ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ภาษา C

                 จัดทาโดย
         น.ส. นันทวัน สิงหาคุณ
    ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/5 เลขที่ 16

                 เสนอ
         คุณครู สมร ตาระมันธ์
ประวัติ

                       ภาษาซีเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1972 โดย Dennis Ritchie
                 แห่ง Bell Labs โดยภาษาซีนั้นพัฒนามาจาก ภาษา B และ
                 จากภาษา BCPL
                        ซึ่งในช่วงแรกนั้นภาษาซีถูกออกแบบให้ใช้เป็นภาษาการ
                 เขียนโปรแกรมในระบบ UNIX และเริ่มมีคนสนใจมากขึ้นในปี
Dennis Ritchie   ค.ศ.1978 เมื่อ Brain Kernighan ร่วมกับ Dennis
                 Ritchie พัฒนามาตรฐานของภาษาซีขึ้นมา คือ K&R
                 (Kernighan & Ritchie) โดยภาษาซีนั้นสามารถจะปรับ
                 ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์รูปแบบต่างๆได้
ตัวดาเȨȨารความสัมพันธ์หรือการ
             เปรียบเทียบ (relational operators)
สัญลักษณ์               การดาเนินการ                   ตัวอย่าง

   <                       น้อยกว่า               2<3 ผลลัพธ์ จริง(1)

   >                       มากกว่า             2>3 ผลลัพธ์ เท็จ
                                                 (false)(0)
  <=                  น้อยกว่าหรือเท่ากับ   2<= 3 ผลลัพธ์ จริง(true)

  >=                  มากกว่าหรือเท่ากับ    2>= 3 ผลลัพธ์ เท็จ(false)

  ==                        เท่ากับ         4==4 ผลลัพธ์ จริง(true)

   !=                     ไม่เท่ากับ        2!= 2 ผลลัพธ์ เท็จ(false)
โครงสร้างྺองโปรแกรมภาษาซี

       โปรแกรมในภาษาซีทุกโปรแกรมจะประกอบด้วยฟังก์ชันอย่างน้อย หนึ่งฟังก์ชัน
คือ ฟังก์ชัน main โดยโปรแกรมภาษาซีจะเริ่มทางานที่ฟังก์ชัน main ก่อน ในแต่ละ
ฟังก์ชันจะประกอบด้วย
        1. Function Heading
ประกอบด้วยชื่อฟังก์ชัน และอาจมีรายการของ argument (บางคนเรียก
parameter) อยู่ในวงเล็บ
2. Variable Declaration
ส่วนประกาศตัวแปร สาหรับภาษาซี ตัวแปรหรือค่าคงที่ทุกตัว ที่ใช้ในโปรแกรมจะต้องมีการ
ประกาศก่อนว่าจะใช้งานอย่างไร จะเก็บค่าในรูปแบบใดเช่น interger หรือ real
number
   3. Compound Statements
ส่วนของประโยคคาสั่งต่างๆ ซึ่งแบ่งเป็นประโยคเชิงซ้อน (compound statement)
กับ ประโยคนิพจน์ (expression statment) โดยประโยคเชิงซ้อนจะอยู่ภายใน
วงเล็บปีกกาคู่หนึ่ง { และ } โดยในหนึ่งประโยคเชิงซ้อน จะมีประโยคนิพจน์ที่แยกจากกัน
ด้วยเครื่องหมาย semicolon (;) หลายๆ ประโยครวมกัน และ อาจมีวงเล็บปีกกาใส่
ประโยคเชิงซ้อนย่อยเข้าไปอีกได้
โปรแกรมที่ 1: Hello
#include <stdio.h>
main()
{
printf(" Hello. This is my first program.
n") ; /* This is a comment */ return 0 ;
}

More Related Content

นันทวัน สิงหาคุณ

  • 1. ภาษา C จัดทาโดย น.ส. นันทวัน สิงหาคุณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/5 เลขที่ 16 เสนอ คุณครู สมร ตาระมันธ์
  • 2. ประวัติ ภาษาซีเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1972 โดย Dennis Ritchie แห่ง Bell Labs โดยภาษาซีนั้นพัฒนามาจาก ภาษา B และ จากภาษา BCPL ซึ่งในช่วงแรกนั้นภาษาซีถูกออกแบบให้ใช้เป็นภาษาการ เขียนโปรแกรมในระบบ UNIX และเริ่มมีคนสนใจมากขึ้นในปี Dennis Ritchie ค.ศ.1978 เมื่อ Brain Kernighan ร่วมกับ Dennis Ritchie พัฒนามาตรฐานของภาษาซีขึ้นมา คือ K&R (Kernighan & Ritchie) โดยภาษาซีนั้นสามารถจะปรับ ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์รูปแบบต่างๆได้
  • 3. ตัวดาเȨȨารความสัมพันธ์หรือการ เปรียบเทียบ (relational operators) สัญลักษณ์ การดาเนินการ ตัวอย่าง < น้อยกว่า 2<3 ผลลัพธ์ จริง(1) > มากกว่า 2>3 ผลลัพธ์ เท็จ (false)(0) <= น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2<= 3 ผลลัพธ์ จริง(true) >= มากกว่าหรือเท่ากับ 2>= 3 ผลลัพธ์ เท็จ(false) == เท่ากับ 4==4 ผลลัพธ์ จริง(true) != ไม่เท่ากับ 2!= 2 ผลลัพธ์ เท็จ(false)
  • 4. โครงสร้างྺองโปรแกรมภาษาซี โปรแกรมในภาษาซีทุกโปรแกรมจะประกอบด้วยฟังก์ชันอย่างน้อย หนึ่งฟังก์ชัน คือ ฟังก์ชัน main โดยโปรแกรมภาษาซีจะเริ่มทางานที่ฟังก์ชัน main ก่อน ในแต่ละ ฟังก์ชันจะประกอบด้วย 1. Function Heading ประกอบด้วยชื่อฟังก์ชัน และอาจมีรายการของ argument (บางคนเรียก parameter) อยู่ในวงเล็บ
  • 5. 2. Variable Declaration ส่วนประกาศตัวแปร สาหรับภาษาซี ตัวแปรหรือค่าคงที่ทุกตัว ที่ใช้ในโปรแกรมจะต้องมีการ ประกาศก่อนว่าจะใช้งานอย่างไร จะเก็บค่าในรูปแบบใดเช่น interger หรือ real number 3. Compound Statements ส่วนของประโยคคาสั่งต่างๆ ซึ่งแบ่งเป็นประโยคเชิงซ้อน (compound statement) กับ ประโยคนิพจน์ (expression statment) โดยประโยคเชิงซ้อนจะอยู่ภายใน วงเล็บปีกกาคู่หนึ่ง { และ } โดยในหนึ่งประโยคเชิงซ้อน จะมีประโยคนิพจน์ที่แยกจากกัน ด้วยเครื่องหมาย semicolon (;) หลายๆ ประโยครวมกัน และ อาจมีวงเล็บปีกกาใส่ ประโยคเชิงซ้อนย่อยเข้าไปอีกได้
  • 6. โปรแกรมที่ 1: Hello #include <stdio.h> main() { printf(" Hello. This is my first program. n") ; /* This is a comment */ return 0 ; }