ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
งานนาเสนอ
รายวิชา วิทยาศาสตร์
 เรื่ อง เครื่ องใช้ ไฟฟา
                        ้
จัดทำโดย
เด็กหญิง   วิมลรัตน์ วรรกำร เลขที่ 37
เด็กหญิง   ศิรินพร เต็มใจ เลขที่ 38
เด็กหญิง   สมัชญำ ค้ำสม เลขที่ 39
เด็กหญิง   สุ ดำรัตน์ อินโต เลขที่ 40
คำȨ
     รายงานเล่มนี ้เป็ นส่วนหนึงของวิชา วิทยาศาสตร์ จัดทาขึ ้นเพื่อประกอบการศึกษา
                                  ่
วิชา วิทยาศาสตร์ วิชานี ้ที่ต้องการให้ ผ้ เู รี ยนได้ เรี ยนรู้ เกี่ยวกับเครื่ องใช้ ไฟฟาในบ้ าน
                                                                                        ้
เพื่อให้ ผ้ อานได้ รับข้ อมูลอย่างถูกต้ อง และหวังเป็ นอย่างยิ่งว่ารายงานเล่มนี ้จะเป็ น
            ู่
ประโยชน์ตอผู้อานไม่มากก็น้อย
               ่ ่
                ถ้ าหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี ้ด้ วย



                                                                             คณะผู้จดทา
                                                                                    ั
เครื่องใช้ ไฟฟ้ า
เครื่องใช้ ไฟฟ้ า คือ อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงำนไฟฟ้ ำเป็ นพลังงำนรู ปอื่น
เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่
1. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้แสงสว่ำง
2. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้ควำมร้อน
3. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้พลังงำนกล
4. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้พลังงำนเสี ยง
ประเภทของหลอดไฟ
1. หลอดไฟฟ้ ำธรรมดำ มีไส้หลอดที่ทำด้วยลวดโลหะที่มีจุดหลอมเหลวสู ง เช่น
ทังสเตนเส้นเล็กๆ ขดเอำไว้เหมือนขดลวดสปริ งภำยในหลอดแก้วสู บอำกำศออก
หมดแล้วบรรจุก๊ำซเฉื่ อย เช่น อำร์กอน (AR) ไว้ ก๊ำซนี้ช่วยป้ องกันไม่ให้หลอด
ไฟฟ้ ำดำ ลักษณะของหลอดไฟเป็ นดังรู ป

หลักการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา
                         ้
กระแสไฟฟ้ ำไหลผ่ำนไส้หลอดซึ่ งมีควำมต้ำนทำนสู ง พลังงำนไฟฟ้ ำจะเปลี่ยนเป็ น
พลังงำนควำมร้อน ทำให้ไส้หลอดร้อนจัดจนเปล่งแสงออกมำได้ กำรเปลี่ยน
พลังงำนเป็ นดังนี้
พลังงำนไฟฟ้ ำ >>>พลังงำนควำมร้อน >>>พลังงำนแสง
2. หลอดเรื่ องแสง หรื อ หลอดฟลูออเรสเซนต์ (fluorescent) เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงำน
ไฟฟ้ ำเป็ นพลังงำนแสงสว่ำง ซึ่ งมีกำรประดิษฐ์ในปี ค.ศ. 1938 โดยมีรูปร่ ำงหลำยแบบ อำจ
ทำเป็ นหลอดตรง สั้น ยำว ขดเป็ นวงกลมหรื อครึ่ งวงกลม เป็ นต้น
ส่ วนประกอบของหลอดเรืองแสง
                                   ่
ตัวหลอดมีไส้โลหะทังสเตนติดอยูที่ปลำยทั้ง 2 ข้ำง ของหลอดแก้ว ซึ่ งผิวภำยในของหลอด
ฉำบด้วยสำรเรื่ องแสง อำกำศในหลอดแก้วถูกสู บออกจนหมดแล้วใส่ ไอปรอทไว้เล็กน้อย
ดังรู ป
อุปกรณ์ที่ใช้เพื่อให้หลอดเรื องแสงทำงำน
1. สตำร์ตเตอร์ (starter) ทำหน้ำที่เป็ นสวิตซ์อตโนมัติในขณะหลอด
                                              ั
เรื องแสง ยังไม่ติดและหยุดทำงำนเมื่อหลอดติดแล้ว
2. แบลลัสต์ (Ballast) ทำหน้ำที่เพิมควำมต่ำงศักย์ เพื่อให้หลอดไฟเรื อง
                                   ่
แสงติดในตอนแรกและทำหน้ำที่ ควบคุมกระแสไฟฟ้ ำที่ผำนหลอด ให้่
ลดลงเมื่อหลอดติดแล้ว
กำรใช้หลอดเรื องแสงต้องต่อวงจรเข้ำกับสตำร์ตเตอร์
และแบลลัสต์ แล้วจึงต่อเข้ำกับสำยไฟฟ้ ำใȨ้ำน
หลักการทางานของหลอดเรืองแสง
เมื่อกระแสไฟฟ้ ำผ่ำนไส้หลอดจะทำให้ไส้หลอดร้อนขึ้น ควำมร้อนที่เกิดทำให้ปรอทที่บรรจุ
ไว้ในหลอดกลำยเป็ นไอมำกขึ้น เมื่อกระแสไฟฟ้ ำผ่ำนไอปรอทได้จะคำยพลังงำนไฟฟ้ ำให้
                                        ่
ไอปรอท ทำให้อะตอมของไอปรอทอยูในภำวะถูกกระตุน และอะตอมปรอทจะคำยพลังงำน
                                                        ้
ออกมำเพื่อลดระดับพลังงำนของตนในรู ปของรังสี อลตรำไวโอเลต เมื่อรังสี ดงกล่ำวกระทบ
                                                   ั                        ั
สำรเรื องแสงที่ฉำบไว้ที่ผิวในของหลอดเรื องแสงนั้นก็จะเปล่งแสงได้ โดยให้แสงสี ต่ำงๆ
ตำมชนิดของสำรเรื องแสงที่ฉำบไว้ภำยในหลอดนั้น เช่น แคดเมียมบอเรทจะให้แสงสี ชมพู
ซิ งค์ซิลิเคทให้แสงสี เขียว แมกนีเซี ยมทังสเตนให้แสงสี ขำวอมฟ้ ำ และยังอำจผสมสำรเหล่ำนี้
เพื่อให้ได้สีผสมที่แตกต่ำงออกไปอีกด้วย
ข้ อดีของหลอดเรืองแสง
1. มีประสิ ทธิ ภำพสู งกว่ำหลอดไฟฟ้ ำธรรมดำ เสี ยค่ำไฟฟ้ ำเท่ำกัน แต่ได้ไฟที่สว่ำงกว่ำ
2. ให้แสงที่เย็นตำ กระจำยไปทัวหลอด ไม่รวมเป็ นจุดเหมือนหลอดไฟฟ้ ำธรรมดำ
                               ่
3. อำจจัดสี ของแสงแปรเปลี่ยนได้ โดยกำรเปลี่ยนชนิดสำรเรื องแสง
4. อุณหภูมิของหลอดเรื องแสงไม่สูงเท่ำกับหลอดไฟธรรมดำขณะทำงำน
3. หลอดนีออน หรื อหลอดไฟโฆษณำ เป็ นอุปกรณ์ไฟฟ้ ำที่เปลี่ยนพลังงำนไฟฟ้ ำเป็ น
แสงสว่ำง มีลกษณะเป็ นหลอดแก้วที่ถกลนไฟ ดัดเป็ นรู ปหรื ออักษรต่ำงๆ สูบอำกำศ
                ั                     ู
ออกเป็ นสุ ญญำกำศ แล้วใส่ ก๊ำซบำงชนิ ดที่ให้แสงสี ตำงๆ ออกมำได้ เมื่อมีกระแสไฟฟ้ ำ
                                                     ่
                                                                  ่
ผ่ำนหลอดชนิดนี้ไม่มีไส้หลอดไฟ แต่ใช้ข้ วไฟฟ้ ำทำด้วยโลหะติดอยูที่ปลำย
                                            ั
ทั้ง 2 ข้ำง แล้วต่อกับแหล่งกำเนิดไฟฟ้ ำที่มีควำมต่ำงศักย์สูงประมำณ 10,000 โวลต์ ซึ่ งมี
