามสร้างความเข้าใจ
              ่
(Understanding) นอกเหนือเนื้อหาความรูที่ได้รบ โดยการสร้างสิง แทน
                                         ้ ั                      ่
ความรู้ (Representation) ขึ้นมา ซึ่งต้องอาศัยการเชื่อมโยงกับ
ประสบการณ์เดิมของตนเอง โดยทฤษฎีที่เป็นพื้นฐานสาคัญของทฤษฎี
กลุ่มคอนสตรัคติวิสต์ คือ ทฤษฎีพฒนาการทางสติปัญญาของ Piaget และ
                               ั
ทฤษฎีประวัติศาสตร์ สังคมของ Vygotsky
ทฤษฎีพฒนาการทางสติปญญา มีพนฐานมาจากแนวคิดของ Piaget แนวคิด
      ั                   ั         ื้
ของทฤษฎีนี้ เน้นผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ โดยเป็นผู้สร้างความรูโดยการลง
                                                                 ้
มือกระทา


ทฤษฎีประวัตศาสตร์สงคม มีแนวคิดที่สาคัญทีว่า “ปฏิสมพัธทางสังคม มี
              ิ    ั                     ่         ั
บทบาทสาคัญในการ พัฒนาด้านพุทธิปญญา” กล่าวคือ ผู้เรียนสร้างความรู้
                                    ั
โดยผ่านทางการมี ั ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อน ได้แก่ เด็ก กับ ผูใหญ่ พ่อ
                                            ื่                  ้
แม่ ครูและเพื่อน
3.ให้ว๶คราะห์และวิพากษ์จด๶ึϹȨละจุึϸ้อยྺองการออกแบบการสอȨีมพนฐาน
      ิ                 ุ                                  ่ ี ื้
จากทฤษฎีการเรียนรูกลุมพฤติกรรมȨยม พุทธิปญญานิยมและคอนสตรัคติวสต์
                   ้ ่                    ั                       ิ
กลุ่มพฤติกรรมนิยม
จุดเด่น
-ใช้ในการแก้พฤติกรรมที่เป็นปัญหา
-การสอนจะเป็นไปตามลาดับขั้นที่ โอกาสได้แสดงกระบวนการคิด กาหนดไว้ จาก
ง่ายไปยาก โดยเป็นการ แบ่งเนือหาออกเป็นส่วนย่อยๆ เพือให้ ผูเรียนสามารถจด
                                 ้                 ่      ้
จาได้ง่าย
-การให้ผลตอบกลับทันทีทนใด เมือ ผู้เรียนกระทาพฤติกรรมนั้นเสร็จ จะ ได้รบผล
                           ั       ่                                 ั
กลับพร้อมทั้งแรงเสริม ทันทีทนใดในขณะทีเรียนรู้
                               ั       ่
จุดด้อย
-ผู้เรียนเป็นผู้รอรับอย่างเดียว
กลุมพุทธิปญญานิยม
    ่          ั
จุดเด่น
-ผู้เรียนสามารถถ่ายโยงความรู้ และทักษะเดิม หรือสิ่งที่
เรียนรู้ มาแล้ว ไปสู่บริบทและปัญหาใหม่
-สื่อที่ได้มุ่งเน้นการพัฒนา กระบวนการทางปัญญา
มากกว่า การเน้นเฉพาะการพัฒนา พฤติกรรม ที่
ตอบสนองต่อสิ่งเร้า เพียงอย่างเดียว
จุดด้อย
-การรับข้อมูลในปริมาณที่มาก อาจทาให้ผู้เรียนไม่สามารถ
จาได้
กลุมคอȨตรัคติวสต์
      ่             ิ
จุดเด่น
 -ผู้เรียนสร้างความเข้าใจในสิ่งทีเรียนรู้ ด้วยตนเอง
                                 ่
-ผู้เรียนมีบทบาทสาคัญในการใช้สื่อ แก้ปัญหาก็อาจจะทาให้
ผู้เรียนเกิด และควบคุมการเรียนรู้ด้วยตนเอง
-เป็นการเรียนทีมุ่งเน้นการแก้ปญหา ทักษะการคิดขันสูง และ
                               ั                    ้
ความเข้าใจที่ ลึกซึ้ง
จุดด้อย
-หากผู้เรียนไม่ถนัดในเรื่องการแก้ปัญหาก็อาจจะทาให้ผู้เรียน
เกิดอคติกบวิธการสอน
           ั ี
