6. รหัสวิชา 39 คณิตศาสตร์ หน้า 5
วันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2556 เวลา 11.00 – 12.30 น.
15. กาหนดให้ ,A B และ C เป็นจุดในระบบพิกัดฉาก 3 มิติ จงพิจารณาข้อความ 4 ข้อความต่อไปนี้
(ก) 0AB BC CA
(ข) AB BC AB BC
(ค) AB BC CA BA
(ง) AB BC CA CA AB BC
จานวนข้อความที่ถูกต้องเท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 0 (ไม่มีข้อความใดถูกต้อง) 2. 1 3. 2
4. 3 5. 4
16. กาหนดให้ , ,0 ถ้า 2
sin sin
3
และ 2
cos cos
3
แล้ว มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1.
6
2.
3
3. 2
3
4. 4
3
5. 5
3
17. ผลบวกของคาตอบทั้งหมดของสมการ
52
5 5 1
x
x x
เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
(ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 5 2. 5
2
3. 0
4. 5
2
5. 5
18. ผลบวกของคาตอบทั้งหมดของสมการ 4 1
4 2 65 2x x
เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
(ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 2 2. 1
2
3. 3
2
4. 2 5. 4
7. รหัสวิชา 39 คณิตศาสตร์ หน้า 6
วันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2556 เวลา 11.00 – 12.30 น.
19. กาหนดระบบสมการ
2 3 3 28
2 12
10
x y z
x y z
x y z
ถ้า , , , ,S a b c a b c เป็นคาตอบของระบบสมการที่กาหนด โดยที่ , ,a b c เป็นจานวนเต็ม
ซึ่งอยู่ในช่วง 10,10
แล้วจานวนสมาชิกของเซต S เท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 13 2. 14 3. 15
4. 16 5. 17
20. นักเรียนห้องหนึ่งมีจานวน 30 คน สอบวิชาคณิตศาสตร์ได้เกรด A 5 คน ได้เกรด B 15 คน
และได้เกรด C 10 คน ถ้าสุ่มนักเรียน 3 คนจากห้องนี้แล้ว ความน่าจะเป็นที่จะได้นักเรียน
อย่างน้อย 1 คนที่ได้เกรด A เท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 44
203
2. 55
203
3. 66
203
4. 77
203
5. 88
203
21. อายุการใช้งานของถ่านไฟฉายชนิดหนึ่งมีการแจกแจงปกติ มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ นาที
และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ นาที ถ้า a เป็นจานวนจริงที่ทาให้ถ่านไฟฉายที่ใช้งานได้
นานระหว่าง a และ a นาที มีจานวน 34% แล้วถ่านไฟฉายที่ใช้งานได้นานระหว่าง
2a และ 2a นาที มีจานวนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
เมื่อกาหนดตารางแสดงพื้นที่ใต้เส้นโค้งปกติดังนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
Z 0.215 0.34 0.44 0.68 0.88 0.99
พื้นที่ 0.085 0.133 0.17 0.25 0.31 0.34
1. 58.5 2. 62 3. 64
4. 68 5. 81
8. รหัสวิชา 39 คณิตศาสตร์ หน้า 7
วันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2556 เวลา 11.00 – 12.30 น.
22. ข้อมูลชุดที่ 1 คือ 1 2 3 9, , , ,x x x x โดยที่ 3
5
i
i
x ทุก i
ข้อมูลชุดที่ 2 คือ 1 2 3 9, , , ,y y y y โดยที่ iy a j ทุก j
เมื่อ a เป็นจานวนจริงที่ทาให้
9
2
1
i
i
x a
มีค่าน้อยที่สุด
ถ้า b เป็นจานวนจริงที่ทาให้
9
1
j
j
y b
มีค่าน้อยที่สุด
แล้ว b มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 1 2. 2 3. 3
4. 4 5. 5
23. กาหนดให้ฟังก์ชัน ( )f x เป็นปฏิยานุพันธ์ของ 2 5x
และความชันของเส้นโค้ง ( )y g x ที่จุด ,x y ใดๆคือ 2
3x
ถ้ากราฟของฟังก์ชัน f และ g ตัดกันที่จุด 1,2
แล้ว (1)
f
g
มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. -5 2. -2 3. 1
4. 2 5. 5
24. กาหนดให้ ( )g x เป็นฟังก์ชันซึ่งมีอนุพันธ์ที่ทุกจุด และ
2
| 1|
; 1
1
( )
( ) ; 1 2
2 3 ; 2
x
x
x
f x
g x x
x x
ถ้า f ต่อเนื่องที่ทุกจุด แล้ว
2
1
( )g x dx
มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 3
2
2. 1
2
3. 0
4. 1
2
5. 3
2
9. รหัสวิชา 39 คณิตศาสตร์ หน้า 8
วันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2556 เวลา 11.00 – 12.30 น.
