ݺߣ
Submit Search
บทที่ 2
•
0 likes
•
386 views
Pongpitak Toey
Network
Read less
Read more
1 of 26
Download now
Download to read offline
More Related Content
บทที่ 2
1.
บทที่ 2 องค์ประกอบพื้นฐานเกี่ยวกับระบบครือข่าย
2.
สถานการณ์ปัญหาที่ 2 ทัดคุงวิศวกรครือข่ายหนุ่มใหญ่ ได้รับมอบหมายให้จัดอุปกรณ์ ครือข่ายเพื่อนาไปใช้กับศูนย์คอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง
ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆ มี NIC, Fiber Optic, Router, Hub, Twisted Pairs, Switch, Coaxial Cable, Bridge, Repeater, Transceiver, Controller ซึ่งเป็นงาน ครั้งแรกของทัดคุง ซึ่งอุปกรณ์บางอย่างทัดคุงยังไม่เข้าใจว่าจะนาไปใช้ งานอย่างไร อยากให้เพื่อนๆ ช่วยทัดคุงทาภารกิจต่อไปนี้ด้วย
3.
1. จงจาแนกอุปกรณ์ครือข่ายว่าสามารถจาแนกได้ กี่ประเภท ได้แก่อะไรบ้าง
จงอธิบายอย่างละเอียด - 3 ประเภท - Ȩตเวิร์คการ์ด - อุปกรณ์ครือข่าย - สายส่งสัญญาณ
4.
1. Ȩตเวิร์คการ์ด Ȩตเวิร์คการ์ดจะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ และระบบครือข่าย
ส่วนใหญ่จะ เรียกว่า “NIC (Network Interface Card)” หรือบางทีก็เรียกว่า “LAN การ์ด (LAN Card)”
5.
2. สายส่งสัญญาณ สายโคแอ็กเชียล (Coaxial Cable) สายคู่บิดเกลียว (Twisted
Pairs) สายใยแก้วนาแสง (Fiber Optic)
6.
3. อุปกรณ์ครือข่าย ฮับ (Network
Hub) สวิตช์(Network Switch) รีพรีทเตอร์ (Repeater) บริดจ์(Network Bridge)
7.
Transceiver เราท์เตอร์ (Router)
8.
2. จากข้อ 1
ให้ระบุความสัมพันธ์ของแต่ละ ประเภทพร้อมอธิบายเหตุผลว่าถึงการจัด ประเภทดังกล่าว
9.
1. Ȩตเวิร์คการ์ด หรือ
NIC (Network Interface Card) เป็นการ์ดที่เสียบเข้า กับช่องบน เมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นชุดเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ และครือข่าย
10.
2. สายโคแอ็กเชียล (Coaxial
Cable) สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pairs) สายใยแก้วนาแสง (Fiber Optic) มีความสัมพันธ์กันคือ เป็นสื่อกลาง ของสายสัญญาณที่ใช้ในการรับ-ส่ง ข้อมูลป็นหลักเหมือนกัน และมีความ แตกต่างกันที่ ลักษณะทางกายภาพ และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทาสายสัญญาณ แต่ละชนิด ซึ่งทั้ง 3 ชนิดนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ การใช้งานของผู้ใช้
11.
3.อุปกรณ์ครือข่าย Router, Hub
, Switch, Bridge, Repeater, Transceiver, Controller มีความสัมพันธ์กันคือ ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อเครื่อง คอมพิวเตอร์ให้กลายเป็นระบบครือข่ายเหมือนกัน ซึ่งจะต้องอาศัย อุปกรณ์ดังกล่าวทาหน้าที่รับและส่งข้อมูลโดยผ่านทางสื่อกลาง อุปกรณ์ บางชนิด เช่น Hub และ Switch มีหน้าที่การใช้งานคล้ายๆกัน
12.
3. จงจัดหมวดหมู่อุปกรณ์แต่ละประเภท พร้อมอธิบาย ความหมาย
คุณสมบัติ และการนาไปใช้ประโยชน์ อย่างละเอียด
13.
อุปกรณ์ครือข่าย
14.
ฮับ(HUB) ฮับ (Hub) เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในการเชื่อมต่อเครื่องจ
านวนมากเข้าด้วยกัน ในครือข่าย คอมพิวเตอร์ โดยที่ฮับจะมีพอร์ต (Port) หรือช่องส าหรับต่อสาย RJ-45 เข้า มาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ และท าหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการกระจายข้อมูล ไปยังเครื่อง อื่นๆ ในระบบครือข่าย การนาไปใช้ประโยชน์คือเหมาะสาหรับใช้งานในระบบครือข่ายขนาดเล็กที่มี เครือจานวนเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่มากประมาณ 3 -16 เครื่อง
15.
