ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
โน้ตสากลหรือสัญลักษณ์ทีใช้แทนเสียงดนตรี
การอ่านโน้ตดนตรีหรือบทเพลงต่าง ๆ ก็เฉกเช่นเดียวกันกับการอ่านหนังสือ
โดยทัวไป กล่าวคือผู้เรียนหรือผู้อ่านจะต้องจดจําสัญลักษณ์หรือพยัญชนะเบืองต้นทีใช้
แทนเสียง เช่น ก ข ค …….…ฮ หรือสระต่าง ๆ แล้วจึงนําสิงเหล่านันมารวมกันแล้ว
สะกดเป็นคํา ๆ จึงจะมีความหมายทีเราสามารถใช้เขียนเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึก
นึกคิด
ต่าง ๆและเป็นการติดต่อสือสารกับผู้อืน
ในทางดนตรีก็เช่นกันความคิดของผู้ประพันธ์เพลง(Composer) ทีแต่งเพลง
ออกมาจะถูกบันทึกไว้ด้วยตัวโน้ตเพือให้นักดนตรีได้เล่นและถ่ายทอดอารมณ์ออกมาให้
ผู้ฟัง โดยทีนักดนตรีผู้นันไม่เคยรู้จักมาก่อนได้ตัวโน้ตทีใช้บันทึกในลักษณะต่าง ๆ นัน
จะกลายเป็นโสตภาษาของผู้ฟัง
1. โน้ตสากล
เป็นระบบการบันทึกแทนเสียงดนตรีทีมีมาตังศตวรรษที11 โดย กีโดเดออเรซ์โซ
(Guido d’ Arezzo, 995-1050) บาทหลวงชาวอิตาเลียน ต่อมาได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนือง
จนกระทังสมบูรณ์อย่างทีเราได้พบเห็นและใช้กันในปัจจุบัน ตัวโน้ตสามารถบอกหรือ
สือให้นักดนตรีทราบถึงความสัน – ยาว สูง – ตํา ของระดับเสียงได้เราจึงควรมีความรู้
พืนฐานเกียวกับลักษณะของตัวโน้ตดนตรี (Music Notation) พอสังเขป ดังนี

6
Whole Note โน้ตตัวกลม
Half Note โน้ตตัวขาว
Quarter Note โน้ตตัวดํา
Eighth Note โน้ตตัวเขบ็ต 1 ชัน
16th Note โน้ตตัวเขบ็ต 2 ชัน
32nd Note โน้ตตัวเขบ็ต 3 ชัน
การเปรียบเทียบลักษณะตัวโน้ต
จากภาพข้างต้นสามารถอธิบายได้ว่า
โน้ตตัวกลม 1 ตัว ได้โน้ตตัวขาว 2 ตัว หรือได้โน้ตตัวดํา4 ตัว
โน้ตตัวขาว 1 ตัว ได้โน้ตตัวดํา 2 ตัว
โน้ตตัวดํา 1 ตัว ได้โน้ตตัวเขบ็ตหนึงชัน2 ตัว
โน้ตตัวเขบ็ตหนึงชัน1 ตัว ได้โน้ตตัวเขบ็ตสองชัน2 ตัว
7
1. การเขียนโน้ตตัวเขบ็ตตังแต่สองตัวติดกันขึนไป เรามักเขียนโดยนําชายธง
(Flag) มารวมกันโดยใช้เส้นตรง เช่น
8
หมายเหตุ
9
2. การเขียนโน้ตตัวดํา ตัวขาวและตัวเขบ็ต ให้พึงสังเกตเสมอว่าถ้าหางของตัว
โน้ตชีขึนหางจะอยู่ทางด้านขวา แต่ถ้าหางชีลงหางจะลงทางซ้ายมือ
3. การทีจะกําหนดให้ตัวโน้ตหางชีขึนหรือลงให้ยึดเส้นที 3 ของบรรทัด5
เส้น (Staff) เป็นหลัก กล่าวคือตัวโน้ตทีคาบอยู่เส้นที3 และตําลงมาหางตัวโน้ต
จะต้องชีขึน ส่วนโน้ตทีคาบอยู่เส้นที 3 หรือสูงขึนไปหางตัวโน้ตจะต้องชีลง สําหรับ