                                 ๊
ควำมต่ำงศักย์ที่สูงมำก จะทำให้กำซที่บรรจุไว้ในหลอดเกิดกำรแตกตัวเป็ นนีออนและ
นำไฟฟ้ ำได้เมื่อกระแสไฟฟ้ ำผ่ำนก๊ำซเหล่ำนี้จะทำให้ก๊ำซร้อนติดไฟให้แสงสี ต่ำงๆ ได้
ตัวอย่ำงก๊ำซชนิ ดต่ำงๆ ที่บรรจุในหลอดโฆษณำ
- ก๊ำซนีออน ให้แสงสี แดง
- ก๊ำซฮีเลียม ให้แสงสี ชมพู
- ก๊ำซอำร์ กอน ให้แสงสี ขำวอมน้ ำเงิน และถ้ำใช้ก๊ำซต่ำงๆ ผสมกันก็จะได้สีต่ำงๆ
ออกไป
ข้ อแนะนำกำรใช้ หลอดไฟอย่ ำงประหยัด


1. ใช้หลอดเรื องแสงจะให้แสงสว่ำงมำกกว่ำหลอดธรรมดำประมำณ 4 เท่ำ เมื่อใช้พลังงำน
ไฟฟ้ ำเท่ำกัน และอำยุกำรใช้งำนจะทนกว่ำประมำณ 8 เท่ำ
2.ใช้แสงสว่ำงให้เหมำะกับกำรใช้งำนที่ใดต้องกำรแสงสว่ำงไม่มำกนักควรติดไฟน้อยดวง
3. ทำควำมสะอำดโป๊ ะไฟ จะให้แสงสว่ำงเต็มที่
4. ปิ ดไฟทุกครั้งที่ไม่จำเป็ นต้องใช้
พัึϸมไฟฟา
            ้


    พัดลมไฟฟ้ ำเป็ นผลิตภัณฑ์อำนวยควำมสะดวกชนิ ดหนึ่ง ที่ช่วยบรรเทำควำมร้อน
จำกสภำพภูมิอำกำศ พัด ไฟฟ้ ำในปั จจุบนมีหลำยชนิ ดคือ ชนิดตั้งโต๊ะ ตั้งพื้น ติดผนัง
                                    ั
แขวนเพดำนและส่ ำยรอบตัว
พัดลมไฟฟ้ ามาตรฐาน
                     ่                                              ั ้
พัดลมไฟฟ้ ำซึ่ งมีอยูมำกมำยในท้องตลำด อำจจะทำควำมลำบำกให้กบผูซ้ื อ เพรำะไม่รู้วำจะ ่
เลือกซื้ อยีหอไหนดี สิ่ งที่จะช่วยท่ำนได้ คือกำรสังเกตเครื่ องหมำยมำตรฐำนที่แสดงบน
            ่ ้
                                      ่
ผลิตภัณฑ์ เพรำะเป็ นพัดลมไฟฟ้ ำที่ผำนกำรรับรองคุณภำพจำกสำนักงำนมำตรฐำน
ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม ซึ่ งมีขอดีหลำยประกำร คือ
                                 ้
1. มีระบบกำรป้ องกันไฟฟ้ ำช็อกที่ไว้ใจได้
2. มีกำรป้ องกันกำรสัมผัสโดยตรงกับส่ วนที่มีกระแสไฟฟ้ ำอย่ำงไว้ใจได้
3. พัดลมไม่ไหม้เสี ยหำยจำกอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น เพรำะจะไม่สูงเกินค่ำที่กำหนดไว้
4. กระแสไฟฟ้ ำรั่วได้ไม่เกิน 0.5 มิลลิแอมแปร์ ทำให้ไม่มีอนตรำยแก่ผใช้
                                                              ั       ู้
ตู้เย็น เป็ นเครื่ องใช้ ไฟฟาที่ทาความเย็นโดยประกอบด้ วยสองส่วนหลัก ๆ คือ ส่วน
                              ้
ฉนวนปองกันความร้ อน (ปองกันไม่ให้ ความร้ อนไหลเข้ ามา) และ ส่วนทาความเย็น
          ้                     ้
(ปั๊ มที่นาความร้ อนออกไปสูภายนอกซึงมีอณหภูมิต่ากว่า) คนส่วนใหญ่ใช้ ต้ เู ย็น
                                  ่       ่ ุ
เก็บอาหาร เพื่อปองกันการเน่าเสีย เนื่องจากแบคทีเรี ยเติบโตช้ ากว่าในอุณหภูมิต่า
                    ้
ตู้เย็นมีหลายประเภทตังแต่แบบที่มอณหภูมิสงกว่าจุดเยือกแข็ง (ช่องธรรมดา)
                            ้         ี ุ     ู
แบบที่อณหภูมิต่ากว่าจุดเยือกแข็งเล็กน้ อย (ช่องแช่แข็ง, ช่องฟรี ซ) ก่อนที่จะมี
            ุ
ตู้เย็นประเทศในเขตหนาวใช้ กล่องน ้าแข็ง (icebox) ในการรักษาอาหาร
คาแนะนาวิธีใช้ ไฟฟาอย่ างประหยัด
                  ้
                                             ่
         ควรปิ ดไฟทุกครั้งเมื่อไม่มีคนอยูในห้อง
         - เลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์เหมำะสมกับ
             กำรใช้งำน
         - สำหรับบริ เวณที่ตองกำรควำมสว่ำงมำก
                                ้
            ภำยในอำคำรควรเลือกใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์
            ส่ วนภำยนอกอำคำรควรเลือกใช้หลอดไอโซเดียม
            และหลอดไอปรอท
         - ควรใช้ฝำครอบดวงโคมแบบใสหำกไม่มีปัญหำ
            เรื่ องแสงจ้ำ และหมันทำควำมสะอำดอยูเ่ สมอ
                                    ่
         - พิจำรณำใช้โคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับงำนที่ตองกำร
                                                  ้
            แสงสว่ำงจุดเดียว
            ทีวี วิทยุ
         - ปิ ดเครื่ องทุกครั้งเมื่อไม่ได้ดู
         - ควรถอดปลักเมื่อไม่ใช้เป็ นเวลำนำน
                          ๊
ควรเลือกใช้โคมไฟแบบสะท้อนแสงแทนแบบเดิมที่ใช้พลำสติกปิ ด
ควรใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์หรื อหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ แทนหลอดไส้ ซึ่งมี
คำแนะนำในกำรใช้ดงนี้  ั
- หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบผอม ขนำด 18 วัตต์ และ 36 วัตต์ มีควำมสว่ำงเท่ำกับ หลอด
20 วัตต์ และ 40 วัตต์ แต่ประหยัดไฟกว่ำ และสำมำรถใช้แทนกันได้ โดยไม่ตองเปลี่ยน
                                                                    ้
บัลลำสต์และสตำร์ทเตอร์
- หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์มี 2 ชนิด คือ ชนิดมีบลลำสต์ภำยในสำมำรภใช้แทน
                                                 ั
หลอดกลมแบบเกลียวได้ ส่ วนหลอดที่มีบลลำสต์ภำยนอก จะมีขำเสี ยบเพือต่อกับตัวบัล
                                        ั                        ่
           ่
ลำสต์ที่อยูภำยนอก
เตำรี ด
     เป็ นเครื่ องใช้ไฟฟ้ ำประเภทให้ควำมร้อน ซึ่งในกำรรี ดแต่ละครั้งจะกินไฟมำก ดังนั้นจึงควรรู้จด
                                                                                                ั
วิธีใช้อย่ำงประหยัดและปลอดภัย
                               ่        ่
- ก่อนอื่นควรตรวจสอบดูวำเตำรี ดอยูในสภำพพร้อม
  ที่จะใช้งำนหรื อไม่ เช่น สำย ตัวเครื่ อง เป็ นต้น
- ตั้งปุ่ มปรับควำมร้อนให้เหมำะสมกับชนิดของผ้ำ
