ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
อุปกรณ์คอมกับระบบสื่อสาร (1)
อุปกรณ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์
ประกอบด้วย
1. อุปกรณ์ภายนอก
2. อุปกรณ์ภายใน
อุปกรณ์ภายนอก
จอภาพ
คีย์บอร์ด
เมาส์
ลาโพง
CaseFloppy disk
Drive
Optical
Drive
Monitor หรือ จอภาพ
ใช้แสดงผลการทางานต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ปัจจุบันมีให้
เลือกหลายแบบ เช่น แบบ CRT ซึ่งเป็นแบบที่ใช้หลอดภาพหรือ
เป็นแบบ LCD ซึ่งมีหน้าจอแบบราบ ขนาดจอบาง น้าหนักเบาและ
ทันสมัย
Keyboard หรือ แป้นพิมพ์
ใช้สาหรับป้ อนข้อมูลหรือคาสั่งต่างๆ เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
Mouse หรือ เมาส์
ใช้สาหรับควบคุม cursor บนหน้าจอเพื่อจัดการคาสั่ง
การทางานต่าง ๆ บนหน้าจอ
Speaker หรือ ลาโพง
ใช้สาหรับแสดงข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบของเสียง เช่น เสียงเพลง
Case
Case โดยทั่วไปจะมี Power Supply อยู่ภายในด้วย ทาหน้าที่
บรรจุอุปกรณ์ต่าง ๆ และจ่ายพลังงานให้กับระบบ
Floppy Disk Drive
ทาหน้าที่ในการอ่านและเขียนข้อมูลลงแผ่นดิสก์เกต
Optical Drive
มีหลายชนิดซึ่งแต่ละชนิดก็มีความสามารถแตกต่างกันไป
ดังตารางที่แสดง
CD DVD
อ่าน เขียน อ่าน เขียน
CD-ROM Y N N N
CD-RW Y Y N N
DVD-ROM Y N Y N
Combo Drive Y Y Y N
DVD-RW Y Y Y Y
อุปกรณ์ภายใน
LAN Card
CPU
Mainboard
RAM
HarddiskVGA Card
Sound Card
CPU หรือ หน่วยประมวลผลกลาง
ทาหน้าที่ประมวลผลข้อมูล และควบคุมการทางานใน
คอมพิวเตอร์ เปรียบได้กับ " สมองของคอมพิวเตอร์ "
Mainboard หรือ Motherboard หรือ
แผงวงจรหลัก
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สาหรับติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ถือว่าเป็น
ศูนย์กลางของคอมพิวเตอร์
RAM (Random Access Memory) หรือ
หน่วยความจา
ทาหน้าที่เป็นหน่วยความจาชั่วคราว ใช้สาหรับเก็บข้อมูล
ที่จะนาไปประมวลผล
Harddisk
ทาหน้าที่ในการเก็บบันทึกข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ
VGA Card หรือ Graphic Card หรือ การ์ดแสดงผล
ใช้สาหรับประมวลผลข้อมูลที่จะแสดงบนหน้าจอ เชื่อมต่อ
กับ จอภาพหรือ Monitor
Sound Card หรือ การ์ดเสียง
ใช้สาหรับประมวลผลข้อมูลที่จะแสดงออกมาในรูปแบบ
ของเสียงผ่านทางลาโพง
Modem
ใช้สาหรับเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นโดยผ่านทาง
สายโทรศัพท์ โดยมากจะใช้เชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต
LAN Card
ใช้สาหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่อง๶ข้าด้วยกัน
ผ่านทางเครือข่ายท้องถิ่น (LAN )
ลองมาทา
แบบทดสอบดูนะคะ
แบบทดสอบ
RAM จัดเป็นอุปกรณ์ภายนอกใช่หรือไม่
ใช่ ไม่ใช่
นาจับคู่รูปกับศัพท์ภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง
Modem
VGA CARD
Ram
อุปกรณ์ใดทาหน้าที่ป้ อนข้อมูลคาสั่งเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
ก. Mouse ข. CPU
ค. VGA ง. RAM
ให้โยงเส้นกับคู่ภาพกับข้อความที่กาหนดให้ ให้ถูกต้อง
1. Modem
2. Case
3. Harddisk
Aj.Piyakan Srimuang
เทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีประโยชน์อย่างไร ?
Q. ลองจินตนาการดูว่า ถ้านักเรียนกาลังทารายงานด้วยคอมพิวเตอร์อยู่ที่บ้าน
แล้วต้องการข้อมูลส่วนอื่นๆ ที่เพื่อนรับผิดชอบ ถ้าไม่มีเครือข่ายคอมพิวเตอร์
จะเป็นอย่างไร ?
