ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
สงครามโลกครั้งที่ 2

            สงครามโลกครั้งทีสอง (อังกฤษ: World War II หรื อ Second World War) เป็ นความขัดแย้ง
                                ่
ในวงกว้างครอบคลุมทุกทวีปและประเทศส่ วนใหญ่ในโลก โดยสามารถแบ่งความขัดแย้งได้เป็ น
สองภูมิภาค ทวีปเอเชียบ้างว่าเริ่ มขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.
                   ่
1931 บ้างก็วา ค.ศ. 1937 ในสงครามระหว่างจีนกับ
ญี่ปุ่น ส่ วนในทวีปยุโรปเริ่ มต้นเมื่อ ค.ศ. 1939 จาก
การรุ กรานโปแลนด์ และดาเนินไปจนกระทัง             ่
สิ้ นสุ ดในปี ค.ศ. 1945 คาดว่ามีผเู ้ สี ยชีวตใน
                                             ิ
สงครามครั้งนี้มากกว่า 60 ล้านคน นับเป็ นสงคราม
ที่ก่อให้เกิดความสู ญเสี ยชีวตมนุษย์มากที่สุดใน
                                  ิ
ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
            ผูเ้ ข้าร่ วมสงครามแบ่งเป็ นสองฝ่ าย ฝ่ ายหนึ่งคือฝ่ ายสัมพันธมิตรเดิมประกอบด้วย อังกฤษ
ฝรั่งเศสและสหภาพโซเวียต ส่ วนฝ่ ายตรงข้ามเรี ยกว่าฝ่ ายอักษะ นาโดย เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่นซึ่ง
มีการระดมกาลังทหารทั้งหมดมากกว่า 100 ล้านนาย นับเป็ นสงครามขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
และเป็ น "สงครามเบ็ดเสร็ จ" ซึ่ งได้นาทรัพยากรต่าง ๆ ไปใช้ในการสงครามโดยไม่เลือกว่าเป็ นของ
พลเรื อนหรื อทหาร สิ่ งที่เกิดขึ้นนี้ยงได้ส่งผลกระตุนให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
                                         ั              ้
และวิทยาศาสตร์ ของชาติ เพื่อนาไปใช้ในการทาสงคราม ประมาณกันว่าสงครามโลกครั้งนี้มี
ค่าใช้จ่ายเป็ นมูลค่าราวหนึ่งล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามค่าเงินในปี ค.ศ. 1944 ยังผลให้เป็ นสงคราม
ที่ใช้เงินทุนและชีวตมากที่สุดด้วยเช่นกัน
                          ิ

ประเทศทีมีส่วนร่ วมในสงครามครั้งนี้
        ่
                                             ในสงครามครั้งนี้ เป็ นการสู ้รบกันระหว่างสองฝ่ ายคือ
                                    ฝ่ ายอักษะ และ ฝ่ ายพันธมิตร โดยประเทศเล็กๆ ส่ วนใหญ่แล้ว
                                    ประเทศจะเข้าร่ วมฝ่ ายตาม ประเทศเพื่อนบ้านที่แข็งแกร่ งเป็ น
                                    ส่ วนใหญ่
                                             ฝ่ ายอักษะประกอบไปด้วยแกนนาหลัก คือ เยอรมนี
                                    อิตาลี และ ญี่ปุ่น ในนามของกลุ่มอักษะโรม-เบอร์ลิน-โตเกียว
                                    ที่มีการแถลงวัตถุประสงค์หลักในตอนต้นว่าเพื่อต่อต้าน
                                    ขบวนการคอมมิวนิสต์สากล
ฝ่ ายพันธมิตรประกอบไปด้วยแกนนาหลัก คือ สหราชอาณาจักร, สหภาพโซเวียต และ
สหรัฐอเมริ กา โดยมีประเทศที่เข้าร่ วมฝ่ ายสัมพันธมิตรที่สาคัญอีก 2 ประเทศคือ จีน และ ฝรั่งเศส
ซึ่ งประเทศทั้ง 5 นี้ได้เข้าเป็ นสมาชิกถาวรของคณะมนตรี
ความมันคงแห่งสหประชาชาติ
        ่

สาเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 2
