ݺߣ
Submit Search
นาฬิกาชีวิต (Biological clock)
•
0 likes
•
453 views
WeIvy View
Follow
1 of 3
Download now
Download to read offline
More Related Content
นาฬิกาชีวิต (Biological clock)
1.
นาฬิกาชีวิต (Biological Clock) คุณทราบไหมวา
รางกายของคุณทํางานตาม ชวงเวลา ขณะที่เราทํากิจวัตรประจําวันอยูนั้นรางกายและอวัยวะ ของเราก็ทํางานอยูเหมือนกันแตหากเราไมไดใสใจ กินนอน ตามแตใจชอบ รางกายก็อาจเกิดความผิดปกติเล็กๆนอยๆนาน วันเขาก็อาจกลายเปนโรคขึ้นได ดังนั้นเราจึงควรปรับเปลี่ยนการดําเนินชีวิตใหสอดคลอง กับแตละชวงเวลาของวัน ดังนี้ 5.00-6.00 น. เปนชวงเวลาที่นาตื่นนอนที่สุดเพราะเปน ชวงเวลาที่รางกายจะเริ่มหลั่งสารคอรติซอลและจะเพิ่มสูงสุดใน เวลา 8.00 น. ซึ่งสารคอรติซอลเปนสเตรอยดตามธรรมชาติใน รางกาย เพื่อตานการอักเสบ ควบคุมระดับความเครียด และชวย ใหสมองปลอดโปรง มีชีวิตชีวา ถาไมตื่นชวงนี้เราจะไมไดรับประโยชนจากสารนี้เลย เพราะฉะนั้นไมวาทานจะหลับกี่โมงก็ควรตื่นในเวลานี้ และในตอนเชาจะเปนเวลาการทํางานของลําไสใหญดวย มันจะบีบตัวแรงสุดในชวงนี้ซึ่งเหมาะมากกับการขับถายอุจจาระ การไมถายอุจจาระในตอนเชาจะทําใหของเสียคั่งคางถูกดูดซึม กลับมาใหม ฉะนั้นการถายอุจจาระทุกวัน ยังไมสําคัญเทา ถายทุกเชา 6.00-8.00 น. ถือเปนชวงที่เหมาะกับการออกกําลังกาย มากที่สุด แนะนําใหออกกําลังกายติดตอกันอยางนอย 30นาที และเคล็ดลับสําหรับผูทีอยากลดความอวน ควรออกกําลังกาย ตอไปอีก 30 นาที เนื่องจาก 30 นาทีแรก รางกายจะดึงน้ําตาล ในเลือดกับในตับมาใช แตหลังจากนั้นถือวาเปนนาทีทอง ที่ รางกายจะเผาผลาญไขมันที่สะสมอยูเดิมตามรางกาย ดังนั้นผูที่ ตองการลดน้ําหนักตองกําลังกายเบาๆติดตอกันประมาณ 1 ชั่วโมง และแนะนําใหงดทานอาหารหลังจากออกกําลังกายอีก
2.
