ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ใบงานที่ 2
 เรื่อง ความหมายและความสาคัญของโครงงานคอมพิว๶ตอร์
ความหมายและความสาคัญของโครงงาน
คอมพิวเตอร์
ความหมายและความสาคัญของโครงงาน
คอมพิวเตอร์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อ
ความเจริญก้าวหน้าของสังคม ปัจจุบันเทคโนโลยี
ด้านนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่อง
ยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่
ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของ
คอมพิวเตอร์ จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้น
ฐานเป็นสาคัญ การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์
เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์
ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลงโลกของเรา
ในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลงโลกของเราในด้าน
ต่างๆ
มากมาย ได้แก่
1.สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคม
สารสนเทศ
2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จาก
ระบบคอมพิวเตอร์
3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สาคัญแทนเครื่องมืออื่นๆ
ในอดีต เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องคิดเลข เป็นต้น
4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่
ซับซ้อนต่างๆ
5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของ
โลกปัจจุบัน
การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อ
พัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในวิทยาการ
คอมพิวเตอร์และมีความสามารถในการพัฒนา
โปรแกรมได้ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์จะเป็น
สิ่งที่ทาให้ผู้เรียนสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่าง
สมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่สาคัญประการหนึ่งของการ
เรียนการสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรียน คือ การที่ผู้
เรียนได้มีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้
ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความ
รู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธี
หนึ่งคือการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และ
อุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ
เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือ
เพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียนการสอนให้มี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็น
กิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียน
รู้และฝึกทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และ
ซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆในการแก้
ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผล
งาน
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เรียน
สามารถศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่
ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาผสมผสานกัน
ซึ่งบางโครงงานอาจต้องใช้ความรู้อื่นๆ มาร่วมด้วย
โดยผู้เรียนจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา
พัฒนาโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน
ทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน โครงงานบาง
เรื่องอาจต้องการวัสดุอุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่ง
ผู้เรียนจะต้องพัฒนาขึ้นหรือดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้
ตรงกับความต้องการ โดยในการพัฒนาโครงงาน
คอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คาปรึกษา
ของผู้สอน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ
การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครง
งานคอมพิวเตอร์จะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้ผู้
เรียนมีความรู้ ความชานาญ และมีทักษะใน
การนาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้
ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้
ต่างๆ ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และยังมี
คุณค่าอื่นๆ อีกดังต่อไปนี้
• เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความ
สามารถตามศักยภาพของตนเอง
• เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้
ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนใน
ห้องตามปกติ
•ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา
การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน
• กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้าน
เทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่จะประกอบ
อาชีพทางด้านนี้
• ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทาง
สร้างสรรค์
• สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน
รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนสนใจคอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
• สร้างสานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและ
พัฒนาระบบด้วยตนเอง
ขอขอบคุณ
http://kroosuveera.blogspot.com/2
011/09/blog-post_13.html-
ใบงานที่ 3
เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครง
งาน
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
มี 5 ประเภท ให้นักเรียนค้นหา ขอบข่ายของโครงงาน
แต่ละประเภท เป็นข้อๆ (ค้นจากห้องสมุด / อินเทอร์เน็ต)
แล้วบันทึกลงกระดาษขนาด A4 ที่เตรียมมา พร้อมเขียน
แหล่งที่มา หรือ Address ของ website ที่นักเรียน
ค้นหาข้อมูลเหล่านั้นด้วยโครงงานคอมพิวเตอร์ แบ่ง
ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานดังนี้ - การพัฒนาสื่อ
เพื่อการศึกษา
- การพัฒนาเครื่องมือ
- การทดลองทฤษฎี
- การประยุกต์ใช้งาน
- การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ขอบข่ายของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงาน การดาเนินงาน
โดยมีนกเรียนเป็นผู้ริเริมสร้างสรรค์
และครู ัั ั่อาจารย์เป็นผู้ให้คาแนะนา
ปรึกษา สรุปได้ดังนี้คือ
1. เป็นกิจกรรมการศึกษาที่ให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า
ปฏิบัติด้วยตนเอง โดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตาม
เนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์ และกิจกรรม
ต่างๆ ที่ได้พบเห็นมาแล้ว
2. นักเรียนทุกคนเป็นผู้พิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง
หรือกลุ่ม จานวน 2-8 คนต่อกลุ่ม โดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ
เป็นภาคเรียน หรือมากกว่าก็ได้
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครง
งานที่จะศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด
สนใจและความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน
แผนปฏิบัติงาน และแปรผลรายงานต่อครูอาจารย์ที่ปรึกษา
เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตาจุดหมายที่กาหนด
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของ
นักเรียนตามวัยและสติปัญญารวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนิน
งานด้วยโครงงานประเภทต่างๆ
การแบ่งประเภทของโครงงานมีหลายวิธี เช่น แบ่งตามหมวด
วิชาการงานและอาชีพในโรงเรียน เช่น โครงงาน
เกษตรกรรม โครงงานคหกรรม โครงงานอุตสาหกรรม โครง
งานวิทยาศาสตร์ เป็นต้น และจากขอบข่ายโครงงานดังกล่าว
จะเห็นได้ว่านักเรียนเป็นผู้ดาเนินงานโดยได้รับคาแนะนาจาก
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน และนักเรียนลงมือปฏิบัติด้วย
ตนเอง ทั้งด้านการเสนอโครงงาน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ตลอดจนทาแผนปฏิบัติการ และรายงานผลตามจุดมุ่งหมายที่
กาหนดไว้ ทาให้สามารถแยกประเภทของโครงงานได้ 4
ประเภท ดังนี้คือ
1. ประเภทพัฒนาผลงาน
2. ประเภทศึกษา ค้นคว้า ทดลอง
3. ประเภทสิ่งประดิษฐ์
4. ประเภทสารวจข้อมูล
โครงงานประเภทพัฒนาผลงาน โครงงานลักษณะนี้
เกิดจากการศึกษาเนื้อหาทางวิชาการและอาชีพหรือ
วิชาสามัญต่างๆ แล้วนำามาบูรณาการ ปรับปรุงพัฒนา
ให้สอดคล้องกับแนวทางทฤษฎีหรือหลักวิชาการดัง
กล่าว ส่งผลให้ผลงานเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ดังตัวอย่าง
ดังนี้
 1. การเลี้ยงปลา นักเรียนอาจเลือกโครงงานการเลี้ยง
ปลาสวยงาม เช่น ปลาคาร์ฟ ปลาทอง ปลากัด ปลาก
ราย ฯลฯ
 2. พืชผัก นักเรียนอาจเลือกทำาโครงงานปลูกผักกาง
มุ้ง เช่น ผักคะน้า ผักกาดเขียว กวางตุ้ง ผักกาดขาว
ผักบุ้งจีน ฯลฯ
 3. การถนอมอาหาร อาจเลือกทำาโครงงานการแปรรูป
โครงงานประเภทศึกษา ค้นคว้า ทดลอง โครงงานนี้
เป็นโครงงานที่เกิดขึ้นจากการนำาหลักการทฤษฎีใน
วิชาการมาทดลอง เพื่อยืนยันทฤษฎีหรือหลักการที่ได้
ศึกษามาแล้ว หรือต้องการทราบแนวทางเพิ่มคุณค่า
และการใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น เช่น โครงงาน
 - การศึกษาหลักสูตรอาหารไก่ตอน
 - การทดลองปลูกผักในนำ้ายา (โดยไม่ใช้ดิน)
 - การใช้ฮอร์โมนกับกิ่งกุหลาบ
 - การใช้ฮอร์โมนแปลงเพศปลานิล
 - การคิดค้นสูตรทำาแป้งจากกล้วยชนิดต่างๆ
 - การศึกษาสูตรอาหารเร่งสีปลาคาร์ฟ
 - การคิดค้นสูตรย้อมสีปลาออสการ์
โครงงานประเภทสร้างสิ่งประดิษฐ์ โครงงานประเภทนี้
โครงงานนี้ เกิดจากการศึกษาทฤษฎีหรือพบเห็นผล
งานของผู้อื่นมาแล้ว เกิดความคิดสร้างสรรค์ที่จะ
พัฒนาต่อไป จึงประดิษฐ์คิดค้นให้สามารถใช้
ประโยชน์ได้ดียิ่งขึ้น เช่น โครงงาน
 - การประดิษฐ์หัวฉีดพ่นนำ้าในแปลงปลูกผัก
 - การประดิษฐ์เครื่องให้นำ้าพืชโดยกำาหนดเวลา
 - การประดิษฐ์เครื่องตีนำ้าเพื่อเพิ่มออกซิเจนในบ่อเลี้ยง
กุ้งกุลาดำา
 - การประดิษฐ์เครื่องให้อาหารสุกรแบบอัตโนมัติ
 - การประดิษฐ์เครื่องกรองนำ้าในตู้ปลา
 - การประดิษฐ์เครื่องเก็บผลไม้ เช่น ชมพู่ มะม่วง ฯลฯ
โครงงานประเภทสารวจข้อมูล โครงงานประเภทนี้
เป็นโครงงานที่ได้ศึกษาและสำารวจ เพื่อนำาข้อมูลมาใช้
ประโยชน์ในการพัฒนา ปรับปรุงหรือส่งเสริมให้
ผลผลิตหรือผลงานมีคุณภาพหรือมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
หรือเพื่อให้ทันเหตุการณ์ยิ่งขึ้น เช่น โครงงาน
 - การสำารวจราคาพืชผักในตลาดท้องถิ่น
 - การสำารวจแหล่งปลูกผักกางมุ้งในท้องถิ่น
 - การสำารวจความต้องการพืชผักของผู้บริโภคในท้อง
ถิ่น
 - การสำารวจการเลี้ยงปลาสวยงามในจังหวัด
ฉะเชิงเทรา
 - การสำารวจการเลี้ยงกุ้งกุลาดำาในพื้นที่นำ้าจืดใน
จังหวัดฉะเชิงเทรา
 - การสำารวจการประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ในท้องถิ่น
 การสำารวจพื้นที่การปลูกมะม่วงของจังหวัดฉะเชิงเทรา
ที่มา :
http://www.google.co.th/url?