          สาเหตุสาคัญเป็ นผลมาจากประเทศเยอรมนีไม่
พอใจสนธิสัญญาแวร์ ซายส์ ซี่งเป็ นสนธิสัญญาที่เยอรมนี
ต้องลงนามเมื่อแพ้สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง คือต้องจ่ายค่า
ปฏิกรรมสงครามจานวนมาก ถูกลดกาลังทหาร อาวุธ ทาให้เศรษฐกิจตกต่า เสี ยดินแดน ชนวน
เกิดขึ้นเมื่อเยอรมนี หาเรื่ องโปแลนด์ในประเด็นเรื่ องการไม่เคารพสิ ทธิ ของคนเชื้อสายเยอรมันใน
โปแลนด์ นอกจากนี้ เมื่อทางเยอรมนีขอตัดถนนข้ามจากเยอรมนี ฝั่งตะวันตกเข้าไปยังปรัสเซีย (ซึ่ ง
ปั จจุบนคือดินแดนฝั่งตะวันออกของเยอรมนี) โดยผ่านฉนวนโปแลนด์ซ่ ึ งในขณะนั้นอยูภายใต้การ
        ั                                                                                 ่
ปกครองของอังกฤษและฝรั่งเศส แต่องกฤษและฝรั่งเศสไม่อนุญาต เยอรมนีจึงยกเลิกข้อตกลงหยุด
                                       ั
                                                                     ่
ยิงและบุกเข้าโปแลนด์ทนที ซึ่ งอังกฤษและฝรั่งเศสได้สัญญาไว้วาจะช่วยเหลือทางทหาร จึงสั่งให้
                             ั
เยอรมนีถอนกาลังออกภายใน 14 ชัวโมง แต่เยอรมนีปฏิเสธไม่ถอนกาลัง จึงได้ประกาศสงคราม
                                     ่
โดยแบ่งเป็ น 2 ฝ่ ายคือ ฝ่ ายอักษะ เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น ฝ่ ายสัมพันธมิตร อังกฤษ ฝรั่งเศส ต่อมาจึงมี
จีน สหรัฐอเมริ กา และสหภาพโซเวียต

ผลของสงคามโลกครั้งที่ 2
       หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง ทวีปยุโรปไม่เหลือพลังอานาจที่จะดาเนินตาม
นโยบายของตนในภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกได้อีกต่อไป ดังที่ฝ่ายสัมพันธมิตรกลับมาได้เปรี ยบฝ่ าย
                                     อักษะหลังจากที่สหรัฐอเมริ กาและสหภาพโซเวียตเข้าสู่
                                     สงครามแล้ว ส่ วนสหรัฐอเมริ กาและสหภาพโซเวียตก็กาว  ้
                                     ขึ้นเป็ นสองประเทศมหาอานาจใหม่ของโลกต่อมา
                                               หลายประเทศซึ่งถูกชาติตะวันตกยึดครองเป็ น
                                     อาณานิคม ได้ประกาศเอกราชและแยกตัวออกมาเป็ น
จานวนมาก เนื่องจากความสู ญเสี ยทรัพยากรของชาติตะวันตก ทาให้อิทธิ พลจากภายนอกอ่อนแอลง
โดยการแยกตัวดังกล่าวได้เกิดขึ้นอย่างสันติในหลายประเทศ ยกเว้นในเวียดนามซึ่ งทาให้ฝรั่งเศส
ต้องกระโจนเข้าสู่ สงครามเวียดนาม มาดากัสการ์ อนนาไปสู่ การจลาจลในมาดากัสการ์ อินโดนีเซีย
                                                ั
สู่ การปลดแอกอินโดเนเซีย และแอลจีเรี ยขยายวงเป็ นสงครามอัลจีเรี ย ในอีกหลายพื้นที่ในโลก ทา
ให้เกิดเป็ นประเทศใหม่ข้ ึนมามากมาย ด้วยเหตุผลทางมนุ ษยธรรมและศาสนา การประกาศเอกราช
ที่โดดเด่นมาก คือ ปาเลสไตน์ในอาณัติองกฤษ อันนาไปสู่
                                        ั
การก่อตั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ และในอินเดียก็เกิดการ
แตกออกเป็ นสองประเทศ คือ อินเดียและปากีสถาน
           ส่ วนการฟื้ นตัวของเศรษฐกิจหลังจากสงครามโลก
