ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
คลื่Ȩิทยุ
       นำเสนอ
อ.ปิยวรรณ รัตนภำนุศร
  สมาชิก
  1.วิสันต์ แก้วโมกุล
  2.ภัทร วราวิทย์
ประเภทของคลื่Ȩิทยุ
คลื่Ȩิทยุที่กระจายออกจากสายอากาศ จะเดินทางไปทุกทิษทางในทุกระนาบ การกระจายคลืนนี้มีลักศณะเป็นการ
                                                                                         ่
ขยายตัวของ พลังงานออกเป็นทรงกลม ถ้าจะพิจารณาในส่วนของพืนที่แทนหน้าคลื่นจะเห็นได้ว่ามันพุ่งออกไป
                                                                  ้
เรื่อย ๆ จากจุดกาเนิด และ สามารถเขียนแนวทิศทางเดินของหน้าคลืนได้ด้วยเส้นตรงหรือเส้นรังสี เส้นรังสีที่ลาก
                                                                    ่
จากสายอากาศออกไป จะทามุมกับระนาบแนวนอน มุมนี้เรียกว่ามุมแผ่คลื่น อาจมีค่าเป็นบวก (มุมเงย) หรือเป็นลบ
(มุมกดลง) ก็ได้ มุมของการแผ่คลืนนี้อาจนามาใช้เป็นตัวกาหนดประเภทของคลื่Ȩิทยุได้
                                ่
โดยทั้วไปคลื่Ȩิทยุอาจแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ คลื่นดิน กับคลื่นฟ้า พลังงานคลืนวิทยุ ส่วนใหญ่จะเดน
                                                                                      ่
ทางอยู่ใกล้ๆ ผิวโลกหรือเรียกว่าคลื่นดินซึ่งคลืนนี้จะเดินไปตามส่วนโค้ง ของโลก คลื่นอีกส่วนที่ออกจากสายอากาศ
                                              ่
ด้วยมุมแผ่คลื่นเป็นค่าบวกจะเดินทางจากพื้นโลกพุงใปยังบรรยากาศจนถึงชั้นเพดาน ฟ้าและจะสะท้อนกลับลงมายัง
                                                   ่
โลกนี้เรียกว่าคลืนฟ้า
                 ่
คลื่นผิวดิน
คลื่นผิวดิน หมำยถึง คลื่นที่เดินตำมไปยังผิวโลกอำจเป็นผิวดิน หรือผิวนำก็ได
พิสัยของกำรกระจำยคลื่นชนิดนีขึนอยู่กับค่ำควำมนำทำงไฟฟ้ำของผิวที่คลื่นนีเดิน
ทำงผ่ำนไป เพรำะค่ำควำมนำจะเป็นตัวกำหนดกำรถูกดูดกลืนพลังงำนของคลื่น
ผิวโลก กำรถูกดูดกลืนของคลื่นผิวนีจะเพิ่มขึนตำมควำมถี่ที่สูงขึน
คลื่นตรง
คลื่นตรง หมำยถึง คลื่นที่เดินทำงออกไปเป็นเสนตรงจำกสำยอำกำศ
    ส่งผ่ำนบรรยำกำศตรงไปยังสำยอำกำศรับโดยมิไดมีกำรสะทอนใด ๆ
คลื่นสะท้อนดิน
คลื่นสะทอนดิน หมำยถึง คลื่นที่ออกมำจำกสำยอำกำศ ไปกระทบผิว
    ดินแลวเกิดกำรสะทอนไปเขำที่สำยอำกำศรับ
คลื่นหักเหโทรโปสเฟียร์
• คลื่นหักเหโทรโปสเฟียร์ หมำยถึง คลื่นหักเหในบรรยำกำศชันต่ำของ
  โลกที่เรียกว่ำ โทรโปสเฟียร์ กำรหักเหนีมิใช่เป็นกำรหักเหแบบปกติที่
  เกิดขึนจำกกำรเปลี่ยนแปลงควำมหนำแน่นของชันบรรยำกำศของโลก
  กับควำมสูง แต่เป็นกำรหักเหที่เกิดกำรเปลี่ยนแปลงควำมหนำแน่นของ
  ชันบรรยำกำศอย่ำงทันทีทนใด และไม่สม่ำเสมอของควำมหนำแน่นและ
                            ั
  ในควำมชืนของบรรยำกำศ ไดแก่ ปรำกฏกำรณ์ที่เรียกว่ำ อุณหภูมิแปร
  กลับ
คลื่Ȩิทยุที่มีผลต่อร่างกาย