25. กาหนดให้
1 3 5 2 1
n
n
a
n
และ
2 4 6 2
n
n
b
n
จะได้ว่าอนุกรม
1
n n
n
a b
เป็นอนุกรมดังข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. มีผลบวกเท่ากับ 1
2
2. มีผลบวกเท่ากับ 0
3. มีผลบวกเท่ากับ 1 4. มีผลบวกเท่ากับ 1
2
5. ลู่ออก
26. กาหนดให้ 3, 2, 1,1,2,3S และ
1 2 3
4 5
6
0 , 1 6
0 0
i
a a a
M a a a S i
a
สุ่มหยิบเมทริกซ์จากเซต M มา 1 เมทริกซ์ ความน่าจะเป็นที่จะได้เมทริกซ์ ซึ่งค่าดีเทอร์มิแนนท์
ของเมริกซ์นั้นเท่ากับ 27 หรือ 27 เท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 3
2
6
2. 3
4
6
3. 3
6
6
4. 3
8
6
5. 3
10
6
27. ถ้า A และ B เป็นเซตของจานวนเชิงซ้อน โดยที่
1 5 6A z z z และ 1 7 4B z z z
แล้วจานวนสมาชิกของ A B เท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 0 2. 1 3. 2
4. 3 5. มากกว่าหรือเท่ากับ 4
28. กาหนดลาดับซึ่งประกอบด้วยจานวนเต็มบวกทุกจานวนที่หารด้วย 5 ไม่ลงตัว เรียงจากน้อยไปหามาก
ถ้าผลบวกของ n พจน์แรกของลาดับนี้เท่ากับ 9000 แล้ว n มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้
(ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 100 2. 110 3. 120
4. 130 5. 140
10. รหัสวิชา 39 คณิตศาสตร์ หน้า 9
วันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2556 เวลา 11.00 – 12.30 น.
29. กาหนดให้ 1,2,3,4,5,6A
2
( ) ( ) , ,B p x p x ax bx c a b c A
สุ่มหยิบ ( )p x มาหนึ่งตัวจากเซต S ความน่าจะเป็นที่จะได้ ( )p x ซึ่ง
1
0
( )p x dx มีค่าเป็น
จานวนเต็ม เท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 1
12
2. 2
12
3. 3
12
4. 4
12
5. 5
12
30. กาหนดให้กราฟของ อนุพันธ์ของฟังก์ชัน f เป็นดังรูป
นักเรียนคนหนึ่งได้สรุปว่า f ต้องเป็นดังข้อความต่อไปนี้
(ก) f(x) = - x เมื่อ 2 3x
(ข) f เป็นฟังก์ชันลด เมื่อ 0 2x
(ค) f มีจุดต่าสุดสัมพัทธ์ที่จุด 4x
(ง) f มีจุดสูงสุดสัมพัทธ์ที่จุด 1x
จานวนข้อความที่นักเรียนคนนี้สรุปได้อย่างถูกต้อง เท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ 56)
1. 0 (ไม่มีข้อความใดถูก) 2. 1
3. 2 4. 3
5. 4
Y
X
1 2 3 4 5 6
1
-1
เมื่อ
y = f (x)
11. เฉลยข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปีการศึกษา 2556 จากกลุ่มคณิตมัธยมปลาย หน้า 2
http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath/ เพื่อการศึกษาเท่านั้น และไม่เกี่ยวข้องกับเชิงธุรกิจใดๆทั้งสิ้น
หลักในการแก้อสมการพหุนาม
1. ทาให้ข้างใดข้างหนึ่งเป็น 0