ครั้งที่สองพบว่าในหลายประเทศมีการฟื้ นตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างรวดเร็ ว เช่น เยอรมนีตะวันตก อิตาลี สหราชอาณาจักร
ฝรั่งเศสสหภาพโซเวียต และญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิง สหรัฐอเมริ กาที่มีผลผลิตทางอุตสาหกรรมคิด
                                                 ่
เป็ นครึ่ งหนึ่งของโลก โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจโลกได้ฟ้ื นคืนกลับมาเหมือนก่อนสงครามโลกครั้งที่
สองเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1953

ประเทศไทยกับสงครามโลกครั้งทีสอง   ่
         ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิ ดล
                                                               ่
จอมพล ป.พิบูลสงครามเป็ นนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยอยูภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหาร
ลัทธิ ชาตินิยมได้ถูกปลูกฝังในใจของประชาชนชาวไทย
         วันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) คณะนิสิตและนักศึกษาได้เดินขบวนและเรี ยกร้อง
ให้รัฐบาลเรี ยกร้องดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ าโขงคืนจากฝรั่งเศส ซึ่ งเสี ยไปหลังวิกฤตการณ์ ร.ศ.112
จากการสนับสนุนอย่างท่วมท้นของประชาชนไทย รัฐบาลจึงได้ส่งกองทัพข้ามแม่น้ าโขงไปโจมตี
ประเทศลาวและกัมพูชา ซึ่ งขณะนั้นยังเป็ นส่ วนหนึ่งของอินโดจีนฝรั่งเศส การรบที่เป็ นที่กล่าวขาน
                                      มาก คือ ยุทธนาวีเกาะช้าง ซึ่ งก็ทาให้เรื อรบฝรั่งเศสไม่กล้าเข้า
                                      มาในอ่าวไทยอีก การสู ้รบยังคงดาเนินต่อไป จนกระทังญี่ปุ่น
                                                                                             ่
                                      เป็ นผูเ้ ข้ามาเป็ นผูไกล่เกลี่ยในการเจรจาสงบศึก และภายหลัง
                                                            ้
                                      สงครามไทย-ฝรั่งเศสสิ้ นสุ ดเมื่อ พ.ศ. 2484 ไทยก็ได้ดินแดน
                                      เพิ่มเข้ามาอีก 4 จังหวัด คือ จังหวัดนครจัมปาศักดิ์ จังหวัด
                                      ลานช้าง จังหวัดพิบูลสงครามและจังหวัดพระตะบอง
                                      เหตุการณ์ครั้งนี้ ภายหลังได้ชื่อว่า “กรณี พิพาทอินโดจีน”
         หลังสงคราม ได้เป็ นที่คาดหมายว่า ญี่ปุ่นจะตราทัพเข้าสู่ ไทยในอนาคต รัฐบาลของจอมพล
ป. พิบูลสงครามจึงมีการรณรงค์ให้ประชาชนทางาน ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และเสริ มสร้างเศรษฐกิจ
โดยมีคาขวัญว่า "'งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข" และรัฐบาลยังได้เปิ ดเพลงปลุกใจซึ่งถูก
กระจายเสี ยงโดยสถานีวทยุกระจายเสี ยงแห่งประเทศไทย
                         ิ
          หลังจากญี่ปุ่นได้ยอมจานนเมื่อ 15 สิ งหาคม ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488) นายควง อภัยวงศ์ซ่ ึงได้
ขึ้นมาเป็ นนายกรัฐมนตรี แทนจอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ออก