โน้ตทีคาบอยู่เส้นที 3 เองนันหางจะขึนหรือลงก็ได้ให้ยึดตัวโน้ตทีอยู่ภายในห้องหรือ
โน้ตทีอยู่ข้างเคียงเป็นหลัก ดังตัวอย่าง
ภาพแสดงการกําหนดหางและชายธง (stem&flag) ของตัวโน้ต
ตัวโน้ตหางขึนหางจะอยู่ด้านขวามือ ตัวโน้ตหางลงหางจะอยู่ด้านซ้าย
ตัวโน้ตตัวเขบ็ตหางขึนหรือลงชายธงอยู่ด้านขวาเสมอ
ตัวโน้ตทีอยู่ใต้เส้นที 3 ลงมา หางชีขึน
ตัวโน้ตทีอยู่เหนือเส้นที 3 ขึนไปหางชีลง
10
2. ตัวหยุด หรือเครืองหมายพักเสียง (Rest)
การบรรเลงดนตรี หรือการร้องเพลง ในบทเพลงใดบทเพลงหนึงต้องมีบางตอน
ทีหยุดไป การหยุดนันอาจเป็น4,3,2…จังหวะ หรืออาจมาก-น้อยกว่านีขึนอยู่กับผู้แต่ง
การบันทึกตัวหยุดนันได้กําหนดเป็นสัญลักษณ์เช่นเดียวกับตัวโน้ต ซึงโดยทัวไป
เรียกว่า“ตัวหยุด” (Rest) หมายถึง สัญลักษณ์ทีใช้ในการเงียบเสียงดนตรีหรือเสียงร้อง
แต่อัตราจังหวะยังคงดําเนินไปตลอด ตัวหยุดจะถูกเขียนลงบนบรรทัด5 เส้น
เช่นเดียวกับตัวโน้ต มีลักษณะต่างกันดังนี
ภาพเปรียบเทียบตัวโน้ตและตัวหยุด
ตัวหยุดตัวกลม
ตัวหยุดตัวขาว
ตัวหยุดตัวดํา
ตัวหยุดตัวเขบ็ต 1 ชัน
11
3. การเพิมอัตราจังหวะตัวโน้ตและตัวหยุด
โดยปกติอัตราจังหวะของตัวโน้ตมีค่าผันแปรตามเครืองหมายกําหนดจังหวะ
ดังทีกล่าวมาแล้วข้างต้น ด้วยขีดจํากัดของอัตราจังหวะทีถูกกําหนดโดยเครืองหมาย
กําหนดจังหวะ จึงต้องมีวิธีการเพิมจังหวะให้กับตัวโน้ตและตัวหยุด เพือเพิม
ความสามารถให้กับตัวโน้ตและตัวหยุด นอกจากนียังเพิมสีสันของทํานองเพลงด้วย
การเพิมอัตราจังหวะมีหลายวิธีดังนี
3.1 การโยงเสียง (Ties)
การเพิมอัตราจังหวะโดยการใช้เสียงโยงเสียงทีมีลักษณะเป็นเส้นโค้งใช้กับ
ตัวโน้ตทีมีระดับเสียงเดียวกันเท่านัน ใช้ได้2 กรณี คือ ใช้โยงเสียงตัวโน้ตภายในห้อง
เดียวกันหรือโยงเสียงต่างห้องก็ได้มีความหมายคล้ายกับเครืองหมายบวก การเขียน
เส้นโยงเสียงให้เขียนเส้นโยงทีตําแหน่งหัวตัวโน้ต ส่วนตัวหยุดไม่ต้องใช้เครืองหมาย
โยงเสียง เช่น
12
มีเครืองหมายอีกลักษณะหนึงทีคล้ายกับการโยงเสียง คือ เครืองหมายสเลอ
(Slur) เครืองหมายสเลอเป็นเส้นโค้งมีไว้สําหรับเชือมกลุ่มตัวโน้ตทีต่างระดับกันหรือ
คนละเสียงเพือต้องการให้เล่นโน้ตทีมีเครืองหมายสเลอนีคล่อมอยู่ให้เสียงต่อเนืองกัน
3.2 การประจุด (Dots)
เป็นการเพิมอัตราจังหวะของตัวโน้ตโดยการประจุด(.) เพิมเข้าไปด้านหลัง
ตัวโน้ตตัวทีต้องการเพิมอัตราจังหวะ จุด(.) ทีนํามาประหลังตัวโน้ตจะมีค่าเป็น
