ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
บทที่ 2

                                      เอกสารที่เกี่ยวข้อง

        ในการจัดทําโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress
เรื่องเทคโนโลยี 3G นี้ ผู้จัดทําโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ดังต่อไปนี้

        2.1 ความสําคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต
        2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media
        2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)


(ข้อมูลตั้งแต่ส่วนนี้ให้นักเรียนไปสืบค้น ค้นหาในอินเทอร์เน็ต และสรุป
สาระสําคัญลงไปตามหัวข้อที่ครูทําตัวอย่างไว้ให้ค่ะ อย่าลืม copy ชื่อเว็บไซต์ที่นํา
ข้อมูลมาอ้างอิงไว้ในหน้าบรรณานุกรมด้วยค่ะ เด๋วจะลืมว่าเอามาจากเว็บไซต์
ไหน)

2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต


ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

       1. การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยในด้านการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูล                ทําให้
การศึกษาง่ายขึ้นและไร้ขีดจํากัด ผู้เรียนมีความสะดวกในการค้นคว้าวิจัย

          2. การดํารงชีวิตประจําวัน ทําให้มีความสะดวกคล่องตัวและรวดเร็วในการทํากิจกรรม
ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวัน สามารถทํางานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้หรือทํางานใช้
เวลาน้อยลง
3. การดําเนินธุรกิจ ทําให้มีการแข่งขันระหว่างธุรกิจมากขึ้น ทําให้ต้องมีการพัฒนา
องค์กรเพื่อให้ทันกับข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา
อันส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง

         4. อัตราการขยายตัวทุก ๆ ด้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมีการติดต่อสื่อสารที่
เจริญก้าวหน้าทันสมัย รวดเร็วถูกต้องและ ทําให้
เป็นโลกที่ไร้พรหรมแดน

        5. ระบบการทํางานมีคอมพิวเตอร์มาใช้ซื่อสามารถทํางานได้มากขึ้น งานบางอย่างมนุษย์
ทําไม่ได ้ก็ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทํางานแทนซึ่งได้ผลถูกต้องรวดเร็ว

ความสาคัญของอินเทอร์เน็ต

          ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีบทบาทและมีความสําคัญต่อชีวิตประจําวันของคนเราเป็นอย่าง
มาก เพราะทําให้วิถีชีวิตเราทันสมัยและทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตจะมีการเสนอ
ข้อมูลข่าวปัจจุบัน และสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ผู้ใช้ทราบเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สารสนเทศที่เสนอ
ในอินเทอร์เน็ตจะมีมากมายหลายรูปแบบเพื่อสนองความสนใจและความต้องการของผู้ใช้ทุก
กลุ่ม อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งสารสนเทศสําคัญสําหรับทุกคนเพราะสามารถค้นหาสิ่งที่ตนสนใจ
ได้ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปค้นคว้าในห้องสมุด หรือแม้แต่การรับรู้ข่าวสารทั่วโลกก็
สามารถอ่านได้ในอินเทอร์เน็ตจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ของหนังสือพิมพ์
      ดังนั้นอินเทอร์เน็ตจึงมีความสําคัญกับวิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็นอย่างมากในทุก ๆ
ด้าน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่ในวงการธุรกิจ การศึกษา ต่างก็ได้รับประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต
ด้วยกันทั้งนั้น

        1. ด้านการศึกษา อินเทอร์เน็ตมีความสําคัญ ดังนี้
              1. สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้าน
การบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
              2. ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทําหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
              3. นักเรียนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนอื่น ๆ
เพื่อค้นหาข้อมูลที่กําลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความเสียง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ
2. ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ อินเทอร์เน็ตมีความสําคัญดังนี้
             1. ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
             2. สามารถซื้อขายสินค้า ทําธุรกรรมผ่านระบบเครือข่าย
             3. เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสินค้า ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ
             4. ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้า
ของตนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คําแนะนํา สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่
ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware)

      3. ด้านการบันเทิง อินเทอร์เน็ตมีความสําคัญดังนี้
             1. การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบ
เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมี
ภาพประกอบที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสือทั่ว ๆ ไป
             2. สามารถฟังวิทยุหรือดูรายการโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
             3. สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์มาดูได้



2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media
         2.2.1 ความหมายของ Social Media
                     SMO คือ แนวทางเกี่ยวกับ social media ที่ตั้งใจจะดึงดูดความสนใจผู้ที่มาชม
เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการไป Bookmark เอาไว้, Share Link หรือว่าส่งลิงค์ให้กับเพื่อนๆ, การเพิ่ม
RSS Feeds การเข้าไปคอมเม้นต์ในบล็อกของคนอื่นๆ หรือว่า เขียนบทความในบล็อกต่างๆ ของ
ตัวเอง (ทั้งสิ่งที่เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย) เพื่อที่จะนําไปต่อยอดทางความคิด จากบทความของเรา
โดยที่คนเขียนบทความต่างๆ ในกลุ่มพวกนี้ ก็มักจะมีพวกแฟนพันธุ์แท้ หรือที่เรียกว่า Followers ที่
มักจะเข้ามาตามอ่านบทความในสิ่งที่คนเหล่านี้เขียนถึงอยู่เสมอๆ ทําให้เว็บไซต์ของเรา สร้างลิงค์
เชื่อมกับ Social network ได้ง่ายขึ้น, ถูกค้นเจอง่ายขึ้นใน Search engine ที่เจาะจงใช้เพื่อค้นหา
Social media (เช่น Technorati) และเพื่อให้บล็อกเกอร์อื่นๆ อ้างถึงบ่อยขึ้นในบล็อก, พอดคาสท์
หรือ วิดีโอบล็อก (vlogs) ของเขา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า บทความหรือว่าเรื่องที่จะเขียนถึง นั้น
ถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สาคัญมากที่สุดในเรื่องของ SMO
SMO คือ 1 ใน 2 วิธีการออนไลน์ของการปรับแต่งเว็ปไซต์ อีกวิธีหนึ่งก็คือ SEO
วิธีการของ SMO มี 2 ประเภท
        1.ทักษะsocial mediaได้ถูกเพิ่มเข้าไปในตัวเว็บของมันเอง เช่น RSS feeds , ข่าวสังคม ,ปุ่ม
แชร์ และมีการให้ผู้ใช้โหวตและสํารวจความคิดเห็นต่างๆ รวมถึงพวกรูปภาพและวีดีโอภายในเว็บ
เรา (เครื่องมือภายในเว็บที่เป็น Tools ที่ให้คนอื่นนําไปใช้งานหรือบริการข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเว็บ
ของเรา)




        2. กิจกรรมใน social media ที่เป็นเนื้อหาให้คนอื่นมีส่วนร่วมในการโปรโมท รวมถึงพวก
บล็อก ข้อคิดเห็นในบล็อกต่าง ๆ การเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น และการโพสอัพเดตสถานะใน
social media (เป็นเครื่องมือที่ให้คนอื่นช่วยโปรโมทให้เราไม่ต้องทําเอง)