"ประกาศสั นติภาพ"[217] มีผลให้การประกาศสงครามของไทย
ต่อฝ่ ายสัมพันธมิตรเป็ นโมฆะ ทาให้ประเทศไทยไม่ตกอยูใน    ่
ฐานะผูแพ้สงคราม แต่ทางฝ่ ายอังกฤษไม่ยอมรับ และเรี ยกร้อง
        ้
สิ ทธิจากไทยในฐานะของผูแพ้สงคราม นายควง อภัยวงศ์ได้
                             ้
ลาออกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และร้องขอให้ม.ร.ว.เสนีย ์
ปราโมชขึ้นเป็ นนายกรัฐมนตรี แทน ด้านม.ร.ว.เสนียก็สามารถ
                                                   ์
เจรจากับอังกฤษและสามารถตกลงกันได้ในที่สุด




ที่มา :
          http://th.wikipedia.org/wiki/
          http://www.tanarmy.com/index/ww2/timeline.html
          http://www.geozigzag.com/pdf/war_2.pdf
          http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=424703&stc=1&d=1224382744
          http://www.123thailandtravel.com/images/western/warmuseum.gif
          http://www.tanarmy.com/image/ww2/po_kirpi4iku.jpg

More Related Content

68141 สงครามโลกครั้งที่ 2

  • 1. สงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามโลกครั้งทีสอง (อังกฤษ: World War II หรื อ Second World War) เป็ นความขัดแย้ง ่ ในวงกว้างครอบคลุมทุกทวีปและประเทศส่ วนใหญ่ในโลก โดยสามารถแบ่งความขัดแย้งได้เป็ น สองภูมิภาค ทวีปเอเชียบ้างว่าเริ่ มขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. ่ 1931 บ้างก็วา ค.ศ. 1937 ในสงครามระหว่างจีนกับ ญี่ปุ่น ส่ วนในทวีปยุโรปเริ่ มต้นเมื่อ ค.ศ. 1939 จาก การรุ กรานโปแลนด์ และดาเนินไปจนกระทัง ่ สิ้ นสุ ดในปี ค.ศ. 1945 คาดว่ามีผเู ้ สี ยชีวตใน ิ สงครามครั้งนี้มากกว่า 60 ล้านคน นับเป็ นสงคราม ที่ก่อให้เกิดความสู ญเสี ยชีวตมนุษย์มากที่สุดใน ิ ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ผูเ้ ข้าร่ วมสงครามแบ่งเป็ นสองฝ่ าย ฝ่ ายหนึ่งคือฝ่ ายสัมพันธมิตรเดิมประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศสและสหภาพโซเวียต ส่ วนฝ่ ายตรงข้ามเรี ยกว่าฝ่ ายอักษะ นาโดย เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่นซึ่ง มีการระดมกาลังทหารทั้งหมดมากกว่า 100 ล้านนาย นับเป็ นสงครามขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็ น "สงครามเบ็ดเสร็ จ" ซึ่ งได้นาทรัพยากรต่าง ๆ ไปใช้ในการสงครามโดยไม่เลือกว่าเป็ นของ พลเรื อนหรื อทหาร สิ่ งที่เกิดขึ้นนี้ยงได้ส่งผลกระตุนให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ั ้ และวิทยาศาสตร์ ของชาติ เพื่อนาไปใช้ในการทาสงคราม ประมาณกันว่าสงครามโลกครั้งนี้มี ค่าใช้จ่ายเป็ นมูลค่าราวหนึ่งล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามค่าเงินในปี ค.ศ. 1944 ยังผลให้เป็ นสงคราม ที่ใช้เงินทุนและชีวตมากที่สุดด้วยเช่นกัน ิ ประเทศทีมีส่วนร่ วมในสงครามครั้งนี้ ่ ในสงครามครั้งนี้ เป็ นการสู ้รบกันระหว่างสองฝ่ ายคือ ฝ่ ายอักษะ และ ฝ่ ายพันธมิตร โดยประเทศเล็กๆ ส่ วนใหญ่แล้ว ประเทศจะเข้าร่ วมฝ่ ายตาม ประเทศเพื่อนบ้านที่แข็งแกร่ งเป็ น ส่ วนใหญ่ ฝ่ ายอักษะประกอบไปด้วยแกนนาหลัก คือ เยอรมนี อิตาลี และ ญี่ปุ่น ในนามของกลุ่มอักษะโรม-เบอร์ลิน-โตเกียว ที่มีการแถลงวัตถุประสงค์หลักในตอนต้นว่าเพื่อต่อต้าน ขบวนการคอมมิวนิสต์สากล
