ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ใบงาȨี่2 ความหมายและความสาคัญของโครงงาน
โครงงานมีความสาคัญอย่างไร เสริมสร้างประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ส่งผลทาให้
เกิดความริเริ่มสร้างสรรค์ในการทาโครงงานใหม่ๆที่จะนาไปสู่โลกของงาน อาชีพและการศึกษา
อีกทั้งโครงงานที่ตนเองสนใจยังก่อให้เกิดองค์ความรู้ที่ กว้างขวาง
เป็นการประสานงานทางวิชาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ ต่างๆ >
ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงาน ที่สนใจ > สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง >
ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง > ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างเกียรติประวัติ >
ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดี
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้า
ของสังคม ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่ ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี
ของคอมพิวเตอร์ จึงต้อง ศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐานเป็นสาคัญ การศึกษาด้าน วิทยาการคอมพิวเตอร์
เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับการศึกษา วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราใน
ด้านต่างๆ มากมาย
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ
เพื่อนาผลงานที่ได้มา ประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียนการสอน ให้มี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรม
ทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์
พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆในการแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน
ความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมี
คุณค่าต่อการฝึกฝนให้ผู้เรียนมีความรู้ ความชานาญ และมีทักษะในการ
นาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหา ความรู้ต่างๆ
ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และยังมีคุณค่าอื่นๆ อีก ดังต่อไปนี้ >
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง > เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา
ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้องตามปกติ >
ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการ สื่อสารระหว่างกัน
กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมี
ความสนใจที่จะประกอบอาชีพทางด้านนี้ > ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
> สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้
ชุมชนสนใจคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
สร้างสานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง >
สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ > การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ
มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จาก ระบบคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงาน ขอบข่ายของโครงงาน ดาเนินงานโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครูอาจารย์
เป็นผู้ให้คาแนะนาปรึกษา มีองค์ประกอบดังนี้ 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า
ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตาม เนื้อหาโครงงานนั้นๆ
หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 2.
นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมาก
ว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์
คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 4.
นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์
ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้
ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงิน ดาเนินงานด้วย
ประเภทของโครงงาน คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุกสาขาวิชา
ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายทั้ง ในลักษณะ ของเนื้อหา กิจกรรม
และประโยชน์หรือผลงานที่ได้ โครงงาน คอมพิวเตอร์มีหลายประเภท ในที่นี้แบ่งเป็น 5 ประเภท คือ
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media Development)
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) โครงงานจาลองทฤษฏี (Theory
Simulation) โครงงานประยุกต์ใช้งาน (Application) และโครงงานพัฒนาเกม (Game
Development)
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้
คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน
ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และ คาถามคาตอบไว้พร้อม
ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้
ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วย
ตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนใน วิชาต่างๆ
โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการ พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น
การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็ก ไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลัก ภาษาไทย
และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็นต้น
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วยสร้างงาน
ประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน
และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น
สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซึ่ง
จะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วน ซอฟต์แวร์การวาดรูป
พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาดรูปบน เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย
สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุใน มุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น
ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่า
และภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้ อย่างสะดวก
โปรแกรมออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรม
โครงงานจาลองทฤษฏี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจาลอง
การทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์ จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น
และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษา รวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่
ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูป ของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย
พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น
ซึ่งจะทา ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่
ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น
การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของ ปลาปิรันย่า
และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
โปรแกรมจาลองการเกิดคลื่นซึนามิ
โครงงานประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้าง
ผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับ
การออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และ
ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการ ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์
หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิด สร้างสิ่งของขึ้นใหม่
หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้น
โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความ ต้องการของผู้ใช้ก่อน
แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของ นั้นๆ
ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของ
สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียน
ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
โปรแกรมจัดตารางสอน
โครงงานพัฒนาเกม โครงงานพัฒนาเกมเป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ หรือ ความ
เพลิดเพลิน ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึก
ความคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การ เล่น
เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทา
การสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือ
พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆการจัดทา โครงงานคอมพิวเตอร์นั้น
ผู้เรียนควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทางานของเครื่อง คอมพิวเตอร์ หลักการที่ใช้ในการแก้ปัญหา
กระบวนการแก้ปัญหา หลักการเขียน โปรแกรม และการแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเริ่มทาโครงงาน
และใช้ความรู้ ดังกล่าวเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ใหม่ในโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยในการทา
โครงงานผู้เรียนอาจจะมีโอกาสได้ทาความรู้จักกับความรู้ใหม่เพิ่มเติมอีกซึ่งจะขึ้นอยู่กับ
หัวข้อที่ผู้เรียนเลือกทาโครงงาน
ตัวอย่างชื่อโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 1. โปรแกรม
ดนตรีไทยแสนสนุก 2. โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต 3.
โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ 4.โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก
5.โปรแกรมสนุกไปกับตารางธาตุ 6.โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
โปรแกรมความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต รูปภาพจาก rayongwit.ac.th โปรแกรมดนตรีไทยแสนสนุก
รูปภาพจาก thaiware.com
โครงงานประยุกต์ใช้งาน 1. โปรแกรมระบบงานการกีฬา 2. โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade
Archivist 3. โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น 4. โปรแกรมระบบแฟ้ มฐานข้อมูลผู้เรียน
2001 5. เครื่องช่วยคนพิการแขนอ่านหนังสือ 6. เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่าน โทรศัพท์มือถือ
7. เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ เครื่องรดน้าต้นไม้อัตโนมัติ รูปภาพจาก webindex.onlineoops.com
โปรแกรมสารบรรณสาเร็จรูป รูปภาพจาก 212cafe.com
โครงงานพัฒนาเกม 1. โปรแกรมเกมเพื่อความบันเทิง War of Oracle 2. โปรแกรม ต่อให้เพิ่ม
เติมให้เต็ม (Magic Puzzle) 3. โปรแกรม เกมผู้รอดชีวิต 4. โปรแกรม Maths&Photo Hunt 2
in 1 5. โปรแกรมโลโก้บิงโก 6. โปรแกรมเกมทศกัณฑ์ 7. โปรแกรมรองเท้าอาถรรพ์
บรรณานุกรม http://kroosuveera.blogspot.com/2011/09/blog-post_13.html
https://sites.google.com/site/krutermsaksuwan/home/keiyw-kab-khru- teim-
sakdi/khwam-ru-reuxng/khwam-hmay-khxng-khorng-ngan
http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit1/unit1-1.html
http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e-learning/project/unit1/01_3.html

More Related Content

ใบงาȨี่2 ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์

  • 1. ใบงาȨี่2 ความหมายและความสาคัญของโครงงาน โครงงานมีความสาคัญอย่างไร เสริมสร้างประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ส่งผลทาให้ เกิดความริเริ่มสร้างสรรค์ในการทาโครงงานใหม่ๆที่จะนาไปสู่โลกของงาน อาชีพและการศึกษา อีกทั้งโครงงานที่ตนเองสนใจยังก่อให้เกิดองค์ความรู้ที่ กว้างขวาง เป็นการประสานงานทางวิชาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ ต่างๆ > ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงาน ที่สนใจ > สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง > ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง > ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างเกียรติประวัติ > ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดี ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้า ของสังคม ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่ ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้อง ศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐานเป็นสาคัญ การศึกษาด้าน วิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับการศึกษา วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราใน ด้านต่างๆ มากมาย โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มา ประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียนการสอน ให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรม ทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆในการแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน ความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมี คุณค่าต่อการฝึกฝนให้ผู้เรียนมีความรู้ ความชานาญ และมีทักษะในการ นาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหา ความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และยังมีคุณค่าอื่นๆ อีก ดังต่อไปนี้ > เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง > เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้องตามปกติ > ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการ สื่อสารระหว่างกัน กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมี ความสนใจที่จะประกอบอาชีพทางด้านนี้ > ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ > สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ ชุมชนสนใจคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น สร้างสานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง > สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ > การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จาก ระบบคอมพิวเตอร์
  • 2. ขอบข่ายของโครงงาน ขอบข่ายของโครงงาน ดาเนินงานโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครูอาจารย์ เป็นผู้ให้คาแนะนาปรึกษา มีองค์ประกอบดังนี้ 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตาม เนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมาก ว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงิน ดาเนินงานด้วย ประเภทของโครงงาน คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุกสาขาวิชา ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายทั้ง ในลักษณะ ของเนื้อหา กิจกรรม และประโยชน์หรือผลงานที่ได้ โครงงาน คอมพิวเตอร์มีหลายประเภท ในที่นี้แบ่งเป็น 5 ประเภท คือ โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media Development) โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) โครงงานจาลองทฤษฏี (Theory Simulation) โครงงานประยุกต์ใช้งาน (Application) และโครงงานพัฒนาเกม (Game Development) โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และ คาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วย ตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนใน วิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการ พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็ก ไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลัก ภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็นต้น โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วยสร้างงาน ประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซึ่ง จะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วน ซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาดรูปบน เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุใน มุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่า และภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้ อย่างสะดวก โปรแกรมออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรม
  • 3. โครงงานจาลองทฤษฏี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจาลอง การทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์ จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษา รวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูป ของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทา ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของ ปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น โปรแกรมจาลองการเกิดคลื่นซึนามิ โครงงานประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้าง ผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับ การออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และ ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการ ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิด สร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความ ต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของ นั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของ สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียน ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรแกรมจัดตารางสอน โครงงานพัฒนาเกม โครงงานพัฒนาเกมเป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ หรือ ความ เพลิดเพลิน ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึก ความคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การ เล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทา การสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือ พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆการจัดทา โครงงานคอมพิวเตอร์นั้น ผู้เรียนควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทางานของเครื่อง คอมพิวเตอร์ หลักการที่ใช้ในการแก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหา หลักการเขียน โปรแกรม และการแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเริ่มทาโครงงาน และใช้ความรู้ ดังกล่าวเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ใหม่ในโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยในการทา โครงงานผู้เรียนอาจจะมีโอกาสได้ทาความรู้จักกับความรู้ใหม่เพิ่มเติมอีกซึ่งจะขึ้นอยู่กับ หัวข้อที่ผู้เรียนเลือกทาโครงงาน ตัวอย่างชื่อโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 1. โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก 2. โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต 3.
  • 4. โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ 4.โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก 5.โปรแกรมสนุกไปกับตารางธาตุ 6.โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์ โปรแกรมความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต รูปภาพจาก rayongwit.ac.th โปรแกรมดนตรีไทยแสนสนุก รูปภาพจาก thaiware.com โครงงานประยุกต์ใช้งาน 1. โปรแกรมระบบงานการกีฬา 2. โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivist 3. โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น 4. โปรแกรมระบบแฟ้ มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001 5. เครื่องช่วยคนพิการแขนอ่านหนังสือ 6. เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่าน โทรศัพท์มือถือ 7. เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ เครื่องรดน้าต้นไม้อัตโนมัติ รูปภาพจาก webindex.onlineoops.com โปรแกรมสารบรรณสาเร็จรูป รูปภาพจาก 212cafe.com โครงงานพัฒนาเกม 1. โปรแกรมเกมเพื่อความบันเทิง War of Oracle 2. โปรแกรม ต่อให้เพิ่ม เติมให้เต็ม (Magic Puzzle) 3. โปรแกรม เกมผู้รอดชีวิต 4. โปรแกรม Maths&Photo Hunt 2 in 1 5. โปรแกรมโลโก้บิงโก 6. โปรแกรมเกมทศกัณฑ์ 7. โปรแกรมรองเท้าอาถรรพ์ บรรณานุกรม http://kroosuveera.blogspot.com/2011/09/blog-post_13.html https://sites.google.com/site/krutermsaksuwan/home/keiyw-kab-khru- teim- sakdi/khwam-ru-reuxng/khwam-hmay-khxng-khorng-ngan http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit1/unit1-1.html http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e-learning/project/unit1/01_3.html