- อย่ำพรมน้ ำจนเปี ยกแฉะ
- ดึงเต้ำเสี ยบออกก่อนจะรี ดเสร็จประมำณ 2-3 นำที แล้วรี ดต่อไปจนเสร็ จ
- ควรพรมน้ ำพอสมควร                            เตำรี ด
- ถอดปลักออกเมื่อไม่ได้ใช้
            ๊
- ควรรี ดผ้ำครำวละมำกๆ ติดต่อกันจนเสร็จ
- ควรเริ่ มรี ดผ้ำบำง ๆ ก่อน ขณะเตำรี ดยังไม่ร้อน
- ควรดึงปลักออกก่อนรี ดเสร็จเพรำะยังร้อนอีกนำน
                 ๊
- ควรซักและตำกผ้ำโดยไม่ตองบิด จะทำให้รีดง่ำยขึ้น
                                 ้
พัดลม
- เปิ ดควำมเร็วลมพอควร
- เปิ ดเฉพำะเวลำใช้งำน
- ควรเปิ ดหน้ำต่ำงใช้ลมธรรมชำติแทนถ้ำทำได้
เครื่ องเป่ าผม
- เช็ดผมก่อนใช้เครื่ อง
- ควรขยี้และสำงผมไปด้วยขณะเป่ ำ
เครื่ องดูดฝุ่ น
- ควรเอาฝุ่ นในถุงทิ ้งทุกครังที่ใช้ แล้ วจะได้ มีแรงดูดดี ไม่เปลืองไฟ
                             ้
ตูเ้ ย็น ตูแช่
           ้
- ตั้งอุณหภูมิพอสมควร
- นำของที่ไม่ร้อนใส่ ตเู้ ย็น
- ปิ ดประตูตเู้ ย็นทันทีเมื่อนำของใส่ หรื อออก
- ปิ ดประตูตเู้ ย็นให้สนิท
- หำกยำงขอบประตูรั่วให้รีบแก้ไข
- เลือกตูเ้ ย็นหรื อตูแช่ชนิดมีประสิ ทธิภำพสูง
                        ้
- ควรใช้ตเู้ ย็นขนำดเหมำะกับครอบครัว
- ควรตั้งตูเ้ ย็นให้ห่ำงจำกแหล่งควำมร้อน ให้หลังตูห่ำงจำกฝำ
                                                    ้
เกิน 15 ซ.ม. เพื่อระบำยควำมร้อนได้สะดวก ไม่เปลื่องไฟฟ้ ำ
- ควรหมันทำควำมสะอำดแผงระบำยควำมร้อน
            ่
- ควรเก็บเฉพำะอำหำรเท่ำที่จำเป็ น
- กำรเลือกซื้ อตูเ้ ย็น, ตูแช่ มีคำแนะนำให้ท่ำนพิจำรณำก่อนซื้อดังนี้
                           ้
- เลือกขนำดให้พอเหมำะกับควำมต้องกำรของครอบครัว
- ตูเ้ ย็นแบบประตูเดียวกินไฟน้อยกว่ำแบบ 2 ประตู
- ควรวำงตูเ้ ย็นให้อำกำศถ่ำยเทได้สะดวก
- ตั้งสวิตช์ควบคุมอุณหภูมิให้เหมำะกับจำนวนของที่ใส่
- อย่ำเปิ ดตูเ้ ย็นทิ้งไว้นำน ๆ และอย่ำนำของร้อนมำแช่
- หมันละลำยน้ ำแข็งเมื่อเห็นว่ำน้ ำแข็งเกำหนำมำก
     ่
หม้ อหุงข้ าวไฟฟา
                ้
หำกใช้อย่ำงถูกต้องสำมำรถประหยัดพลังงำนไฟฟ้ ำได้มำก ซึ่ งมีขอแนะนำดังนี้
                                                              ้
                       ั
- ควรหุงข้ำวให้พอดีกบจำนวนผูรับประทำน
                                  ้
- ควรดังเต้ำเสี ยบออกเมื่อข้ำวสุ กแล้ว
- ใช้ขนำดที่เหมำะสมกับจำนวนสมำชิกในครอบครัว
               ๊                         ั                       ั
- ควรดึงปลักออกเมื่อข้ำวสุ กพอแล้ว ปัจจุบนหม้อหุงข้ำวไฟฟ้ ำมีใช้กนมาก
                 ้
- อย่ำทำให้กนหม้อตัวในเกิดรอยบุบ จะทำให้ขำวสุ กช้ำ
                                           ้
- หมันตรวจบริ เวณแท่นควำมร้อนในหม้อ อย่ำให้เม็ดข้ำวเกำะติด จะทำให้ข่ำวสุ กช้ำและเปลืองไฟหม้ อต้ มน ้า
      ่
หม้ อต้ มกาแฟ
- ใส่ น้ ำให้มีปริ มำณพอควร
- ควรปิ ดฝำให้สนิทขณะต้ม
- ควรปิ ดสวิตช์ทนทีเมื่อน้ ำเดือด
                    ั
เครื่ องสูบน ้า
- ควรติดตั้งอุปกรณ์อตโนมัติควบคุมระดับน้ ำในถัง
                         ั
- และหมันปรับตั้งให้ถูกต้องเสมอ
             ่
- ติดตั้งท่อน้ ำให้มีขนำดเหมำะสมกับขนำดปั้ม
- ควรตรวจแก้ไขจุดรั่วในระบบน้ ำ
- ควรใช้น้ ำอย่ำงประหยัด
- ควรติดตั้งถังเก็บน้ ำในตำแหน่งที่ไม่สูงเกินไป
เครื่ องสูบน้ ำเป็ นอุปกรณ์ไฟฟ้ ำที่อำนวยควำมสะดวกอย่ำงยิงซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้ ำในกำรสูบน้ ำไปยังถังเก็บหรื อ
                                                         ่
เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ซ่ ึงมีวธีกำรใช้อย่ำงประหยัดดังนี้
                              ิ
- ควรติดตั้งอุปกรณ์อตโนมัติควบคุมระดับน้ ำในถังเก็บ และดูแลรักษำ
                           ั
ให้ทำงำนได้อยูเ่ สมอ
- ตรวจสอบรอยรั่วตำมข้อต่อต่ำง ๆ หำกพบควรรับซ่อมแซมแก้ไขโดยเร็ ว
- หำกตัวถังเก็บน้ ำไม่มีอุปกรณ์อตโนมัติควบคุมระดับน้ ำ ควรดูแล
                                      ั
อย่ำให้น้ ำล้นถัง
- เครื่ องสูบน้ ำแบบใช้สำยพำนต้องตรวจสอบไม่ให้หย่อนหรื อตึงเกินไป
เครื่ องซักผ้ำ
- ควรใส่ ผำแต่พอเหมำะ ไม่นอยเกินไป และไม่มำกจนเกิน
          ้               ้
มอเตอร์ไฟฟ้ ำ
- ควรตรวจสอบแก้ไข และอัดจำรบีตำมวำระ
- ปรับปรุ งสำยพำนมอเตอร์ เช่น ปรับควำมตึง
เตำอบ เตำไฟฟ้ ำ
เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำประเภทนี้ ใช้ควำมร้อนมำทำให้อำหำรสุ กหำกให้ควำมร้อนสูญเสี ยไปโดยกำรใช้ไม่ถูกวิธี ทำ
ให้อำหำรสุ กช้ำลง กินกระแสไฟเพิ่มขึ้นจึงมีขอแนะนำกำรใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำประเภทนี้อย่ำงประหยัดคือ
                                               ้
- ควรเตรี ยมเครื่ องปรุ งในกำรประกอบอำหำรให้พร้อมก่อนใช้เตำ
- ควรใช้ภำชนะก้นแบนและเป็ นโลหะจะทำให้รับควำมร้อน
จำกเตำได้ดี
                                          ั
- ในกำรหุนต้มอำหำรควรใส่ น้ ำให้พอดีกบจำนวนอำหำร
            ้
- ในระหว่ำงอบอำหำรอย่ำเปิ ดตูอบบ่อย ๆ
                                 ้
- ถอดเต้ำเสี ยบทันทีเมื่อปรุ งอำหำรเสร็จเรี ยบร้อย
- ควรหรี่ ไฟและปิ ดฝำหม้อในกรณี ที่ตองเคี่ยว
                                      ้
- ควรเตรี ยมเครื่ องปรุ งให้พร้อมก่อนใช้เตำ
- ควรใช้เตำชนิดมองไม่เห็นขดลวดซึ่งไม่เสี ยควำมร้อน
สูญเปล่ำมำก และปลอดภัยกว่ำ
                                 ้
- ควรใช้พำหนะก้นแบนขนำดพื้นที่กนเหมำะกับพื้นที่หน้ำเตำ
                                                              ั                          ่