ครึงหนึงของตัวโน้ตข้างหน้าแล้วรวมกันเช่น
ถ้ามีจุดสองจุด จุดตัวหลังจะมีค่าเป็นครึงหนึงของจุดตัวแรก
โน้ตทีอยู่ในสีเหลียมเป็นโน้ตประจุดเพือเพิมอัตราจังหวะ
หมายเหตุ
13
3.3 เครืองหมายตาไก่ หรือ ศูนย์ (Fermata)
เป็นเครืองหมายทางดนตรีทีมีลักษณะคล้ายตาไก่ คนไทยเราก็เลยนิยมเรียก
ง่าย ๆ ตามลักษณะทีเห็นว่า“ตาไก่” ใช้สําหรับเขียนกํากับตัวโน้ตตัวใดตัวหนึงที
ผู้แต่งต้องการให้ยืดเสียงออกตามความพอใจ การเขียนเครืองหมายตาไก่นิยมเขียน
กํากับไว้ทีหัวตัวโน้ตและจะมีผลกับตัวโน้ตตัวนัน ๆ ไม่ว่าตัวโน้ตลักษณะใดก็ตาม
4. ระดับเสียง(Pith)
ด้วยการบันทึกโน้ตทางดนตรีเราสามารถทําให้เราทราบถึงระดับเสียง
(Pith) หรือความแตกต่างของเสียงทีแน่นอนได้ในการบันทึกเสียงโดยใช้บรรทัด
5 เส้น (Staff) ซึงจะแสดงให้เห็นความสูงตําของเสียงชัดเจน โดยการวางตัวโน้ต
ต่าง ๆ ไว้บนบรรทัด5 เส้น ซึงประกอบด้วย เส้น 5 เส้น ช่อง 4 ช่อง ดังนี
บรรทัด 5 เส้น
ประกอบด้วย 5 เส้น 4 ช่อง
ภาพแสดงบรรทัด 5 เส้น (Staff)
14
จากบรรทัด 5 เส้น (Staff) ข้างต้นซึงหมายถึงเส้นตรง 5 เส้น ทีลากขนานกัน
ในแนวนอนเราสามารถจําแนกระดับเสียงสูง–ตํา ได้อย่างเป็นรูปธรรมได้ดังนี
ตัวโน้ตเรียงจากเสียงตําขึนไปเสียงสูง
ตัวโน้ตเรียงจากเสียงสูงลงมาเสียงตํา
จากข้างต้นเราจะเห็นว่ามีตัวโน้ตทีบันทึกอยู่บนบรรทัด5 เส้น มีเพียง 11 ตัว
โน้ตหรือ 11 เสียงเท่านัน แต่ความเป็นจริงแล้วผู้ประพันธ์เพลงหรือคีตกวีต่าง ๆ
ได้เขียนเพลงซึงต้องมีระดับเสียงทีสูงหรือตํากว่าโน้ตทัง11 ตัวดังกล่าวแน่นอน
เพือให้การบันทึกเสียงตัวโน้ตดนตรีได้เป็นไปตามความต้องการของผู้ประพันธ์
เพลง จึงได้มีการคิดวิธีการทีจะทําให้การบันทึกโน้ตได้มากขึนจึงใช้“เส้นน้อย”
(Ledger Line) มาบันทึกโดยวิธีการขีดเส้นตรงทับตัวโน้ตและให้ตัวโน้ตอยู่ระหว่าง
ช่องจึงทําให้เสียงนันสูง–ตําได้ตามต้องการ ดังตัวอย่าง
ภาพแสดงเส้นน้อย (ledger lines)
15
4
จากข้างต้นทีกล่าวมาเป็นส่วนทีเกียวกับตัวโน้ต ลักษณะตัวโน้ตและ
ตําแหน่งทีอยู่ของตัวโน้ตเท่านัน ซึงยังไม่เพียงพอทีจะระบุได้ว่าโน้ตตัวนันๆ
มีระดับเสียงชือว่าอะไรมีความ สูง–ตํา ระดับใด จึงได้มีการกําหนดกุญแจประจํา
หลักขึนเพือทีใช้เป็นตัวระบุชือของตัวโน้ตได้
5. เครืองหมายแปลงเสียง (Accidentals)
เป็นสัญลักษณ์ทางดนตรีทีใช้เขียนกํากับหน้าตัวโน้ตหรือหลังกุญแจประจํา
หลักเมือต้องการแปลงเสียงให้สูงขึน-ตําลง หรือกลับมาเป็นเสียงปกติเหมือนเดิม
