ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
คำสรรพนำม
คำสรรพนำม คือ คาทีใช้แทนนามในประโยคสื่อสาร เราใช้คาสรรพนามเพื่อไม่ตองกล่าว
่
้
คานามซ้าๆ
ชนิ ดของคำสรรพนำม แบ่งเป็น ๗ ประเภท ดังนี้
๑. สรรพนำมที่ใช้ในกำรพูด (บุรษสรรพนาม) เป็นสรรพนามทีใช้ในการพูดจา สื่อสารกัน
ุ
่
ระหว่างผูส่งสาร (ผูพด) ผูรบสาร (ผูฟง) และผูทเี่ รากล่าวถึง มี ๓ ชนิด ดังนี้
้
้ ู ้ั
้ ั
้
๑) สรรพนามบุรษที่ ๑ ใช้แทนผูส่งสาร (ผูพด) เช่น ฉัน ดิฉน ผม ข้าพเจ้า เรา หนู เป็นต้น
ุ
้
้ ู
ั
๒) สรรพนามบุรษที่ ๒ ใช้แทนผูรบสาร (ผูทพดด้วย) เช่น ท่าน คุณ เธอ แก ใต้เท้า เป็นต้น
ุ
้ั
้ ่ี ู
๓) สรรพนามบุรษที่ ๓ ใช้แทนผูทกล่าวถึง เช่น ท่าน เขา มัน เธอ แก เป็นต้น
ุ
้ ่ี
๒. สรรพนำมที่ใช้เชื่อมประโยค (ประพันธสรรพนาม)สรรพนามนี้ใช้แทนนามหรือสรรพ
นามทีอยูขางหน้าและต้องการจะกล่าวซ้าอีกครังหนึ่ง นอกจากนี้ยงใช้เชื่อมประโยคสองประโยคเข้า
่ ่ ้
้
ั
ด้วยกัน ตัวอย่างเช่น
บ้านที่ทาสีขาวเป็นบ้านของเธอ
(ที่ แทนบ้าน เชื่อมประโยคที่ ๑บ้านทาสีขาว กับ ประโยคที่ ๒ บ้านของเธอ)
๓. สรรพนำมบอกควำมชี้ซำ (วิภาคสรรพนาม) เป็นสรรพนามทีใช้แทนนามทีอยูขางหน้า
้
่
่ ่ ้
เมือต้องการเอ่ยซ้า โดยทีไม่ตองเอ่ยนามนันซ้าอีก และเพื่อแสดงความหมายแยกออกเป็นส่วนๆ ได้แก่
่
่ ้
้
คาว่า บ้าง ต่าง กัน ตัวอย่างเช่น
นักศึกษาต่างแสดงความคิดเห็น
สตรีกลุ่มนันทักทายกัน
้
นักกีฬาตัวน้อยบ้างก็วงบ้างก็กระโดดด้วยความสนุกสนาน
ิ่
๔. สรรพนำมชี้เฉพำะ (นิยมสรรพนาม) เป็นสรรพนามทีใช้แทนคานามทีกล่าวถึงทีอยู่ เพื่อ
่
่
่
ระบุให้ชดเจนยิงขึน ได้แก่คาว่า นี่ นัน โน่น โน้น ตัวอย่างเช่น
ั
่ ้
่
นี่เป็นหนังสือทีได้รบรางวัลซีไรต์ในปีน้ี
่ ั
นันรถจักรายานยนต์ของเธอ
่
๕. สรรพนำมบอกควำมไม่เจำะจง (อนิยมสรรพนาม) คือ สรรพนามทีใช้แทนนามที่
่
กล่าวถึงโดยไม่ตองการคาตอบไม่ชเี้ ฉพาะเจาะจง ได้แก่คาว่า ใคร อะไร ทีไหน ผูใด สิงใด ใครๆ
้
่
้ ่
อะไรๆๆ ใดๆ ตัวอย่างเช่น
ใครๆก็พดเช่นนัน, ใครก็ได้ช่วยชงกาแฟให้หน่อย
ู