และใช้พำหนะที่มีเนื้อโลหะรับควำมร้อนได้ดี หำกเป็ นไปได้ให้ใช้กบเตำไฟฟ้ ำซึ่งมีขำยทัวไปอยูแล้ว
                                                                                   ่
- ควรปิ ดฝำภำชนะให้สนิทขณะตั้งเตำ
เครื่ องทาน ้าอุน
               ่
วิธีกำรใช้เครื่ องทำน้ ำอุ่นให้ประหยัดและปลอดภัย
- ปรับปุ่ มควำมร้อนให้เหมำะสมกับร่ ำงกำย
- ปิ ดวำล์วทันทีเมื่ครื่องขนำดพอสมควร
              - ใช้ เอไม่ใช้งำน
- หำกมีรอยรั-่วควรรี บงควำมร้ อนไม่ ให้ รที นเกินควำมจำเป็ น
                 ปรั บปรุ
                          ทำกำรแก้ไขทัน ้ อ
- ต่อสำยลงดิ-นปิ ดก๊ อกทุกครังใเมื่อไม่ ใช้ งำนงทำน้ ำอุ่น
                 ในจุดที่จดไว้้ ห้ของเครื่ อ
                            ั
              - ในฤดูร้อนไม่ จำเป็ นต้ องใช้ นำร้ อน หรือนำอุ่น
                                                ้          ้
- ปิ ดสวิชต์ไฟฟ้ ำของเครื่ องทำน้ ำอุ่นเมื่อไม่ใช้
              - ควรใช้ นำอุ่นที่ได้ ควำมร้ อนจำกแสงอำทิตย์
                          ้
- ปฏิบติตำมคำแนะนำที่แนบมำกับเครื่ อง
        ั
- ใช้เครื่ องขนำดพอสมควร
- ปรับปรุ งควำมร้อนไม่ให้ร้อนเกินควำมจำเป็ น
- ปิ ดก๊อกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งำน
- ในฤดูร้อนไม่จำเป็ นต้องใช้น้ ำร้อน หรื อน้ ำอุ่น
- ควรใช้น้ ำอุ่นที่ได้ควำมร้อนจำกแสงอำทิตย์
เครื่ องปรับอากาศ
กำรใช้เครื่ องปรับอำกำศให้มีควำมเย็นที่สบำยต่อร่ ำงกำย จะประหยัดค่ำไฟฟ้ ำอย่ำงได้ผล ซึ่ งควรปฏิบติดงนี้
                                                                                                ั ั
- ปิ ดเครื่ องทุกครั้งเมื่อไม่อยู่
- ปิ ดประตูหน้ำต่ำงและผ้ำม่ำนกันควำมร้อนจำกภำยนอก
- ตั้งอุณหภูมิไม่ควรต่ำกว่ำ 26 องศำเซลเซียส
- ควรใช้เครื่ องขนำดเหมำะสมกับขนำดห้อง
- ควรเลือกเครื่ องปรับอำกำศที่มีประสิ ทธิภำพสูง
- ควรติดตั้งเครื่ องระดับสูงพอเหมำะ และให้อำกำศร้อนระบำยออกด้ำนหลังเครื่ องได้สะดวก
- ควรบุผนังห้อง และหลังคำด้วยฉนวนกันควำมร้อน
- ควรบำรุ งรักษำเครื่ องให้มีสภำพดีตลอดเวลำ
- ควรหมันทำควำมสะอำดแผ่นกรองอำกำศ
             ่
และแผงระบำยควำมร้อน
- ในฤดูหนำวขณะที่อำกำศไม่ร้อนมำกเกินไป ไม่ควรเปิ ด
เครื่ องปรับอำกำศ
- ปิ ดประตู หน้ำต่ำงให้มิดชิดไม่ให้ควำมเย็นรั่วไหล
- พิจำรณำติดตั้งบังแสงหรื อกันแดด เพื่อลดภำระกำรทำงำนของเครื่ อง
- ควรเลือกใช้ขนำดที่เหมำะสมกับขนำดของห้อง
- ควรใช้ผำม่ำนกั้นประตูหน้ำต่ำง เพื่อป้ องกันควำมร้อนจำกภำยนอก
             ้
- ตั้งปุ่ มปรับอุณหภูมิให้เหมำะสมต่อร่ ำงกำย(ประมำณ 26 องศำเซลเซียส)
- หมันทำควำมสะอำดแผ่นกรองอำกำศ
      ่
- ปฏิบติตำมคำแนะนำที่แนบมำกับเครื่ องปรับอำกำศ
          ั
                   กำรใช้ กำรตรวจสอบ และกำรดูแลอุปกรณ์เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำ
                    สำยไฟ
                       -สำยไฟฟ้ ำเก่ำหรื อหมดอำยุใช้งำน สังเกตได้จำกฉนวนจะแตกหรื อแห้งกรอบบวม
- ฉนวนสำยไฟชำรุ ด อำจเกิดจำกหนูหรื อแมลงกัดแทะหรื อวำงของหนักทับ เดินสำยไฟใกล้แหล่งควำมร้อน
ถูกของมีคมบำด
- จุดต่อสำยไฟต้องให้แน่น หน้ำสัมผัสให้ดี พันฉนวนให้เรี ยบร้อย
- ขนำดของสำยไฟฟ้ ำ ใช้ขนำดของสำยให้เหมำะสมกับปริ มำณกระแสที่ไหลในสำย หรื อให้เหมำะสมกับ
เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำในวงจรนั้น
- สำยไฟฟ้ ำต้องไม่เดินอยูใกล้แหล่งควำมร้อน สำรเคมี หรื อถูกของหนักทับ เพรำะทำให้ฉนวนชำรุ ดได้ง่ำย
                          ่
และเกิดกระแสไฟฟ้ ำลัดวงจรขึ้นได้
- สำยไฟฟ้ ำต้องไม่พำดบนโครงเหล็ก รั้วเหล็ก รำวเหล็ก หรื อส่ วนที่เป็ นโลหะต้องเดินสำยไฟฟ้ ำโดยใช้พก ุ
ประกับ หรื อร้อยท่อให้เรี ยบร้อย เพื่อป้ องกันกระแสไฟฟ้ ำรั่วลงบนโครงโลหะ ซึ่ งจะเกิดอันตรำยขึ้นได้
เต้ ารับ-เต้ าเสียบ
             -   เต้ำรับ เต้ำเสี ยบ ต้องไม่แตกร้ำว และไม่มีรอยไหม้
             -   กำรต่อสำยที่เต้ำรับและเต้ำเสี ยบ ต้องให้แน่น และใช้ขนำดสำยให้ถูกต้อง
             -   เต้ำเสี ยบ เมื่อเสี ยบใช้งำนกับเต้ำรับต้องแน่น
             -   เต้ำรับ ต้องติดตั้งในที่แห้ง ไม่เปี ยกชื้นหรื อมีน้ ำท่วม และควรติดให้พนมือเด็กเล็กที่อำจ
                                                                                        ้
เล่นถึงได้

                 แผงสวิตช์ไฟฟา
                             ้
                 - ต้องติดตั้งในที่แห้งไม่เปี ยกชื้นและสู งพอควร ห่ำงไกลจำกสำรเคมีและสำรไวไฟต่ำง ๆ
                                  ่                          ่
                 - ตรวจสอบดูวำมี มด แมลงเข้ำไปทำรังอยูหรื อไม่ หำกพบว่ำมี ให้ดำเนินกำรกำจัด
                 - อย่ำวำงสิ่ งกีดขวำงบริ เวณแผงสวิตช์
                                                          ่
                 - ควรมีผงวงจรไฟฟ้ ำโดยสังเขปติดอยูที่แผงสวิตช์ เพื่อให้ทรำบว่ำแต่ละวงจรจ่ำยไฟไปที่
                          ั
ใด
                 - แผงสวิตช์ที่เป็ นตูโลหะควรทำกำรต่อสำยลงดิน
                                      ้
สวิตช์ตดตอȨȨึϸัด๶อาท์
         ั
 - ตัวคัทเอำท์และฝำครอบต้องไม่แตก
 - ใส่ ฟิวส์ให้ถกขนำดและมีฝำครอบปิ ดให้มิดชิด
                ู
 - ห้ำมใช้วสดุอ่ืนใส่ แทนฟิ วส์
             ั
 - ขั้วต่อสำยที่คทเอำท์ตองแน่นและใช้ขนำดสำยให้ถูกต้อง
                  ั     ้
 - ใบมีดของตัทเอำท์เมื่อสับใช้งำนต้องแน่น

เบรกเกอร์
-   ตรวจสอบฝำครอบเบรคเกอร์ตองไม่แตกร้ำว