2.2.2 ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของ Social Media




                                   พูดถึงกันมากเหลือเกินสาหรับ สื่อสังคมออนไลน์ (Social
Media) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวกลาง เป็นเครื่องมือ สาหรับการสื่อสารระหว่างกัน โดยปัจจุบันได้ขยาย
ผลกว้างครอบคลุมไปถึง การทางานร่วมกัน ทั้งภายใน และ ภายนอกองค์กร โดยอาศัยเว็บ และ โม
บายเทคโนโลยี เป็นตัวช่วย ถ้าจะเปรียบเทียบก็น่าจะเป็นคู่แฝดแห่งยุคดิจิตอล อย่างเมื่อกว่า 200 ปี
ก่อน มีแฝดอินจัน ที่ไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ จนมีการตั้งชื่อแฝดลักษณะที่มีลาตัวติดกัน
เช่นนี้ว่า แฝดสยาม

ถ้าว่าไปแล้ว แฝดสยามในยุคดิจิตอล ก็คงหนีไม่พ้น สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) กับ สมาร์ท
โฟน (Smartphone) ที่มักจะไปเป็นคู่ยากที่จะแยกออกจากกันได้ เมื่อศึกษาถึงคาจากัดความของ
สังคมออนไลน์ (Social Media) จะพบว่าคือกลุ่มของแอพพลิเคชั่น บนอินเทอร์เน็ต ที่สร้างขึ้นมา
บนพื้นฐานแนวคิด และเทคโนโลยี Web 2.0 ซึ่งรองรับให้มีการสร้าง และ แลกเปลี่ยน คอนเทนต์ที่
ผู้ใช้เป็นผู้สร้างเอง (User-generated content) เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว สามารถเรียกได้ว่า สื่อ
สังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นการผสมผสานกันระหว่าง เทคโนโลยี กับ การสื่อสารระหว่าง
กันในสังคม เพื่อสร้างเสริมมูลค่าให้เพิ่มขึ้น
          เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะยุคดิจิตอลอย่างทุกวันนี้ การแสดงความคิดเห็นดูจะเป็น
เรื่องง่าย บนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทําให้พนักงานรายหนึ่งในอเมริกา ถูกไล่ออก
หลังจากที่เธอได้วิจารณ์เจ้านายของเธอบน เฟชบุ๊ก (Facebook) เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา พนักงาน
หญิงรายนี้ได้เขียนข้อคิดเห็นของเธอ บนหน้าเฟชบุ๊ก ด้วยคําพูดที่หยาบคาย คดีนี้ถูกจับตามองทั่ว
จากทุกวงการ ด้วยความกังขาว่า นายจ้างมีสิทธิที่จะลงโทษพนักงานที่เขียนข้อคิดเห็นบน สังคม
ออนไลน์ หรือไม่ เท่าที่ทราบในเมืองไทยเรายังไม่เคยได้ยิน เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น
        เกมในเฟซบุ๊ก น่าจะเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ได้อย่างดี ด้วยกลยุทธ์ว่าใครมีเพื่อนเยอะก็
จะได้อะไรเพิ่มขึ้นในเกม นอกจากนั้น ยังมีการหลอกล่อให้ต้องมีเพื่อนมาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งใน
เกม ปลูกผักเลี้ยงปลากันใหญ่ วันก่อนมีโอกาสไปบรรยายเรื่องสังคมออนไลน์ให้กับกรมส่งเสริม
การเกษตร ก็เล่าไปว่าบ้านเราน่าจะทําเกมลักษณะนี้ในรูปแบบไทยๆ บ้านเรามีเกษตรกร กว่าครึ่ง
ค่อนประเทศ นี่ยังไม่นับรวมท่านที่ชอบทําการเกษตรบนโลกออนไลน์
          ในทางกลับกัน บางประเทศกลับห้ามใช้งานเว็บนี้ บางบริษัทก็ห้ามใช้เนื่องจากเสียเวลา
การทํางานของพนักงาน เฟซบุ๊คได้รับการจัดอันดับเป็นเว็บสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในปี
ค.ศ. 2009 จํานวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และที่น่าสนใจก็คือจํานวนผู้เล่นอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ
เข้าใช้งานมากกว่ากูเกิลเป็นครั้งแรกช่วงต้นปี 2010 อีกด้วย
            ล่าสุดมีข่าวการใช้เฟซบุ๊ก เพื่อช่วยเหลือชีวิต ปกติเรามักจะได้ยินการใช้สังคมออนไลน์
เป็นสื่อ เป็นเครื่องมือทางการตลาด แต่ล่าสุดมีข่าวจากสํานักข่าวต่างประเทศได้รายงานเกี่ยวกับการ
ประกาศรับบริจาคไตในเฟซบุ๊ก เรื่องเกิดที่สหรัฐฯ มีผู้ป่วยที่ต้องการปลูกถ่ายไต ต้องเปลี่ยนไตใหม่
ภายในเวลาจํากัด เมื่อปรึกษากับแพทย์ที่ดูแลอยู่ จึงได้ตัดสินใจลองประกาศลงในเฟซบุ๊ก แล้วก็มีผู้ที่
ประสงค์จะบริจาคไตให้ โดยไม่ได้มีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษแต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อนในเฟ
ซบุ๊ก ผู้รับบริจาคเมื่อได้รับข้อความแสดงความจํานงจะบริจาคไตให้ ในตอนแรกยังคิดว่าเป็นเรื่อง
ล้อเล่นกัน แต่เมื่อต้นเดือนเมษายน 2010 แพทย์ก็ได้เปลี่ยนไตที่บริจาคให้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
         การศึกษาล่าสุดพบว่าหญิงสาววัยรุ่น ที่นั่งจ้องเฟชบุ๊คทั้งวัน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการ
ผิดปกติในเรื่องการทานอาหาร จากการศึกษาพบว่าสองสาเหตุหลักที่ทําให้เกิด อาการการทาน
อาหารผิดปกติ คือ การใช้เวลามากเกินไปกับ พฤติกรรมการบริโภคสื่อ และ การเป็ นตัวของตัวเอง
มากเกินไป ผลจากการสํารวจเด็กวัยรุ่นช่วงอายุ 12 ถึง 19 ปี พบว่าพฤติกรรมการบริโภคสื่อ
อินเทอร์เน็ต และ โทรทัศน์ มีผลกระทบต่อพฤติกรรมของแต่ละคนโดยตรง
          จากผลการสํารวจพบว่า ยิ่งใช้เวลากับเฟชบุ๊ก มากเท่าไหร่ ก็จะมีโอกาสจะพบอาการ
อยากอาหารมากผิดปกติ ภาวะเบื่ออาหาร ไม่พึงพอใจในสรีระของตัวเอง และ ความต้องการอยาก
ลดน้ําหนัก มากขึ้น
           เมื่อมีจํานวนผู้ใช้ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) มากขึ้นเท่าใร ย่อมเป็นโอกาสในการ
ทําธุรกิจ จึงเกิดคําว่า Social Commerce ขึ้น และได้รับความสนใจมากในช่วงนี้ หรือถ้าลองค้นหา
คําว่า “e-mail vs. Social Media” ในกูเกิล จะพบผลลัพธ์มากเป็นหลายหมื่น จึงเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่า
เป็นหัวข้อร้อน จนบางที คนนิยามว่าเป็นการทําสงครามบนโลกดิจิตอล บ้างก็กล่าวว่าคงเป็นจุดจบ
ของ อีเมล์ และคลื่นลูกใหม่ทมาก็คือ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
                                ี่
            อีกแง่มุมหนึ่งที่ดูเข้าท่าก็คือ ทั้งอีเมล์ และ สื่อสังคมออนไลน์ จะเป็นตัวเสริมกันและกัน
เพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ เราควรที่จะโฟกัสสองเรื่องใหญ่ๆ คือ กลุ่มเป้าหมาย และ เจตนา มาเริ่ม
ด้วยกลุ่มเป้าหมาย
* ถ้ากลุ่มเป้าหมายอายุต่ํากว่า 20 ปี น่าจะค่อนข้างชัดเจนว่า การใช้สื่อสังคมออนไลน์ จะเป็น
ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
*ถ้ากลุ่มธุรกิจเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา การใช้อีเมล์ ถูกมองว่าเราจะได้ผลเร็วกว่า ในทางกลับกัน
ถ้าลูกค้าทั่วไปเป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ การใช้ สื่อสังคมออนไลน์ น่าจะได้ผลที่ดีกว่า เนื่องจาก
ลูกค้าจะเชื่อ และฟัง ความเห็นของคนอื่นๆ ที่ให้ไว้บนสื่อสังคมออนไลน์
*สําหรับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ที่ทํางาน อีเมล์เป็นคําตอบของเรา แต่ถ้าต้องการมุ่งไปที่อยู่ที่บ้าน สื่อ
สังคมออนไลน์ น่าจะให้ผลตอบรับที่ดีกว่า
          จะเห็นได้ว่าการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายทั้งทาง ประชากรศาสตร์ (Demographic) และเชิง
จิตวิทยา เป็นสิ่งที่สําคัญทั้งคู่ ในการเลือกว่า อีเมล์ หรือ สื่อสังคมออนไลน์ จะเหมาะสมกับธุรกิจ
อย่างไรก็ตามในหลายกรณี เราควรใช้ทั้งสองช่องทาง ในการติดต่อสื่อสาร
2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social Media
                  ocial Network
         myFri3nd มีรูปแบบคล้ายเว็บ Social Network ทั่วไป เป็นเว็บไซต์ในเครือ sanook.com
         D-Looks เว็บไซต์ Social Network แนว ๆ hi5 แต่มีสโลแกนว่า เว็บไซต์ดูดี สําหรับคนดี ๆ
         BangkokSpace เป็น Social Network สําหรับคนชอบเที่ยวกลางคืน
Blogging
         exteen เว็บผู้ให้บริการ blog อันดับหนึ่งของไทย สูสีเบียดกับ bloggang อยู่ตลอด แต่หลัง ๆ
     ดูเหมือนยอดสมาชิกจะแซงแล้ว ตัวระบบ exteen เองพัฒนาได้ดี
         BlogGang ผู้ให้บริการพื้นที่ blog ในเครือ pantip.com ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ จะเป็นแฟน
     คลับ หรือขาประจําของ pantip.com อยู่แล้ว
Micro Blogging
         NokNok เว็บแบบเดียวกับ twitter แต่พัฒนาโดยคนไทย (ในเครือ sanook.com เช่นกัน) แต่
     ดูมีแนวโน้มการพัฒนาที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมให้อัพเดทกับ twitter ได้ หรือการอัพเดท
     noknok ผ่านมือถือเป็นต้น
Social Bookmarking
         Zickr เว็บ social bookmark อันดับหนึ่งของไทย คนใช้กันเพียบ เป็นที่รวมข้อมูลบทความ
     ทันสมัย ที่มีคนมาช่วยกันใส่เรื่องใหม่ ทุกวัน
         Duocore เว็บที่รายงานข่าวเกี่ยวกับวงการไอทีไทย ในรูปแบบวีดีโอ โดยใช้ระบบ Social
     Bookmark มาให้ผู้ชม ช่วยกันส่งเรื่องราวไอทีที่น่าสนใจเข้ามา ในแต่ละสัปดาห์จะมีการเลือก
     เรื่องราวที่น่าสนใจ ไปทํารายการเป็นรูปแบบวีดีโอ
         Siam Collective เว็บ Social Bookmark อีกแห่งหนึ่งของไทย
         iam in Thai Social Bookmark ของไทยที่เก็บรวบรวมงานอีเว้นต์ และเทศกาลสําคัญ
         Techkr เว็บ Social Bookmark ที่เก็บแต่เรื่องราวเทคโนโลยี
Social Mailbox
         Fwdder.com เว็บที่ให้คุณสามารถ forward email ต่าง ๆ ที่ได้รับมาจากคนอื่น แล้วนํามา
     ขึ้นแสดงในเว็บไซต์ได้ทันที เรียกได้ว่าเป็นเว็บไซต์ที่รวมพวก forward email ไว้ให้อ่านกัน
     นั่นเอง
เราจะอัพเดทหน้านี้ไปเรื่อย ๆ นะครับ สําหรับเจ้าของเว็บ Social Network ของไทย ที่ต้องการ
แนะนําเว็บของตัวเองเข้ามา หรือแม้กระทั่งผู้อ่าน ที่ไปพบว่ามีเว็บ Social Network ของไทยเว็บ
ไหน ที่ยังไม่มีรายชื่ออยู่ในหน้านี้ ก็สามารถแนะนํากันเข้ามาได้ ผ่านทาง comment ในหน้านี้เลย
ครับ ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณา นําเว็บขึ้นอยู่ในรายชื่อ โดยเลือกเว็บที่เหมาะสม และ
เป็นเว็บที่พัฒนาโดยคนไทยครับ

