ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสา
ขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น
และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ
อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร
สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ
ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี
ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว
การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
ตัวอย่างโครงงาน
ประเภทของโครงงานไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์
โครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาจทาได้หลายรูปแบบ ถ้าพิจารณาลักษณะของกิจกรรมการ
ศึกษาค้นคว้าแล้ว จัดประเภทของโครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ออกเป็น 4 ประเภท คือ
1. โครงงานประเภททดลองเกี่ยวกับงานไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์
ลักษณะของโครงงานประเภทนี้ ต้องมีการออกแบบการทดลอง เพื่อศึกษาผลของตัวแปร
หรือตัวแปรอิสระ ที่มีผลต่อตัวแปรตามและมีการควบคุมตัวแปรอื่นๆ ที่ไม่ต้องการศึกษา ที่จะส่งผลให้การ
การศึกษาคลาดเคลื่อน ขั้นตอนการทาโครงงานประเภทนี้จะต้องมีการกาหนดปัญหา ตั้งสมมติฐาน
ุุ ออกแบบ การทดลอง ดาเนินการทดลอง เพื่อหาคาตอบของปัญหาหรือตรวจสอบสมมติฐานที่ตั้งไว้
แปรผลและสรุปผล การทาโครงงานประเภททดลอง บองครั้งอาจจาเป็นต้องทดลอง เพื่อศึกษา
ความเป็นไปได้เบื้องต้น (Preliminary study) เสียก่อน เพื่อให้ได้ข้อมูลบางประการมาใช้ประกอบ
การตัดสินใจในการกาหนดรายละเอียดต่างๆ ของการศึกษาค้นคว้าจริงต่อไป ผู้จัดทามีความเห็นว่า
ข้อดีของโครงงานประเภทนี้ คือ จะมีการใช้วิธีวิทยาศาสตร์ครบทั้ง 5 ขั้น คือ ตั้งแต่การกาหนดปัญหา
ตั้งสมมติฐานวางแผนการทดลอง รวบรวมข้อมูลและสรุปผล นอกจากนั้น ยังมีการควบคุมตัวแปรอีกด้วย
ซึ่งถือเป็นพื้นฐานในการศึกษา ค้นคว้าทางงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่สาคัญ
โครงงานประเภททดลอง เป็นการตรวจสอบสมมติฐานใดสมมติฐานหนึ่ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่การ
ออกแบบการทดลองอย่างมีขั้นตอน การใช้เครื่องมือในการทดลองอย่างถุกต้อง มีการออกแบบตาราง
หรือวิธีการบันทึกผลการทดลอง การใช้หน่วยวัดที่ถูกต้อง มีการกาหนดตัวแปรต่างๆ วิเคราะห์ข้อมูล
มีการทดลองหลายๆ ครั้ง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมกับสรุปผลการทดลองที่ชัดเจน
ตัวอย่างของโครงงานประเภทการทดลองเกี่ยวกับงานไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น
เครื่องตรวจสอบ SCR
วงจรสวิตซ์ควบคุมด้วยแสงรีโมท
เครื่องตรวจสอบสายไฟ (Test Lamp)
2. โครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูล
โครงงานประเภทนี้ เป็นการศึกษารวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อศึกษาหาความรู้ที่มีอยู่หรือเป็นอยู่ในชีวิตประจาวัน โดยใช้วิธีสารวจและรวบรวมข้อมูลแล้วนาข้อมูล
ที่ได้มาจัดกระทาให้เป็นระบบระเบียบและสื่อความหมายแล้วนาเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่นตาราง กราฟ
แผนภูมิ และคาอธิบายประกอบ
ตัวอย่างของโครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูล
ก. การเก็บรวบรวมข้อมูลใสนามได้ทันที โดยไม่ต้องนาวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
ตัวอย่าง การสารวจความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าในโรงฝึกงาน
ข. การเก็บรวบรวมวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