                                     ้
-   ต้องมีฝำครอบปิ ดเบรคเกอร์ให้มิดชิด
-   ต้องติดตั้งในที่แห้งไม่เปี ยกชื่นและห่ำงไกลจำกสำรเคมีสำรไวไฟต่ำง ๆ
-   เลือกเบรคเกอร์ที่มีขนำดเหมำะสมกับอุปกรณ์เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำ
1 หน่วย คือ อะไร

วัตต์หรื อแรงเทียนคือพลังไฟฟ้ ำหรื อกำลังไฟฟ้ ำ อุปกรณ์ไฟฟ้ ำที่มีวตต์มำกก็กินไฟมำกกว่ำ
                                                                   ั
ที่มีวตต์นอย (ในเวลำเท่ำกัน)
       ั ้
1 กิโลวัตต์ คือ 1,000 วัตต์
1 หน่วย หรื อ 1 ยูนิต หรื อ 1 กิโลวัตต์-ชัวโมง คือพลังงำนไฟฟ้ ำของอุปกรณ์ไฟฟ้ ำ
                                          ่
ขนำด 1,000 วัตต์ เปิ ดนำน 1 ชัวโมง
                                 ่
ตัวอย่ำง : หลอดไฟหลอดละ 100 วัตต์ จำนวน 10 หลอด
รวม 100 x 10 = 1,000 วัตต์
ถ้ำเปิ ดนำน 2 ชัวโมง ทั้ง 10 หลอด จะเปลืองไฟฟ้ ำ
                ่
รวม = 1,000 วัตต์ x 2 ชัวโมง = 2,000 วัตต์-ชัวโมง
                         ่                    ่
หรื อ = 2 กิโลวัตต์-ชัวโมง หรื อ = 2 หน่วย หรื อ 2 ยูนิต
                      ่
เครื่ องใช้ ของท่านกินไฟประมาณกี่วตต์
                                                                     ั
-   พัดลมตั้งพื้น                                                         45-75       วัตต์
-   พัดลมเพดำน                                                            70-104      วัตต์
-   หม้อหุงข้ำวไฟฟ้ ำ                                                     500-1,000   วัตต์
-   ตูเ้ ย็น 2-12 คิว (ลบ.ฟุต)                                            53-194       วัตต์
-   เครื่ องปรับอำกำศ                                                    680-3,300      วัตต์
-   เครื่ องดูดฝุ่ น                                                     625-1,000      วัตต์
-   เตำรี ดไฟฟ้ ำ                                                         430-1,600     วัตต์
-   เครื่ องทำน้ ำร้อนในห้องน้ ำ                                          900-4,800     วัตต์
-   เครื่ องปิ้ งขนมปัง                                                  600-1,000      วัตต์
-   เครื่ องเป่ ำผม                                                      300-1,300      วัตต์
-   เครื่ องซักผ้ำ                                                       250-2,000      วัตต์
-   เครื่ องซักผ้ำแบบมีเครื่ องอบผ้ำ หรื อ เครื่ องตั้งอุณหภูมิของน้ ำ   250-2,000      วัตต์
-   เตำไฟฟ้ ำ (เดี่ยว)                                                   300-1,500      วัตต์
-   โทรทัศน์ ขำว-ดำ                                                      24-30           วัตต์
-   โทรทัศน์สี                                                           43-95          วัตต์
-   วีดีโอ                                                               30-50          วัตต์
-   เครื่ องอบผ้ำแห้ง                                                    650-2,500      วัตต์

More Related Content

Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้า

  • 2. จัดทำโดย เด็กหญิง วิมลรัตน์ วรรกำร เลขที่ 37 เด็กหญิง ศิรินพร เต็มใจ เลขที่ 38 เด็กหญิง สมัชญำ ค้ำสม เลขที่ 39 เด็กหญิง สุ ดำรัตน์ อินโต เลขที่ 40
  • 3. คำȨ รายงานเล่มนี ้เป็ นส่วนหนึงของวิชา วิทยาศาสตร์ จัดทาขึ ้นเพื่อประกอบการศึกษา ่ วิชา วิทยาศาสตร์ วิชานี ้ที่ต้องการให้ ผ้ เู รี ยนได้ เรี ยนรู้ เกี่ยวกับเครื่ องใช้ ไฟฟาในบ้ าน ้ เพื่อให้ ผ้ อานได้ รับข้ อมูลอย่างถูกต้ อง และหวังเป็ นอย่างยิ่งว่ารายงานเล่มนี ้จะเป็ น ู่ ประโยชน์ตอผู้อานไม่มากก็น้อย ่ ่ ถ้ าหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี ้ด้ วย คณะผู้จดทา ั
  • 4. เครื่องใช้ ไฟฟ้ า เครื่องใช้ ไฟฟ้ า คือ อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงำนไฟฟ้ ำเป็ นพลังงำนรู ปอื่น เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ 1. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้แสงสว่ำง 2. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้ควำมร้อน 3. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้พลังงำนกล 4. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้พลังงำนเสี ยง
  • 5. ประเภทของหลอดไฟ 1. หลอดไฟฟ้ ำธรรมดำ มีไส้หลอดที่ทำด้วยลวดโลหะที่มีจุดหลอมเหลวสู ง เช่น ทังสเตนเส้นเล็กๆ ขดเอำไว้เหมือนขดลวดสปริ งภำยในหลอดแก้วสู บอำกำศออก หมดแล้วบรรจุก๊ำซเฉื่ อย เช่น อำร์กอน (AR) ไว้ ก๊ำซนี้ช่วยป้ องกันไม่ให้หลอด ไฟฟ้ ำดำ ลักษณะของหลอดไฟเป็ นดังรู ป หลักการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา ้ กระแสไฟฟ้ ำไหลผ่ำนไส้หลอดซึ่ งมีควำมต้ำนทำนสู ง พลังงำนไฟฟ้ ำจะเปลี่ยนเป็ น พลังงำนควำมร้อน ทำให้ไส้หลอดร้อนจัดจนเปล่งแสงออกมำได้ กำรเปลี่ยน พลังงำนเป็ นดังนี้ พลังงำนไฟฟ้ ำ >>>พลังงำนควำมร้อน >>>พลังงำนแสง
  • 6. 2. หลอดเรื่ องแสง หรื อ หลอดฟลูออเรสเซนต์ (fluorescent) เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงำน ไฟฟ้ ำเป็ นพลังงำนแสงสว่ำง ซึ่ งมีกำรประดิษฐ์ในปี ค.ศ. 1938 โดยมีรูปร่ ำงหลำยแบบ อำจ ทำเป็ นหลอดตรง สั้น ยำว ขดเป็ นวงกลมหรื อครึ่ งวงกลม เป็ นต้น ส่ วนประกอบของหลอดเรืองแสง ่ ตัวหลอดมีไส้โลหะทังสเตนติดอยูที่ปลำยทั้ง 2 ข้ำง ของหลอดแก้ว ซึ่ งผิวภำยในของหลอด ฉำบด้วยสำรเรื่ องแสง อำกำศในหลอดแก้วถูกสู บออกจนหมดแล้วใส่ ไอปรอทไว้เล็กน้อย ดังรู ป
  • 7. อุปกรณ์ที่ใช้เพื่อให้หลอดเรื องแสงทำงำน 1. สตำร์ตเตอร์ (starter) ทำหน้ำที่เป็ นสวิตซ์อตโนมัติในขณะหลอด ั เรื องแสง ยังไม่ติดและหยุดทำงำนเมื่อหลอดติดแล้ว 2. แบลลัสต์ (Ballast) ทำหน้ำที่เพิมควำมต่ำงศักย์ เพื่อให้หลอดไฟเรื อง ่ แสงติดในตอนแรกและทำหน้ำที่ ควบคุมกระแสไฟฟ้ ำที่ผำนหลอด ให้่ ลดลงเมื่อหลอดติดแล้ว
  • 9. หลักการทางานของหลอดเรืองแสง เมื่อกระแสไฟฟ้ ำผ่ำนไส้หลอดจะทำให้ไส้หลอดร้อนขึ้น ควำมร้อนที่เกิดทำให้ปรอทที่บรรจุ ไว้ในหลอดกลำยเป็ นไอมำกขึ้น เมื่อกระแสไฟฟ้ ำผ่ำนไอปรอทได้จะคำยพลังงำนไฟฟ้ ำให้ ่ ไอปรอท ทำให้อะตอมของไอปรอทอยูในภำวะถูกกระตุน และอะตอมปรอทจะคำยพลังงำน ้ ออกมำเพื่อลดระดับพลังงำนของตนในรู ปของรังสี อลตรำไวโอเลต เมื่อรังสี ดงกล่ำวกระทบ ั ั สำรเรื องแสงที่ฉำบไว้ที่ผิวในของหลอดเรื องแสงนั้นก็จะเปล่งแสงได้ โดยให้แสงสี ต่ำงๆ ตำมชนิดของสำรเรื องแสงที่ฉำบไว้ภำยในหลอดนั้น เช่น แคดเมียมบอเรทจะให้แสงสี ชมพู ซิ งค์ซิลิเคทให้แสงสี เขียว แมกนีเซี ยมทังสเตนให้แสงสี ขำวอมฟ้ ำ และยังอำจผสมสำรเหล่ำนี้ เพื่อให้ได้สีผสมที่แตกต่ำงออกไปอีกด้วย ข้ อดีของหลอดเรืองแสง 1. มีประสิ ทธิ ภำพสู งกว่ำหลอดไฟฟ้ ำธรรมดำ เสี ยค่ำไฟฟ้ ำเท่ำกัน แต่ได้ไฟที่สว่ำงกว่ำ 2. ให้แสงที่เย็นตำ กระจำยไปทัวหลอด ไม่รวมเป็ นจุดเหมือนหลอดไฟฟ้ ำธรรมดำ ่ 3. อำจจัดสี ของแสงแปรเปลี่ยนได้ โดยกำรเปลี่ยนชนิดสำรเรื องแสง 4. อุณหภูมิของหลอดเรื องแสงไม่สูงเท่ำกับหลอดไฟธรรมดำขณะทำงำน
  • 10. 3. หลอดนีออน หรื อหลอดไฟโฆษณำ เป็ นอุปกรณ์ไฟฟ้ ำที่เปลี่ยนพลังงำนไฟฟ้ ำเป็ น แสงสว่ำง มีลกษณะเป็ นหลอดแก้วที่ถกลนไฟ ดัดเป็ นรู ปหรื ออักษรต่ำงๆ สูบอำกำศ ั ู ออกเป็ นสุ ญญำกำศ แล้วใส่ ก๊ำซบำงชนิ ดที่ให้แสงสี ตำงๆ ออกมำได้ เมื่อมีกระแสไฟฟ้ ำ ่ ่ ผ่ำนหลอดชนิดนี้ไม่มีไส้หลอดไฟ แต่ใช้ข้ วไฟฟ้ ำทำด้วยโลหะติดอยูที่ปลำย ั ทั้ง 2 ข้ำง แล้วต่อกับแหล่งกำเนิดไฟฟ้ ำที่มีควำมต่ำงศักย์สูงประมำณ 10,000 โวลต์ ซึ่ งมี ๊ ควำมต่ำงศักย์ที่สูงมำก จะทำให้กำซที่บรรจุไว้ในหลอดเกิดกำรแตกตัวเป็ นนีออนและ นำไฟฟ้ ำได้เมื่อกระแสไฟฟ้ ำผ่ำนก๊ำซเหล่ำนี้จะทำให้ก๊ำซร้อนติดไฟให้แสงสี ต่ำงๆ ได้ ตัวอย่ำงก๊ำซชนิ ดต่ำงๆ ที่บรรจุในหลอดโฆษณำ - ก๊ำซนีออน ให้แสงสี แดง - ก๊ำซฮีเลียม ให้แสงสี ชมพู - ก๊ำซอำร์ กอน ให้แสงสี ขำวอมน้ ำเงิน และถ้ำใช้ก๊ำซต่ำงๆ ผสมกันก็จะได้สีต่ำงๆ ออกไป
  • 11. ข้ อแนะนำกำรใช้ หลอดไฟอย่ ำงประหยัด 1. ใช้หลอดเรื องแสงจะให้แสงสว่ำงมำกกว่ำหลอดธรรมดำประมำณ 4 เท่ำ เมื่อใช้พลังงำน ไฟฟ้ ำเท่ำกัน และอำยุกำรใช้งำนจะทนกว่ำประมำณ 8 เท่ำ 2.ใช้แสงสว่ำงให้เหมำะกับกำรใช้งำนที่ใดต้องกำรแสงสว่ำงไม่มำกนักควรติดไฟน้อยดวง 3. ทำควำมสะอำดโป๊ ะไฟ จะให้แสงสว่ำงเต็มที่ 4. ปิ ดไฟทุกครั้งที่ไม่จำเป็ นต้องใช้
  • 12. พัึϸมไฟฟา ้ พัดลมไฟฟ้ ำเป็ นผลิตภัณฑ์อำนวยควำมสะดวกชนิ ดหนึ่ง ที่ช่วยบรรเทำควำมร้อน จำกสภำพภูมิอำกำศ พัด ไฟฟ้ ำในปั จจุบนมีหลำยชนิ ดคือ ชนิดตั้งโต๊ะ ตั้งพื้น ติดผนัง ั แขวนเพดำนและส่ ำยรอบตัว
  • 13. พัดลมไฟฟ้ ามาตรฐาน ่ ั ้ พัดลมไฟฟ้ ำซึ่ งมีอยูมำกมำยในท้องตลำด อำจจะทำควำมลำบำกให้กบผูซ้ื อ เพรำะไม่รู้วำจะ ่ เลือกซื้ อยีหอไหนดี สิ่ งที่จะช่วยท่ำนได้ คือกำรสังเกตเครื่ องหมำยมำตรฐำนที่แสดงบน ่ ้ ่ ผลิตภัณฑ์ เพรำะเป็ นพัดลมไฟฟ้ ำที่ผำนกำรรับรองคุณภำพจำกสำนักงำนมำตรฐำน ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม ซึ่ งมีขอดีหลำยประกำร คือ ้ 1. มีระบบกำรป้ องกันไฟฟ้ ำช็อกที่ไว้ใจได้ 2. มีกำรป้ องกันกำรสัมผัสโดยตรงกับส่ วนที่มีกระแสไฟฟ้ ำอย่ำงไว้ใจได้ 3. พัดลมไม่ไหม้เสี ยหำยจำกอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น เพรำะจะไม่สูงเกินค่ำที่กำหนดไว้ 4. กระแสไฟฟ้ ำรั่วได้ไม่เกิน 0.5 มิลลิแอมแปร์ ทำให้ไม่มีอนตรำยแก่ผใช้ ั ู้
  • 14. ตู้เย็น เป็ นเครื่ องใช้ ไฟฟาที่ทาความเย็นโดยประกอบด้ วยสองส่วนหลัก ๆ คือ ส่วน ้ ฉนวนปองกันความร้ อน (ปองกันไม่ให้ ความร้ อนไหลเข้ ามา) และ ส่วนทาความเย็น ้ ้ (ปั๊ มที่นาความร้ อนออกไปสูภายนอกซึงมีอณหภูมิต่ากว่า) คนส่วนใหญ่ใช้ ต้ เู ย็น ่ ่ ุ เก็บอาหาร เพื่อปองกันการเน่าเสีย เนื่องจากแบคทีเรี ยเติบโตช้ ากว่าในอุณหภูมิต่า ้ ตู้เย็นมีหลายประเภทตังแต่แบบที่มอณหภูมิสงกว่าจุดเยือกแข็ง (ช่องธรรมดา) ้ ี ุ ู แบบที่อณหภูมิต่ากว่าจุดเยือกแข็งเล็กน้ อย (ช่องแช่แข็ง, ช่องฟรี ซ) ก่อนที่จะมี ุ ตู้เย็นประเทศในเขตหนาวใช้ กล่องน ้าแข็ง (icebox) ในการรักษาอาหาร
  • 15. คาแนะนาวิธีใช้ ไฟฟาอย่ างประหยัด ้ ่ ควรปิ ดไฟทุกครั้งเมื่อไม่มีคนอยูในห้อง - เลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์เหมำะสมกับ กำรใช้งำน - สำหรับบริ เวณที่ตองกำรควำมสว่ำงมำก ้ ภำยในอำคำรควรเลือกใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ ส่ วนภำยนอกอำคำรควรเลือกใช้หลอดไอโซเดียม และหลอดไอปรอท - ควรใช้ฝำครอบดวงโคมแบบใสหำกไม่มีปัญหำ เรื่ องแสงจ้ำ และหมันทำควำมสะอำดอยูเ่ สมอ ่ - พิจำรณำใช้โคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับงำนที่ตองกำร ้ แสงสว่ำงจุดเดียว ทีวี วิทยุ - ปิ ดเครื่ องทุกครั้งเมื่อไม่ได้ดู - ควรถอดปลักเมื่อไม่ใช้เป็ นเวลำนำน ๊