ที่มา http://keng.com/2009/01/07/thailand-social-media-list


2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
          2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog)
                    Web Blog คือ Blog มาจากศัพท์คําว่า WeBlog บางคนอ่านคํา ๆ นี้ว่า We Blog
บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคําบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก
(Blog)
ความหมายของคําว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์
โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความ
เฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทํา
ให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความ
นั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บาง
บล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง
มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว
ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่
หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียน
บล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภท วิจารณ์การเมือง หรือการรีวิว
ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมานั่นเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้อหาใน
ประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเอง
ถนัด หรือสนใจเป็นต้น
จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็น
กันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทาง
ระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง
ในอดีตแรกเริ่ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทํากันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ใน
ปัจจุบันนี้ มีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blog ได้มากมาย
เช่น WordPress, Movable Type เป็นต้น
ผู้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน อาจารย์
นักเขียน ตลอดจนถึงระดับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น NasDaq
เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา Blog เริ่มต้นมาจาก การเขียนเป็นงานอดิเรก ของกลุ่มสื่ออิสระต่าง ๆ หลาย
ๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสําคัญ ให้กับหนังสือพิมพ์หรือสํานักข่าวชั้นนํา จวบจนกระทั่งปี 2004
คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสํานักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ข้อมูล
ตั้งแต่เรื่องการเมือง ไปจนกระทั่ง เรื่องราวของการประชุม ระดับชาติ
และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้ว่า Blog เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่งพิมพ์ , โทรทัศน์
หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่า Blog ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ ที่สําคัญอย่างแท้จริง
สรุปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มี
ส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
ใช้อย่างไร
1.หาเว็บที่ให้สามารถให้เช่า blog ได้
2.สมักรเป็นสมาชิกของเว็บนั้น
3.เมื่อเราเป็นสมาชิกแล้วก็สามารตกแต่ง blog ของเราได้


