ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ขั้นตอนการทาโครงงาน
คอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ดังนี้
1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน
(การตั้งชื่อโครงงานคอมพิวเตอร์ที่สนใจจะทา)
2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
3. การจัดทาข้อเสนอโครงงาน
4. การลงมือพัฒนาโครงงาน
5. การจัดทารายงาน
6. การนาเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน
1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน
> โดยทั่วไปเรื่องที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากเรื่อง
ทั่วๆ ไป จากปัญหา คาถาม หรือความสนใจใน เรื่องต่างๆอย่างไรก็ตามในการ
ตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณา
องค์ประกอบสาคัญๆ ดังนี้
- เห็นประโยชน์และความคุ้มค่าของเรื่องที่จะทาโครงงาน
- ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
- สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องได้
- มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษาซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญ
- มีเวลาเพียงพอ
- มีงบประมาณเพียงพอ
- มีความปลอดภัย
2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
> การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูลซึ่งรวมถึงการขอคาปรึกษาจากครู
ผู้เชี่ยวชาญ ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น จะ ช่วยให้ผู้เรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของ
เรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมใน เรื่องที่จะศึกษาจน
สามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสมในการศึกษา
ค้นคว้าดังกล่าว ผู้เรียนจะต้องบันทึกสรุปสาระสาคัญไว้ด้วย แหล่งข้อมูลที่สาคัญอีกแหล่งหนึ่งคือ
การศึกษาผลงานของโครงงานคอมพิวเตอร์ จากงานแสดงนิทรรศการหรือจากเอกสารรายงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจค้นหาได้จากเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลก จะช่วย เพิ่มพูนประสบการณ์
ให้กับผู้เรียนในด้านความรู้ เทคนิคและวิธีการพัฒนา นอกจากนี้ ยังทาให้เกิดแนวคิดที่จะ
ดัดแปลงผลงาน ดังกล่าวมาจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ในหัวข้อที่ตนสนใจด้วย ตัวอย่างเว็บไซต์
เช่น
1) http://oho.ipst.ac.th เป็นเว็บไซต์ของสาขาคอมพิวเตอร์ สถาบันส่งเสริมการสอน
วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสอนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
การประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
2) http://www.nectec.or.th/nsc เป็นเว็บไซต์ของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์
และคอมพิวเตอร์ แห่งชาติ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมให้ทุนวิจัยกับเยาวชนในการพัฒนา
โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างโครงงานและจัดการแข่งขัน
3) http://www. nectec.or.th/ysc เป็นเว็บไซต์ของศูนย์เทคโนโลยี
อิเล็กทรอนิกส์และ คอมพิวเตอร์แห่งชาติ ที่เกี่ยวข้องกับโครงงานนักวิทยาศาสตร์
รุ่นเยาว์ที่จัดการแข่งขันคัดเลือกโครงงานของผู้เรียน เป็นตัวแทน ประเทศไทยไป
แข่งขันในโครงการของบริษัทอินเทล ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
4) http://www.toryod.com เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมสิทธิบัตร
สิ่งประดิษฐ์ต่างๆที่ผู้เรียนสามารถ เข้าไปศึกษา แนวคิดเพื่อนามาใช้สร้างโครงงาน
หรือต่อยอดได้
5) http://www.ipthailand.org เป็นเว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทาง
ปัญญา
6) http://www.bangcare.net เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมเทคโนโลยี
สิ่งประดิษฐ์ที่อานวยความ สะดวกให้กับคนพิการ
3. การจัดทาข้อเสนอโครงงาน
แบ่งเป็น4หัวข้อดังนี้
3.1 กาหนดขอบเขตงาน วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการทบทวนเอกสารวิชาการ เพื่อนามากาหนด
ขอบเขตลักษณะ และแนวทางใน การวางแผนจัดทาโครงงาน
3.2 การออกแบบการพัฒนา การออกแบบพัฒนา มีการกาหนดลักษณะของคอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์ ตัวแปล ภาษา และวัสดุต่างๆ ที่ต้องใช้กาหนด คุณลักษณะของผลงานระบุเทคนิคที่ใช้
ในการพัฒนา พร้อมทั้งกาหนดตารางการปฏิบัติงาน
3.3 พัฒนาโครงงานขั้นต้น การพัฒนาโครงงานขั้นต้น เป็นการลงมือปฏิบัติเพื่อศึกษาความ