Ans นักเรียนคงต้องโทรศัพท์บอกเพื่อนให้เอาส่วนที่เหลือมาให้
หรือพิมพ์มาคนละส่วนซึ่งไม่รู้ว่าจะปะติดปะต่อกันพอดีหรือไม่
ต้องขอบคุณวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ทาเกิดเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขึ้น
การนาคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปมาทาการเชื่อมโยงด้วยสัญญาณ
เราเรียกว่า เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network)
องค์ประกอบของการสื่อสาร
เราหิวข้าว !?#%
ผู้รับสาร
ผู้ส่งสาร
สาร
สื่อ=อากาศ
ผู้ส่งสาร
ผู้รับสาร#1
ผู้รับสาร#2
ผู้รับสาร#3
สื่อ
สาร = จดหมาย
องค์ประกอบของการสื่อสาร
การสื่อสาร มีองค์ประกอบ 4 ประการ คือ
1 ผู้ส่งสาร (Sender) คือ ผู้ที่ทาหน้าที่ในการถ่ายทอดสารไปสู่ผู้รับสาร
2 ผู้รับสาร (Receiver)คือ ผู้ที่ทาหน้าที่รับข้อมูลที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสาร
3 สาร (Message) คือ เนื้อความ หรือข้อมูลที่ออกมาจากผู้ส่งสาร
4 สื่อ (Channel) คือ ช่องทางในการสื่อสาร เช่น นักเรียนพูดคุยกันในห้องเรียน
มีอากาศเป็นสื่อกลางในการส่งสารนั่นเอง
แบบจาลองการสื่อสาร (Communication Model)
…จากองค์ประกอบข้างต้น สามารถเขียนอธิบายอย่างง่ายได้ดังนี้
ผู้ส่งสาร ผู้รับสารสาร สาร
สื่อ
รูปแบบของการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารทิศทางเดียว (Simplex Communication)
เป็นการสื่อสารที่ผู้ส่งสารทาหน้าที่ส่งสาร และผู้รับสารทาหน้าที่รับสาร
เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหน้าที่ของผู้รับสาร และผู้ส่งสารได้
เลย เช่น วิทยุ โทรทัศน์ โทรเลข เพจเจอร์ เป็นต้น ฯลฯ
การสื่อสารกึ่งสองทิศทาง (Half – Duplex Communication)
เป็นการสื่อสารที่ผู้รับสาร และผู้ส่งสารสามารถสลับหน้าที่กันได้ แต่ต้อง
ผลัดกันรับ – ส่งข้อมูล เช่น ระบบวิทยุสื่อสาร เป็นต้น
การสื่อสารสองทิศทาง (Full – Duplex Communication)
เป็นการสื่อสารที่ผู้สื่อสาร สามารถเป็นได้ทั้งผู้ส่งสาร และผู้รับสาร พร้อมๆ กัน
ได้อย่างอิสระ เช่น ระบบโทรศัพท์ การพูดคุยปกติ เป็นต้น
ประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
(แบ่งตามลักษณะทางภูมิศาสตร์)
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระยะใกล้ (Local Area Network : LAN)
เป็นระบบเครือข่ายระดับท้องถิ่น ครอบคลุมพื้นที่จากัด เชื่อมโยงกันใน
รัศมีระยะใกล้ๆ ในเขตพื้นที่เดียวกัน เช่น เครือข่ายในห้องคอมพิวเตอร์ เครือข่าย
ภายในโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ เครือข่ายภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฯลฯ
ระบบเครือข่ายระยะกลาง (Metropolitan Area Network : MAN)
เป็นระบบเครือข่ายระดับเมือง ครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่า LAN เช่น เครือข่าย
ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย เป็นต้น
ระบบเครือข่ายระยะไกล (Wide Area Network : WAN)
เป็นระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์สื่อสารที่อยู่ห่างไกล
๶ข้าด้วยกัน เป็นการสื่อสารระดับประเทศ หรือข้ามทวีปก็ได้ เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
WAN
MAN
LAN
เปรียบเทียบขนาดของ LAN ,MAN ,WAN
ประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
(แบ่งตามกลุ่มที่ใช้เครือข่าย)
เครือข่าย Internet
- การทางานผ่านระบบเครือข่าย
- การไม่จากัดสิทธิการทางานของผู้ใช้
เครือข่าย Intranet
- การทางานผ่านระบบเครือข่าย
- การจากัดสิทธิการทางานเฉพาะคนภายในองค์กร
- ไม่สามารถใช้งาน Internet ในการทางาน
เครือข่าย Extranet
- การทางานผ่านระบบเครือข่าย
- การจากัดสิทธิการทางานเฉพาะคนภายในองค์กร
- สามารถใช้งาน Internet ได้
อุปกรณ์คอมกับระบบสื่อสาร (1)
อุปกรณ์คอมกับระบบสื่อสาร (1)
อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย
ฮับ (HUB)