2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก

                  ประเภทของ Blog
บล็อกที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ใช่มีเพียงแค่บล็อกที่เป็นตัวหนังสือและรูปภาพเท่านั้น หรือ มีแค่
ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้
1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ
เป็นบล็อกที่รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจําผู้ให้กําเนิดคําว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น
บาจเจอร์ได้ นั่นแหล่ะครับ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นั่นเอง แม้ว่าจะ
บล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียงเหมือนว็บไดเร็กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะ
โพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็นของตนเองแต่ยังนึกไม่
ออกว่าจะทําบล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็นการเริ่มต้นการทําบล็อกได้เป็นอย่างดี1.2 Photoblog
ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกอยากนําเสนอ
และมักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรียกได้ว่าภาพโดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลย
ครับ1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียก
ได้ว่าเป็นบล็อกที่นิยมทํากันมากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต หรือ
อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทําให้การถ่ายทอดเสียง ภาพเคลื่อนไหว movie […]
2. แบ่งตามประเภทเนื้อหา ได้แก่2.1 บล็อกส่วนตัว(Personal Blog) นําแสนอความคิดเห็น กิจวัตร
ประจําวันของเจ้าของบล็อกเป็นหลัก2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นําเสนอข่าวเป็นหลัก2.3
บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่เขียนกันเป็นกลุ่ม เช่น blognone.com2.4 บล็อก
การเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่องการเมืองล้วน ๆ2.5 บล็อกเพื่อสิ่งแวดล้อม(Environment Blog)
พูดถึงเรื่องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็นบล็อกที่
วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุทธิชย หยุ่น2.7
                                                                                       ั
บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นําเสนอเรื่องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่อง
ซุบซุดารา กองถ่าย ฯลฯ2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย
ในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อในการสอนหรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน2.9 ติวเตอร์บล็อก
(Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่นําเสนอวิธีการต่าง
http://witwang.blogspot.com/2007_07_01_archive.html




2.3.3 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก
        www.blogger.com
        www.exteen.com
        www.mapandy.com
        www.buddythai.com
        www.imigg.com
        www.5iam.com
        www.blogprathai.com
        www.ndesignsblog.com
        www.idatablog.com
        www.inewblog.com
        www.onblogme.com
        www.freeseoblogs.com
        www.sumhua.com
        www.diaryi.net
        www.istoreblog.com
        www.skypream.com
www.thailandspace.com
       www.sungson.com
       www.gujaba.com
       www.sabuyblog.com
       www.ugetblog.com
       www.jaideespace.com
       www.maxsiteth.com
       www.my2blog.com




       2.3.4ประวัติของเว็บไซต์Wordpress


      WordPress คือ โปรแกรมสําเร็จรูปตัวหนึ่ง ที่เอาไว้สําหรับสร้าง บล็อก หรือ เว็บไซต์
สามารถใช้งานได้ฟรี ถูกจัดอยู่ในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง
โปรแกรมสําเร็จรูปที่มีไว้สําหรับสร้างและบริหารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บไซต์

WordPress ได้รับการพัฒนาและเขียนชุดคําสั่งมาจากภาษา PHP (เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่ง)
ทํางานบนฐานข้อมูล MySQL ซึ่งเป็นโปรแกรมสําหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บ เรียกดู แก้ไข
เพิ่มและลบข้อมูล การใช้งานWordPress ร่วมกับ MySQL อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานแบบ
GNU General Public License

WordPress ปรากฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546 (2003) เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Matt
Mullenweg และ Mike Littlej มีเว็บไซต์หลักอยู่ที่ http://wordpress.org และยังมีบริการ Free
Hosting (พื้นที่สําหรับเก็บทุกอย่างของเว็บ/บล็อก) โดยขอใช้บริการได้ที่ http://wordpress.com

ปัจจุบันนี้ WordPress ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านเว็บ
บล็อกไปแล้ว แซงหน้า CMS ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Drupal , Mambo และ Joomla สาเหตุเป็นเพราะ
ใช้งานง่าย ไม่จําเป็นต้องมีความรู้ในเรื่อง Programing มีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งยังมีผู้พัฒนา
Theme (รูปแบบการแสดงผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริม) ให้เลือกใช้ฟรีอย่างมากมาย

นอกจากนี้ สําหรับนักพัฒนา WordPress ยังมี Codex เอาไว้ให้เราได้เป็นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษา
องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายใน สําหรับพัฒนาต่อยอด หรือ นําไปสร้าง Theme และ Plugins
ขึ้นมาเองได้อีกด้วย หนําซ้ํา ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MUสําหรับไว้ให้ผู้นําไปใช้ สามารถเปิด
ให้บริการพื้นที่ทําเว็บบล็อกเป็นของตนเอง เพื่อให้ผู้อื่นมาสมัครขอร่วมใช้บริการในการสร้างเว็บ
บล็อก ภายใต้ชื่อโดเมนของเขา หรือที่เรียกว่า Sub-Domain

จากที่ได้เกริ่นนําไปในบทความนี้ คงจะทําให้รู้จัก และได้ทราบประวัติความเป็นมา รวมถึง
ความหมายกันไปบ้างแล้วว่า WordPress คือ อะไร ในบทความหน้า เราจะได้เริ่มเรียนรู้ถึงรูปแบบ
และวิธีการใช้งาน ไปจนถึงการเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ต่อไป


ความเป็นมาของ wordpress


           wordpress หลายคนรู้จักกันดีและบางคนก็อาจจะกําลังใช้งานอยู่ก็ได้แต่จะมีสักกี่คนที่รู้
ว่า wordpress มีประวัติความเป็นมายังไงเดี๋ยวจะได้รู้กันครับ
ความเป็นมาของ wordpres เริ่มจาก B2 หรือ cafelog คือผู้ที่ให้กําเนิดการทํางานของเว็บบล๊อกที่ชื่อ
ว่า wordpress ได้การผลิตบล็อกชนิดนี้ขึ้นครั้งแรกประมาณปี 2003 ตอนนั้นมีบล็อก wordpress
อยู่ประมาณ 2000 บล็อก บล็อกที่ชื่อว่า wordpress นี้ เขียนด้วยภาษา PHP เพื่อที่จะใช้กับ MySQL
โดยผู้เขียน wordpress ก็คือ Michel Valdrighi เป็นผูร่วมพัฒนาwordpress ตอนนั้น wordpress ยัง
                                                   ้
อยู่ใน B2evolution
wordpress ได้ปรากฏสู่โลกในปี 2003 โดยเป็นความพยายามของ Matt Mullenweg และ Mike little
ในปี 2004 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดย six apart ทําให้มีผู้งาน wordpress จํานวนมากขึ้น และเริ่มก่อเกิด
แบรนด์ wp หรือ wordpress ขึ้นมาและมีการใช้งานมากขึ้นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมาถึง
ปัจจุบัน
ในปี 2007 wordpress ได้รับรางวัลชนะเลิศในเรื่องของ Packt open source CMS award
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง

More Related Content

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง

  • 1. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทําโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องเทคโนโลยี 3G นี้ ผู้จัดทําโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้ 2.1 ความสําคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) (ข้อมูลตั้งแต่ส่วนนี้ให้นักเรียนไปสืบค้น ค้นหาในอินเทอร์เน็ต และสรุป สาระสําคัญลงไปตามหัวข้อที่ครูทําตัวอย่างไว้ให้ค่ะ อย่าลืม copy ชื่อเว็บไซต์ที่นํา ข้อมูลมาอ้างอิงไว้ในหน้าบรรณานุกรมด้วยค่ะ เด๋วจะลืมว่าเอามาจากเว็บไซต์ ไหน) 2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยในด้านการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูล ทําให้ การศึกษาง่ายขึ้นและไร้ขีดจํากัด ผู้เรียนมีความสะดวกในการค้นคว้าวิจัย 2. การดํารงชีวิตประจําวัน ทําให้มีความสะดวกคล่องตัวและรวดเร็วในการทํากิจกรรม ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวัน สามารถทํางานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้หรือทํางานใช้ เวลาน้อยลง
  • 2. 3. การดําเนินธุรกิจ ทําให้มีการแข่งขันระหว่างธุรกิจมากขึ้น ทําให้ต้องมีการพัฒนา องค์กรเพื่อให้ทันกับข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา อันส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง 4. อัตราการขยายตัวทุก ๆ ด้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมีการติดต่อสื่อสารที่ เจริญก้าวหน้าทันสมัย รวดเร็วถูกต้องและ ทําให้ เป็นโลกที่ไร้พรหรมแดน 5. ระบบการทํางานมีคอมพิวเตอร์มาใช้ซื่อสามารถทํางานได้มากขึ้น งานบางอย่างมนุษย์ ทําไม่ได ้ก็ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทํางานแทนซึ่งได้ผลถูกต้องรวดเร็ว ความสาคัญของอินเทอร์เน็ต ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีบทบาทและมีความสําคัญต่อชีวิตประจําวันของคนเราเป็นอย่าง มาก เพราะทําให้วิถีชีวิตเราทันสมัยและทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตจะมีการเสนอ ข้อมูลข่าวปัจจุบัน และสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ผู้ใช้ทราบเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สารสนเทศที่เสนอ ในอินเทอร์เน็ตจะมีมากมายหลายรูปแบบเพื่อสนองความสนใจและความต้องการของผู้ใช้ทุก กลุ่ม อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งสารสนเทศสําคัญสําหรับทุกคนเพราะสามารถค้นหาสิ่งที่ตนสนใจ ได้ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปค้นคว้าในห้องสมุด หรือแม้แต่การรับรู้ข่าวสารทั่วโลกก็ สามารถอ่านได้ในอินเทอร์เน็ตจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ของหนังสือพิมพ์ ดังนั้นอินเทอร์เน็ตจึงมีความสําคัญกับวิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็นอย่างมากในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่ในวงการธุรกิจ การศึกษา ต่างก็ได้รับประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต ด้วยกันทั้งนั้น 1. ด้านการศึกษา อินเทอร์เน็ตมีความสําคัญ ดังนี้ 1. สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้าน การบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ 2. ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทําหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ 3. นักเรียนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กําลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความเสียง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ
  • 3. 2. ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ อินเทอร์เน็ตมีความสําคัญดังนี้ 1. ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ 2. สามารถซื้อขายสินค้า ทําธุรกรรมผ่านระบบเครือข่าย 3. เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสินค้า ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ 4. ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้า ของตนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คําแนะนํา สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware) 3. ด้านการบันเทิง อินเทอร์เน็ตมีความสําคัญดังนี้ 1. การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมี ภาพประกอบที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสือทั่ว ๆ ไป 2. สามารถฟังวิทยุหรือดูรายการโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ 3. สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์มาดูได้ 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media 2.2.1 ความหมายของ Social Media SMO คือ แนวทางเกี่ยวกับ social media ที่ตั้งใจจะดึงดูดความสนใจผู้ที่มาชม เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการไป Bookmark เอาไว้, Share Link หรือว่าส่งลิงค์ให้กับเพื่อนๆ, การเพิ่ม RSS Feeds การเข้าไปคอมเม้นต์ในบล็อกของคนอื่นๆ หรือว่า เขียนบทความในบล็อกต่างๆ ของ ตัวเอง (ทั้งสิ่งที่เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย) เพื่อที่จะนําไปต่อยอดทางความคิด จากบทความของเรา โดยที่คนเขียนบทความต่างๆ ในกลุ่มพวกนี้ ก็มักจะมีพวกแฟนพันธุ์แท้ หรือที่เรียกว่า Followers ที่ มักจะเข้ามาตามอ่านบทความในสิ่งที่คนเหล่านี้เขียนถึงอยู่เสมอๆ ทําให้เว็บไซต์ของเรา สร้างลิงค์ เชื่อมกับ Social network ได้ง่ายขึ้น, ถูกค้นเจอง่ายขึ้นใน Search engine ที่เจาะจงใช้เพื่อค้นหา Social media (เช่น Technorati) และเพื่อให้บล็อกเกอร์อื่นๆ อ้างถึงบ่อยขึ้นในบล็อก, พอดคาสท์ หรือ วิดีโอบล็อก (vlogs) ของเขา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า บทความหรือว่าเรื่องที่จะเขียนถึง นั้น ถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สาคัญมากที่สุดในเรื่องของ SMO SMO คือ 1 ใน 2 วิธีการออนไลน์ของการปรับแต่งเว็ปไซต์ อีกวิธีหนึ่งก็คือ SEO
