2557 โครงงาน คอม
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2557
ชื่อโครงงาน Good Appearance
ชื่อผู้ทาโครงงาน 1.นางสาว ปริมญาภรณ์ โชติพิชชานันท์ เลขที่ 3 ชั้น ม.6 ห้อง 10
2.นางสาว กนกกาญจน์ นิพรรัมย์ เลขที่ 6 ชั้น ม.6 ห้อง 10
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม 2
1.นางสาวปริมญาภรณ์ โชติพิชชานันท์ เลขที่ 3 2.นางสาวกนกกาญจน์ นิพรรัมย์ เลขที่ 6
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
- ดูดีอย่างไรให้ดูดี
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) - Good Appearance
ประเภทโครงงาน สื่อการเรียนการสอน
ชื่อผู้ทาโครงงาน 1.นางสาวปริมญาภรณ์ โชติพิชชานันท์ 2.นางสาวกนกกาญจน์ นิพรรัมย์
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2557
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
- ในปัจจุบันประชากรของคนไทยมีแนวโน้มที่จะมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพสูง สาเหตุส่วนมากก็ มาจากการบริโภคที่ไม่ถูกวิธีการ การบริโภคไม่ตรงตามหลักโภชนาการ บางคนขาดสารอาหารตั้งแต่เด็ก และเมื่อโตมา ร่างกายก็ไม่สมบูรณ์แข็งแรง ทาให้ป่วยง่าย เป็นโรคต่างๆ อีกทั้งพฤติกรรมการกินที่ผิด เนื่องจากครอบครัวตามใจลูกจนเกินไป จนเกิดปัญหาที่ใหญ่หลวงสาหรับเด็กไทยในปัจจุบันนี้ เช่นโรคอ้วน และอาหารในปัจจุบันนี้พบว่าไม่ค่อยสะอาด พบสารแปลกปลอมมากมาย อีกทั้งยังมีให้เลือกบริโภคมากมาย หลายชนิดโดยเฉพาะฟ้าตฟู้ดที่เป็นสาเหตุของการทางายสุขภาพของคนไทย เนื่องจากสะดวกในการหาซื้อ ถึงราคาจะแพงแต่มันเป็นที่นิยมในปัจจุบันจึงมีผู้คนบริโภคมากมายโดยไม่คานึงถึงสุขภาพของตนเอง การ ทานอาหารพวกนี้ไม่ได้ทาให้เราอ้วนหรือเสียสุขภาพกายเพียงอย่างเดียว ทาให้เราเสียสุขภาพจิตไปด้วย เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอกไม่สวยงาม อ้วนเกินไป สิวขึ้น ทาให้กังวลว่าจะมีคนมองเรายังไง รูปลักษณ์ ภายนอกก็เป็นส่วนสาคัญส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต เช่น การรับสมัครพนักงาน บริษัทก็ส่วนมากก็ต้องการ พนักงานที่เก่งด้วยและบุกคลิกภายในนอกดูดี น่านับถือ เรามีความรู้เพียงอย่างเดียวไม่ได้ต้องมีความมั่นใจ ในตนเองอีกด้วย การมีรูปลักษณ์ที่ดีก็ถือว่าเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้ตนเองเหมือนกัน ทางคณะ ผู้จัดทาจึงได้มีการรวบรวมวิธีการดูแลสุขภาพให้ได้รู้กัน เช่น การบริโภคที่ดี การออกกาลังกาย เพื่อให้ ประชากรของไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้นตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ
- 3. 3
วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้ทุกๆคน ทุกเพศทุกวัย มีสุขภาพที่ดีขึ้น
2.เพื่อให้มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ร่างกายดูเป็นสัดส่วน ดูแข็งแรง
3.เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเรา เมื่อเรามีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ความมั่นใจของเราก็จะมากขึ้นด้วย
ขอบเขตโครงงาน เหมาะสาหรับวัยรุ่นจนถึงวัยทางาน ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกและสุขภาพร่างกายให้ไปในทางที่ ดีขึ้น
หลักการและทฤษฎี
การออกกาลังกาย ถือว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์กับร่างกายอย่างมาก ในปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจใน การออกกาลังกายมากขึ้น เราจึงควรมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการออกกาลังกาย สามารถเลือกวิธีการออกกาลัง กายที่เหมาะสม เพื่อให้การออกกาลังกายนั้นเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
ชนิดของการออกกาลังกาย
1. Aerobic exercise คือ การออกกาลังกายที่ไม่รุนแรงมากแต่มีความต่อเนื่อง เช่น เดิน วิ่งเหยาะ ๆ วิ่ง ทางไกล ว่ายน้า ถีบจักรยาน กระโดดเชือก เต้นแอโรบิค เป็นต้น เป็นการออกกาลังกายเพื่อสุขภาพควร ทาเป็นประจา
2. Anaerobic exercise คือ การออกกาลังกายแบบช่วยกลั้นลมหายใจ เช่น วิ่งระยะสั้น ยกน้าหนัก เทนนิส เป็นต้น
การเตรียมตัวก่อนออกกาลังกาย
ออกกาลังกายหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงการออกกาลังกายทันทีหลังตื่นนอน และควรหยุดออกกาลังกายอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเข้า นอน
ควรดื่มน้าหนึ่งแก้ว ก่อนออกมาซ้อมวิ่ง และพยายามดื่มน้าให้มากทุกวัน วิ่งเสร็จแล้วก็ควรดื่มน้าด้วย เพื่อป้องกันภาวะร่างกายขาดน้า
เลือกชุดกีฬาและรองเท้าที่เหมาะสมกับชนิดของกีฬา เช่น ชุดวิ่งควรจะเบาและระบายความร้อนจาก ร่างกายได้ดี ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพอากาศ เช่น เสื้อกล้ามเหมาะกับฤดูร้อน ชุดวอร์มเหมาะกับ อากาศหนาวเย็น
ถ้าไม่สบาย เป็นไข้หรือท้องเสีย ควรงดการซ้อมวิ่ง ถ้าขัดเคล็ดยอก แพลง ก็ควรลดการวิ่งลง อาจเลือก การออกกาลังกายแบบอื่นทดแทน
ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
- 4. 4
ขั้นตอนการออกกาลังกาย
1. การอบอุ่นร่างกายหรือการอุ่นเครื่อง (warm up)
เป็นการเตรียมร่างกายโดยเฉพาะปอดและหัวใจให้พร้อมที่จะรับการออกกาลังกาย การอบอุ่นร่างกายที่ดีก็คือ กิจกรรมที่สามารถทาให้อุณหภูมิร่างกาย อุณหภูมิกล้ามเนื้อและปริมาณเลือดที่ไหลเวียนสู่กล้ามเนื้อที่จะใช้งาน เพิ่มสูงขึ้นจากสภาวะพัก อาจเริ่มด้วยการเดินช้าๆ แล้วค่อยๆเดินเร็วขึ้นจนชีพจรของเราเริ่มเต้นเร็วขึ้น จาก 70 ครั้งต่อนาทีมาเป็น 100 หรือ 110 ครั้งต่อนาที ช่วงนี้ร่างกายของเราจะค่อยๆปรับตัว ทาให้ไม่เกิดอันตรายในการ ออกกาลังกาย การอบอุ่นร่างกายควรใช้เวลาอย่างน้อย 5-10 นาที
2. การยืดกล้ามเนื้อ (stretching)
เป็นการเตรียมกล้ามเนื้อ เอ็น และเอ็นข้อต่อของร่างกายให้เตรียมพร้อมที่จะรับการออกกาลังกาย ทาให้ไม่เกิด การบาดเจ็บขึ้นเมื่อเราเริ่มออกกาลังกาย ช่วงนี้ก็ใช้เวลา 5-10 นาที
3. ช่วงของการออกกาลังกาย (training zone exercise)
ช่วงนี้ก็คือช่วงของการออกกาลังกายแบบแอโรบิค (aerobic exercise) เช่นถ้าวิ่ง ก็จะวิ่งให้มีความหนัก เพียงพอ คือให้หัวใจเต้นประมาณ 60-80 % ของชีพจรสูงสุด ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีผลต่อการฝึกปอดและหัวใจโดยที่ ไม่มีอันตรายต่อร่างกาย
4. การผ่อนกาย (cool down)
หลังการออกกาลังกายเป็นการปรับสภาพร่างกายจากการออกกาลังกายมาเป็นสภาพปกติ ถ้าเราหยุดทันที หัวใจ ที่เคยเต้น 130 ? 140 ครั้งต่อนาที จะกลับมาสู่สภาพปกติ คือเต้น 70 ครั้งต่อนาทีในเวลาสั้น ๆ ก็อาจเกิด อันตรายได้ เพราะปอดและหัวใจปรับตัวไม่ทัน เนื่องจากปริมาณเลือดของร่างกายส่วนใหญ่จะไหลเวียนไปยัง กล้ามเนื้อขณะออกกาลังกาย หากหยุดออกกาลังกายทันทีทันใดจะทาให้เลือดที่ไหลเวียนกลับสู่หัวใจน้อยลงโดย เลือดจะคั่งค้างอยู่ที่หลอดเลือดภายในกล้ามเนื้อโดยเฉพาะกล้ามเนื้อของขา (pooling effect) ส่งผลให้ปริมาณ เลือดที่บีบออกจากหัวใจเพื่อส่งไปอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกายลดลงโดยเฉพาะสมองจึงทาให้เกิดอาการหน้ามืด เป็นลมได้ เราจึงต้องใช้เวลา 5-10 นาทีในการปรับตัวคือ ค่อยๆลดชีพจรลงจนเป็นปกติ
5. การยืดกล้ามเนื้อหลังการออกกาลังกาย (stretching)
เพื่อช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังการออกกาลังกายและช่วยลดอาการตึงหรือเกร็งของกล้ามเนื้อและจะเป็นการ เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย
- 5. 5
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
-หาหัวข้อ
-รวบรวมข้อมูล -วิเคราะห์ข้อมูล
-สรุป -นาเสนอ
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
500-1000 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน
สัปดาห์ที่
ผู้รับผิดชอบ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
1
คิดหัวข้อโครงงาน
2
ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3
จัดทาโครงร่างงาน
4
ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5
ปรับปรุงทดสอบ
6
การทาเอกสารรายงาน
7
ประเมินผลงาน
8
นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
คาดหวังว่าผู้ที่ทาตามวิธีนี้ จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น มีบุคลิกภาพที่ดี
สถานที่ดาเนินการ -บ้าน
-โรงเรียน
-สนามกีฬา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขะศึกษา และพละศึกษา
แหล่งอ้างอิง
http://www.yaandyou.net/index.php/2010-09-02-08-49-20/item/484-2010-10-05-03-50-34.html