  • 2. ฝ่ ายพันธมิตรประกอบไปด้วยแกนนาหลัก คือ สหราชอาณาจักร, สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริ กา โดยมีประเทศที่เข้าร่ วมฝ่ ายสัมพันธมิตรที่สาคัญอีก 2 ประเทศคือ จีน และ ฝรั่งเศส ซึ่ งประเทศทั้ง 5 นี้ได้เข้าเป็ นสมาชิกถาวรของคณะมนตรี ความมันคงแห่งสหประชาชาติ ่ สาเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 2 สาเหตุสาคัญเป็ นผลมาจากประเทศเยอรมนีไม่ พอใจสนธิสัญญาแวร์ ซายส์ ซี่งเป็ นสนธิสัญญาที่เยอรมนี ต้องลงนามเมื่อแพ้สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง คือต้องจ่ายค่า ปฏิกรรมสงครามจานวนมาก ถูกลดกาลังทหาร อาวุธ ทาให้เศรษฐกิจตกต่า เสี ยดินแดน ชนวน เกิดขึ้นเมื่อเยอรมนี หาเรื่ องโปแลนด์ในประเด็นเรื่ องการไม่เคารพสิ ทธิ ของคนเชื้อสายเยอรมันใน โปแลนด์ นอกจากนี้ เมื่อทางเยอรมนีขอตัดถนนข้ามจากเยอรมนี ฝั่งตะวันตกเข้าไปยังปรัสเซีย (ซึ่ ง ปั จจุบนคือดินแดนฝั่งตะวันออกของเยอรมนี) โดยผ่านฉนวนโปแลนด์ซ่ ึ งในขณะนั้นอยูภายใต้การ ั ่ ปกครองของอังกฤษและฝรั่งเศส แต่องกฤษและฝรั่งเศสไม่อนุญาต เยอรมนีจึงยกเลิกข้อตกลงหยุด ั ่ ยิงและบุกเข้าโปแลนด์ทนที ซึ่ งอังกฤษและฝรั่งเศสได้สัญญาไว้วาจะช่วยเหลือทางทหาร จึงสั่งให้ ั เยอรมนีถอนกาลังออกภายใน 14 ชัวโมง แต่เยอรมนีปฏิเสธไม่ถอนกาลัง จึงได้ประกาศสงคราม ่ โดยแบ่งเป็ น 2 ฝ่ ายคือ ฝ่ ายอักษะ เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น ฝ่ ายสัมพันธมิตร อังกฤษ ฝรั่งเศส ต่อมาจึงมี จีน สหรัฐอเมริ กา และสหภาพโซเวียต ผลของสงคามโลกครั้งที่ 2 หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง ทวีปยุโรปไม่เหลือพลังอานาจที่จะดาเนินตาม นโยบายของตนในภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกได้อีกต่อไป ดังที่ฝ่ายสัมพันธมิตรกลับมาได้เปรี ยบฝ่ าย อักษะหลังจากที่สหรัฐอเมริ กาและสหภาพโซเวียตเข้าสู่ สงครามแล้ว ส่ วนสหรัฐอเมริ กาและสหภาพโซเวียตก็กาว ้ ขึ้นเป็ นสองประเทศมหาอานาจใหม่ของโลกต่อมา หลายประเทศซึ่งถูกชาติตะวันตกยึดครองเป็ น อาณานิคม ได้ประกาศเอกราชและแยกตัวออกมาเป็ น จานวนมาก เนื่องจากความสู ญเสี ยทรัพยากรของชาติตะวันตก ทาให้อิทธิ พลจากภายนอกอ่อนแอลง โดยการแยกตัวดังกล่าวได้เกิดขึ้นอย่างสันติในหลายประเทศ ยกเว้นในเวียดนามซึ่ งทาให้ฝรั่งเศส ต้องกระโจนเข้าสู่ สงครามเวียดนาม มาดากัสการ์ อนนาไปสู่ การจลาจลในมาดากัสการ์ อินโดนีเซีย ั
  • 3. สู่ การปลดแอกอินโดเนเซีย และแอลจีเรี ยขยายวงเป็ นสงครามอัลจีเรี ย ในอีกหลายพื้นที่ในโลก ทา ให้เกิดเป็ นประเทศใหม่ข้ ึนมามากมาย ด้วยเหตุผลทางมนุ ษยธรรมและศาสนา การประกาศเอกราช ที่โดดเด่นมาก คือ ปาเลสไตน์ในอาณัติองกฤษ อันนาไปสู่ ั การก่อตั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ และในอินเดียก็เกิดการ แตกออกเป็ นสองประเทศ คือ อินเดียและปากีสถาน ส่ วนการฟื้ นตัวของเศรษฐกิจหลังจากสงครามโลก ครั้งที่สองพบว่าในหลายประเทศมีการฟื้ นตัวทางเศรษฐกิจ อย่างรวดเร็ ว เช่น เยอรมนีตะวันตก อิตาลี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสสหภาพโซเวียต และญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิง สหรัฐอเมริ กาที่มีผลผลิตทางอุตสาหกรรมคิด ่ เป็ นครึ่ งหนึ่งของโลก โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจโลกได้ฟ้ื นคืนกลับมาเหมือนก่อนสงครามโลกครั้งที่ สองเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1953 ประเทศไทยกับสงครามโลกครั้งทีสอง ่ ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิ ดล ่ จอมพล ป.