  • 4. วิธีการของ SMO มี 2 ประเภท 1.ทักษะsocial mediaได้ถูกเพิ่มเข้าไปในตัวเว็บของมันเอง เช่น RSS feeds , ข่าวสังคม ,ปุ่ม แชร์ และมีการให้ผู้ใช้โหวตและสํารวจความคิดเห็นต่างๆ รวมถึงพวกรูปภาพและวีดีโอภายในเว็บ เรา (เครื่องมือภายในเว็บที่เป็น Tools ที่ให้คนอื่นนําไปใช้งานหรือบริการข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเว็บ ของเรา) 2. กิจกรรมใน social media ที่เป็นเนื้อหาให้คนอื่นมีส่วนร่วมในการโปรโมท รวมถึงพวก บล็อก ข้อคิดเห็นในบล็อกต่าง ๆ การเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น และการโพสอัพเดตสถานะใน social media (เป็นเครื่องมือที่ให้คนอื่นช่วยโปรโมทให้เราไม่ต้องทําเอง) 2.2.2 ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของ Social Media พูดถึงกันมากเหลือเกินสาหรับ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวกลาง เป็นเครื่องมือ สาหรับการสื่อสารระหว่างกัน โดยปัจจุบันได้ขยาย ผลกว้างครอบคลุมไปถึง การทางานร่วมกัน ทั้งภายใน และ ภายนอกองค์กร โดยอาศัยเว็บ และ โม บายเทคโนโลยี เป็นตัวช่วย ถ้าจะเปรียบเทียบก็น่าจะเป็นคู่แฝดแห่งยุคดิจิตอล อย่างเมื่อกว่า 200 ปี ก่อน มีแฝดอินจัน ที่ไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ จนมีการตั้งชื่อแฝดลักษณะที่มีลาตัวติดกัน เช่นนี้ว่า แฝดสยาม ถ้าว่าไปแล้ว แฝดสยามในยุคดิจิตอล ก็คงหนีไม่พ้น สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) กับ สมาร์ท โฟน (Smartphone) ที่มักจะไปเป็นคู่ยากที่จะแยกออกจากกันได้ เมื่อศึกษาถึงคาจากัดความของ สังคมออนไลน์ (Social Media) จะพบว่าคือกลุ่มของแอพพลิเคชั่น บนอินเทอร์เน็ต ที่สร้างขึ้นมา บนพื้นฐานแนวคิด และเทคโนโลยี Web 2.0 ซึ่งรองรับให้มีการสร้าง และ แลกเปลี่ยน คอนเทนต์ที่ ผู้ใช้เป็นผู้สร้างเอง (User-generated content) เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว สามารถเรียกได้ว่า สื่อ
  • 5. สังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นการผสมผสานกันระหว่าง เทคโนโลยี กับ การสื่อสารระหว่าง กันในสังคม เพื่อสร้างเสริมมูลค่าให้เพิ่มขึ้น เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะยุคดิจิตอลอย่างทุกวันนี้ การแสดงความคิดเห็นดูจะเป็น เรื่องง่าย บนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทําให้พนักงานรายหนึ่งในอเมริกา ถูกไล่ออก หลังจากที่เธอได้วิจารณ์เจ้านายของเธอบน เฟชบุ๊ก (Facebook) เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา พนักงาน หญิงรายนี้ได้เขียนข้อคิดเห็นของเธอ บนหน้าเฟชบุ๊ก ด้วยคําพูดที่หยาบคาย คดีนี้ถูกจับตามองทั่ว จากทุกวงการ ด้วยความกังขาว่า นายจ้างมีสิทธิที่จะลงโทษพนักงานที่เขียนข้อคิดเห็นบน สังคม ออนไลน์ หรือไม่ เท่าที่ทราบในเมืองไทยเรายังไม่เคยได้ยิน เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น เกมในเฟซบุ๊ก น่าจะเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ได้อย่างดี ด้วยกลยุทธ์ว่าใครมีเพื่อนเยอะก็ จะได้อะไรเพิ่มขึ้นในเกม นอกจากนั้น ยังมีการหลอกล่อให้ต้องมีเพื่อนมาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งใน เกม ปลูกผักเลี้ยงปลากันใหญ่ วันก่อนมีโอกาสไปบรรยายเรื่องสังคมออนไลน์ให้กับกรมส่งเสริม การเกษตร ก็เล่าไปว่าบ้านเราน่าจะทําเกมลักษณะนี้ในรูปแบบไทยๆ บ้านเรามีเกษตรกร กว่าครึ่ง ค่อนประเทศ นี่ยังไม่นับรวมท่านที่ชอบทําการเกษตรบนโลกออนไลน์ ในทางกลับกัน บางประเทศกลับห้ามใช้งานเว็บนี้ บางบริษัทก็ห้ามใช้เนื่องจากเสียเวลา การทํางานของพนักงาน เฟซบุ๊คได้รับการจัดอันดับเป็นเว็บสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในปี ค.ศ. 2009 จํานวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และที่น่าสนใจก็คือจํานวนผู้เล่นอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ เข้าใช้งานมากกว่ากูเกิลเป็นครั้งแรกช่วงต้นปี 2010 อีกด้วย ล่าสุดมีข่าวการใช้เฟซบุ๊ก เพื่อช่วยเหลือชีวิต ปกติเรามักจะได้ยินการใช้สังคมออนไลน์ เป็นสื่อ เป็นเครื่องมือทางการตลาด แต่ล่าสุดมีข่าวจากสํานักข่าวต่างประเทศได้รายงานเกี่ยวกับการ ประกาศรับบริจาคไตในเฟซบุ๊ก เรื่องเกิดที่สหรัฐฯ มีผู้ป่วยที่ต้องการปลูกถ่ายไต ต้องเปลี่ยนไตใหม่ ภายในเวลาจํากัด เมื่อปรึกษากับแพทย์ที่ดูแลอยู่ จึงได้ตัดสินใจลองประกาศลงในเฟซบุ๊ก แล้วก็มีผู้ที่ ประสงค์จะบริจาคไตให้ โดยไม่ได้มีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษแต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อนในเฟ ซบุ๊ก ผู้รับบริจาคเมื่อได้รับข้อความแสดงความจํานงจะบริจาคไตให้ ในตอนแรกยังคิดว่าเป็นเรื่อง ล้อเล่นกัน แต่เมื่อต้นเดือนเมษายน 2010 แพทย์ก็ได้เปลี่ยนไตที่บริจาคให้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การศึกษาล่าสุดพบว่าหญิงสาววัยรุ่น ที่นั่งจ้องเฟชบุ๊คทั้งวัน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการ ผิดปกติในเรื่องการทานอาหาร จากการศึกษาพบว่าสองสาเหตุหลักที่ทําให้เกิด อาการการทาน อาหารผิดปกติ คือ การใช้เวลามากเกินไปกับ พฤติกรรมการบริโภคสื่อ และ การเป็ นตัวของตัวเอง
  • 6. มากเกินไป ผลจากการสํารวจเด็กวัยรุ่นช่วงอายุ 12 ถึง 19 ปี พบว่าพฤติกรรมการบริโภคสื่อ อินเทอร์เน็ต และ โทรทัศน์ มีผลกระทบต่อพฤติกรรมของแต่ละคนโดยตรง จากผลการสํารวจพบว่า ยิ่งใช้เวลากับเฟชบุ๊ก มากเท่าไหร่ ก็จะมีโอกาสจะพบอาการ อยากอาหารมากผิดปกติ ภาวะเบื่ออาหาร ไม่พึงพอใจในสรีระของตัวเอง และ ความต้องการอยาก ลดน้ําหนัก มากขึ้น เมื่อมีจํานวนผู้ใช้ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) มากขึ้นเท่าใร ย่อมเป็นโอกาสในการ ทําธุรกิจ จึงเกิดคําว่า Social Commerce ขึ้น และได้รับความสนใจมากในช่วงนี้ หรือถ้าลองค้นหา คําว่า “e-mail vs. Social Media” ในกูเกิล จะพบผลลัพธ์มากเป็นหลายหมื่น จึงเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่า เป็นหัวข้อร้อน จนบางที คนนิยามว่าเป็นการทําสงครามบนโลกดิจิตอล บ้างก็กล่าวว่าคงเป็นจุดจบ ของ อีเมล์ และคลื่นลูกใหม่ทมาก็คือ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ี่ อีกแง่มุมหนึ่งที่ดูเข้าท่าก็คือ ทั้งอีเมล์ และ สื่อสังคมออนไลน์ จะเป็นตัวเสริมกันและกัน เพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ เราควรที่จะโฟกัสสองเรื่องใหญ่ๆ คือ กลุ่มเป้าหมาย และ เจตนา มาเริ่ม ด้วยกลุ่มเป้าหมาย * ถ้ากลุ่มเป้าหมายอายุต่ํากว่า 20 ปี น่าจะค่อนข้างชัดเจนว่า การใช้สื่อสังคมออนไลน์ จะเป็น ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด *ถ้ากลุ่มธุรกิจเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา การใช้อีเมล์ ถูกมองว่าเราจะได้ผลเร็วกว่า ในทางกลับกัน ถ้าลูกค้าทั่วไปเป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ การใช้ สื่อสังคมออนไลน์ น่าจะได้ผลที่ดีกว่า เนื่องจาก ลูกค้าจะเชื่อ และฟัง ความเห็นของคนอื่นๆ ที่ให้ไว้บนสื่อสังคมออนไลน์ *สําหรับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ที่ทํางาน อีเมล์เป็นคําตอบของเรา แต่ถ้าต้องการมุ่งไปที่อยู่ที่บ้าน สื่อ สังคมออนไลน์ น่าจะให้ผลตอบรับที่ดีกว่า จะเห็นได้ว่าการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายทั้งทาง ประชากรศาสตร์ (Demographic) และเชิง จิตวิทยา เป็นสิ่งที่สําคัญทั้งคู่ ในการเลือกว่า อีเมล์ หรือ สื่อสังคมออนไลน์ จะเหมาะสมกับธุรกิจ อย่างไรก็ตามในหลายกรณี เราควรใช้ทั้งสองช่องทาง ในการติดต่อสื่อสาร