เครืองหมายแปลงเสียงประกอบด้วย 5 ชนิด คือ
5.1 เครืองหมายชาร์ป (Sharp) หรือ มีไว้สําหรับแปลงเสียงของตัวโน้ต
มีระดับเสียงสูงขึนครึงเสียง (Semitone) เช่น
16
4
5.2 เครืองหมายแฟลต (Flat) หรือ มีไว้สําหรับแปลงเสียงของตัวโน้ต
ให้มีระดับเสียงตําหรือลดลงครึงเสียง (Semitone) เช่น
5.3 เครืองหมายเนเจอรัล (Natural) หรือ มีไว้สําหรับแปลงเสียงของตัว
โน้ตทีมีระดับเสียงสูงขึนหรือตําลงครึงเสียง (Semitone) ให้กลับมาเป็นเสียงปกติ
เช่น
5.4 เครืองหมายดับเบิลชาร์ป (Double sharp) หรือ มีไว้สําหรับแปลง
เสียงของตัวโน้ตให้มีระดับเสียงสูงขึนสองครึงเสียง หรือ 1 เสียงเต็ม (Tone) เช่น
17
4
5.5 เครืองหมายดับเบิลแฟลต(Double flat) หรือ มีไว้สําหรับแปลง
เสียงของตัวโน้ตให้มีระดับเสียงตําลงสองครึงเสียง หรือ 1 เสียงเต็ม (Tone) เช่น
1. การเขียนเครืองหมายแปลงเสียงทัง5 ชนิดนี ต้องเขียนกํากับไว้หน้าและ
ตําแหน่งเดียวกันกับตัวโน้ต เช่น ตัวโน้ตคาบอยู่บนเส้นที 2 เครืองหมายแปลงเสียง
ต้องอยู่หน้าตัวโน้ตบนเส้นที 2 เช่นกัน
2. เครืองหมายแปลงเสียงมีผลบังคับตัวโน้ตนัน ๆ ภายใน 1 ห้องเพลงเท่านัน
ยกเว้น เขียนกํากับไว้หลังกุญแจประจําหลัก
หมายเหตุ

More Related Content

ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล

  • 1. โน้ตสากลหรือสัญลักษณ์ทีใช้แทนเสียงดนตรี การอ่านโน้ตดนตรีหรือบทเพลงต่าง ๆ ก็เฉกเช่นเดียวกันกับการอ่านหนังสือ โดยทัวไป กล่าวคือผู้เรียนหรือผู้อ่านจะต้องจดจําสัญลักษณ์หรือพยัญชนะเบืองต้นทีใช้ แทนเสียง เช่น ก ข ค …….…ฮ หรือสระต่าง ๆ แล้วจึงนําสิงเหล่านันมารวมกันแล้ว สะกดเป็นคํา ๆ จึงจะมีความหมายทีเราสามารถใช้เขียนเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึก นึกคิด ต่าง ๆและเป็นการติดต่อสือสารกับผู้อืน ในทางดนตรีก็เช่นกันความคิดของผู้ประพันธ์เพลง(Composer) ทีแต่งเพลง ออกมาจะถูกบันทึกไว้ด้วยตัวโน้ตเพือให้นักดนตรีได้เล่นและถ่ายทอดอารมณ์ออกมาให้ ผู้ฟัง โดยทีนักดนตรีผู้นันไม่เคยรู้จักมาก่อนได้ตัวโน้ตทีใช้บันทึกในลักษณะต่าง ๆ นัน จะกลายเป็นโสตภาษาของผู้ฟัง 1. โน้ตสากล เป็นระบบการบันทึกแทนเสียงดนตรีทีมีมาตังศตวรรษที11 โดย กีโดเดออเรซ์โซ (Guido d’ Arezzo, 995-1050) บาทหลวงชาวอิตาเลียน ต่อมาได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนือง จนกระทังสมบูรณ์อย่างทีเราได้พบเห็นและใช้กันในปัจจุบัน ตัวโน้ตสามารถบอกหรือ สือให้นักดนตรีทราบถึงความสัน – ยาว สูง – ตํา ของระดับเสียงได้เราจึงควรมีความรู้ พืนฐานเกียวกับลักษณะของตัวโน้ตดนตรี (Music Notation) พอสังเขป ดังนี  6