สวิตช์ (Switch) สวิตช์ใช้ในการเชื่อมต่อเครื่องจานวนมากเข้าด้วยกันในครือข่าย คอมพิวเตอร์
ซึ่งหน้าที่ คล้ายกับฮับแต่มีความ แตกต่างที่วงจรการทางานภายในจะใช้หลักการของวงจรสวิตชิ่งที่สลับการ ส่งข้อมูลในแต่ละพอร์ตไปมา ไม่ได้แบ่งช่องทางการส่งผ่านข้อมูลเหมือนฮับจึงท าให้แต่ละพอร์ต (Port) มีความสามารถในการส่งข้อมูล ได้สูงกว่า การนาไปใช้ประโยชน์คือเหมาะสาหรับใช้งานในระบบครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีเครือจานวน เครื่องคอมพิวเตอร์มาก เช่น ในหอพัก หรือองค์กรต่างๆ
16.
รีพีตเตอร์ (repeater) รีพีตเตอร์เป็นอุปกรณ์ระบบครือข่ายที่ใช้ในการเชื่อมต่อสายเคเบิล 2 เส้นเข้าด้วยกัน
เพื่อเพิ่ม ระยะทางการเชื่อมต่อระบบครือข่าย การนาไปใช้ประโยชน์คือเมื่อเราต้องการเชื่อมโยงระบบครือข่าย ออกไปไกลเกินกว่าสายสัญญาณที่ใช้ จะรองรับได้ จะต้องใช้รีพีตเตอร์ช่วย ในการขยายสัญญาณข้อมูล
17.
บริดจ์(Network Bridge) บริดจ์ เป็นอุปกรณ์เชื่อมโยงครือข่ายของครือข่ายที่แยกจากกัน บริดจ์จึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างสอง
ครือข่าย
18.
เราท์เตอร์ (Router) เราท์เตอร์เป็นอุปกรณ์ระบบครือข่ายซึ่งทาหน้าที่เสมือนสะพานสาหรับเชื่อมต่อครือข่าย ท้องถิ่นหรือระบบครือข่าย LAN
(Local Area Network) เข้ากับระบบครือข่าย WAN (Wide Area Network) ขนาดใหญ่ และเมื่อครือข่าย LAN ถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันโดยใช้เราท์เตอร์ ครือข่าย LAN แต่ละฝั่งจะยังคงมีครือข่ายที่เป็นของตนเองซึ่งเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการ ครือข่ายภายใน
19.
Transceiver Transceiver คือ เครื่องรับและส่งวิทยุ
รวมกันป็Ȩครื่องึϸยว
20.
Ȩตเวิร์คการ์ด
21.
NIC (Network Interface
Card) เป็นอุปกรณ์รับการเชื่อมต่อจากครือข่ายอินเตอร์เน็ตเข้าเครื่อง คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์นี้จะทาหน้าที่ แปลงข้อมูลเป็นสัญญาณที่สามารถ ส่งไปตามสายสัญญาณหรือสื่อแบบอื่นได้
22.
สายสัญญาณ
23.
สายโคแอ็กเชียล (Coaxial Cable) สายโคแอ็กเชียล
(Coaxial Cable) มีลักษณะคล้ายกับสายเคเบิลทีวี คือ มี แกนเป็นทองแดง ห่อหุ้มด้วยฉนวน แล้วหุ้มด้วยตาข่ายโลหะ ชั้นนอกสุดเป็นวัสดุ ป้องกันสายสัญญาณ สายประเภทนี้นิยมใช้ มากในครือข่ายสมัยแรกๆ แต่ปัจจุบันไม่ นิยมใช้แล้ว
24.
สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pairs) สายคู่บิดเกลียว
(Twisted Pairs) เป็นสายสัญญาณมาตรฐานที่นิยม ใช้มากที่สุดในระบบ ครือข่ายปัจจุบัน สายสัญญาณจะประกอบด้วยสาย ทองแดงที่ห่อหุ้มด้วยฉนวน 2 เส้นแล้วบิดเป็นเกลียว เหตุที่บิดเป็นเกลียว ก็เพื่อลดสัญญาณรบกวนนั่นเอง
25.
สายใยแก้วนาแสง (Fiber Optic) สายใยแก้วนาแสง
(Fiber Optic) เป็นสายที่ใช้แสงเป็นสัญญาณ และแก้ว หรือพลาสติกใสเป็น สื่อนาสัญญาณ ซึ่งสายใยแก้วนาแสงสามารถส่งข้อมูลได้ใน อัตราสูงและระยะไกลกว่าสายสัญญาณประเภทโลหะแต่การผลิต การติดตั้ง และดูแล รักษาจะยุ่งยาก และราคาแพงกว่าสายที่เป็นโลหะ ดังนั้นสายใยแก้ว นาแสงจึงเหมาะสาหรับลิงค์ที่ต้องการ แบนด์วิธสูง และมีความเชื่อถือได้สูง และสาหรับการส่งข้อมูลระยะไกล เช่น ลิงค์หลัก (Backbone) ของ ระบบ ครือข่าย
26.
รายชื่อผู้จัดทา 1. นางสาวฉัตรฑริกา เวชคง
573050203-9 2. นายพีรวิชญ์ ภูพานเพชร 573050220-9 3. นายพงศ์พิทักษ์ รัตนภักดี 573050564-7
Download