เป็นอุปกรณ์ศูนย์กลาง ที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์
คอมพิวเตอร์อื่นๆ ๶ข้าด้วยกัน
อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย
รีพีทเตอร์ (Repeater)
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ส่งสัญญาณซ้าเพื่อนาสัญญาณจากตัวกลางหนึ่งไปอีก
ตัวกลางหนึ่งในระยะทางที่ไกลออกไป และป้องกันการขาดหายของ
สายสัญญาณ
อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย
บริดจ์ (Bridge)
เป็นอุปกรณ์ที่มักจะใช้ในการเชื่อมต่อวงแลน (LAN Segments)
๶ข้าด้วยกันทาให้สามารถขยายขอบเขตของ LAN ออกไปได้เรื่อยๆ โดยที่
ประสิทธิภาพรวมของระบบไม่ลดลงมาก
อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย
เราท์เตอร์ (Router)
เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าที่เชื่อมต่อระบบเครือข่ายหลายระบบ๶ข้าด้วยกัน
คล้ายกับบริดจ์ แต่มีส่วนการ ทางานที่ซับซ้อนมากกว่าบริดจ์มาก
โดยเราท์เตอร์จะมีเส้นทางการเชื่อมโยงระหว่างแต่ละเครือข่ายเก็บไว้เป็น
ตารางเส้นทาง เรียกว่า Routing Table ทาให้เราท์เตอร์สามารถทาหน้าที่
จัดหาเส้นทาง และเลือกเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดในการเดินทาง เพื่อการติดต่อ
ระหว่างเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รูปแบบการเชื่อมโยงเครือข่าย (Network Topology)
การเชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เข้าเป็นเครือข่ายแต่ละเครือข่าย จะมีรูปแบบที่
แตกต่างกัน เราเรียกว่า โทโปโลยี (Topology) หมายถึง รูปแบบของการเชื่อมต่อเครือข่าย
พิจารณาจากการลากเส้นมาเชื่อมต่อกันเกิดเป็นรูปร่างต่างๆ ซึ่งโดยทั่วไปจะมี 4 ลักษณะ ดังนี้
TopologyBus
Star
Complete Interconnect
Ring
Bus Topologyมีสายกลางเป็นสายหลักในการส่งข้อมูล และคอมพิวเตอร์ แต่ละเครื่องจะ
เชื่อมต่อสายรับ ส่งข้อมูลเป็นกิ่งออกไป การส่งข้อมูลจะต้องทาการตรวจสอบช่องทาง
การส่งสัญญาณก่อนว่า ช่องทางสัญญาณว่างหรือไม่
ข้อดี
1.ใช้สายเคเบิลน้อย
2.สามารถขยายระบบได้ง่าย
3.ถ้ามีเครื่องเสีย 1 เครื่องก็ยัง
สามารถใช้งานเครือข่ายได้
เหมือนเดิม
ข้อเสีย
1.ตรวจสอบจุดที่เป็นปัญหา
ได้ยาก
2.ประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูล
จะลดลงถ้าการจราจรของ
ข้อมูลในเครือข่ายสูง
Star Topology
ภายในเครือข่ายคอมพิวเตอร์จะต้องมีจุดศูนย์กลางในการควบคุมการ
เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ หรือฮับ (Hub) การสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ จะ
สื่อสารผ่านฮับก่อนที่จะส่งข้อมูลไปสู่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ
Topology Star เหรอเนี้ย เหลือเชื่อเลย !!!
ข้อดี
1.เปลี่ยนรูปแบบการวางสาย
ได้ง่าย
2.สามารถเพิ่มจานวนเครื่อง
ลูกข่ายได้ง่าย
ข้อเสีย
1.ต้องใช้สายเคเบิลจานวนมาก
2.ถ้าเครื่องแม่ข่ายเสีย
เครือข่ายจะล้มเหลว
Ring Topology
โทโปโลยีแบบวงแหวน เป็นโทโปโลยีที่ข้อมูลจะถูกส่งต่อ ๆ กัน
ไปในวงแหวนจนกว่าจะถึงเครื่องผู้รับที่ถูกต้อง ทิศทางในการส่งข้อมูลจะเป็นทิศทาง
เดียวกันเสมอจากเครื่องหนึ่งไปถึงอีกเครื่องหนึ่งจนถึงปลายทาง
ข้อดี
1.ใช้สายเคเบิลน้อย
2.สามารถตัดเครื่องที่เสียออก
จากระบบได้
ข้อเสีย
1.หากมีเครื่องที่มีปัญหาอยู่ใน
ระบบจะทาให้เครือข่าย
ไม่สามารถทางานได้
การเชื่อมโยงแบบสมบูรณ์ (Complete Interconnect)
เป็นการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในระบบ
เครือข่าย๶ข้าด้วยกันแบบจุดต่อจุด
ข้อดี
1.การสื่อสารข้อมูลมีความเร็วสูง
2.โปรแกรมควบคุมการสื่อสาร
ไม่ยุ่งยากซับซ้อน
3.มีเครื่องขัดข้องก็ไม่ทาให้
การสื่อสารหยุดชะงัก
ข้อเสีย
1.ใช้ช่องทางการสื่อสารมาก
การขยายเครือข่ายทาได้ยาก
และวุ่นวาย
Hybrid Topology
เป็นโครงสร้างคอมพิวเตอร์ที่ผสมผสานความสามารถ
ของโครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์หลายๆแบบรวมกัน

More Related Content

อุปกรณ์คอมกับระบบสื่อสาร (1)