  • 2. Whole Note โน้ตตัวกลม Half Note โน้ตตัวขาว Quarter Note โน้ตตัวดํา Eighth Note โน้ตตัวเขบ็ต 1 ชัน 16th Note โน้ตตัวเขบ็ต 2 ชัน 32nd Note โน้ตตัวเขบ็ต 3 ชัน การเปรียบเทียบลักษณะตัวโน้ต จากภาพข้างต้นสามารถอธิบายได้ว่า โน้ตตัวกลม 1 ตัว ได้โน้ตตัวขาว 2 ตัว หรือได้โน้ตตัวดํา4 ตัว โน้ตตัวขาว 1 ตัว ได้โน้ตตัวดํา 2 ตัว โน้ตตัวดํา 1 ตัว ได้โน้ตตัวเขบ็ตหนึงชัน2 ตัว โน้ตตัวเขบ็ตหนึงชัน1 ตัว ได้โน้ตตัวเขบ็ตสองชัน2 ตัว 7
  • 4. 9 2. การเขียนโน้ตตัวดํา ตัวขาวและตัวเขบ็ต ให้พึงสังเกตเสมอว่าถ้าหางของตัว โน้ตชีขึนหางจะอยู่ทางด้านขวา แต่ถ้าหางชีลงหางจะลงทางซ้ายมือ 3. การทีจะกําหนดให้ตัวโน้ตหางชีขึนหรือลงให้ยึดเส้นที 3 ของบรรทัด5 เส้น (Staff) เป็นหลัก กล่าวคือตัวโน้ตทีคาบอยู่เส้นที3 และตําลงมาหางตัวโน้ต จะต้องชีขึน ส่วนโน้ตทีคาบอยู่เส้นที 3 หรือสูงขึนไปหางตัวโน้ตจะต้องชีลง สําหรับ โน้ตทีคาบอยู่เส้นที 3 เองนันหางจะขึนหรือลงก็ได้ให้ยึดตัวโน้ตทีอยู่ภายในห้องหรือ โน้ตทีอยู่ข้างเคียงเป็นหลัก ดังตัวอย่าง ภาพแสดงการกําหนดหางและชายธง (stem&flag) ของตัวโน้ต ตัวโน้ตหางขึนหางจะอยู่ด้านขวามือ ตัวโน้ตหางลงหางจะอยู่ด้านซ้าย ตัวโน้ตตัวเขบ็ตหางขึนหรือลงชายธงอยู่ด้านขวาเสมอ ตัวโน้ตทีอยู่ใต้เส้นที 3 ลงมา หางชีขึน ตัวโน้ตทีอยู่เหนือเส้นที 3 ขึนไปหางชีลง
  • 5. 10 2. ตัวหยุด หรือเครืองหมายพักเสียง (Rest) การบรรเลงดนตรี หรือการร้องเพลง ในบทเพลงใดบทเพลงหนึงต้องมีบางตอน ทีหยุดไป การหยุดนันอาจเป็น4,3,2…จังหวะ หรืออาจมาก-น้อยกว่านีขึนอยู่กับผู้แต่ง การบันทึกตัวหยุดนันได้กําหนดเป็นสัญลักษณ์เช่นเดียวกับตัวโน้ต ซึงโดยทัวไป เรียกว่า“ตัวหยุด” (Rest) หมายถึง สัญลักษณ์ทีใช้ในการเงียบเสียงดนตรีหรือเสียงร้อง แต่อัตราจังหวะยังคงดําเนินไปตลอด ตัวหยุดจะถูกเขียนลงบนบรรทัด5 เส้น เช่นเดียวกับตัวโน้ต มีลักษณะต่างกันดังนี ภาพเปรียบเทียบตัวโน้ตและตัวหยุด ตัวหยุดตัวกลม ตัวหยุดตัวขาว ตัวหยุดตัวดํา ตัวหยุดตัวเขบ็ต 1 ชัน
