ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
หลักการทำางานของ
คอมพิวเตอร์
โดย....ครูทนงศักดิ์ สุขกาย
คอมพิวเตอร์ คืออะไร...
คอมพิวเตอร์ คือ เครื่องคำำนวณ
อิเล็กทรอนิกส์ที่มีกำรทำำงำนแบบ
อัตโนมัติ ทำำหน้ำที่เหมือนสมองกล
สำมำรถแก้ปัญหำต่ำงๆ ทั้งที่ง่ำยและซับ
ซ้อนตำมคำำสั่งของโปรแกรม มำจำก
ภำษำละตินว่ำ Computare ซึ่งหมำยถึง
กำรนับ หรือ กำรคำำนวณ พจนำนุกรม
ฉบับรำชบัณฑิตยสถำน พ.ศ. 2525 ให้
ควำมหมำยของคอมพิวเตอร์ไว้ว่ำ
"เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำำ
2
บิดำแห่งคอมพิวเตอร์ต้น
กำำเนิดคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์มีวิวัฒนำกำรมำจำกนิ้วมือ
มนุษย์ ที่ใช้นิ้วในกำรนับตัวเลข ใช้ไม้ขีด
เขียนบนพื้นดิน หรือใช้ลูกหินมำเรียงต่อกัน
ต่อมำได้มีกำรพัฒนำขึ้นด้วยกำรใช้เชือกรอย
ต่อกัน จัดเรียงให้เป็นระบบ (คล้ำยกับลูกคิด)
หลังจำกนั้นก็มีกำรพัฒนำเครื่องมือต่ำงๆ ขึ้น
มำเพื่อใช้ในกำรนับ ลักษณะใหญ่ที่คิดกันมัก
จะเป็นเครื่องยนต์ที่มีกลไก (Mechanics) ที่
ประกอบด้วยฟันเฟื่อง รอกและคำน ซึ่งเป็น
เครื่องมือที่กึ่งอัตโนมัติ ที่สำมำรถคำำนวณขั้น
3
ปี 1822 ชำลส์ แบบเบจ (Charles
Babbage) ได้ทำำกำรออกแบบเครื่อง Difference
Engine โดยได้รับทุนสนับสนุนจำกรัฐบำล แต่
เครื่อง Difference Engine นี้สร้ำงไม่เสร็จ เพรำะ
แบบเบจได้ค้นพบควำมไม่น่ำเชื่อถือบำงประกำรใน
กำรคำำนวณ จึงล้มเลิก และไปคิดเครื่องใหม่ที่ชื่อว่ำ
Analytical Engine ซึ่งประกอบด้วยหน่วยควำมจำำ
(Memory Unit) ที่สำมำรถจัดเก็บตัวเลขและนำำไป
คำำนวณ
บิดำแห่งคอมพิวเตอร์ต้น
กำำเนิดคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
4
คอมพิวเตอร์มีกี่ยุค...
ยุคของคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งได้เป็น 5 ยุค
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 (พ.ศ. 2488-2501)   
เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดสุญญากาศซึ่งใช้
กำาลังไฟฟ้าสูง จึงมีปัญหาเรื่องความร้อนและ
ไส้หลอดขาดบ่อย ถึงแม้จะมีระบบระบาย
ความร้อนที่ดีมาก การสั่งงานใช้ภาษาเครื่อง
ซึ่งเป็นรหัสตัวเลขที่ยุ่งยากซับซ้อน เครื่อง
คอมพิวเตอร์ของยุคนี้มีขนาดใหญ่โต เช่น
มาร์ค วัน (MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยูนิ
แวค (UNIVAC)
5
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 2 (พ.ศ. 2502-
2507)
คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช้ทรานซิสเตอร์
(Transistor) เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์
และใช้วงแหวนแม่เหล็กเป็นหน่วย
ความจำา คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กกว่า
ยุคแรก ต้นทุนตำ่ากว่า ใช้กระแสไฟฟ้า
น้อยกว่า และมีความแม่นยำา
คอมพิวเตอร์มีกี่ยุค...(ต่อ)
6
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3 (พ.ศ. 2507 - 2512)
คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม อยู่ระหว่างปี พ.ศ.