เป็นไปได้เบื้องต้นโดยอาจทาการ พัฒนาส่วนย่อยๆ บางส่วนตามที่ได้ออกแบบไว้โดยนาผลจาก
การปฏิบัติ ไปปรับปรุงแผนการปฏิบัติงานที่ออกแบบไว้ในครั้งแรกให้ เหมาะสมยิ่งขึ้น ขั้นตอนนี้
เป็นทางเลือกสาหรับผู้เสนอโครงงานที่ต้องการตรวจสอบความเป็นไปได้ของโครงงานและ
หลักการ
3.4 จัดทาและเสนอข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ เขียนข้อเสนอโครงงานนาเสนอต่ออาจารย์ที่
ปรึกษา เพื่ออาจารย์ที่ปรึกษาจะได้ แนะนาในส่วนที่ยังบกพร่องอยู่อีกครั้งซึ่งจะทาให้การวางแผน
และดาเนินการทาโครงงานเป็นไปอย่างราบรื่น
4. การลงมือพัฒนาโครงงาน
4.1 การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆที่จะใช้
ในการทดลอง พร้อมทั้งจัดเตรียมสถานที่ สาหรับใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วยและ
ควรเตรียมสมุดบันทึก
4.2 การลงมือพัฒนาปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลง
หรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทาให้ผลงานดี ขึ้น
4.3 การตรวจสอบผลงานและแก้ไข การตรวจสอบความถูกต้องของผลงานเป็น
ความจาเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่ พัฒนาขึ้นทางานได้ถูกต้องตรงกับความ
ต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมายและทาด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย
4.4 การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้วให้จัดทาสรุป
ด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่าง ครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบ
จากการทาโครงงานและทาการอภิปรายผลด้วย
4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสร็จ
สิ้นลงแล้วผู้เรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญหรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียน
เป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
5. การจัดทํารายงาน
เมื่อทาโครงงานจนได้ข้อมูลอย่างเพียงพอและทาการวิเคราะห์ผลและ
สรุปผลแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ต้องทาคือการจัดทา รายงาน ซึ่งจะรวมถึง
รายละเอียดต่างๆในการพัฒนา และคู่มือการใช้งานรายงานโครงงาน
คอมพิวเตอร์เป็นวิธีสื่อความหมายที่ มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจ
แนวคิด วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ตลอดจนข้อสรุปและ
ข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงาน ในการเขียนรายงานนั้น ผู้เรียนควร
ใช้ภาษาที่อ่านและเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมาให้
ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. ส่วนนา
2. ส่วนเนื้ อเรื่อง
3. ส่วนอ้างอิง
6. การนําเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน
การนาเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สาคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทา
โครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลของ ความคิด ความพยายามในการทางานที่ผู้
ทาโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีที่ทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การ
เสนอ ผลงานอาจทาได้ในหลายรูปแบบต่างๆกัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการ
อธิบายประกอบการรายงานด้วยคาพูดในที่ ประชุม การจัดนิทรรศการโดย
โปสเตอร์ และอธิบายด้วยคาพูด โดยผลงานที่นามาเสนอหรือจัดแสดงควร
ประกอบด้วยสิ่ง ต่อไปนี้
1) ชื่อโครงงาน
2) ชื่อผู้จัดทาโครงงาน
3) ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
4) คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน
5) วิธีการดาเนินการที่สาคัญ
6) การสาธิตผลงาน
7) ผลการสังเกตและข้อสรุปสําคัญที่ได้จากการทาโครงงาน
ถ้าเป็นการรายงานด้วยคาพูดต่อที่ประชุมควรมีการเตรียมการในประเด็นต่อไปนี้
1) จัดลาดับความคิดในการนาเสนออย่างเป็นระบบและนาเสนออย่าง
ตรงไปตรงมาด้วยภาษาที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย
2) ทาความเข้าใจกับเรื่องที่จะอธิบายให้ดี รวมถึงเตรียมข้อมูลที่อาจต้องใช้ในการ
ตอบคาถาม
3) หลีกเลี่ยงการนาเสนอด้วยวิธีอ่านรายงาน
4) ควรมองไปยังผู้ฟังขณะรายงาน
5) ตอบคาถามอย่างตรงไปตรงมา
6) รายงานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กาหนด
7) ควรใช้โปรแกรมนาเสนอประกอบการรายงาน
8) ความเหมาะสมของเนื้ อหาต่อผู้ฟัง
9) ถ้าเป็นโครงงานพัฒนาผลงานผลงานนั้นควรจะอยู่ในสภาพที่ทางานได้เป็น