ประมาณ 1 ชั่วโมง
อาจดื่มน้ําเปลาไดบาง ที่ทําเชนนี้กเพื่อ ปลอยใหรางกายนําไขมันที่สะสมออกมาใชอยางเต็มที่ หลัง ออกกําลังกายเสร็จก็ควรอาบน้ํา ซึ่งน้ําที่อาบควรเปนน้ําเย็นหรือ อุณหภูมิปกติ เพื่อชวยในการเผาผลาญ และทําใหสดชื่น กระปรี้กระเปราพรอมที่จะเผชิญความเครียดตลอดวัน พอสายหนอยควรเติมพลังดวยอาหารมื้อที่สําคัญที่สุดคือ มื้อเชา ซึ่งควรทานมื้เชาทุกเชา ถาเราไมรับประทานอาหาร รางกายจะคิดวาเราขาดอาหาร โดยจะไปดึงอาหารที่คางไวเมื่อ คืนนํากลับมาใชใหม ซึ่งผลเสียคือของเสียและสารพิษจะคั่งคาง อยูในรางกายสงผลถึงการมีกลิ่นตัว สิว และโรค อวน ตามมาได 08.00-13.00 น. ชวงนี้หันมาทํางานกันดีกวา เพราะชวง นี้เปนชวงที่รางกายสามารถทํางานไดมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะตั้งแตเที่ยงวันเปนตนไปนั้น สมาธิของเราจะเริ่มลดลง และการทํางานไมดีนัก นั่นเปนเพราะวาไดเวลาของอาหารมื้อที่ 2 แลว (ในมื้อกลางวันสําหรับผูที่อยากมีหุนสวยก็ขอแนะนําให เลี่ยงอาหารประเภทแปง อยางอื่นทานไดตามสมควร) 13.00-17.00 น. เปนชวงเวลาเผาผลาญของรางกายทํา ใหความรอนสูง จึงควนดื่มน้ําเยอะๆหรืออาจทานผลไมเติม พลังงานไดเล็กนอย แตไมควรทานอาหารมื้อหนัก เนื่องดวย เวลานี้เปนเวลาการทํางานของลําไสเล็ก การทานอาหารมื้อ หนักจะทําใหเลือดไปเลี้ยงกระเพาะอาหารแทนที่จะไปเลี้ยงที่ ลําไสเล็ก ทําใหอาหารที่เราทานเขาไปในตอนเชาถูกดูดซึมได ไมคอยดี 17.00-21.00 น. ชวงนี้รางกายจะเรื่มซอมแซมตัวเอง ดังนั้นเราควรพัก งดกิน งดออกกําลังกายไดมีเวลาฟนฟูตัวเอง เพราะถามีกิจกรรมที่รางกายตองใชพลังงาน แรธาตุตางๆที่ควร จะเขาไปชวยซอมแซมรางกายก็กลายมาเปนพลังงานแทน แตกาในชวงเวลานี้จําเปนตองกินจริงๆ เชน ตองไปปารตี้กับ
3.
เพื่อนฝูงก็ขอแนะนําใหทานอะไรก็ไดที่ไมใชแปงและน้ําตาล เพราะมันจะไปสะสมทําใหเราอวนได 21.00-23.00 น. เปนชวงที่ตองการใหความอบอุนแก รางกาย
ถาเปนไปไดอยาอาบน้ําเย็นเพราะอาจทําใหปนหวัด งาย จําไวงายๆคือตอนเชาอาบน้ําเย็น ตอนเย็นอาบ น้ําอุน แลวเวลานี้ยังเปนเวลาที่ควรเขานอนที่สุด ดวย 23.00-01.00 น. เปนชวงเวลาของถุงน้ําดี อวัยวะใดใน รางกายเมื่อขาดน้ํา จะดึงน้ําในถุงน้ําดี ทําให ถุงน้ําดีขน เปนผล ใหอารมณฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกบวม ปวดฟน นอนไม หลับตื่นกลางดึกหรือตอนเชาจะจาม ฉะนั้นแนะนําใหทานน้ํา เยอะๆกอนนอน 01.00-03.00 น. รางกายก็ยังคงทํางานอยู ชวงที่หลับอยู นี้ตับจะทําหนาที่ขจัดสารพิษ ฆาเชื้อโรคเพราะฉะนั้นถาใครนอน ดึกไขมันจะไปพอกตัวที่ตับซึ่งจะทําใหติดเชื้องาย แตถาใคร นอนหลับไดดีเปนประจําในชวงเวลานี้ จะทําใหหนาออน กวาวัย 03.00-05.00 น. เปนชวงเวลาของปอด จะตื่นหรือหลับก็ ได แตหากได อยากใหลุกขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเชา ลองสูดหายใจ เขา-ออกลึกๆ สัก 3-4 รอบ เพื่อเปนการกระตุน การทํางานของปอดไดเปนอยางดี * เอกสารอางอิง http://en.wikipedia.org/wiki/circadian_rhythm
Download