4. จากสิงทีกาหนดต่อไปนีให้ทานจาแนกประเภทตามลักษณะการออกแบบโดยระบุเกณฑ์และเหตุผลที
         ่ ่            ้ ่
ใช้ในการจาแนกด้วย ชุดการสอน ชุดสร้างความรู้ คอมพิวเตอร์ชวยสอน มัลติมเดียที่ พัฒนาตามแนว
                                                        ่           ี
คอนสตรัคติวสต์ บทเรียนโปรแกรม เว็บเพือการสอน สิงแวดล้อมทางการเรียนรูบนเครือข่าย การเรียน
             ิ                       ่         ่
แบบร่วมมือกันเรียนรู้
ตอบ จาแนกประเภทออกเป็น 2 กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์ของทฤษฎีการเรียนรู้ เป็นตัวจาแนก จะได้เป็น
กลุมพฤติกรรมȨยม
   ่
-ชุดการสอน
-คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
-บทเรียนโปรแกรม
กลุมคอȨตรัคติวสต์
   ่           ิ
-ชุดสร้างความรู้
-มัลติมีเดียที่พัฒนาตามแนวคอนสตรัคติวิสต์
-เว็บเพื่อการสอน
-สิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้บนเครือข่าย
- การเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้
กลุมพฤติกรรมȨยม
    ่
   ชุดการเรียนการสอน,คอมพิวเตอร์ช่วยสอน,บทเรียนโปรแกรม
สาเหตุที่จดอยู่ในกลุ่มนี้ เพราะว่า สิ่งเหล่านีถูกออกแบบเพือให้
           ั                                  ้           ่
ผู้เรียนสามารถจดจาความรู้ให้ได้ในปริมาณมากทีสุด การออกแบบ
                                                   ่
เป็นลักษณะเชิงเส้นที่เป็นลาดับขันตอน และยังให้ผลตอบกลับ
                                  ้
ทันทีเมื่อผู้เรียนกระทาพฤติกรรมนั้นเสร็จ
กลุมคอȨตรัคติวสต์
   ่               ิ
  มัลติมีเดียที่พัฒนาตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ การเรียนแบบ ร่วมมือกัน
เรียนรู้ ชุดสร้างความรู้ เว็บเพื่อการสอน สิ่งแวดล้อม ทางการเรียนรู้บน
เครือข่าย สาเหตุที่จดอยู่ในกลุ่มนี้ เพราะว่า สิ่ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่เน้นการ
                     ั
พัฒนากระบวนการคิดอย่างอิสระสร้างความรู้ ได้ด้วยตนเอง ตลอดจน
เรียนรูจากการปฏิบติของตนเองโดยใช้วิธีการ เรียนรูที่หลากหลาย
        ้              ั                               ้

More Related Content

ครูมือใหม่

  • 2. 1. กระบวนทัศน์ของการออกแบบการสอนเป็นอย่างไร และสิงใด ่ เป็นพืนฐานที่สาคัญในการเปลียนกระบวนทัศน์ดงกล่าว ้ ่ ั เป็นกระบวนการวางแผนการเรียนการสอนโดยการเปลี่ยนแปลงหลักของ การเรียนรู้ (Learning) การเรียนการสอน (Instruction) ลงสู่การ วางแผน (Planning) สาหรับการเรียนการสอนได้แก่ เนื้อหา วัสดุ สื่อ กิจกรรม แหล่งสารสนเทศ และการประเมิน โดยสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สาคัญในการ เปลี่ยนกระบวนการดังกล่าว ก็คอ นักเรียน หรือ ผู้เรียน ื
  • 3. 2.พืȨานทฤษฎีการ๶รียนรู้ที่สาคัญใȨารออกแบบการสอนมี ้ อะไรบ้างและมีสาระสาคัญอย่างไร และมีความแตกต่างกัน อย่างไร ทฤษฎีการเรียนรู้เป็นกลุ่มของหลักการทั้งหลายที่อธิบายวิธการ ี เรียนรู้ของ มนุษย์ ซึ่งรวมทั้งวิธีการได้มาซึ่งความสามารถ(Abilities) และความรู้ใหม่ (Knowledge) แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ การ เรียนรู้ตามแนวพฤติกรรมนิยม การเรียนรู้ตามแนวพุทธิปัญญานิยม และการเรียนรู้ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์