อย่างดี
นาย ธีรพัฒน์ วิญญรัตน์ ม.6/10 เลขที่ 3

More Related Content

กิจกรรมที่2,3,4 โครงงานคอมพิวเตอร์

  • 2. ขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ดังนี้ 1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน (การตั้งชื่อโครงงานคอมพิวเตอร์ที่สนใจจะทา) 2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล 3. การจัดทาข้อเสนอโครงงาน 4. การลงมือพัฒนาโครงงาน 5. การจัดทารายงาน 6. การนาเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน
  • 3. 1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน > โดยทั่วไปเรื่องที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากเรื่อง ทั่วๆ ไป จากปัญหา คาถาม หรือความสนใจใน เรื่องต่างๆอย่างไรก็ตามในการ ตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณา องค์ประกอบสาคัญๆ ดังนี้ - เห็นประโยชน์และความคุ้มค่าของเรื่องที่จะทาโครงงาน - ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา - สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องได้ - มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษาซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญ - มีเวลาเพียงพอ - มีงบประมาณเพียงพอ - มีความปลอดภัย
  • 4. 2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล > การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูลซึ่งรวมถึงการขอคาปรึกษาจากครู ผู้เชี่ยวชาญ ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น จะ ช่วยให้ผู้เรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของ เรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมใน เรื่องที่จะศึกษาจน สามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสมในการศึกษา ค้นคว้าดังกล่าว ผู้เรียนจะต้องบันทึกสรุปสาระสาคัญไว้ด้วย แหล่งข้อมูลที่สาคัญอีกแหล่งหนึ่งคือ การศึกษาผลงานของโครงงานคอมพิวเตอร์ จากงานแสดงนิทรรศการหรือจากเอกสารรายงาน โครงงานคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจค้นหาได้จากเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลก จะช่วย เพิ่มพูนประสบการณ์ ให้กับผู้เรียนในด้านความรู้ เทคนิคและวิธีการพัฒนา นอกจากนี้ ยังทาให้เกิดแนวคิดที่จะ ดัดแปลงผลงาน ดังกล่าวมาจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ในหัวข้อที่ตนสนใจด้วย ตัวอย่างเว็บไซต์ เช่น 1) http://oho.ipst.ac.th เป็นเว็บไซต์ของสาขาคอมพิวเตอร์ สถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสอนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์ 2) http://www.nectec.or.th/nsc เป็นเว็บไซต์ของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ แห่งชาติ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมให้ทุนวิจัยกับเยาวชนในการพัฒนา โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างโครงงานและจัดการแข่งขัน
  • 5. 3) http://www. nectec.or.th/ysc เป็นเว็บไซต์ของศูนย์เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์และ คอมพิวเตอร์แห่งชาติ ที่เกี่ยวข้องกับโครงงานนักวิทยาศาสตร์ รุ่นเยาว์ที่จัดการแข่งขันคัดเลือกโครงงานของผู้เรียน เป็นตัวแทน ประเทศไทยไป แข่งขันในโครงการของบริษัทอินเทล ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา 4) http://www.toryod.com เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมสิทธิบัตร สิ่งประดิษฐ์ต่างๆที่ผู้เรียนสามารถ เข้าไปศึกษา แนวคิดเพื่อนามาใช้สร้างโครงงาน หรือต่อยอดได้ 5) http://www.ipthailand.org เป็นเว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทาง ปัญญา 6) http://www.bangcare.net เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมเทคโนโลยี สิ่งประดิษฐ์ที่อานวยความ สะดวกให้กับคนพิการ
