ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
โครงงาȨอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิวเตอร์
• หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนา
โปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการ
พัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทาโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้า
และพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทาโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนา
โปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้จุดมุ่งหมายสาคัญของการทาโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับ
ประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อ
การเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนา
เกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับ
เพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
ความสาคัญของโครงงาȨอมพิวเตอร์
• โครงงาȨอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทาให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่สาคัญ 5 ประการ ดังนี้
1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียนเป็นผู้ทาโครงงานต้องนาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจ
โครงงาȨอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทาโครงงานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า รวมทั้ง
เลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ
2.ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
• 2.1การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจากอะไร
• 2.2 การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนาความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการ
สร้างสรรค์โครงงาน
• 2.3การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
• 2.4การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโครงงานใดและไม่ควรทาโครง งานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผล
กระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทาให้คนใน
สังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น
• 2.5การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า
เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนาเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้
คาปรึกษา
• 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้
เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม
ขอบข่ายของโครงงาȨอมพิวเตอร์
• 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจาก
ประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
• 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือ
ใหญ่
• 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม
• 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงาน
ร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้
• 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
• โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาค
แบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ถือว่า
เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็
ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์
วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน
ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
• โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (
เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น
ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรม
ประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนาไปใช้งานต่าง ๆ ได้
มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท
• โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี
เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและ
แนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคาอธิบายก็
ได้ พร้อมทั้งนาเสนอวิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่าง
เช่น การทดลองเรื่องการไหลของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น
• โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน(
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร
ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้
สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์
ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบ
คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม
และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
• โครงงานพัฒนาเกม (
เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมที่
พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์
การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่
ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้ป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ
แหล่งที่มา
https://www.gotoknow.org/posts/314100
https://krudarin.wordpress.com/ตกแต่งเว็บเพจด้วยกราฟิ/ความสาคัญของโครงงานคอม/
http://www.acr.ac.th/acr/ACR_ELearning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/Com
puterProject/content1.html
https://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/08/ประเภทของโครงงานคอม/

More Related Content

What's hot (17)

โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
chutikansaiudta
งาȨอมงาȨู่
งาȨอมงาȨู่งาȨอมงาȨู่
งาȨอมงาȨู่
Salisa Koonyotying
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
PooncharatKuntanat1
Computer project
Computer  projectComputer  project
Computer project
Giftzii
ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8
supatcha roongruang
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงาȨอมพิวเตอร์ เลขที่ 13,34
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงาȨอมพิวเตอร์ เลขที่ 13,34ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงาȨอมพิวเตอร์ เลขที่ 13,34
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงาȨอมพิวเตอร์ เลขที่ 13,34
Orratai
Work2 3
Work2 3Work2 3
Work2 3
chairittonmit
กิจกรรมที่2-3 โครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2-3 โครงงาȨอมพิวเตอร์ กิจกรรมที่2-3 โครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2-3 โครงงาȨอมพิวเตอร์
paifahnutya
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
ยศวริศ โยมา
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2
Panipon Ounkham
โครงงาȨอมพิวเตอร์ของกอาย
โครงงาȨอมพิวเตอร์ของกอายโครงงาȨอมพิวเตอร์ของกอาย
โครงงาȨอมพิวเตอร์ของกอาย
eyecosmomo
Presentation 3
Presentation 3Presentation 3
Presentation 3
Suppamas
กิจกรรมที่2 3
กิจกรรมที่2 3กิจกรรมที่2 3
กิจกรรมที่2 3
Baiprik
งานคอม กิจกรรมที่2
งานคอม กิจกรรมที่2งานคอม กิจกรรมที่2
งานคอม กิจกรรมที่2
phichaya henphrom
Activity2
Activity2Activity2
Activity2
KUMBELL
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
chutikansaiudta
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
PooncharatKuntanat1
Computer project
Computer  projectComputer  project
Computer project
Giftzii
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงาȨอมพิวเตอร์ เลขที่ 13,34
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงาȨอมพิวเตอร์ เลขที่ 13,34ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงาȨอมพิวเตอร์ เลขที่ 13,34
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงาȨอมพิวเตอร์ เลขที่ 13,34
Orratai
กิจกรรมที่2-3 โครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2-3 โครงงาȨอมพิวเตอร์ กิจกรรมที่2-3 โครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2-3 โครงงาȨอมพิวเตอร์
paifahnutya
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2
Panipon Ounkham
โครงงาȨอมพิวเตอร์ของกอาย
โครงงาȨอมพิวเตอร์ของกอายโครงงาȨอมพิวเตอร์ของกอาย
โครงงาȨอมพิวเตอร์ของกอาย
eyecosmomo
กิจกรรมที่2 3
กิจกรรมที่2 3กิจกรรมที่2 3
กิจกรรมที่2 3
Baiprik
งานคอม กิจกรรมที่2
งานคอม กิจกรรมที่2งานคอม กิจกรรมที่2
งานคอม กิจกรรมที่2
phichaya henphrom

Similar to กิจกรรมที่ 2 (20)

โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
leyzover
กิจกรรมที่3 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่3 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์กิจกรรมที่3 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่3 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
omaha123
Compurter615 191213031720
Compurter615 191213031720Compurter615 191213031720
Compurter615 191213031720
ssuser0b807b1
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
nutnpor
กิจกรรมที่ 3
กิจกรรมที่ 3กิจกรรมที่ 3
กิจกรรมที่ 3
Chanoknan Mongchuy
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Chawanat Chailap
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Sarun Klambunsawad
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Kanyarad Smlf
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2
Guy Prp
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Nathika Polnuruk
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Pear Towichai
ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1
watthanee
ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1
watthanee
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Krongpeth Saengwongkij
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
leyzover
กิจกรรมที่3 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่3 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์กิจกรรมที่3 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่3 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
omaha123
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
nutnpor
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Chawanat Chailap
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Sarun Klambunsawad
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Kanyarad Smlf
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2
Guy Prp
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Nathika Polnuruk
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Pear Towichai
ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1
watthanee
ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1
watthanee
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Krongpeth Saengwongkij

More from maddemon madden (15)

โครงงาȨอม๶วิด
โครงงาȨอม๶วิดโครงงาȨอม๶วิด
โครงงาȨอม๶วิด
maddemon madden
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
โครงงาȨอมพิวเตอร์2โครงงาȨอมพิวเตอร์2
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
maddemon madden
โครงงาȨอม1
โครงงาȨอม1โครงงาȨอม1
โครงงาȨอม1
maddemon madden
โครงงาȨองปณิต
โครงงาȨองปณิตโครงงาȨองปณิต
โครงงาȨองปณิต
maddemon madden
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
maddemon madden
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
maddemon madden
ผังการสร้างข้อสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ประจำปีการศึกษา 2561
ผังการสร้างข้อสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ประจำปีการศึกษา 2561ผังการสร้างข้อสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ประจำปีการศึกษา 2561
ผังการสร้างข้อสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ประจำปีการศึกษา 2561
maddemon madden
Tb ม6 60(1)
Tb ม6 60(1)Tb ม6 60(1)
Tb ม6 60(1)
maddemon madden
2560 project 3333
2560 project  33332560 project  3333
2560 project 3333
maddemon madden
โครงงานคอม 607-27
โครงงานคอม 607-27โครงงานคอม 607-27
โครงงานคอม 607-27
maddemon madden
2560 project (2)
2560 project  (2)2560 project  (2)
2560 project (2)
maddemon madden
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
maddemon madden
24 (1)
24 (1)24 (1)
24 (1)
maddemon madden
ใบงานสำรวจตนเอง M6.doc4
ใบงานสำรวจตนเอง M6.doc4ใบงานสำรวจตนเอง M6.doc4
ใบงานสำรวจตนเอง M6.doc4
maddemon madden
ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6
maddemon madden
โครงงาȨอม๶วิด
โครงงาȨอม๶วิดโครงงาȨอม๶วิด
โครงงาȨอม๶วิด
maddemon madden
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
โครงงาȨอมพิวเตอร์2โครงงาȨอมพิวเตอร์2
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
maddemon madden
โครงงาȨองปณิต
โครงงาȨองปณิตโครงงาȨองปณิต
โครงงาȨองปณิต
maddemon madden
ผังการสร้างข้อสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ประจำปีการศึกษา 2561
ผังการสร้างข้อสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ประจำปีการศึกษา 2561ผังการสร้างข้อสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ประจำปีการศึกษา 2561
ผังการสร้างข้อสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ประจำปีการศึกษา 2561
maddemon madden
โครงงานคอม 607-27
โครงงานคอม 607-27โครงงานคอม 607-27
โครงงานคอม 607-27
maddemon madden
ใบงานสำรวจตนเอง M6.doc4
ใบงานสำรวจตนเอง M6.doc4ใบงานสำรวจตนเอง M6.doc4
ใบงานสำรวจตนเอง M6.doc4
maddemon madden
ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6
maddemon madden

กิจกรรมที่ 2

  • 2. ความหมายของโครงงาȨอมพิวเตอร์ • หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนา โปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการ พัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทาโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้า และพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทาโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนา โปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้จุดมุ่งหมายสาคัญของการทาโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับ ประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อ การเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนา เกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับ เพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
  • 3. ความสาคัญของโครงงาȨอมพิวเตอร์ • โครงงาȨอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทาให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่สาคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียนเป็นผู้ทาโครงงานต้องนาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจ โครงงาȨอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทาโครงงานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า รวมทั้ง เลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ 2.ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ • 2.1การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจากอะไร • 2.2 การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนาความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการ สร้างสรรค์โครงงาน • 2.3การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
  • 4. • 2.4การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโครงงานใดและไม่ควรทาโครง งานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผล กระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทาให้คนใน สังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น • 2.5การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนาเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้ คาปรึกษา • 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้ เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา 4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต 5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม
  • 5. ขอบข่ายของโครงงาȨอมพิวเตอร์ • 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจาก ประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว • 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือ ใหญ่ • 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม • 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงาน ร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้ • 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
  • 6. ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์ • โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ( เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาค แบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ถือว่า เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
  • 7. • โครงงานพัฒนาเครื่องมือ ( เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรม ประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนาไปใช้งานต่าง ๆ ได้ มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท
  • 8. • โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและ แนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคาอธิบายก็ ได้ พร้อมทั้งนาเสนอวิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่องการไหลของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น
  • 9. • โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน( เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้ สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบ คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
  • 10. • โครงงานพัฒนาเกม ( เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมที่ พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์ การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้ป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