• คลื่Ȩิทยุสามารถทะลุเข้าไปในร่างกายมนุษย์ได้ลึกประมาณ
  1/10 ของความยาวคลื่นที่ตกกระทบ และอาจทาลายเนื้อเยื่อของ
  อวัยวะภายในบางชนิดได้ ผลการทาลายจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่
  กับความเข้ม ช่วงเวลาที่ร่างกายได้รับคลื่นและชนิดของเนื้อเยือ
                                                             ่
  อวัยวะที่มีความไวต่อคลื่Ȩิทยุ ได้แก่ นัยน์ตา ปอด ถุงน้าดี
  กระเพาะปัสสาวะ อัณฑะ และบางส่วนของระบบทางเดินอาหาร
  โดยเฉพาะนัยน์ตา และอัณฑะ เป็นอวัยวะที่อ่อนแอที่สุดเมื่อ
  ได้รับคลื่Ȩิทยุช่วงไมโครเวฟ
• 1. คลื่Ȩิทยุที่มีความถี่ระหว่าง 150 เมกะเฮิรตซ์ อุณหภูมิหรือ
  ระดับความร้อนของร่างกายจะสูงขึ้น
• 2. คลื่Ȩิทยุที่มีความถี่ระหว่าง 1-3 จิกะเฮิรตซ์ คลืนวิทยุเช่นนี้
                                                       ่
  เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อนัยน์ตา
• 3. คลื่Ȩิทยุที่มีความถี่ระหว่าง 3-10 จิกะเฮิรตซ์เราจะรู้สึกว่า
  เหมือนกับถูกแสงอาทิตย์
• 4. คลื่Ȩิทยุที่มีความถี่สูงกว่า 10 จิกะเฮิรตซ์ ผิวหนังจะสะท้อนให้
  กลับออกไป โดยมีการดูดกลืนพลังงานเล็กน้อย
คาถาม
•   1.คลื่Ȩิทยุแบ่งออกเป็นกี่ประเภท
•   2.อวัยวะใดมีควำมรูสึกไวต่อคลื่Ȩิทยุ
•   3.คลื่นตรงเดินทำงอย่ำงไร
•   4.คลื่นผิวดินเดินทำงตำมอะไร
•   5. คลื่นหักเหโทรโปสเฟียร์หกเหอย่ำงไร
                               ั
เฉลย
• 1.สองชนิด ไดแก่ คลื่นดิน และ คลื่นฟ้ำ
• 2.นัยน์ตำ ปอด ถุงนำดี กระเพำะปัสสำวะ อัณฑะ และบำงส่วนของ
  ระบบทำงเดินอำหำร
• 3. คลื่นที่เดินทำงออกไปเป็นเสนตรงจำกสำยอำกำศ
• 4.เดินทำงตำมผิวโลก อำจเป็นผิวดินหรือผิวนำ
• 5.เป็นกำรหักเหที่เกิดกำรเปลี่ยนแปลงควำมหนำแน่นของชันบรรยำกำศ
  อย่ำงทันทีทันใด

More Related Content

คลื่Ȩิทยุ(วิสัȨ์+ภัทร)402

  • 1. คลื่Ȩิทยุ นำเสนอ อ.ปิยวรรณ รัตนภำนุศร สมาชิก 1.วิสันต์ แก้วโมกุล 2.ภัทร วราวิทย์
  • 2. ประเภทของคลื่Ȩิทยุ คลื่Ȩิทยุที่กระจายออกจากสายอากาศ จะเดินทางไปทุกทิษทางในทุกระนาบ การกระจายคลืนนี้มีลักศณะเป็นการ ่ ขยายตัวของ พลังงานออกเป็นทรงกลม ถ้าจะพิจารณาในส่วนของพืนที่แทนหน้าคลื่นจะเห็นได้ว่ามันพุ่งออกไป ้ เรื่อย ๆ จากจุดกาเนิด และ สามารถเขียนแนวทิศทางเดินของหน้าคลืนได้ด้วยเส้นตรงหรือเส้นรังสี เส้นรังสีที่ลาก ่ จากสายอากาศออกไป จะทามุมกับระนาบแนวนอน มุมนี้เรียกว่ามุมแผ่คลื่น อาจมีค่าเป็นบวก (มุมเงย) หรือเป็นลบ (มุมกดลง) ก็ได้ มุมของการแผ่คลืนนี้อาจนามาใช้เป็นตัวกาหนดประเภทของคลื่Ȩิทยุได้ ่ โดยทั้วไปคลื่Ȩิทยุอาจแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ คลื่นดิน กับคลื่นฟ้า พลังงานคลืนวิทยุ ส่วนใหญ่จะเดน ่ ทางอยู่ใกล้ๆ ผิวโลกหรือเรียกว่าคลื่นดินซึ่งคลืนนี้จะเดินไปตามส่วนโค้ง ของโลก คลื่นอีกส่วนที่ออกจากสายอากาศ ่ ด้วยมุมแผ่คลื่นเป็นค่าบวกจะเดินทางจากพื้นโลกพุงใปยังบรรยากาศจนถึงชั้นเพดาน ฟ้าและจะสะท้อนกลับลงมายัง ่ โลกนี้เรียกว่าคลืนฟ้า ่