  • 16. ควรเลือกใช้โคมไฟแบบสะท้อนแสงแทนแบบเดิมที่ใช้พลำสติกปิ ด ควรใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์หรื อหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ แทนหลอดไส้ ซึ่งมี คำแนะนำในกำรใช้ดงนี้ ั - หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบผอม ขนำด 18 วัตต์ และ 36 วัตต์ มีควำมสว่ำงเท่ำกับ หลอด 20 วัตต์ และ 40 วัตต์ แต่ประหยัดไฟกว่ำ และสำมำรถใช้แทนกันได้ โดยไม่ตองเปลี่ยน ้ บัลลำสต์และสตำร์ทเตอร์ - หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์มี 2 ชนิด คือ ชนิดมีบลลำสต์ภำยในสำมำรภใช้แทน ั หลอดกลมแบบเกลียวได้ ส่ วนหลอดที่มีบลลำสต์ภำยนอก จะมีขำเสี ยบเพือต่อกับตัวบัล ั ่ ่ ลำสต์ที่อยูภำยนอก
  • 17. เตำรี ด เป็ นเครื่ องใช้ไฟฟ้ ำประเภทให้ควำมร้อน ซึ่งในกำรรี ดแต่ละครั้งจะกินไฟมำก ดังนั้นจึงควรรู้จด ั วิธีใช้อย่ำงประหยัดและปลอดภัย ่ ่ - ก่อนอื่นควรตรวจสอบดูวำเตำรี ดอยูในสภำพพร้อม ที่จะใช้งำนหรื อไม่ เช่น สำย ตัวเครื่ อง เป็ นต้น - ตั้งปุ่ มปรับควำมร้อนให้เหมำะสมกับชนิดของผ้ำ - อย่ำพรมน้ ำจนเปี ยกแฉะ - ดึงเต้ำเสี ยบออกก่อนจะรี ดเสร็จประมำณ 2-3 นำที แล้วรี ดต่อไปจนเสร็ จ - ควรพรมน้ ำพอสมควร เตำรี ด - ถอดปลักออกเมื่อไม่ได้ใช้ ๊ - ควรรี ดผ้ำครำวละมำกๆ ติดต่อกันจนเสร็จ - ควรเริ่ มรี ดผ้ำบำง ๆ ก่อน ขณะเตำรี ดยังไม่ร้อน - ควรดึงปลักออกก่อนรี ดเสร็จเพรำะยังร้อนอีกนำน ๊ - ควรซักและตำกผ้ำโดยไม่ตองบิด จะทำให้รีดง่ำยขึ้น ้
  • 18. พัดลม - เปิ ดควำมเร็วลมพอควร - เปิ ดเฉพำะเวลำใช้งำน - ควรเปิ ดหน้ำต่ำงใช้ลมธรรมชำติแทนถ้ำทำได้ เครื่ องเป่ าผม - เช็ดผมก่อนใช้เครื่ อง - ควรขยี้และสำงผมไปด้วยขณะเป่ ำ เครื่ องดูดฝุ่ น - ควรเอาฝุ่ นในถุงทิ ้งทุกครังที่ใช้ แล้ วจะได้ มีแรงดูดดี ไม่เปลืองไฟ ้
  • 19. ตูเ้ ย็น ตูแช่ ้ - ตั้งอุณหภูมิพอสมควร - นำของที่ไม่ร้อนใส่ ตเู้ ย็น - ปิ ดประตูตเู้ ย็นทันทีเมื่อนำของใส่ หรื อออก - ปิ ดประตูตเู้ ย็นให้สนิท - หำกยำงขอบประตูรั่วให้รีบแก้ไข - เลือกตูเ้ ย็นหรื อตูแช่ชนิดมีประสิ ทธิภำพสูง ้ - ควรใช้ตเู้ ย็นขนำดเหมำะกับครอบครัว - ควรตั้งตูเ้ ย็นให้ห่ำงจำกแหล่งควำมร้อน ให้หลังตูห่ำงจำกฝำ ้ เกิน 15 ซ.ม. เพื่อระบำยควำมร้อนได้สะดวก ไม่เปลื่องไฟฟ้ ำ - ควรหมันทำควำมสะอำดแผงระบำยควำมร้อน ่ - ควรเก็บเฉพำะอำหำรเท่ำที่จำเป็ น - กำรเลือกซื้ อตูเ้ ย็น, ตูแช่ มีคำแนะนำให้ท่ำนพิจำรณำก่อนซื้อดังนี้ ้ - เลือกขนำดให้พอเหมำะกับควำมต้องกำรของครอบครัว - ตูเ้ ย็นแบบประตูเดียวกินไฟน้อยกว่ำแบบ 2 ประตู - ควรวำงตูเ้ ย็นให้อำกำศถ่ำยเทได้สะดวก - ตั้งสวิตช์ควบคุมอุณหภูมิให้เหมำะกับจำนวนของที่ใส่ - อย่ำเปิ ดตูเ้ ย็นทิ้งไว้นำน ๆ และอย่ำนำของร้อนมำแช่
  • 20. - หมันละลำยน้ ำแข็งเมื่อเห็นว่ำน้ ำแข็งเกำหนำมำก ่ หม้ อหุงข้ าวไฟฟา ้ หำกใช้อย่ำงถูกต้องสำมำรถประหยัดพลังงำนไฟฟ้ ำได้มำก ซึ่ งมีขอแนะนำดังนี้ ้ ั - ควรหุงข้ำวให้พอดีกบจำนวนผูรับประทำน ้ - ควรดังเต้ำเสี ยบออกเมื่อข้ำวสุ กแล้ว - ใช้ขนำดที่เหมำะสมกับจำนวนสมำชิกในครอบครัว ๊ ั ั - ควรดึงปลักออกเมื่อข้ำวสุ กพอแล้ว ปัจจุบนหม้อหุงข้ำวไฟฟ้ ำมีใช้กนมาก ้ - อย่ำทำให้กนหม้อตัวในเกิดรอยบุบ จะทำให้ขำวสุ กช้ำ ้ - หมันตรวจบริ เวณแท่นควำมร้อนในหม้อ อย่ำให้เม็ดข้ำวเกำะติด จะทำให้ข่ำวสุ กช้ำและเปลืองไฟหม้ อต้ มน ้า ่ หม้ อต้ มกาแฟ - ใส่ น้ ำให้มีปริ มำณพอควร - ควรปิ ดฝำให้สนิทขณะต้ม - ควรปิ ดสวิตช์ทนทีเมื่อน้ ำเดือด ั
  • 21. เครื่ องสูบน ้า - ควรติดตั้งอุปกรณ์อตโนมัติควบคุมระดับน้ ำในถัง ั - และหมันปรับตั้งให้ถูกต้องเสมอ ่ - ติดตั้งท่อน้ ำให้มีขนำดเหมำะสมกับขนำดปั้ม - ควรตรวจแก้ไขจุดรั่วในระบบน้ ำ - ควรใช้น้ ำอย่ำงประหยัด - ควรติดตั้งถังเก็บน้ ำในตำแหน่งที่ไม่สูงเกินไป เครื่ องสูบน้ ำเป็ นอุปกรณ์ไฟฟ้ ำที่อำนวยควำมสะดวกอย่ำงยิงซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้ ำในกำรสูบน้ ำไปยังถังเก็บหรื อ ่ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ซ่ ึงมีวธีกำรใช้อย่ำงประหยัดดังนี้ ิ - ควรติดตั้งอุปกรณ์อตโนมัติควบคุมระดับน้ ำในถังเก็บ และดูแลรักษำ ั ให้ทำงำนได้อยูเ่ สมอ - ตรวจสอบรอยรั่วตำมข้อต่อต่ำง ๆ หำกพบควรรับซ่อมแซมแก้ไขโดยเร็ ว - หำกตัวถังเก็บน้ ำไม่มีอุปกรณ์อตโนมัติควบคุมระดับน้ ำ ควรดูแล ั อย่ำให้น้ ำล้นถัง - เครื่ องสูบน้ ำแบบใช้สำยพำนต้องตรวจสอบไม่ให้หย่อนหรื อตึงเกินไป
  • 22. เครื่ องซักผ้ำ - ควรใส่ ผำแต่พอเหมำะ ไม่นอยเกินไป และไม่มำกจนเกิน ้ ้ มอเตอร์ไฟฟ้ ำ - ควรตรวจสอบแก้ไข และอัดจำรบีตำมวำระ - ปรับปรุ งสำยพำนมอเตอร์ เช่น ปรับควำมตึง เตำอบ เตำไฟฟ้ ำ เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำประเภทนี้ ใช้ควำมร้อนมำทำให้อำหำรสุ กหำกให้ควำมร้อนสูญเสี ยไปโดยกำรใช้ไม่ถูกวิธี ทำ ให้อำหำรสุ กช้ำลง กินกระแสไฟเพิ่มขึ้นจึงมีขอแนะนำกำรใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำประเภทนี้อย่ำงประหยัดคือ ้ - ควรเตรี ยมเครื่ องปรุ งในกำรประกอบอำหำรให้พร้อมก่อนใช้เตำ - ควรใช้ภำชนะก้นแบนและเป็ นโลหะจะทำให้รับควำมร้อน จำกเตำได้ดี ั - ในกำรหุนต้มอำหำรควรใส่ น้ ำให้พอดีกบจำนวนอำหำร ้ - ในระหว่ำงอบอำหำรอย่ำเปิ ดตูอบบ่อย ๆ ้ - ถอดเต้ำเสี ยบทันทีเมื่อปรุ งอำหำรเสร็จเรี ยบร้อย - ควรหรี่ ไฟและปิ ดฝำหม้อในกรณี ที่ตองเคี่ยว ้ - ควรเตรี ยมเครื่ องปรุ งให้พร้อมก่อนใช้เตำ