  • 7. 2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social Media ocial Network  myFri3nd มีรูปแบบคล้ายเว็บ Social Network ทั่วไป เป็นเว็บไซต์ในเครือ sanook.com  D-Looks เว็บไซต์ Social Network แนว ๆ hi5 แต่มีสโลแกนว่า เว็บไซต์ดูดี สําหรับคนดี ๆ  BangkokSpace เป็น Social Network สําหรับคนชอบเที่ยวกลางคืน Blogging  exteen เว็บผู้ให้บริการ blog อันดับหนึ่งของไทย สูสีเบียดกับ bloggang อยู่ตลอด แต่หลัง ๆ ดูเหมือนยอดสมาชิกจะแซงแล้ว ตัวระบบ exteen เองพัฒนาได้ดี  BlogGang ผู้ให้บริการพื้นที่ blog ในเครือ pantip.com ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ จะเป็นแฟน คลับ หรือขาประจําของ pantip.com อยู่แล้ว Micro Blogging  NokNok เว็บแบบเดียวกับ twitter แต่พัฒนาโดยคนไทย (ในเครือ sanook.com เช่นกัน) แต่ ดูมีแนวโน้มการพัฒนาที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมให้อัพเดทกับ twitter ได้ หรือการอัพเดท noknok ผ่านมือถือเป็นต้น Social Bookmarking  Zickr เว็บ social bookmark อันดับหนึ่งของไทย คนใช้กันเพียบ เป็นที่รวมข้อมูลบทความ ทันสมัย ที่มีคนมาช่วยกันใส่เรื่องใหม่ ทุกวัน  Duocore เว็บที่รายงานข่าวเกี่ยวกับวงการไอทีไทย ในรูปแบบวีดีโอ โดยใช้ระบบ Social Bookmark มาให้ผู้ชม ช่วยกันส่งเรื่องราวไอทีที่น่าสนใจเข้ามา ในแต่ละสัปดาห์จะมีการเลือก เรื่องราวที่น่าสนใจ ไปทํารายการเป็นรูปแบบวีดีโอ  Siam Collective เว็บ Social Bookmark อีกแห่งหนึ่งของไทย  iam in Thai Social Bookmark ของไทยที่เก็บรวบรวมงานอีเว้นต์ และเทศกาลสําคัญ  Techkr เว็บ Social Bookmark ที่เก็บแต่เรื่องราวเทคโนโลยี Social Mailbox  Fwdder.com เว็บที่ให้คุณสามารถ forward email ต่าง ๆ ที่ได้รับมาจากคนอื่น แล้วนํามา ขึ้นแสดงในเว็บไซต์ได้ทันที เรียกได้ว่าเป็นเว็บไซต์ที่รวมพวก forward email ไว้ให้อ่านกัน นั่นเอง เราจะอัพเดทหน้านี้ไปเรื่อย ๆ นะครับ สําหรับเจ้าของเว็บ Social Network ของไทย ที่ต้องการ แนะนําเว็บของตัวเองเข้ามา หรือแม้กระทั่งผู้อ่าน ที่ไปพบว่ามีเว็บ Social Network ของไทยเว็บ ไหน ที่ยังไม่มีรายชื่ออยู่ในหน้านี้ ก็สามารถแนะนํากันเข้ามาได้ ผ่านทาง comment ในหน้านี้เลย
  • 8. ครับ ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณา นําเว็บขึ้นอยู่ในรายชื่อ โดยเลือกเว็บที่เหมาะสม และ เป็นเว็บที่พัฒนาโดยคนไทยครับ ที่มา http://keng.com/2009/01/07/thailand-social-media-list 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog) Web Blog คือ Blog มาจากศัพท์คําว่า WeBlog บางคนอ่านคํา ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคําบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog) ความหมายของคําว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความ เฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทํา ให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความ นั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บาง บล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่ หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียน บล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภท วิจารณ์การเมือง หรือการรีวิว ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมานั่นเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้อหาใน ประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเอง ถนัด หรือสนใจเป็นต้น จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็น กันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทาง ระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง ในอดีตแรกเริ่ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทํากันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ใน ปัจจุบันนี้ มีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blog ได้มากมาย เช่น WordPress, Movable Type เป็นต้น
  • 9. ผู้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน อาจารย์ นักเขียน ตลอดจนถึงระดับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น NasDaq เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา Blog เริ่มต้นมาจาก การเขียนเป็นงานอดิเรก ของกลุ่มสื่ออิสระต่าง ๆ หลาย ๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสําคัญ ให้กับหนังสือพิมพ์หรือสํานักข่าวชั้นนํา จวบจนกระทั่งปี 2004 คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสํานักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ข้อมูล ตั้งแต่เรื่องการเมือง ไปจนกระทั่ง เรื่องราวของการประชุม ระดับชาติ และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้ว่า Blog เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่งพิมพ์ , โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่า Blog ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ ที่สําคัญอย่างแท้จริง สรุปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มี ส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ใช้อย่างไร 1.หาเว็บที่ให้สามารถให้เช่า blog ได้ 2.สมักรเป็นสมาชิกของเว็บนั้น 3.เมื่อเราเป็นสมาชิกแล้วก็สามารตกแต่ง blog ของเราได้ 2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก ประเภทของ Blog บล็อกที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ใช่มีเพียงแค่บล็อกที่เป็นตัวหนังสือและรูปภาพเท่านั้น หรือ มีแค่ ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้ 1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ เป็นบล็อกที่รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจําผู้ให้กําเนิดคําว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น บาจเจอร์ได้ นั่นแหล่ะครับ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นั่นเอง แม้ว่าจะ บล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียงเหมือนว็บไดเร็กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะ โพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็นของตนเองแต่ยังนึกไม่ ออกว่าจะทําบล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็นการเริ่มต้นการทําบล็อกได้เป็นอย่างดี1.2 Photoblog ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกอยากนําเสนอ และมักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรียกได้ว่าภาพโดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลย ครับ1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียก ได้ว่าเป็นบล็อกที่นิยมทํากันมากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต หรือ