  • 3. คลื่นผิวดิน คลื่นผิวดิน หมำยถึง คลื่นที่เดินตำมไปยังผิวโลกอำจเป็นผิวดิน หรือผิวนำก็ได พิสัยของกำรกระจำยคลื่นชนิดนีขึนอยู่กับค่ำควำมนำทำงไฟฟ้ำของผิวที่คลื่นนีเดิน ทำงผ่ำนไป เพรำะค่ำควำมนำจะเป็นตัวกำหนดกำรถูกดูดกลืนพลังงำนของคลื่น ผิวโลก กำรถูกดูดกลืนของคลื่นผิวนีจะเพิ่มขึนตำมควำมถี่ที่สูงขึน
  • 4. คลื่นตรง คลื่นตรง หมำยถึง คลื่นที่เดินทำงออกไปเป็นเสนตรงจำกสำยอำกำศ ส่งผ่ำนบรรยำกำศตรงไปยังสำยอำกำศรับโดยมิไดมีกำรสะทอนใด ๆ
  • 5. คลื่นสะท้อนดิน คลื่นสะทอนดิน หมำยถึง คลื่นที่ออกมำจำกสำยอำกำศ ไปกระทบผิว ดินแลวเกิดกำรสะทอนไปเขำที่สำยอำกำศรับ
  • 6. คลื่นหักเหโทรโปสเฟียร์ • คลื่นหักเหโทรโปสเฟียร์ หมำยถึง คลื่นหักเหในบรรยำกำศชันต่ำของ โลกที่เรียกว่ำ โทรโปสเฟียร์ กำรหักเหนีมิใช่เป็นกำรหักเหแบบปกติที่ เกิดขึนจำกกำรเปลี่ยนแปลงควำมหนำแน่นของชันบรรยำกำศของโลก กับควำมสูง แต่เป็นกำรหักเหที่เกิดกำรเปลี่ยนแปลงควำมหนำแน่นของ ชันบรรยำกำศอย่ำงทันทีทนใด และไม่สม่ำเสมอของควำมหนำแน่นและ ั ในควำมชืนของบรรยำกำศ ไดแก่ ปรำกฏกำรณ์ที่เรียกว่ำ อุณหภูมิแปร กลับ
  • 7. คลื่Ȩิทยุที่มีผลต่อร่างกาย • คลื่Ȩิทยุสามารถทะลุเข้าไปในร่างกายมนุษย์ได้ลึกประมาณ 1/10 ของความยาวคลื่นที่ตกกระทบ และอาจทาลายเนื้อเยื่อของ อวัยวะภายในบางชนิดได้ ผลการทาลายจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่ กับความเข้ม ช่วงเวลาที่ร่างกายได้รับคลื่นและชนิดของเนื้อเยือ ่ อวัยวะที่มีความไวต่อคลื่Ȩิทยุ ได้แก่ นัยน์ตา ปอด ถุงน้าดี กระเพาะปัสสาวะ อัณฑะ และบางส่วนของระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะนัยน์ตา และอัณฑะ เป็นอวัยวะที่อ่อนแอที่สุดเมื่อ ได้รับคลื่Ȩิทยุช่วงไมโครเวฟ
  • 8. • 1. คลื่Ȩิทยุที่มีความถี่ระหว่าง 150 เมกะเฮิรตซ์ อุณหภูมิหรือ ระดับความร้อนของร่างกายจะสูงขึ้น • 2. คลื่Ȩิทยุที่มีความถี่ระหว่าง 1-3 จิกะเฮิรตซ์ คลืนวิทยุเช่นนี้ ่ เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อนัยน์ตา • 3. คลื่Ȩิทยุที่มีความถี่ระหว่าง 3-10 จิกะเฮิรตซ์เราจะรู้สึกว่า เหมือนกับถูกแสงอาทิตย์ • 4. คลื่Ȩิทยุที่มีความถี่สูงกว่า 10 จิกะเฮิรตซ์ ผิวหนังจะสะท้อนให้ กลับออกไป โดยมีการดูดกลืนพลังงานเล็กน้อย
  • 9. คาถาม • 1.คลื่Ȩิทยุแบ่งออกเป็นกี่ประเภท • 2.อวัยวะใดมีควำมรูสึกไวต่อคลื่Ȩิทยุ • 3.คลื่นตรงเดินทำงอย่ำงไร • 4.คลื่นผิวดินเดินทำงตำมอะไร • 5. คลื่นหักเหโทรโปสเฟียร์หกเหอย่ำงไร ั
  • 10. เฉลย • 1.สองชนิด ไดแก่ คลื่นดิน และ คลื่นฟ้ำ • 2.นัยน์ตำ ปอด ถุงนำดี กระเพำะปัสสำวะ อัณฑะ และบำงส่วนของ ระบบทำงเดินอำหำร • 3. คลื่นที่เดินทำงออกไปเป็นเสนตรงจำกสำยอำกำศ • 4.เดินทำงตำมผิวโลก อำจเป็นผิวดินหรือผิวนำ • 5.เป็นกำรหักเหที่เกิดกำรเปลี่ยนแปลงควำมหนำแน่นของชันบรรยำกำศ อย่ำงทันทีทันใด