2. ทาให้สัมประสิทธิ์ของตัวแปรที่มีกาลังมากสุดเป็น
3. แยกตัวประกอบ
4. เขียนเส้นจานวน
** ระวัง ค่า x ที่ทาให้ส่วนเป็น 0 ต้องเป็นช่วงเปิด
เฉลยข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปีการศึกษา 2556
ตอนที่ 1 แบบระบายตัวเลขที่เป็นคาตอบ จานวน 10 ข้อ ข้อละ 2 คะแนน รวม 20 คะแนน
1. ตอบ 4
จากอสมการ ( 1)( 3)
0
(2 1)
x x
x x
สามารถเขียนเส้นจานวนได้ดังรูป
ดังนั้นจานวนเต็มที่สอดคล้องกับอสมการดังกล่าวมี 4 จานวนคือ -1 , 1 , 2 , 3 นั่นเอง
2. ตอบ 25
จากที่เรารู้ว่า 2i เป็นคาตอบของสมการ ( ) 0P x
2i จะเป็นคาตอบของสมการ ( ) 0P x ด้วย
เนื่องจาก ( )P x เป็นพหุนามกาลัง 3 ดังนั้นจะต้อง
มีคาตอบของสมการ ( ) 0P x อีกคาตอบหนึ่งด้วย
สมมติให้ตัวประกอบอีกตัวหนึ่งคือ mx n
นั่นคือ ( ) ( 2 )( 2 )( )P x x i x i mx n
ดังนั้น 3 2 2 2 2
( ) 2 12 ( 4 )( ) ( 4)( )P x x ax bx x i mx n x mx n
เมื่อเทียบสัมประสิทธิ์ของ 3
x เลยทาให้เราได้ว่า 2m
เมื่อเทียบสัมประสิทธิ์ของพจน์ค่าคงที่พจน์สุดท้าย เลยทาให้เราได้ว่า 3n
สรุป : 2
( ) ( 2 )( 2 )(2 3) ( 4)(2 3)P x x i x i x x x
ดังนั้น (1) (1 4)(2 3) 25P
ทฤษฎีที่เกี่ยวกับรากของสมการพหุนาม
กาหนดให้ เป็นพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์
เป็นจานวนเต็ม หากเรารู้ว่าจานวนเชิงซ้อน เป็น
คาตอบของสมการ แล้ว เราจะได้ว่า
จะเป็นคาตอบของสมการ ด้วย ^^
-1 0 3-
12. เฉลยข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปีการศึกษา 2556 จากกลุ่มคณิตมัธยมปลาย หน้า 3
http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath/ เพื่อการศึกษาเท่านั้น และไม่เกี่ยวข้องกับเชิงธุรกิจใดๆทั้งสิ้น
ความสัมพันธ์ระหว่างการ dot และการ cross
สาหรับเวกเตอร์ ใดๆ เราจะได้ว่า
(นั่นคือ เวกเตอร์สามารถเลื่อนไปทางขวาได้ 1 ตาแหน่ง
ทั้ง 3 เวกเตอร์ในทางเดียวกันในทานองว่าเป็น loop
โดยที่เครื่องหมาย และเครื่องหมาย ยังต้องอยู่ที่เดิม)
3. ตอบ 0.75
จาก 2 3b a จะได้ว่า 3
2
b a
จากกฎของไซน์ sin sinA B
a b
จะได้ว่า
3
2
sin sin 2A A
a a
นั่นคือ 3
2
sin 2
sin
A
A
แต่จาก sin2 2sin cosA A A
ดังนั้น 3
sin 2sin cos
2
A A A
นั่นคือ 3
cos 0.75
4
A นั่นเอง
4. ตอบ 8
จาก v u w w v u
จะได้ว่า v u w v w u
2 4 2 3i j k i j k
( 1)(2) ( 2)(1) ( 4)( 3)
8
หมายเหตุ
1. สาหรับเวกเตอร์ u และ v ใดๆ เราจะได้ว่า u v v u
2. ถ้า u ai b j ck และ v di e j f k จะได้ว่า u v ad be cf
