ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
งานคอมใบ 2 8
 เรื่อง ความหมายและความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์เทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคม ปัจจุบันเทคโนโลยี
ด้านนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอย
ติดตามความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของ
คอมพิวเตอร์ จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐานเป็นสาคัญ การศึกษา
ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์
ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลงโลกของเราในด้านต่างๆ มากมาย
ได้แก่
1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ
2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์
3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สาคัญแทนเครื่องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น เครื่องพิมพ์ดีด
เครื่องคิดเลข เป็นต้น
4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆ
5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบัน
การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมี
ความรู้ ความเข้าใจในวิทยาการคอมพิวเตอร์และมีความสามารถ
ในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์จะเป็น
สิ่งที่ทาให้ผู้เรียนสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์ จุดมุ่ง
หมายที่สาคัญประการหนึ่งของการเรียนการสอน คอมพิวเตอร์ ใน
โรงเรียน คือ การที่ผู้เรียนได้มีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้า
หาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่ง
คือการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่
ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริม
การเรียนการสอนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโครงงาน
คอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้
เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และ
ซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆในการแก้ปัญหา รวม
ทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เรียนสามารถศึกษา
ปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์มาผสมผสานกัน ซึ่งบางโครงงานอาจต้องใช้ความรู้
อื่นๆ มาร่วมด้วย โดยผู้เรียนจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา
พัฒนาโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานใน
การพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรื่องอาจต้องการวัสดุอุปกรณ์
นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่งผู้เรียนจะต้องพัฒนาขึ้นหรือดัดแปลงเพื่อ
ให้ใช้งานได้ตรงกับความต้องการ โดยในการพัฒนาโครงงาน
คอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คาปรึกษาของผู้สอน และ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ
การทำำโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงาน
คอมพิวเตอร์จะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้ผู้เรียนมีความรู้
ความชานาญ และมีทักษะในการนาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้
ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ
ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และยังมีคุณค่าอื่นๆ อีกดัง
ต่อไปนี้
• เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถ
ตามศักยภาพของตนเอง
• เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ใน
เรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้องตาม
ปกติ
•ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การ
ตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน
• กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ
มีความสนใจที่จะประกอบอาชีพทางด้านนี้
• ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
• สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้
ชุมชนสนใจคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
• สร้างสำำนึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
ขอขอบคุณ
http://kroosuveera.blogspot.com/2011
/09/blog-post_13.html-
เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
มี 5 ประเภท ให้นักเรียนค้นหา ขอบข่ายของโครงงานแต่ละ
ประเภท เป็นข้อๆ (ค้นจากห้องสมุด / อินเทอร์เน็ต) แล้วบันทึก
ลงกระดาษขนาด A4 ที่เตรียมมา พร้อมเขียน แหล่งที่มา หรือ
Address ของ website ที่นักเรียนค้นหาข้อมูลเหล่านั้นด้วย