sa=t&rct=j&q=&esrc=/slideshow/2-8-26504271/26504271/s&source=web&cd=1&s
qi=2&ved=0CFEQFjAA&url=http%3A%2F
%2Fwww.sahavicha.com%2FUserFiles
%2FFile
%2Fknowledge_11.doc&ei=TJUDUIT0A8vyr
Qfnn9mXBg&usg=AFQjCNE-
CsSRmS_vreU5fYGfHqdPeh__1A&sig2=MM
RUo94YHRDEbxYCHxNzUA
ใบงานที่ 4
 “ ”เรื่อง โครงงานประเภท การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็น
โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้าง
โปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท
ทบทวน และคำาถามคำาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือ
รายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็น
อุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามา
ศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบ
การสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อ
ในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปร
เจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล  ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชำากิ่งกุหลาบ หลัก
ภาษาไทย  และสถานที่สำาคัญของประเทศไทย เป็นต้น
ใบงานที่ 5
 “ ”เรื่อง โครงงานประเภท การพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงาน
ประยุกต์ต่างๆ โดยส่วน ใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาด
รูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมอง วัตถุในมุมต่างๆ
เป็นต้น ส้าหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรม
ประมวลค้า ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออ้านวยความ
สะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย ส้าห
รับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้ส้าหรับช่วยการออกแบบ
สิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้ วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบน
และด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์ค้านวณค่า และภาพที่ควรจะ
เป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่าง
สะดวก
ที่มา
http://www.google.co.th/imgres?
um=1&hl=th&sa=N&biw=1366&bih=667&tbm=isch&tbnid=OpH1IlAwdyHpoM
:&imgrefurl=http://lddl.info/221/%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%259B
%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2581%25E0%2
5B8%25A3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25AA
%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%2
5B8%2587%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2580
%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25A5%25203%2520%25E0%25B8%2
5A1%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4%2520
Google
%2520SketchUp.html&docid=mSLbxh7HfqYjhM&imgurl=http://lddl.info/back/
picture/1323778240.jpg&w=260&h=194&ei=EXJRUJvLCY_PrQfbm4DICQ&z
oom=1&iact=hc&vpx=658&vpy=300&dur=643&hovh=151&hovw=201&tx=62
&ty=58&sig=103641532276294746777&page=1&tbnh=150&tbnw=200&start
=0&ndsp=16&ved=1t:429,r:13,s:0,i:11
ใบงานที่ 6
 “เรื่อง โครงงานประเภท การทดลองทฤษฎี
”
“โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี”
“โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี”เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจา
ลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์
จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวม
ความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการ
ศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร
สมการหรือคาอธิบาย พร้อมทั้งการจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็น
ภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความ
เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ใน
เรื่องนั้นๆเป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการ
ไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลอง
เรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
ที่มา
http://www.thaigoodview.com/node/1
7030?page=0,1
ใบงานที่ 7
 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ ใช้ งาน ”
• โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
• โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน
ชีวิตประจำาวันอาทิเช่น ซอฟต์แวร์สำาหรับการออกแบบและตกแต่งภายใน
อาคาร ซอฟต์แวร์สำาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สำาหรับการระบุคนร้าย
เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ
อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น  โครงงานลักษณะ
นี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนำาข้อมูลที่ได้
มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบ
การทำางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มี
ความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรแกรม
ระบบงานการกีฬา โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
แหล่งข้อมูล
• http://www2.nectec.or.th/nsc
http://school.obec.go.th/nitadhatayai/project1.ht
m 
http://www.lks.ac.th/kuanjit/menustruture.htm
http://www.radompon.com/computerproject/wor
dpress/?page_id=2
http://www.rayongwit.ac.th/chanarat
ใบงานที่ 8
“ ”เรื่อง โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็น
โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริง
ในชีวิตประจำาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สำาหรับการออกแบบและตกแต่ง
ภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สำาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สำาหรับการ
ระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของ
ขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพ
สูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของ
ผู้ใช้ก่อน แล้วนำาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของ
นั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทำางานหรือทดสอบคุณภาพของ
สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้
เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และ
เครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

More Related Content

งานคอมใบ 2 8