2507 ถึง พ.ศ. 2512 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้
วงจรรวม (Integrated Circuit : IC) โดย
วงจรรวมแต่ละตัวจะมีทรานซิสเตอร์บรรจุอยู่
ภายในมากมายทำาให้เครื่องคอมพิวเตอร์จะ
ออกแบบซับซ้อนมากขึ้น และสามารถสร้าง
เป็นโปรแกรมย่อย ๆ ในการกำาหนดชุดคำาสั่ง
ต่าง ๆ ทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีระบบควบคุมที่มี
ความสามารถสูงทั้งในรูประบบแบ่งเวลาการ
ทำางานให้กับงานหลาย ๆ อย่าง
คอมพิวเตอร์มีกี่ยุค...(ต่อ)
7
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 4
คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึง
ปัจจุบัน เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจร
รวมความจุสูงมาก (Very Large Scale
Integration : VLSI) เช่น ไมโคร
โพรเซสเซอร์ที่บรรจุทรานซิสเตอร์นับหมื่น
นับแสนตัว ทำาให้ขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์มี
ขนาดเล็กลงสามารถตั้งบนโต๊ะในสำานักงาน
หรือพกพาเหมือนกระเป๋าหิ้วไปในที่ต่าง ๆ ได้
ขณะเดียวกันระบบซอฟต์แวร์ก็ได้พัฒนาขีด
ความสามารถสูงขึ้นมาก มีโปรแกรมสำาเร็จให้
คอมพิวเตอร์มีกี่ยุค...(ต่อ)
8
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 5
คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า เป็นคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์
พยายามนำามาเพื่อช่วยในการตัดสินใจและ
แก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีการเก็บความ
รอบรู้ต่าง ๆ เข้าไว้ในเครื่อง สามารถเรียกค้น
และดึงความรู้ที่สะสมไว้มาใช้งานให้เป็น
ประโยชน์ คอมพิวเตอร์ยุคนี้เป็นผลจาก
วิชาการด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial
Intelligence : AI) ประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่
ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศใน
ทวีปยุโรปกำาลังสนใจค้นคว้าและพัฒนาทาง
คอมพิวเตอร์มีกี่ยุค...(ต่อ)
9
ประเภทของเครื่อง
คอมพิวเตอร์...
การจัดแบ่งประเภทของ เครื่อง
คอมพิวเตอร์ จะอาศัยความเร็วของการ
ประมวลผล และขนาดความจำา ของหน่วย
บันทึกข้อมูล ซึ่งสามารถแบ่งได้ เป็น 4
ประเภท ได้แก่
 Supercomputers
 Mainframe Computers
 Minicomputers
 Microcomputers
10
SUPER COMPUTER
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง มี
ความเร็วในการประมวลผลที่สูงประมาณ
100 คำาสั่งต่อวินาที และมีขนาดความจำา
ปริมาณมาก ต้องการห้องที่สามารถปรับ
อุณหภูมิได้ และมักจะใช้งานในวิจัยต่าง ๆ
เช่น การวิจัยเกี่ยวกับ ดินฟ้า
อากาศ(อุตุนิยมวิทยา) การวิเคราะห์ภาพถ่าย
ดาวเทียม การวิเคราะห์ด้านโมเลกุลของสาร
ต่าง ๆ
11
MAINFRAME
COMPUTER
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพรองมา
จาก Super Computer มีความต้องการการ
บำารุงรักษาคล้าย ๆ กับ Super Computer
   แต่มักจะพบในองค์กรขนาดใหญ่ เช่น
ธนาคาร ธุรกิจการบิน บริษัท และ
มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพราะเป็นเครื่อง
คอมพิวเตอร์ที่สามารถเชื่อมโยงกับเครื่อง
ปลายทางได้จำานวนมาก ทำาให้สามารถตอบ
สนองการใช้งานของผู้ใช้ได้พร้อมกันหลาย
ๆ คน
12
MINI COMPUTER   
เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง ที่มักจะพบ
ในหน่วยงานบริษัทที่ใช้งานเฉพาะด้าน เช่น
ประมวลผลงานบัญชี โดยสามารถนำาไปเชื่อม
ต่อกับเครื่องปลายทางได้หลายเครื่อง โดยมี
ลักษณะการทำางานแบบ การประมวลผลกระ
ทำาอยู่ที่ส่วนกลาง แล้วนำาไปประมวลผลที่
เครื่องปลายทาง โดยที่เครื่องปลายทางไม่
ต้องประมวลผลเอง (Centralized)
13
MICRO COMPUTER  
คอมพิวเตอร์ใช้งานที่พบได้อย่างแพร่
หลาย โดยอาจจะพบได้ทั้งในรูปของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบตั้งโต๊ะ
(Personal Computer) หรือแบบพกพา
(Portable Computer) ลักษณะต่าง ๆ
14

More Related Content

computer บทที่ 1