  • 4. การเรียนรูตามแนวพฤติกรรมนิยม กลุมพฤติกรรมȨยม (Behaviorism ้ ่ หรือ S-R Associationism) มุ่งที่ศกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิงเร้า ึ ่ (Stimulus) กับการ ตอบสนอง (Response) หรือพฤติกรรมทีแสดงออกมา ซึ่งจะ ่ ให้ความสนใจกับ พฤติกรรมที่สามารถวัดและสังเกต จากภายนอกได้และเน้น ความสาคัญของสิ่งแวดล้อม เพราะเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวทีกาหนด พฤติกรรม ่ ในกลุ่มพฤติกรรมนิยม ได้แบ่งพฤติกรรมมนุษย์ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ พฤติกรรมเรสปอนเดนส์ (Respondent Behavior) และ พฤติกรรม โอเปอร์แรนต์ (Operant Behavior) พฤติกรรมเรสปอนเดนส์ หมายถึง พฤติกรรมที่เกิดขึ้นโดยสิ่งเร้า เมื่อมีสิ่งเร้า พฤติกรรมตอบสนองก็จะเกิดขึน ซึงจะสามารถสังเกตได้ และทฤษฎีที่นามาใช้ ้ ในอธิบายกระบวนการเรียนรู้ประเภทนี้ เรียกว่า ทฤษฎีการวางเงือนไขแบบ ่ คลาสสิค นักจิตวิทยาทีศึกษาพฤติกรรมเรสปอนเดนส์ ได้แก่ PAVLOV และ ่ WATSON
  • 5. พฤติกรรมโอเปอร์แรนต์ เป็นพฤติกรรมทีบคคลหรือสัตว์แสดงพฤติกรรม ่ ุ ตอบสนองออกมาโดยปราศจากสิงเร้าที่แน่นอน และพฤติกรรมที่มผลต่อ ่ ี สิ่งแวดล้อม มีทฤษฎีการเรียนรูที่ใช้อธิบาย คือ ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบโอ ้ เปอร์แรนต์ และนักจิตวิทยาที่ศกษาพฤติกรรมโอเปอรแรนต์ ได้แก่ ึ Thorndike และ Skinner
  • 6. การเรียนรูตามแȨพุทธิปญญานิยม ้ ั การเรียนรู้ตามแนวพุทธิปัญญา หมายถึง การเปลี่ยนแปลงความรู้ ของผู้เรียนทั้งทางด้านปริมาณและด้านคุณภาพ คือ นอกจากผู้เรียน จะมีสิ่งที่เรียนรู้เพิมขึนแล้ว ยังสามารถจัดรวบรวมเรียบเรียงสิ่งที่ ่ ้ เรียนรู้เหล่านั้นให้เป็นระเบียบ เพื่อให้สามารถเรียกกลับมาใช้ได้ ตามทีต้องการ และสามารถถ่ายโยงความรูและทักษะเดิม หรือสิง ่ ้ ่ ที่เรียนรูมาแล้ว ไปสูบริบทและปัญหาใหม่ ส่งผลให้ผู้เรียนเกิด ความ ้ ่ จาระยะยาว
  • 7. การเรียนรูตามแȨทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ้ ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์อธิบายว่า การเรียนรู้เกิดขึ้นเมื่อผู้เรียน สร้าง ความรู้อย่างตืนตัวด้วยตนเองโดยพยายามสร้างความเข้าใจ ่ (Understanding) นอกเหนือเนื้อหาความรูที่ได้รบ โดยการสร้างสิง แทน ้ ั ่ ความรู้ (Representation) ขึ้นมา ซึ่งต้องอาศัยการเชื่อมโยงกับ ประสบการณ์เดิมของตนเอง โดยทฤษฎีที่เป็นพื้นฐานสาคัญของทฤษฎี กลุ่มคอนสตรัคติวิสต์ คือ ทฤษฎีพฒนาการทางสติปัญญาของ Piaget และ ั ทฤษฎีประวัติศาสตร์ สังคมของ Vygotsky
  • 8. ทฤษฎีพฒนาการทางสติปญญา มีพนฐานมาจากแนวคิดของ Piaget แนวคิด ั ั ื้ ของทฤษฎีนี้ เน้นผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ โดยเป็นผู้สร้างความรูโดยการลง ้ มือกระทา ทฤษฎีประวัตศาสตร์สงคม มีแนวคิดที่สาคัญทีว่า “ปฏิสมพัธทางสังคม มี ิ ั ่ ั บทบาทสาคัญในการ พัฒนาด้านพุทธิปญญา” กล่าวคือ ผู้เรียนสร้างความรู้ ั โดยผ่านทางการมี ั ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อน ได้แก่ เด็ก กับ ผูใหญ่ พ่อ ื่ ้ แม่ ครูและเพื่อน