  • 6. 11 3. การเพิมอัตราจังหวะตัวโน้ตและตัวหยุด โดยปกติอัตราจังหวะของตัวโน้ตมีค่าผันแปรตามเครืองหมายกําหนดจังหวะ ดังทีกล่าวมาแล้วข้างต้น ด้วยขีดจํากัดของอัตราจังหวะทีถูกกําหนดโดยเครืองหมาย กําหนดจังหวะ จึงต้องมีวิธีการเพิมจังหวะให้กับตัวโน้ตและตัวหยุด เพือเพิม ความสามารถให้กับตัวโน้ตและตัวหยุด นอกจากนียังเพิมสีสันของทํานองเพลงด้วย การเพิมอัตราจังหวะมีหลายวิธีดังนี 3.1 การโยงเสียง (Ties) การเพิมอัตราจังหวะโดยการใช้เสียงโยงเสียงทีมีลักษณะเป็นเส้นโค้งใช้กับ ตัวโน้ตทีมีระดับเสียงเดียวกันเท่านัน ใช้ได้2 กรณี คือ ใช้โยงเสียงตัวโน้ตภายในห้อง เดียวกันหรือโยงเสียงต่างห้องก็ได้มีความหมายคล้ายกับเครืองหมายบวก การเขียน เส้นโยงเสียงให้เขียนเส้นโยงทีตําแหน่งหัวตัวโน้ต ส่วนตัวหยุดไม่ต้องใช้เครืองหมาย โยงเสียง เช่น
  • 7. 12 มีเครืองหมายอีกลักษณะหนึงทีคล้ายกับการโยงเสียง คือ เครืองหมายสเลอ (Slur) เครืองหมายสเลอเป็นเส้นโค้งมีไว้สําหรับเชือมกลุ่มตัวโน้ตทีต่างระดับกันหรือ คนละเสียงเพือต้องการให้เล่นโน้ตทีมีเครืองหมายสเลอนีคล่อมอยู่ให้เสียงต่อเนืองกัน 3.2 การประจุด (Dots) เป็นการเพิมอัตราจังหวะของตัวโน้ตโดยการประจุด(.) เพิมเข้าไปด้านหลัง ตัวโน้ตตัวทีต้องการเพิมอัตราจังหวะ จุด(.) ทีนํามาประหลังตัวโน้ตจะมีค่าเป็น ครึงหนึงของตัวโน้ตข้างหน้าแล้วรวมกันเช่น ถ้ามีจุดสองจุด จุดตัวหลังจะมีค่าเป็นครึงหนึงของจุดตัวแรก โน้ตทีอยู่ในสีเหลียมเป็นโน้ตประจุดเพือเพิมอัตราจังหวะ หมายเหตุ
  • 8. 13 3.3 เครืองหมายตาไก่ หรือ ศูนย์ (Fermata) เป็นเครืองหมายทางดนตรีทีมีลักษณะคล้ายตาไก่ คนไทยเราก็เลยนิยมเรียก ง่าย ๆ ตามลักษณะทีเห็นว่า“ตาไก่” ใช้สําหรับเขียนกํากับตัวโน้ตตัวใดตัวหนึงที ผู้แต่งต้องการให้ยืดเสียงออกตามความพอใจ การเขียนเครืองหมายตาไก่นิยมเขียน กํากับไว้ทีหัวตัวโน้ตและจะมีผลกับตัวโน้ตตัวนัน ๆ ไม่ว่าตัวโน้ตลักษณะใดก็ตาม 4. ระดับเสียง(Pith) ด้วยการบันทึกโน้ตทางดนตรีเราสามารถทําให้เราทราบถึงระดับเสียง (Pith) หรือความแตกต่างของเสียงทีแน่นอนได้ในการบันทึกเสียงโดยใช้บรรทัด 5 เส้น (Staff) ซึงจะแสดงให้เห็นความสูงตําของเสียงชัดเจน โดยการวางตัวโน้ต ต่าง ๆ ไว้บนบรรทัด5 เส้น ซึงประกอบด้วย เส้น 5 เส้น ช่อง 4 ช่อง ดังนี บรรทัด 5 เส้น ประกอบด้วย 5 เส้น 4 ช่อง ภาพแสดงบรรทัด 5 เส้น (Staff)