พิบูลสงครามเป็ นนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยอยูภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหาร ลัทธิ ชาตินิยมได้ถูกปลูกฝังในใจของประชาชนชาวไทย วันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) คณะนิสิตและนักศึกษาได้เดินขบวนและเรี ยกร้อง ให้รัฐบาลเรี ยกร้องดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ าโขงคืนจากฝรั่งเศส ซึ่ งเสี ยไปหลังวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 จากการสนับสนุนอย่างท่วมท้นของประชาชนไทย รัฐบาลจึงได้ส่งกองทัพข้ามแม่น้ าโขงไปโจมตี ประเทศลาวและกัมพูชา ซึ่ งขณะนั้นยังเป็ นส่ วนหนึ่งของอินโดจีนฝรั่งเศส การรบที่เป็ นที่กล่าวขาน มาก คือ ยุทธนาวีเกาะช้าง ซึ่ งก็ทาให้เรื อรบฝรั่งเศสไม่กล้าเข้า มาในอ่าวไทยอีก การสู ้รบยังคงดาเนินต่อไป จนกระทังญี่ปุ่น ่ เป็ นผูเ้ ข้ามาเป็ นผูไกล่เกลี่ยในการเจรจาสงบศึก และภายหลัง ้ สงครามไทย-ฝรั่งเศสสิ้ นสุ ดเมื่อ พ.ศ. 2484 ไทยก็ได้ดินแดน เพิ่มเข้ามาอีก 4 จังหวัด คือ จังหวัดนครจัมปาศักดิ์ จังหวัด ลานช้าง จังหวัดพิบูลสงครามและจังหวัดพระตะบอง เหตุการณ์ครั้งนี้ ภายหลังได้ชื่อว่า “กรณี พิพาทอินโดจีน” หลังสงคราม ได้เป็ นที่คาดหมายว่า ญี่ปุ่นจะตราทัพเข้าสู่ ไทยในอนาคต รัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงครามจึงมีการรณรงค์ให้ประชาชนทางาน ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และเสริ มสร้างเศรษฐกิจ
  • 4. โดยมีคาขวัญว่า "'งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข" และรัฐบาลยังได้เปิ ดเพลงปลุกใจซึ่งถูก กระจายเสี ยงโดยสถานีวทยุกระจายเสี ยงแห่งประเทศไทย ิ หลังจากญี่ปุ่นได้ยอมจานนเมื่อ 15 สิ งหาคม ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488) นายควง อภัยวงศ์ซ่ ึงได้ ขึ้นมาเป็ นนายกรัฐมนตรี แทนจอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ออก "ประกาศสั นติภาพ"[217] มีผลให้การประกาศสงครามของไทย ต่อฝ่ ายสัมพันธมิตรเป็ นโมฆะ ทาให้ประเทศไทยไม่ตกอยูใน ่ ฐานะผูแพ้สงคราม แต่ทางฝ่ ายอังกฤษไม่ยอมรับ และเรี ยกร้อง ้ สิ ทธิจากไทยในฐานะของผูแพ้สงคราม นายควง อภัยวงศ์ได้ ้ ลาออกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และร้องขอให้ม.ร.ว.เสนีย ์ ปราโมชขึ้นเป็ นนายกรัฐมนตรี แทน ด้านม.ร.ว.เสนียก็สามารถ ์ เจรจากับอังกฤษและสามารถตกลงกันได้ในที่สุด ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/ http://www.tanarmy.com/index/ww2/timeline.html http://www.geozigzag.com/pdf/war_2.pdf http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=424703&stc=1&d=1224382744 http://www.123thailandtravel.com/images/western/warmuseum.gif http://www.tanarmy.com/image/ww2/po_kirpi4iku.jpg