  • 10. อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทําให้การถ่ายทอดเสียง ภาพเคลื่อนไหว movie […] 2. แบ่งตามประเภทเนื้อหา ได้แก่2.1 บล็อกส่วนตัว(Personal Blog) นําแสนอความคิดเห็น กิจวัตร ประจําวันของเจ้าของบล็อกเป็นหลัก2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นําเสนอข่าวเป็นหลัก2.3 บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่เขียนกันเป็นกลุ่ม เช่น blognone.com2.4 บล็อก การเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่องการเมืองล้วน ๆ2.5 บล็อกเพื่อสิ่งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็นบล็อกที่ วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุทธิชย หยุ่น2.7 ั บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นําเสนอเรื่องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่อง ซุบซุดารา กองถ่าย ฯลฯ2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย ในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อในการสอนหรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน2.9 ติวเตอร์บล็อก (Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่นําเสนอวิธีการต่าง http://witwang.blogspot.com/2007_07_01_archive.html 2.3.3 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก www.blogger.com www.exteen.com www.mapandy.com www.buddythai.com www.imigg.com www.5iam.com www.blogprathai.com www.ndesignsblog.com www.idatablog.com www.inewblog.com www.onblogme.com www.freeseoblogs.com www.sumhua.com www.diaryi.net www.istoreblog.com www.skypream.com
  • 11. www.thailandspace.com www.sungson.com www.gujaba.com www.sabuyblog.com www.ugetblog.com www.jaideespace.com www.maxsiteth.com www.my2blog.com 2.3.4ประวัติของเว็บไซต์Wordpress WordPress คือ โปรแกรมสําเร็จรูปตัวหนึ่ง ที่เอาไว้สําหรับสร้าง บล็อก หรือ เว็บไซต์ สามารถใช้งานได้ฟรี ถูกจัดอยู่ในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง โปรแกรมสําเร็จรูปที่มีไว้สําหรับสร้างและบริหารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บไซต์ WordPress ได้รับการพัฒนาและเขียนชุดคําสั่งมาจากภาษา PHP (เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่ง) ทํางานบนฐานข้อมูล MySQL ซึ่งเป็นโปรแกรมสําหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บ เรียกดู แก้ไข เพิ่มและลบข้อมูล การใช้งานWordPress ร่วมกับ MySQL อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานแบบ GNU General Public License WordPress ปรากฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546 (2003) เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Matt Mullenweg และ Mike Littlej มีเว็บไซต์หลักอยู่ที่ http://wordpress.org และยังมีบริการ Free Hosting (พื้นที่สําหรับเก็บทุกอย่างของเว็บ/บล็อก) โดยขอใช้บริการได้ที่ http://wordpress.com ปัจจุบันนี้ WordPress ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านเว็บ บล็อกไปแล้ว แซงหน้า CMS ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Drupal , Mambo และ Joomla สาเหตุเป็นเพราะ
  • 12. ใช้งานง่าย ไม่จําเป็นต้องมีความรู้ในเรื่อง Programing มีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งยังมีผู้พัฒนา Theme (รูปแบบการแสดงผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริม) ให้เลือกใช้ฟรีอย่างมากมาย นอกจากนี้ สําหรับนักพัฒนา WordPress ยังมี Codex เอาไว้ให้เราได้เป็นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษา องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายใน สําหรับพัฒนาต่อยอด หรือ นําไปสร้าง Theme และ Plugins ขึ้นมาเองได้อีกด้วย หนําซ้ํา ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MUสําหรับไว้ให้ผู้นําไปใช้ สามารถเปิด ให้บริการพื้นที่ทําเว็บบล็อกเป็นของตนเอง เพื่อให้ผู้อื่นมาสมัครขอร่วมใช้บริการในการสร้างเว็บ บล็อก ภายใต้ชื่อโดเมนของเขา หรือที่เรียกว่า Sub-Domain จากที่ได้เกริ่นนําไปในบทความนี้ คงจะทําให้รู้จัก และได้ทราบประวัติความเป็นมา รวมถึง ความหมายกันไปบ้างแล้วว่า WordPress คือ อะไร ในบทความหน้า เราจะได้เริ่มเรียนรู้ถึงรูปแบบ และวิธีการใช้งาน ไปจนถึงการเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ต่อไป ความเป็นมาของ wordpress wordpress หลายคนรู้จักกันดีและบางคนก็อาจจะกําลังใช้งานอยู่ก็ได้แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ ว่า wordpress มีประวัติความเป็นมายังไงเดี๋ยวจะได้รู้กันครับ ความเป็นมาของ wordpres เริ่มจาก B2 หรือ cafelog คือผู้ที่ให้กําเนิดการทํางานของเว็บบล๊อกที่ชื่อ ว่า wordpress ได้การผลิตบล็อกชนิดนี้ขึ้นครั้งแรกประมาณปี 2003 ตอนนั้นมีบล็อก wordpress อยู่ประมาณ 2000 บล็อก บล็อกที่ชื่อว่า wordpress นี้ เขียนด้วยภาษา PHP เพื่อที่จะใช้กับ MySQL โดยผู้เขียน wordpress ก็คือ Michel Valdrighi เป็นผูร่วมพัฒนาwordpress ตอนนั้น wordpress ยัง ้ อยู่ใน B2evolution wordpress ได้ปรากฏสู่โลกในปี 2003 โดยเป็นความพยายามของ Matt Mullenweg และ Mike little ในปี 2004 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดย six apart ทําให้มีผู้งาน wordpress จํานวนมากขึ้น และเริ่มก่อเกิด แบรนด์ wp หรือ wordpress ขึ้นมาและมีการใช้งานมากขึ้นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมาถึง ปัจจุบัน ในปี 2007 wordpress ได้รับรางวัลชนะเลิศในเรื่องของ Packt open source CMS award