  • 9. 14 จากบรรทัด 5 เส้น (Staff) ข้างต้นซึงหมายถึงเส้นตรง 5 เส้น ทีลากขนานกัน ในแนวนอนเราสามารถจําแนกระดับเสียงสูง–ตํา ได้อย่างเป็นรูปธรรมได้ดังนี ตัวโน้ตเรียงจากเสียงตําขึนไปเสียงสูง ตัวโน้ตเรียงจากเสียงสูงลงมาเสียงตํา จากข้างต้นเราจะเห็นว่ามีตัวโน้ตทีบันทึกอยู่บนบรรทัด5 เส้น มีเพียง 11 ตัว โน้ตหรือ 11 เสียงเท่านัน แต่ความเป็นจริงแล้วผู้ประพันธ์เพลงหรือคีตกวีต่าง ๆ ได้เขียนเพลงซึงต้องมีระดับเสียงทีสูงหรือตํากว่าโน้ตทัง11 ตัวดังกล่าวแน่นอน เพือให้การบันทึกเสียงตัวโน้ตดนตรีได้เป็นไปตามความต้องการของผู้ประพันธ์ เพลง จึงได้มีการคิดวิธีการทีจะทําให้การบันทึกโน้ตได้มากขึนจึงใช้“เส้นน้อย” (Ledger Line) มาบันทึกโดยวิธีการขีดเส้นตรงทับตัวโน้ตและให้ตัวโน้ตอยู่ระหว่าง ช่องจึงทําให้เสียงนันสูง–ตําได้ตามต้องการ ดังตัวอย่าง ภาพแสดงเส้นน้อย (ledger lines)
  • 10. 15 4 จากข้างต้นทีกล่าวมาเป็นส่วนทีเกียวกับตัวโน้ต ลักษณะตัวโน้ตและ ตําแหน่งทีอยู่ของตัวโน้ตเท่านัน ซึงยังไม่เพียงพอทีจะระบุได้ว่าโน้ตตัวนันๆ มีระดับเสียงชือว่าอะไรมีความ สูง–ตํา ระดับใด จึงได้มีการกําหนดกุญแจประจํา หลักขึนเพือทีใช้เป็นตัวระบุชือของตัวโน้ตได้ 5. เครืองหมายแปลงเสียง (Accidentals) เป็นสัญลักษณ์ทางดนตรีทีใช้เขียนกํากับหน้าตัวโน้ตหรือหลังกุญแจประจํา หลักเมือต้องการแปลงเสียงให้สูงขึน-ตําลง หรือกลับมาเป็นเสียงปกติเหมือนเดิม เครืองหมายแปลงเสียงประกอบด้วย 5 ชนิด คือ 5.1 เครืองหมายชาร์ป (Sharp) หรือ มีไว้สําหรับแปลงเสียงของตัวโน้ต มีระดับเสียงสูงขึนครึงเสียง (Semitone) เช่น
  • 11. 16 4 5.2 เครืองหมายแฟลต (Flat) หรือ มีไว้สําหรับแปลงเสียงของตัวโน้ต ให้มีระดับเสียงตําหรือลดลงครึงเสียง (Semitone) เช่น 5.3 เครืองหมายเนเจอรัล (Natural) หรือ มีไว้สําหรับแปลงเสียงของตัว โน้ตทีมีระดับเสียงสูงขึนหรือตําลงครึงเสียง (Semitone) ให้กลับมาเป็นเสียงปกติ เช่น 5.4 เครืองหมายดับเบิลชาร์ป (Double sharp) หรือ มีไว้สําหรับแปลง เสียงของตัวโน้ตให้มีระดับเสียงสูงขึนสองครึงเสียง หรือ 1 เสียงเต็ม (Tone) เช่น
  • 12. 17 4 5.5 เครืองหมายดับเบิลแฟลต(Double flat) หรือ มีไว้สําหรับแปลง เสียงของตัวโน้ตให้มีระดับเสียงตําลงสองครึงเสียง หรือ 1 เสียงเต็ม (Tone) เช่น 1. การเขียนเครืองหมายแปลงเสียงทัง5 ชนิดนี ต้องเขียนกํากับไว้หน้าและ ตําแหน่งเดียวกันกับตัวโน้ต เช่น ตัวโน้ตคาบอยู่บนเส้นที 2 เครืองหมายแปลงเสียง ต้องอยู่หน้าตัวโน้ตบนเส้นที 2 เช่นกัน 2. เครืองหมายแปลงเสียงมีผลบังคับตัวโน้ตนัน ๆ ภายใน 1 ห้องเพลงเท่านัน ยกเว้น เขียนกํากับไว้หลังกุญแจประจําหลัก หมายเหตุ