  • 9. 3.ให้ว๶คราะห์และวิพากษ์จด๶ึϹȨละจุึϸ้อยྺองการออกแบบการสอȨีมพนฐาน ิ ุ ่ ี ื้ จากทฤษฎีการเรียนรูกลุมพฤติกรรมȨยม พุทธิปญญานิยมและคอนสตรัคติวสต์ ้ ่ ั ิ กลุ่มพฤติกรรมนิยม จุดเด่น -ใช้ในการแก้พฤติกรรมที่เป็นปัญหา -การสอนจะเป็นไปตามลาดับขั้นที่ โอกาสได้แสดงกระบวนการคิด กาหนดไว้ จาก ง่ายไปยาก โดยเป็นการ แบ่งเนือหาออกเป็นส่วนย่อยๆ เพือให้ ผูเรียนสามารถจด ้ ่ ้ จาได้ง่าย -การให้ผลตอบกลับทันทีทนใด เมือ ผู้เรียนกระทาพฤติกรรมนั้นเสร็จ จะ ได้รบผล ั ่ ั กลับพร้อมทั้งแรงเสริม ทันทีทนใดในขณะทีเรียนรู้ ั ่ จุดด้อย -ผู้เรียนเป็นผู้รอรับอย่างเดียว
  • 10. กลุมพุทธิปญญานิยม ่ ั จุดเด่น -ผู้เรียนสามารถถ่ายโยงความรู้ และทักษะเดิม หรือสิ่งที่ เรียนรู้ มาแล้ว ไปสู่บริบทและปัญหาใหม่ -สื่อที่ได้มุ่งเน้นการพัฒนา กระบวนการทางปัญญา มากกว่า การเน้นเฉพาะการพัฒนา พฤติกรรม ที่ ตอบสนองต่อสิ่งเร้า เพียงอย่างเดียว จุดด้อย -การรับข้อมูลในปริมาณที่มาก อาจทาให้ผู้เรียนไม่สามารถ จาได้
  • 11. กลุมคอȨตรัคติวสต์ ่ ิ จุดเด่น -ผู้เรียนสร้างความเข้าใจในสิ่งทีเรียนรู้ ด้วยตนเอง ่ -ผู้เรียนมีบทบาทสาคัญในการใช้สื่อ แก้ปัญหาก็อาจจะทาให้ ผู้เรียนเกิด และควบคุมการเรียนรู้ด้วยตนเอง -เป็นการเรียนทีมุ่งเน้นการแก้ปญหา ทักษะการคิดขันสูง และ ั ้ ความเข้าใจที่ ลึกซึ้ง จุดด้อย -หากผู้เรียนไม่ถนัดในเรื่องการแก้ปัญหาก็อาจจะทาให้ผู้เรียน เกิดอคติกบวิธการสอน ั ี
  • 12. 4. จากสิงทีกาหนดต่อไปนีให้ทานจาแนกประเภทตามลักษณะการออกแบบโดยระบุเกณฑ์และเหตุผลที ่ ่ ้ ่ ใช้ในการจาแนกด้วย ชุดการสอน ชุดสร้างความรู้ คอมพิวเตอร์ชวยสอน มัลติมเดียที่ พัฒนาตามแนว ่ ี คอนสตรัคติวสต์ บทเรียนโปรแกรม เว็บเพือการสอน สิงแวดล้อมทางการเรียนรูบนเครือข่าย การเรียน ิ ่ ่ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ตอบ จาแนกประเภทออกเป็น 2 กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์ของทฤษฎีการเรียนรู้ เป็นตัวจาแนก จะได้เป็น กลุมพฤติกรรมȨยม ่ -ชุดการสอน -คอมพิวเตอร์ช่วยสอน -บทเรียนโปรแกรม กลุมคอȨตรัคติวสต์ ่ ิ -ชุดสร้างความรู้ -มัลติมีเดียที่พัฒนาตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ -เว็บเพื่อการสอน -สิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้บนเครือข่าย - การเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้
  • 13. กลุมพฤติกรรมȨยม ่ ชุดการเรียนการสอน,คอมพิวเตอร์ช่วยสอน,บทเรียนโปรแกรม สาเหตุที่จดอยู่ในกลุ่มนี้ เพราะว่า สิ่งเหล่านีถูกออกแบบเพือให้ ั ้ ่ ผู้เรียนสามารถจดจาความรู้ให้ได้ในปริมาณมากทีสุด การออกแบบ ่ เป็นลักษณะเชิงเส้นที่เป็นลาดับขันตอน และยังให้ผลตอบกลับ ้ ทันทีเมื่อผู้เรียนกระทาพฤติกรรมนั้นเสร็จ
  • 14. กลุมคอȨตรัคติวสต์ ่ ิ มัลติมีเดียที่พัฒนาตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ การเรียนแบบ ร่วมมือกัน เรียนรู้ ชุดสร้างความรู้ เว็บเพื่อการสอน สิ่งแวดล้อม ทางการเรียนรู้บน เครือข่าย สาเหตุที่จดอยู่ในกลุ่มนี้ เพราะว่า สิ่ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่เน้นการ ั พัฒนากระบวนการคิดอย่างอิสระสร้างความรู้ ได้ด้วยตนเอง ตลอดจน เรียนรูจากการปฏิบติของตนเองโดยใช้วิธีการ เรียนรูที่หลากหลาย ้ ั ้