โครงงานคอมพิวเตอร์ แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน
ดังนี้ - การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
- การพัฒนาเครื่องมือ
- การทดลองทฤษฎี
- การประยุกต์ใช้งาน
- การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ขอบข่ายของโครงงาน การดาเนินงานโดย
มีนกเรียนเป็นผู้ริเริมสร้างสรรค์ และครู ำั ำ่
อาจารย์เป็นผู้ให้คาแนะนาปรึกษา สรุปได้
ดังนี้คือ
1. เป็นกิจกรรมการศึกษาที่ให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเอง โดยอาศัย
หลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์ และ
กิจกรรมต่างๆ ที่ได้พบเห็นมาแล้ว
2. นักเรียนทุกคนเป็นผู้พิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือกลุ่ม จานวน 2-8
คนต่อกลุ่ม โดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากกว่าก็ได้
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า
ปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจและความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงานแผนปฏิบัติงาน และ
แปรผลรายงานต่อครูอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตาจุดหมาย
ที่กาหนด
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติ
ปัญญารวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วยโครงงานประเภทต่างๆ
การแบ่งประเภทของโครงงานมีหลายวิธี เช่น แบ่งตามหมวดวิชาการงานและ
อาชีพในโรงเรียน เช่น โครงงานเกษตรกรรม โครงงานคหกรรม โครงงาน
อุตสาหกรรม โครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นต้น และจากขอบข่ายโครงงานดัง
กล่าว จะเห็นได้ว่านักเรียนเป็นผู้ดาเนินงานโดยได้รับคาแนะนาจากอาจารย์ที่
ปรึกษาโครงงาน และนักเรียนลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ทั้งด้านการเสนอโครง
งาน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ตลอดจนทาแผนปฏิบัติการ และรายงานผลตามจุด
มุ่งหมายที่กาหนดไว้ ทาให้สามารถแยกประเภทของโครงงานได้ 4 ประเภท
ดังนี้คือ
1. ประเภทพัฒนาผลงาน
2. ประเภทศึกษา ค้นคว้า ทดลอง
3. ประเภทสิ่งประดิษฐ์
4. ประเภทสารวจข้อมูล
โครงงานประเภทพัฒนาผลงาน โครงงานลักษณะนี้เกิดจากการศึกษาเนื้อหา
ทางวิชาการและอาชีพหรือวิชาสามัญต่างๆ แล้วนำามาบูรณาการ ปรับปรุง
พัฒนาให้สอดคล้องกับแนวทางทฤษฎีหรือหลักวิชาการดังกล่าว ส่งผลให้ผล
งานเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ดังตัวอย่างดังนี้
 1. การเลี้ยงปลา นักเรียนอาจเลือกโครงงานการเลี้ยงปลาสวยงาม เช่น ปลา
คาร์ฟ ปลาทอง ปลากัด ปลากราย ฯลฯ
 2. พืชผัก นักเรียนอาจเลือกทำาโครงงานปลูกผักกางมุ้ง เช่น ผักคะน้า ผักกาด
เขียว กวางตุ้ง ผักกาดขาว ผักบุ้งจีน ฯลฯ
 3. การถนอมอาหาร อาจเลือกทำาโครงงานการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร
เช่น การทำาผักกาดดอง การทำากุนเชียง การทำาปลาส้ม ฯลฯ
โครงงานประเภทศึกษา ค้นคว้า ทดลอง โครงงานนี้เป็นโครงงานที่เกิดขึ้นจากการนำา
หลักการทฤษฎีในวิชาการมาทดลอง เพื่อยืนยันทฤษฎีหรือหลักการที่ได้ศึกษามาแล้ว
หรือต้องการทราบแนวทางเพิ่มคุณค่าและการใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น เช่น โครงงาน
 - การศึกษาหลักสูตรอาหารไก่ตอน
 - การทดลองปลูกผักในนำ้ายา (โดยไม่ใช้ดิน)
 - การใช้ฮอร์โมนกับกิ่งกุหลาบ
 - การใช้ฮอร์โมนแปลงเพศปลานิล
โครงงานประเภทสร้างสิ่งประดิษฐ์ โครงงานประเภทนี้โครงงานนี้ เกิดจาก
การศึกษาทฤษฎีหรือพบเห็นผลงานของผู้อื่นมาแล้ว เกิดความคิดสร้างสรรค์
ที่จะพัฒนาต่อไป จึงประดิษฐ์คิดค้นให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ดียิ่งขึ้น เช่น
โครงงาน
 - การประดิษฐ์หัวฉีดพ่นนำ้าในแปลงปลูกผัก
 - การประดิษฐ์เครื่องให้นำ้าพืชโดยกำาหนดเวลา
 - การประดิษฐ์เครื่องตีนำ้าเพื่อเพิ่มออกซิเจนในบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำา
 - การประดิษฐ์เครื่องเก็บผลไม้ เช่น ชมพู่ มะม่วง ฯลฯ
โครงงานประเภทสารวจข้อมูล โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่ได้
ศึกษาและสำารวจ เพื่อนำาข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนา ปรับปรุงหรือ
ส่งเสริมให้ผลผลิตหรือผลงานมีคุณภาพหรือมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น หรือเพื่อให้
ทันเหตุการณ์ยิ่งขึ้น เช่น โครงงาน
 - การสำารวจราคาพืชผักในตลาดท้องถิ่น
 - การสำารวจแหล่งปลูกผักกางมุ้งในท้องถิ่น
 - การสำารวจความต้องการพืชผักของผู้บริโภคในท้องถิ่น
 - การสำารวจการเลี้ยงปลาสวยงามในจังหวัดฉะเชิงเทรา
ที่มา :
http://www.google.co.th/url?