  • 6. 3. การจัดทาข้อเสนอโครงงาน แบ่งเป็น4หัวข้อดังนี้ 3.1 กาหนดขอบเขตงาน วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการทบทวนเอกสารวิชาการ เพื่อนามากาหนด ขอบเขตลักษณะ และแนวทางใน การวางแผนจัดทาโครงงาน 3.2 การออกแบบการพัฒนา การออกแบบพัฒนา มีการกาหนดลักษณะของคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ตัวแปล ภาษา และวัสดุต่างๆ ที่ต้องใช้กาหนด คุณลักษณะของผลงานระบุเทคนิคที่ใช้ ในการพัฒนา พร้อมทั้งกาหนดตารางการปฏิบัติงาน 3.3 พัฒนาโครงงานขั้นต้น การพัฒนาโครงงานขั้นต้น เป็นการลงมือปฏิบัติเพื่อศึกษาความ เป็นไปได้เบื้องต้นโดยอาจทาการ พัฒนาส่วนย่อยๆ บางส่วนตามที่ได้ออกแบบไว้โดยนาผลจาก การปฏิบัติ ไปปรับปรุงแผนการปฏิบัติงานที่ออกแบบไว้ในครั้งแรกให้ เหมาะสมยิ่งขึ้น ขั้นตอนนี้ เป็นทางเลือกสาหรับผู้เสนอโครงงานที่ต้องการตรวจสอบความเป็นไปได้ของโครงงานและ หลักการ 3.4 จัดทาและเสนอข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ เขียนข้อเสนอโครงงานนาเสนอต่ออาจารย์ที่ ปรึกษา เพื่ออาจารย์ที่ปรึกษาจะได้ แนะนาในส่วนที่ยังบกพร่องอยู่อีกครั้งซึ่งจะทาให้การวางแผน และดาเนินการทาโครงงานเป็นไปอย่างราบรื่น
  • 7. 4. การลงมือพัฒนาโครงงาน 4.1 การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆที่จะใช้ ในการทดลอง พร้อมทั้งจัดเตรียมสถานที่ สาหรับใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วยและ ควรเตรียมสมุดบันทึก 4.2 การลงมือพัฒนาปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทาให้ผลงานดี ขึ้น 4.3 การตรวจสอบผลงานและแก้ไข การตรวจสอบความถูกต้องของผลงานเป็น ความจาเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่ พัฒนาขึ้นทางานได้ถูกต้องตรงกับความ ต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมายและทาด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย 4.4 การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้วให้จัดทาสรุป ด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่าง ครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบ จากการทาโครงงานและทาการอภิปรายผลด้วย 4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสร็จ สิ้นลงแล้วผู้เรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญหรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียน เป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
  • 8. 5. การจัดทํารายงาน เมื่อทาโครงงานจนได้ข้อมูลอย่างเพียงพอและทาการวิเคราะห์ผลและ สรุปผลแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ต้องทาคือการจัดทา รายงาน ซึ่งจะรวมถึง รายละเอียดต่างๆในการพัฒนา และคู่มือการใช้งานรายงานโครงงาน คอมพิวเตอร์เป็นวิธีสื่อความหมายที่ มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจ แนวคิด วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ตลอดจนข้อสรุปและ ข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงาน ในการเขียนรายงานนั้น ผู้เรียนควร ใช้ภาษาที่อ่านและเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมาให้ ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้ 1. ส่วนนา 2. ส่วนเนื้ อเรื่อง 3. ส่วนอ้างอิง
  • 9. 6. การนําเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน การนาเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สาคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทา โครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลของ ความคิด ความพยายามในการทางานที่ผู้ ทาโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีที่ทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การ เสนอ ผลงานอาจทาได้ในหลายรูปแบบต่างๆกัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการ อธิบายประกอบการรายงานด้วยคาพูดในที่ ประชุม การจัดนิทรรศการโดย โปสเตอร์ และอธิบายด้วยคาพูด โดยผลงานที่นามาเสนอหรือจัดแสดงควร ประกอบด้วยสิ่ง ต่อไปนี้ 1) ชื่อโครงงาน 2) ชื่อผู้จัดทาโครงงาน 3) ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา 4) คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน 5) วิธีการดาเนินการที่สาคัญ 6) การสาธิตผลงาน
  • 10. 7) ผลการสังเกตและข้อสรุปสําคัญที่ได้จากการทาโครงงาน ถ้าเป็นการรายงานด้วยคาพูดต่อที่ประชุมควรมีการเตรียมการในประเด็นต่อไปนี้ 1) จัดลาดับความคิดในการนาเสนออย่างเป็นระบบและนาเสนออย่าง ตรงไปตรงมาด้วยภาษาที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย 2) ทาความเข้าใจกับเรื่องที่จะอธิบายให้ดี รวมถึงเตรียมข้อมูลที่อาจต้องใช้ในการ ตอบคาถาม 3) หลีกเลี่ยงการนาเสนอด้วยวิธีอ่านรายงาน 4) ควรมองไปยังผู้ฟังขณะรายงาน 5) ตอบคาถามอย่างตรงไปตรงมา 6) รายงานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กาหนด 7) ควรใช้โปรแกรมนาเสนอประกอบการรายงาน 8) ความเหมาะสมของเนื้ อหาต่อผู้ฟัง 9) ถ้าเป็นโครงงานพัฒนาผลงานผลงานนั้นควรจะอยู่ในสภาพที่ทางานได้เป็น อย่างดี