้
ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง, ไม่มอะไรทีเราทาไม่ได้
ี
่
๖. สรรพนำมที่เป็ นคำถำม (ปฤจฉาสรรพนาม) คือ สรรพนามทีใช้แทนนามเป็ นการถามที่
่
ต้องการคาตอบ ได้แก่คาว่า ใคร อะไร ไหน ผูใด ตัวอย่างเช่น
้
ใครหยิบหนังสือบนโต๊ะไป, อะไรวางอยูบนเก้าอี้, ไหนปากกาของฉัน
่
ผูใดเป็ นคนรับโทรศัพท์
้
๗. สรรพนำมที่เน้ นตำมควำมรู้สึกของผูพด สรรพนามชนิดนี้ใช้หลักคานามเพื่อบอก
้ ู
ความรูสกของผูพดทีมต่อบุคคลทีกล่าวถึง ตัวอย่างเช่น
้ ึ
้ ู ่ ี
่
คุณพ่อท่านเป็ นคนอารมณ์ดี (บอกความรูสกยกย่อง)
้ ึ
คุณจิตติมาเธอเป็นคนอย่างงีแหละ (บอกความรูสกธรรมดา)
้
้ ึ
หน้ ำที่ของคำสรรพนำม
๑. ทาหน้าทีเป็นประธานของประโยค เช่น ใครมา แกมาจากไหน นันของฉันนะ เป็นต้น
่
่
๒. ทาหน้าทีเป็นกรรมของประโยค เช่น เธอดูน่ส ิ สวยไหม เป็นต้น
่
ี
๓. ทาหน้าทีเป็ นส่วนเติมเต็ม เช่น เสือของฉันคือนี่ สีฟ้าใสเห็นไหม เป็ นต้น
่
้
๔. ทาหน้าทีตามหลังบุพบท เช่น เธอเรียนทีไหน เป็นต้น
่
่

More Related Content

หน่วยที่ 2 คำสรรพนาม

  • 1. คำสรรพนำม คำสรรพนำม คือ คาทีใช้แทนนามในประโยคสื่อสาร เราใช้คาสรรพนามเพื่อไม่ตองกล่าว ่ ้ คานามซ้าๆ ชนิ ดของคำสรรพนำม แบ่งเป็น ๗ ประเภท ดังนี้ ๑. สรรพนำมที่ใช้ในกำรพูด (บุรษสรรพนาม) เป็นสรรพนามทีใช้ในการพูดจา สื่อสารกัน ุ ่ ระหว่างผูส่งสาร (ผูพด) ผูรบสาร (ผูฟง) และผูทเี่ รากล่าวถึง มี ๓ ชนิด ดังนี้ ้ ้ ู ้ั ้ ั ้ ๑) สรรพนามบุรษที่ ๑ ใช้แทนผูส่งสาร (ผูพด) เช่น ฉัน ดิฉน ผม ข้าพเจ้า เรา หนู เป็นต้น ุ ้ ้ ู ั ๒) สรรพนามบุรษที่ ๒ ใช้แทนผูรบสาร (ผูทพดด้วย) เช่น ท่าน คุณ เธอ แก ใต้เท้า เป็นต้น ุ ้ั ้ ่ี ู ๓) สรรพนามบุรษที่ ๓ ใช้แทนผูทกล่าวถึง เช่น ท่าน เขา มัน เธอ แก เป็นต้น ุ ้ ่ี ๒. สรรพนำมที่ใช้เชื่อมประโยค (ประพันธสรรพนาม)สรรพนามนี้ใช้แทนนามหรือสรรพ นามทีอยูขางหน้าและต้องการจะกล่าวซ้าอีกครังหนึ่ง นอกจากนี้ยงใช้เชื่อมประโยคสองประโยคเข้า ่ ่ ้ ้ ั ด้วยกัน ตัวอย่างเช่น บ้านที่ทาสีขาวเป็นบ้านของเธอ (ที่ แทนบ้าน เชื่อมประโยคที่ ๑บ้านทาสีขาว กับ ประโยคที่ ๒ บ้านของเธอ) ๓. สรรพนำมบอกควำมชี้ซำ (วิภาคสรรพนาม) เป็นสรรพนามทีใช้แทนนามทีอยูขางหน้า ้ ่ ่ ่ ้ เมือต้องการเอ่ยซ้า โดยทีไม่ตองเอ่ยนามนันซ้าอีก และเพื่อแสดงความหมายแยกออกเป็นส่วนๆ ได้แก่ ่ ่ ้ ้ คาว่า บ้าง ต่าง กัน ตัวอย่างเช่น นักศึกษาต่างแสดงความคิดเห็น สตรีกลุ่มนันทักทายกัน ้ นักกีฬาตัวน้อยบ้างก็วงบ้างก็กระโดดด้วยความสนุกสนาน ิ่ ๔. สรรพนำมชี้เฉพำะ (นิยมสรรพนาม) เป็นสรรพนามทีใช้แทนคานามทีกล่าวถึงทีอยู่ เพื่อ ่ ่ ่ ระบุให้ชดเจนยิงขึน ได้แก่คาว่า นี่ นัน โน่น โน้น ตัวอย่างเช่น ั ่ ้ ่ นี่เป็นหนังสือทีได้รบรางวัลซีไรต์ในปีน้ี ่ ั นันรถจักรายานยนต์ของเธอ ่
  • 2. ๕. สรรพนำมบอกควำมไม่เจำะจง (อนิยมสรรพนาม) คือ สรรพนามทีใช้แทนนามที่ ่ กล่าวถึงโดยไม่ตองการคาตอบไม่ชเี้ ฉพาะเจาะจง ได้แก่คาว่า ใคร อะไร ทีไหน ผูใด สิงใด ใครๆ ้ ่ ้ ่ อะไรๆๆ ใดๆ ตัวอย่างเช่น ใครๆก็พดเช่นนัน, ใครก็ได้ช่วยชงกาแฟให้หน่อย ู ้ ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง, ไม่มอะไรทีเราทาไม่ได้ ี ่ ๖. สรรพนำมที่เป็ นคำถำม (ปฤจฉาสรรพนาม) คือ สรรพนามทีใช้แทนนามเป็ นการถามที่ ่ ต้องการคาตอบ ได้แก่คาว่า ใคร อะไร ไหน ผูใด ตัวอย่างเช่น ้ ใครหยิบหนังสือบนโต๊ะไป, อะไรวางอยูบนเก้าอี้, ไหนปากกาของฉัน ่ ผูใดเป็ นคนรับโทรศัพท์ ้ ๗. สรรพนำมที่เน้ นตำมควำมรู้สึกของผูพด สรรพนามชนิดนี้ใช้หลักคานามเพื่อบอก ้ ู ความรูสกของผูพดทีมต่อบุคคลทีกล่าวถึง ตัวอย่างเช่น ้ ึ ้ ู ่ ี ่ คุณพ่อท่านเป็ นคนอารมณ์ดี (บอกความรูสกยกย่อง) ้ ึ คุณจิตติมาเธอเป็นคนอย่างงีแหละ (บอกความรูสกธรรมดา) ้ ้ ึ หน้ ำที่ของคำสรรพนำม ๑. ทาหน้าทีเป็นประธานของประโยค เช่น ใครมา แกมาจากไหน นันของฉันนะ เป็นต้น ่ ่ ๒. ทาหน้าทีเป็นกรรมของประโยค เช่น เธอดูน่ส ิ สวยไหม เป็นต้น ่ ี ๓. ทาหน้าทีเป็ นส่วนเติมเต็ม เช่น เสือของฉันคือนี่ สีฟ้าใสเห็นไหม เป็ นต้น ่ ้ ๔. ทาหน้าทีตามหลังบุพบท เช่น เธอเรียนทีไหน เป็นต้น ่ ่