ตัวอย่าง การสารวจวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังเกิดการลัดวงจร
โครงงานประเภทสารวจ เป็นการสารวจข้อมูลต่างๆ ที่เกิดจากความอยากรู้อยากเห็น เพื่อนามา
ประกอบการศึกษาหรือการจาแนกหมวดหมู่ ทั้งนี้ไม่ต้องคานึงถึงตัวแปรต่างๆ การเก็บข้อมูลโดยการออก
ไปสารวจนอกห้องปฏิบัติการ หรือที่เรียกว่าสารวจภาคสนาม หรือบางครั้งอาจจะนาส่วนต่างๆ นั้นมาศึกษา
ในห้องปฏิบัติการด้วยก็ได้
3. โครงงานประเภทการพัฒนาหรือการประดิษฐ์
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ทฤษฎีหรือทักษะทางงานไฟฟ้าและ
อิเล็กทรอนิกส์ มาประุิดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์ เพื่อประโยชน์ใช้สอยต่างๆ เพื่ออานวยความ
สะดวกแก่มนุษย์อาจคิดประดิษฐ์ของใหม่ๆ หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูง
ขึ้น ซึ่งมีลักษณะของโครงงานที่้ต้องการกาหนดตัวแปรที่ต้องศึกษา เหมือนกับ โครงงานปรเภททดลอง
แต่ผลของโครงงานประเภทนี้จะได้อุปกรณ์ หรือสิ่งประดิษฐ์ และมีข้อมูลต่างๆ
ประกอบซึ่งต่างจากโครงงาน
ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ส่วนใหญ่จะกาหนดตัวแปรที่จะศึกษา ดังนี้
ตัวแปรต้น ส่วนใหญ่จะศึกษาในด้านรูปทรง หรือ โครงสร้างที่เหมาะสมของสิ่งประดิษฐ์ ชนิดของ
วัสดุที่เหมาะสมในการทาสิ่งประดิษฐ์
ตัวแปรตาม ส่วนใหญ่จะวัดได้คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งกาหนดเกณฑ์การวัดต่างๆ กันออกไป
ตามชนิดของการประดิษฐ์
ส่วนตัวแปรที่ต้องควบคุมนั้น จะควบคุมในสิ่งที่จะทาให้ผลการวัดตัวแปรตามคลาดเคลื่อน จะควบ
คุมอะไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสิ่งประดิษฐ์
โครงงานประเภทนี้ อาจจะมีลักษณะเป็นแบบจาลองได้แต่ต้องแสดงให้เห็นการทางาน ของแบบ
จาลองนั้นจริงๆ ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ นอกจากจะมีข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการศึกษาทดลอง
ขั้นต้น เพื่อนามาใช้ประกอบในการทาสิ่งประดิษฐ์และมีการวัดประสิทธิภาพของ สิ่งประดิษฐ์แล้งยังมี
สิ่งประดิษฐที่ใช้งานได้จริงๆ หรือแบบจาลองที่แสดงการทางานได้ซึ่งมองเห็นประโยชน์ของการ
นาไปใช้ได้ชัดเจน จึงเป็นโครงงานที่เหมาะสมกับงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ
ตัวอย่างของโครงงานประเภทพัฒนาหรือการประดิษฐ์
จุดหลอด FL ด้วยถ่านไฟฉาย
สัญญาณเตือนภัยอัตโนมัติ
สัญญาณไฟกระพริบ LED 2 สี 2 ดวง
4. โครงงานประเภททฤษฎี
เป็นโครงงานที่ผู้ทาโครงงานได้เสนอทฤษฎี หลักการหรือแนวความคิดใหม่ๆ
ซึ่งอาจอยู่ในรูปของ
สูตร สมการ หรือคาอธิบายก็ได้โดยผู้นาเสนอได้ตั้งกติกา หรือข้อตกลงขึ้นมาเอง แล้วเสนอทฤษฎี
หลักการ แนวความคิดหรือจินตนาการของตนเองตามกติกา หรือข้อตกลงนั้น หรืออาจใช้กติกา
หรือข้อตกลงเดิมมา อธิบายสิ่งหรือปรากฎการณ์ต่างๆ ในแนวใหม่ ทฤษฎี หลักการ แนวความคิด
หรือจินตนาการที่เสนออาจจะใหม่ ยังไม่มีใครคิดมาก่อน หรืออาจขัดแย้งกับทฤษฎีเดิม
หรือเป็นการขยายทฤษฎี หรือแนวคิดเดิมก็ได้
การทาโครงงานประเภทนี้จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้พื้นฐานในเรื่องนั้นๆ อย่างดี
จึงจะสามารถเสนอโครงงานประเภทนี้ได้อย่างมีเหตุมีผลน่าเชื่อถือโดยทั่วๆ ไป
ตัวอย่างของโครงงานประเภททฤษฎี
นักวิทยาศาสตร์ ทาการทดลองเพื่อสร้างกฎของโอห์ม กฎของเคอร์ชอฟ เป็นต้น
credit : http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7
จัดทำโดย
นางสาวณรินทร์ทิพย์ ชัยชนะ เลขที่ 11
นางสาวกชามาส สินธุชัย เลขที่ 39
ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6/5 โรงเรียยุพราชวิทยาลัย

More Related Content

ใบงานท 6 เร__อง โครงงานประเภท _การทดลองทฤษฎ__

  • 1. ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี” โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสา ขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น ตัวอย่างโครงงาน ประเภทของโครงงานไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ โครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาจทาได้หลายรูปแบบ ถ้าพิจารณาลักษณะของกิจกรรมการ ศึกษาค้นคว้าแล้ว จัดประเภทของโครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ออกเป็น 4 ประเภท คือ 1. โครงงานประเภททดลองเกี่ยวกับงานไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ ลักษณะของโครงงานประเภทนี้ ต้องมีการออกแบบการทดลอง เพื่อศึกษาผลของตัวแปร หรือตัวแปรอิสระ ที่มีผลต่อตัวแปรตามและมีการควบคุมตัวแปรอื่นๆ ที่ไม่ต้องการศึกษา ที่จะส่งผลให้การ การศึกษาคลาดเคลื่อน ขั้นตอนการทาโครงงานประเภทนี้จะต้องมีการกาหนดปัญหา ตั้งสมมติฐาน ุุ ออกแบบ การทดลอง ดาเนินการทดลอง เพื่อหาคาตอบของปัญหาหรือตรวจสอบสมมติฐานที่ตั้งไว้
  • 2. แปรผลและสรุปผล การทาโครงงานประเภททดลอง บองครั้งอาจจาเป็นต้องทดลอง เพื่อศึกษา ความเป็นไปได้เบื้องต้น (Preliminary study) เสียก่อน เพื่อให้ได้ข้อมูลบางประการมาใช้ประกอบ การตัดสินใจในการกาหนดรายละเอียดต่างๆ ของการศึกษาค้นคว้าจริงต่อไป ผู้จัดทามีความเห็นว่า ข้อดีของโครงงานประเภทนี้ คือ จะมีการใช้วิธีวิทยาศาสตร์ครบทั้ง 5 ขั้น คือ ตั้งแต่การกาหนดปัญหา ตั้งสมมติฐานวางแผนการทดลอง รวบรวมข้อมูลและสรุปผล นอกจากนั้น ยังมีการควบคุมตัวแปรอีกด้วย ซึ่งถือเป็นพื้นฐานในการศึกษา ค้นคว้าทางงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่สาคัญ โครงงานประเภททดลอง เป็นการตรวจสอบสมมติฐานใดสมมติฐานหนึ่ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่การ ออกแบบการทดลองอย่างมีขั้นตอน การใช้เครื่องมือในการทดลองอย่างถุกต้อง มีการออกแบบตาราง หรือวิธีการบันทึกผลการทดลอง การใช้หน่วยวัดที่ถูกต้อง มีการกาหนดตัวแปรต่างๆ วิเคราะห์ข้อมูล มีการทดลองหลายๆ ครั้ง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมกับสรุปผลการทดลองที่ชัดเจน ตัวอย่างของโครงงานประเภทการทดลองเกี่ยวกับงานไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น เครื่องตรวจสอบ SCR วงจรสวิตซ์ควบคุมด้วยแสงรีโมท เครื่องตรวจสอบสายไฟ (Test Lamp) 2. โครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูล โครงงานประเภทนี้ เป็นการศึกษารวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อศึกษาหาความรู้ที่มีอยู่หรือเป็นอยู่ในชีวิตประจาวัน โดยใช้วิธีสารวจและรวบรวมข้อมูลแล้วนาข้อมูล ที่ได้มาจัดกระทาให้เป็นระบบระเบียบและสื่อความหมายแล้วนาเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่นตาราง กราฟ
  • 3. แผนภูมิ และคาอธิบายประกอบ ตัวอย่างของโครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูล ก. การเก็บรวบรวมข้อมูลใสนามได้ทันที โดยไม่ต้องนาวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ตัวอย่าง การสารวจความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าในโรงฝึกงาน ข. การเก็บรวบรวมวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ตัวอย่าง การสารวจวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังเกิดการลัดวงจร โครงงานประเภทสารวจ เป็นการสารวจข้อมูลต่างๆ ที่เกิดจากความอยากรู้อยากเห็น เพื่อนามา ประกอบการศึกษาหรือการจาแนกหมวดหมู่ ทั้งนี้ไม่ต้องคานึงถึงตัวแปรต่างๆ การเก็บข้อมูลโดยการออก ไปสารวจนอกห้องปฏิบัติการ หรือที่เรียกว่าสารวจภาคสนาม หรือบางครั้งอาจจะนาส่วนต่างๆ นั้นมาศึกษา ในห้องปฏิบัติการด้วยก็ได้ 3. โครงงานประเภทการพัฒนาหรือการประดิษฐ์ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ทฤษฎีหรือทักษะทางงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ มาประุิดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์ เพื่อประโยชน์ใช้สอยต่างๆ เพื่ออานวยความ สะดวกแก่มนุษย์อาจคิดประดิษฐ์ของใหม่ๆ หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูง ขึ้น ซึ่งมีลักษณะของโครงงานที่้ต้องการกาหนดตัวแปรที่ต้องศึกษา เหมือนกับ โครงงานปรเภททดลอง แต่ผลของโครงงานประเภทนี้จะได้อุปกรณ์ หรือสิ่งประดิษฐ์ และมีข้อมูลต่างๆ ประกอบซึ่งต่างจากโครงงาน ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ส่วนใหญ่จะกาหนดตัวแปรที่จะศึกษา ดังนี้
  • 4. ตัวแปรต้น ส่วนใหญ่จะศึกษาในด้านรูปทรง หรือ โครงสร้างที่เหมาะสมของสิ่งประดิษฐ์ ชนิดของ วัสดุที่เหมาะสมในการทาสิ่งประดิษฐ์ ตัวแปรตาม ส่วนใหญ่จะวัดได้คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งกาหนดเกณฑ์การวัดต่างๆ กันออกไป ตามชนิดของการประดิษฐ์ ส่วนตัวแปรที่ต้องควบคุมนั้น จะควบคุมในสิ่งที่จะทาให้ผลการวัดตัวแปรตามคลาดเคลื่อน จะควบ คุมอะไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสิ่งประดิษฐ์ โครงงานประเภทนี้ อาจจะมีลักษณะเป็นแบบจาลองได้แต่ต้องแสดงให้เห็นการทางาน ของแบบ จาลองนั้นจริงๆ ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ นอกจากจะมีข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการศึกษาทดลอง ขั้นต้น เพื่อนามาใช้ประกอบในการทาสิ่งประดิษฐ์และมีการวัดประสิทธิภาพของ สิ่งประดิษฐ์แล้งยังมี สิ่งประดิษฐที่ใช้งานได้จริงๆ หรือแบบจาลองที่แสดงการทางานได้ซึ่งมองเห็นประโยชน์ของการ นาไปใช้ได้ชัดเจน จึงเป็นโครงงานที่เหมาะสมกับงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ ตัวอย่างของโครงงานประเภทพัฒนาหรือการประดิษฐ์ จุดหลอด FL ด้วยถ่านไฟฉาย สัญญาณเตือนภัยอัตโนมัติ สัญญาณไฟกระพริบ LED 2 สี 2 ดวง 4. โครงงานประเภททฤษฎี เป็นโครงงานที่ผู้ทาโครงงานได้เสนอทฤษฎี หลักการหรือแนวความคิดใหม่ๆ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของ
  • 5. สูตร สมการ หรือคาอธิบายก็ได้โดยผู้นาเสนอได้ตั้งกติกา หรือข้อตกลงขึ้นมาเอง แล้วเสนอทฤษฎี หลักการ แนวความคิดหรือจินตนาการของตนเองตามกติกา หรือข้อตกลงนั้น หรืออาจใช้กติกา หรือข้อตกลงเดิมมา อธิบายสิ่งหรือปรากฎการณ์ต่างๆ ในแนวใหม่ ทฤษฎี หลักการ แนวความคิด หรือจินตนาการที่เสนออาจจะใหม่ ยังไม่มีใครคิดมาก่อน หรืออาจขัดแย้งกับทฤษฎีเดิม หรือเป็นการขยายทฤษฎี หรือแนวคิดเดิมก็ได้ การทาโครงงานประเภทนี้จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้พื้นฐานในเรื่องนั้นๆ อย่างดี จึงจะสามารถเสนอโครงงานประเภทนี้ได้อย่างมีเหตุมีผลน่าเชื่อถือโดยทั่วๆ ไป ตัวอย่างของโครงงานประเภททฤษฎี นักวิทยาศาสตร์ ทาการทดลองเพื่อสร้างกฎของโอห์ม กฎของเคอร์ชอฟ เป็นต้น credit : http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 จัดทำโดย นางสาวณรินทร์ทิพย์ ชัยชนะ เลขที่ 11 นางสาวกชามาส สินธุชัย เลขที่ 39 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6/5 โรงเรียยุพราชวิทยาลัย