sa=t&rct=j&q=&esrc=/prangmairu/2-8-26615249/s&source=web&cd=1&sqi=2&ved
=0CFEQFjAA&url=http%3A%2F
%2Fwww.sahavicha.com%2FUserFiles%2FFile
%2Fknowledge_11.doc&ei=TJUDUIT0A8vyrQfnn9mXB
g&usg=AFQjCNE-
CsSRmS_vreU5fYGfHqdPeh__1A&sig2=MMRUo94YH
RDEbxYCHxNzUA
 เรื่อง โครงงานประเภท “ การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ”
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้
คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่ง
อาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำาถามคำาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบราย
บุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน
ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน
ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่
เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปร
เจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล  ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชำากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย  และสถานที่
สำาคัญของประเทศไทย เป็นต้น
เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วน
ใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วย
การมอง วัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น ส้าหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็น
โปรแกรมประมวลค้า ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์
ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออ้านวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่อง
คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย ส้าหรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้ส้าหรับ
ช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้ วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและ
ด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์ค้านวณค่า และภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและ
แก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
http://www.google.co.th/imgres?
um=1&hl=th&sa=N&biw=1366&bih=667&tbm=isch&tbnid=OpH1IlAwdyHpoM:&imgref
url=http://lddl.info/221/%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%259B
%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25
A3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25AA
%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25
87%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2
594%25E0%25B8%25A5%25203%2520%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B4
%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4%2520Google
%2520SketchUp.html&docid=mSLbxh7HfqYjhM&imgurl=http://lddl.info/back/picture/1
323778240.jpg&w=260&h=194&ei=EXJRUJvLCY_PrQfbm4DICQ&zoom=1&iact=hc&
vpx=658&vpy=300&dur=643&hovh=151&hovw=201&tx=62&ty=58&sig=1036415322
76294746777&page=1&tbnh=150&tbnw=200&start=0&ndsp=16&ved=1t:429,r:13,s:0
,i:11
เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี ”
“โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี”เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขา
ต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครง
งานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่
ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการหรือคา
อธิบาย พร้อมทั้งการจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตร
หรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้
ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆเป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหล
ของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสาม
มิติ เป็นต้น
http://www.thaigoodview.com/node/1703
0?page=0,1
เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ ใช้ งาน ”
• โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจำาวันอาทิ
เช่น ซอฟต์แวร์สำาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สำาหรับการผสมสี
และซอฟต์แวร์สำาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น  โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและ
วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนำาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่ง
ของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทำางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้ว
ปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรแกรมระบบงานการกีฬา
โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
• http://www2.nectec.or.th/nsc
http://school.obec.go.th/nitadhatayai/project1.htm 
http://www.lks.ac.th/kuanjit/menustruture.htm
http://www.radompon.com/computerproject/wordpres
s/?page_id=2
http://www.rayongwit.ac.th/chanarat
งานคอมใบ 2 8
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้
คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจำาวัน อาทิเช่นคอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจำาวัน อาทิเช่น
ซอฟต์แวร์สำาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สำาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สำาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สำาหรับการผสมสี และ
ซอฟต์แวร์สำาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์สำาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและ
วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนำาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนำาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่ง
ของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทำางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทำางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้ว
ปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

More Related Content

งานคอมใบ 2 8