  • 23. - ควรใช้เตำชนิดมองไม่เห็นขดลวดซึ่งไม่เสี ยควำมร้อน สูญเปล่ำมำก และปลอดภัยกว่ำ ้ - ควรใช้พำหนะก้นแบนขนำดพื้นที่กนเหมำะกับพื้นที่หน้ำเตำ ั ่ และใช้พำหนะที่มีเนื้อโลหะรับควำมร้อนได้ดี หำกเป็ นไปได้ให้ใช้กบเตำไฟฟ้ ำซึ่งมีขำยทัวไปอยูแล้ว ่ - ควรปิ ดฝำภำชนะให้สนิทขณะตั้งเตำ เครื่ องทาน ้าอุน ่ วิธีกำรใช้เครื่ องทำน้ ำอุ่นให้ประหยัดและปลอดภัย - ปรับปุ่ มควำมร้อนให้เหมำะสมกับร่ ำงกำย - ปิ ดวำล์วทันทีเมื่ครื่องขนำดพอสมควร - ใช้ เอไม่ใช้งำน - หำกมีรอยรั-่วควรรี บงควำมร้ อนไม่ ให้ รที นเกินควำมจำเป็ น ปรั บปรุ ทำกำรแก้ไขทัน ้ อ - ต่อสำยลงดิ-นปิ ดก๊ อกทุกครังใเมื่อไม่ ใช้ งำนงทำน้ ำอุ่น ในจุดที่จดไว้้ ห้ของเครื่ อ ั - ในฤดูร้อนไม่ จำเป็ นต้ องใช้ นำร้ อน หรือนำอุ่น ้ ้ - ปิ ดสวิชต์ไฟฟ้ ำของเครื่ องทำน้ ำอุ่นเมื่อไม่ใช้ - ควรใช้ นำอุ่นที่ได้ ควำมร้ อนจำกแสงอำทิตย์ ้ - ปฏิบติตำมคำแนะนำที่แนบมำกับเครื่ อง ั - ใช้เครื่ องขนำดพอสมควร - ปรับปรุ งควำมร้อนไม่ให้ร้อนเกินควำมจำเป็ น - ปิ ดก๊อกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งำน - ในฤดูร้อนไม่จำเป็ นต้องใช้น้ ำร้อน หรื อน้ ำอุ่น - ควรใช้น้ ำอุ่นที่ได้ควำมร้อนจำกแสงอำทิตย์
  • 24. เครื่ องปรับอากาศ กำรใช้เครื่ องปรับอำกำศให้มีควำมเย็นที่สบำยต่อร่ ำงกำย จะประหยัดค่ำไฟฟ้ ำอย่ำงได้ผล ซึ่ งควรปฏิบติดงนี้ ั ั - ปิ ดเครื่ องทุกครั้งเมื่อไม่อยู่ - ปิ ดประตูหน้ำต่ำงและผ้ำม่ำนกันควำมร้อนจำกภำยนอก - ตั้งอุณหภูมิไม่ควรต่ำกว่ำ 26 องศำเซลเซียส - ควรใช้เครื่ องขนำดเหมำะสมกับขนำดห้อง - ควรเลือกเครื่ องปรับอำกำศที่มีประสิ ทธิภำพสูง - ควรติดตั้งเครื่ องระดับสูงพอเหมำะ และให้อำกำศร้อนระบำยออกด้ำนหลังเครื่ องได้สะดวก - ควรบุผนังห้อง และหลังคำด้วยฉนวนกันควำมร้อน - ควรบำรุ งรักษำเครื่ องให้มีสภำพดีตลอดเวลำ - ควรหมันทำควำมสะอำดแผ่นกรองอำกำศ ่ และแผงระบำยควำมร้อน - ในฤดูหนำวขณะที่อำกำศไม่ร้อนมำกเกินไป ไม่ควรเปิ ด เครื่ องปรับอำกำศ - ปิ ดประตู หน้ำต่ำงให้มิดชิดไม่ให้ควำมเย็นรั่วไหล - พิจำรณำติดตั้งบังแสงหรื อกันแดด เพื่อลดภำระกำรทำงำนของเครื่ อง - ควรเลือกใช้ขนำดที่เหมำะสมกับขนำดของห้อง
  • 25. - ควรใช้ผำม่ำนกั้นประตูหน้ำต่ำง เพื่อป้ องกันควำมร้อนจำกภำยนอก ้ - ตั้งปุ่ มปรับอุณหภูมิให้เหมำะสมต่อร่ ำงกำย(ประมำณ 26 องศำเซลเซียส) - หมันทำควำมสะอำดแผ่นกรองอำกำศ ่ - ปฏิบติตำมคำแนะนำที่แนบมำกับเครื่ องปรับอำกำศ ั กำรใช้ กำรตรวจสอบ และกำรดูแลอุปกรณ์เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำ สำยไฟ -สำยไฟฟ้ ำเก่ำหรื อหมดอำยุใช้งำน สังเกตได้จำกฉนวนจะแตกหรื อแห้งกรอบบวม - ฉนวนสำยไฟชำรุ ด อำจเกิดจำกหนูหรื อแมลงกัดแทะหรื อวำงของหนักทับ เดินสำยไฟใกล้แหล่งควำมร้อน ถูกของมีคมบำด - จุดต่อสำยไฟต้องให้แน่น หน้ำสัมผัสให้ดี พันฉนวนให้เรี ยบร้อย - ขนำดของสำยไฟฟ้ ำ ใช้ขนำดของสำยให้เหมำะสมกับปริ มำณกระแสที่ไหลในสำย หรื อให้เหมำะสมกับ เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำในวงจรนั้น - สำยไฟฟ้ ำต้องไม่เดินอยูใกล้แหล่งควำมร้อน สำรเคมี หรื อถูกของหนักทับ เพรำะทำให้ฉนวนชำรุ ดได้ง่ำย ่ และเกิดกระแสไฟฟ้ ำลัดวงจรขึ้นได้ - สำยไฟฟ้ ำต้องไม่พำดบนโครงเหล็ก รั้วเหล็ก รำวเหล็ก หรื อส่ วนที่เป็ นโลหะต้องเดินสำยไฟฟ้ ำโดยใช้พก ุ ประกับ หรื อร้อยท่อให้เรี ยบร้อย เพื่อป้ องกันกระแสไฟฟ้ ำรั่วลงบนโครงโลหะ ซึ่ งจะเกิดอันตรำยขึ้นได้
  • 26. เต้ ารับ-เต้ าเสียบ - เต้ำรับ เต้ำเสี ยบ ต้องไม่แตกร้ำว และไม่มีรอยไหม้ - กำรต่อสำยที่เต้ำรับและเต้ำเสี ยบ ต้องให้แน่น และใช้ขนำดสำยให้ถูกต้อง - เต้ำเสี ยบ เมื่อเสี ยบใช้งำนกับเต้ำรับต้องแน่น - เต้ำรับ ต้องติดตั้งในที่แห้ง ไม่เปี ยกชื้นหรื อมีน้ ำท่วม และควรติดให้พนมือเด็กเล็กที่อำจ ้ เล่นถึงได้ แผงสวิตช์ไฟฟา ้ - ต้องติดตั้งในที่แห้งไม่เปี ยกชื้นและสู งพอควร ห่ำงไกลจำกสำรเคมีและสำรไวไฟต่ำง ๆ ่ ่ - ตรวจสอบดูวำมี มด แมลงเข้ำไปทำรังอยูหรื อไม่ หำกพบว่ำมี ให้ดำเนินกำรกำจัด - อย่ำวำงสิ่ งกีดขวำงบริ เวณแผงสวิตช์ ่ - ควรมีผงวงจรไฟฟ้ ำโดยสังเขปติดอยูที่แผงสวิตช์ เพื่อให้ทรำบว่ำแต่ละวงจรจ่ำยไฟไปที่ ั ใด - แผงสวิตช์ที่เป็ นตูโลหะควรทำกำรต่อสำยลงดิน ้
  • 27. สวิตช์ตดตอȨȨึϸัด๶อาท์ ั - ตัวคัทเอำท์และฝำครอบต้องไม่แตก - ใส่ ฟิวส์ให้ถกขนำดและมีฝำครอบปิ ดให้มิดชิด ู - ห้ำมใช้วสดุอ่ืนใส่ แทนฟิ วส์ ั - ขั้วต่อสำยที่คทเอำท์ตองแน่นและใช้ขนำดสำยให้ถูกต้อง ั ้ - ใบมีดของตัทเอำท์เมื่อสับใช้งำนต้องแน่น เบรกเกอร์ - ตรวจสอบฝำครอบเบรคเกอร์ตองไม่แตกร้ำว ้ - ต้องมีฝำครอบปิ ดเบรคเกอร์ให้มิดชิด - ต้องติดตั้งในที่แห้งไม่เปี ยกชื่นและห่ำงไกลจำกสำรเคมีสำรไวไฟต่ำง ๆ - เลือกเบรคเกอร์ที่มีขนำดเหมำะสมกับอุปกรณ์เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำ
  • 28. 1 หน่วย คือ อะไร วัตต์หรื อแรงเทียนคือพลังไฟฟ้ ำหรื อกำลังไฟฟ้ ำ อุปกรณ์ไฟฟ้ ำที่มีวตต์มำกก็กินไฟมำกกว่ำ ั ที่มีวตต์นอย (ในเวลำเท่ำกัน) ั ้ 1 กิโลวัตต์ คือ 1,000 วัตต์ 1 หน่วย หรื อ 1 ยูนิต หรื อ 1 กิโลวัตต์-ชัวโมง คือพลังงำนไฟฟ้ ำของอุปกรณ์ไฟฟ้ ำ ่ ขนำด 1,000 วัตต์ เปิ ดนำน 1 ชัวโมง ่ ตัวอย่ำง : หลอดไฟหลอดละ 100 วัตต์ จำนวน 10 หลอด รวม 100 x 10 = 1,000 วัตต์ ถ้ำเปิ ดนำน 2 ชัวโมง ทั้ง 10 หลอด จะเปลืองไฟฟ้ ำ ่ รวม = 1,000 วัตต์ x 2 ชัวโมง = 2,000 วัตต์-ชัวโมง ่ ่ หรื อ = 2 กิโลวัตต์-ชัวโมง หรื อ = 2 หน่วย หรื อ 2 ยูนิต ่
  • 29. เครื่ องใช้ ของท่านกินไฟประมาณกี่วตต์ ั - พัดลมตั้งพื้น 45-75 วัตต์ - พัดลมเพดำน 70-104 วัตต์ - หม้อหุงข้ำวไฟฟ้ ำ 500-1,000 วัตต์ - ตูเ้ ย็น 2-12 คิว (ลบ.ฟุต) 53-194 วัตต์ - เครื่ องปรับอำกำศ 680-3,300 วัตต์ - เครื่ องดูดฝุ่ น 625-1,000 วัตต์ - เตำรี ดไฟฟ้ ำ 430-1,600 วัตต์ - เครื่ องทำน้ ำร้อนในห้องน้ ำ 900-4,800 วัตต์ - เครื่ องปิ้ งขนมปัง 600-1,000 วัตต์ - เครื่ องเป่ ำผม 300-1,300 วัตต์ - เครื่ องซักผ้ำ 250-2,000 วัตต์ - เครื่ องซักผ้ำแบบมีเครื่ องอบผ้ำ หรื อ เครื่ องตั้งอุณหภูมิของน้ ำ 250-2,000 วัตต์ - เตำไฟฟ้ ำ (เดี่ยว) 300-1,500 วัตต์ - โทรทัศน์ ขำว-ดำ 24-30 วัตต์ - โทรทัศน์สี 43-95 วัตต์ - วีดีโอ 30-50 วัตต์ - เครื่ องอบผ้ำแห้ง 650-2,500 วัตต์