ความรู้เพิ่มเติม 1 : ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการดาเนินการตามแถว
การดาเนินการตามแถว (Row Operation) คือกระบวนการที่เราจะปรับรูปแบบของเมทริกซ์เพื่อให้ได้
เมทริกซ์ใหม่ที่สะดวกต่อการคานวณมากขึ้น มีอยู่ด้วยกัน 3 ลักษณะคือ
1. คูณแถวที่ i ด้วยค่าคงที่ k (เมื่อ 0k ) เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ ikR
2. สลับแถวที่ i กับแถวที่ j เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ ijR
3. คูณแถวที่ i ด้วยค่าคงที่ k (เมื่อ 0k ) แล้วนาไปบวกกับแถวที่ j (แถวที่ j จะเปลี่ยนแปลง)
เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ i jkR R
โดยเราจะใช้เครื่องหมาย ~ แทนการดาเนินการตามแถวในแต่ละขั้นตอน และเขียนกากับไว้ทุกขั้นตอน
กฎของไซน์สาหรับสามเหลี่ยมทั่วไป
สามเหลี่ยม ABC ที่มี
ความยาวด้านตรงข้าม
มุม A , B, C คือ a , b ,c
ตามลาดับ เราจะได้ว่า
กฎของไซน์ คือ
หมายเหตุ : นะครับ :))
A
B Ca
bc
13. เฉลยข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปีการศึกษา 2556 จากกลุ่มคณิตมัธยมปลาย หน้า 4
http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath/ เพื่อการศึกษาเท่านั้น และไม่เกี่ยวข้องกับเชิงธุรกิจใดๆทั้งสิ้น
เช่น กาหนดให้
1 4 2
2 1 0
0 3 4
A
ถ้าเมทริกซ์ ~A B โดยการดาเนินการ 32R จะได้ว่า
3
1 4 2
2 1 0
0 6 8 2
B
R
ถ้าเมทริกซ์ ~B C โดยการดาเนินการ 1 22R R จะได้ว่า 1 2
1 4 2
4 7 4 2
0 6 8
C R R
ถ้าเมทริกซ์ ~C D โดยการดาเนินการ 23R จะได้ว่า
23
1 4 2
0 6 8
4 7 4
D
R
ความรู้เพิ่มเติม 2 : การแก้ระบบสมการกับการดาเนินการตามแถว
จากระบบสมการ
11 12 13
21 22 23
31 32 33
a x a y a z
a x a y a z
a x a y a z
1
2
3
b
b
b
เราสามารถเขียนเป็นเมทริกซ์แต่งเติม (Augmented Matrix) ได้เป็น
11 12 13 1
21 22 23 2
31 32 33 3
a a a
a a a
a a a
b
b
b
ซึ่งไม่ว่าเราจะใช้การดาเนินการตามแถวทั้ง 3 แบบที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น กับเมทริกซ์แต่งเติมนี้
อย่างไรก็ตาม เราจะได้ว่า คาตอบของระบบสมการจะไม่เปลี่ยนแปลง
5. ตอบ 17
จากระบบอสมการที่โจทย์กาหนดให้
2 3
3
2 5 5
x y z a
x y b
x y z c
เขียนเป็นเมทริกซ์ได้เป็น
1 2 3
1 3 0
2 5 5
a
b
c
แต่โจทย์กาหนดให้
1 2 3 1 2 3 9
1 3 0 ~ 0 1 3 5
2 5 5 0 0 1 2
a
b
c
แสดงว่าระบบสมการจะไม่เปลี่ยนไป
ซึ่งจาก
1 2 3 9
0 1 3 5
0 0 1 2
จะทาให้เราได้ว่า 2z , 3 5y z และ 2 3 9x y z
นั่นคือ 1x , 1y และ 2z
ซึ่งจากโจทย์จะได้ว่า 2 5 5 2(1) 5( 1) 5(2) 17c x y z