ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
เคล็ดลับการขจัดรอยเปื้ อนบนเสื้อผ้ า

เสื้อผ้าสี ขาวทีเ่ ริ่มจะกลายเป็ นสี เหลือง
สามารถแก้ ไขได้ โดยใช้ เปลือกไข่ ป่นละเอียด ใส่ ลงไปในอ่ างแช่ ผ้า ทิงไว้ สักครู่ แล้ วจึงซั ก
                                                                     ้

เสื้ อผ้าที่เลอะคราบครี ม เนย น้ ามัน
ขจัดคราบโดยนาแป้ งที่ใช้สาหรับทาตัวมาโรย ใช้กระดาษทิชชู หรื อกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นาเตารี ดที่มีความ
ร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้ งดูดคราบออกจนหมด แล้วจึงนาไปซัก


เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบเลือด
ขจัดคราบโดยนานมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่ แล้วนาไปขยี้น้ าออก


เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบเลือดจางๆ
ขจัดคราบโดยใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ าสักเล็กน้อย จนแป้ งข้นๆ ถูเบาๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่ นออก


เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบเลือดฝังแน่น
ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ าจุ่มน้ าเย็น ที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง แล้วใช้น้ าเปล่าถูอีกครั้ง
สุ ดท้ายใช้ทิชชูซบน้ าให้แห้ง
                     ั


เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบกาแฟ
ขจัดคราบโดยใช้แป้ งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ


เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบชอกโกแล็ต
ขจัดคราบโดยรี บนาไปแช่น้ าอุ่นทันทีที่เปื้ อน อาจใช้น้ ายาขจัดคราบฝังแน่น ช่วยด้วย จากนั้นนาไปซักแห้ง
เสื้ อผ้าที่เลอะคราบน้ าตาเทียน
                    ้
ขจัดคราบโดยใช้กอนน้ าแข็งขูดเกล็ดเทียนออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้กระดาษประกบบริ เวณที่เปื้ อนทั้ง 2
ด้าน แล้วใช้เตารี ดอุ่นๆ รี ดทับจนน้ าตาเทียนซึ มออกมาติดกับกระดาษ

เสื้ อผ้าที่เลอะโคลน
ขจัดคราบโดยปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปั ดออก ซักด้วยน้ าเย็นหลายๆ ครั้ง จนไม่มีน้ าโคลนออกมา จึงซัก
ด้วยผงซักฟอก


เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบน้ าชา
                                                                     ่
ขจัดคราบโดยรี บเทน้ าเดือดลงบนรอยเปื้ อนบนผ้าที่ยงเป็ นรอยใหม่อยูจนสี จางลงแล้ว รี บนาไปซักทันที
                                                    ั
ให้ซกในน้ าอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออก ให้ใช้น้ ายาฟอกขาวเช็ด แล้วจึงซัก
       ั


เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบน้ าผลไม้ น้ ามันพืช
ขจัดคราบโดยให้ขึงผ้าที่เปื้ อนบนปากถัง เทน้ าเดือดลงตรงรอยเปื้ อน แล้วจึงซัก


เสื้ อผ้าที่เลอะน้ ามันขัดเงา
ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ าชุบทินเนอร์ ทาบริ เวณที่เปื้ อนในขณะที่ยงเปี ยกอยู่ ใช้น้ ายาซักผ้า ขยี้ตรงรอยเปื้ อนทันที
                                                             ั
นามาแช่ในน้ าอุ่น แล้วรี บซักทันที


เสื้ อผ้าที่เลอะคราบน้ ามันดิบ
                                 ่
ขจัดคราบโดยขูดน้ ามันดิบที่ติดอยูออกด้วยมีดที่ไม่คม แล้วถูดวยน้ ามันสน หรื อน้ ามันก๊าดหรื อน้ ามันเบนซิ น
                                                           ้
(ห้ามใช้น้ าเด็ดขาด)


เสื้ อผ้าที่ข้ ึนราเล็กน้อย
ขจัดคราบโดยรี บนาผ้าที่ข้ ึนราใหม่ๆ ซักในน้ าสบู่ร้อนๆ ให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะทาได้ / ให้บีบมะนาวลงไป แล้วแช่
ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปกติ
เสื้ อผ้าที่เปื้ อนรอยสนิม
ขจัดคราบโดยนาผ้ามาชุบน้ าให้เปี ยกก่อน บีบน้ ามะนาวลงไปบนรอยเปื้ อน ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงนาไปซัก
ตามปกติ


เสื้ อผ้าที่เลอะคราบเบียร์
ขจัดคราบโดยซักในน้ าเย็นทันที หรื อใช้แปรงจุ่มน้ าเย็น แปรงตรงรอยเปื้ อนทันที


เสื้ อที่เลอะคราบน้ ามันรถ (น้ ามันเครื่ อง)
ขจัดคราบโดยใช้มะนาวถูบริ เวณที่เปื้ อน จนรอยเปื้ อนจางลง
แล้วจึงนาไปซัก


เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบน้ าส้มสายชู
ขจัดคราบโดยผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนชา ในน้ า 2 ถ้วย (ครึ่ งลิตร) แล้วแช่ 2-3 นาที ล้างออกแล้วซักตามปกติ

เสื้ อผ้าที่เลอะคราบน้ าหมาก น้ าหมึก
ขจัดคราบโดยก่อนซักให้นาเกลือป่ นโรยตรงรอยเปื้ อน แล้วบีบน้ ามะนาว ลงไปให้ชุ่ม ผึ่งแดดไว้ครึ่ งวัน จึงค่อย
นาไปซัก


เสื้ อผ้าที่เลอะกาว
ขจัดคราบได้โดย ใช้น้ าส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้ อน นามาแช่ในน้ าเย็น แล้วซักตามปกติ

เสื้ อผ้าที่เลอะขี้ผ้ ง
                      ึ

ขจัดคราบโดยการวางกระดาษซับบนรอยเปื้ อนแล้วกดด้วยเตารี ดที่ร้อน เปลี่ยนกระดาษจนกระทังไขทั้งหมดถูก
                                                                                   ่
ดูดซับไปหมด ถ้าเป็ นผ้าที่บาง หรื อผ้าไหมให้ใช้กระดาษทิชชู และเตารี ดที่เย็นกว่า
เสื้ อผ้าที่เลอะลิปสติก
เอามันเปลวหมูทาตรงรอยเปื้ อน หรื อใช้น้ ามันหมูทา แล้วจึงซักในน้ าสบู่ร้อนๆ หรื อใช้ผงซักฟอกขาว โรยตรง
รอยเปื้ อนแล้วขยี้ แล้วจึงซักตามปกติ / ใช้วาสลินถูตรงรอยเปื้ อนแล้วนามาซักตามปกติ / นามาแช้ไว้ในน้ าผสม
เกลือทิงไว้ 1 คืน จะทาให้รอยลิปสติกหาย
         ้

เสื้ อผ้าที่เลอะไข่
ขจัดคราบได้โดยให้ผสมน้ ายาซักผ้ากับน้ าอุ่นซัก

เสื้ อผ้าที่เลอะยางกล้วย
ขจัดคราบโดยใช้มะนาวที่ฝานเป็ นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้ อน ที่เป็ นคราบดา แล้วรี บนามาซักทันที

เสื้ อผ้าที่เลอะยาทาเล็บ
ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้ อนด้วยน้ ายาล้างเล็บ และเช็ดด้วยผ้าที่สะอาด จนกระทังรอยเปื้ อนจางลง (ควรลอง
                                                                            ่
หยดน้ ายาล้างเล็บลงผ้าก่อน)
เสื้ อผ้าที่เลอะยาแดง
ขจัดคราบโดยเช็ดรอยเปื้ อนด้วยแอมโมเนีย หรื อซักด้วยน้ าส้มสายชูผสมน้ า

เสื้ อผ้าที่เลอะมัสตาร์ ด
ขจัดคราบโดยใช้น้ าส้มสายชูถู แล้วรี บนาไปซัก

เสื้ อผ้าที่เลอะคราบปั สสาวะ
ให้ซบที่รอยเปื้ อน ด้วยแอมโมเนียเจือจาง หรื อเบคกิ้งโซดา แล้วล้างออกด้วยน้ าอุ่น
       ั
แล้วซักได้ตามปกติ

เสื้ อผ้าที่เลอะคราบเหงื่อ มี 3 วิธี
1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ าที่ผสมน้ าส้มสายชูเล็กน้อย หรื อน้ ามะนาว
2.แช่ผาไว้ในน้ ายาซักผ้าที่ทาให้เจือจางในน้ าจากนั้นซักได้ตามปกติ
         ้
3.ละลายแอสไพริ น 2 เม็ดลงในน้ า แล้วแช่ผาไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ
                                            ้

เสื้ อผ้าที่เลอะหมึกแห้ง
ขจัดคราบได้โดย ใช้สเปรย์ฉีดผมฉี ดตรงรอยนั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วใช้น้ าส้มสายชูผสมน้ าอย่างละเท่ากัน
เช็ดให้แห้งแล้วนาไปซัก
เสื้ อผ้าที่เลอะหมึกจีน
ขจัดคราบได้โดย ให้ฝนหัวผักกาดขาวห่อด้วยผ้ากอซ ถูจนรอยเปื้ อนจาง แล้วซักตามปกติ

เสื้ อผ้าที่เลอะสี น้ ามัน
ขจัดคราบโดยใช้น้ ามันเบนซิ นเช็ดรอยเปื้ อนให้ชุ่ม แล้วใช้น้ ามันสนเช็ดอีกที จากนั้นซักตามปกติ

เสื้ อผ้าที่เลอะสี เคลือบเงา
ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้ อนด้วยน้ ามันสน หรื อผสมแอมโมเนีย กับน้ ามันสนในอัตราส่ วนที่เท่ากัน แช่ผาไว้
                                                                                                  ้
จนกระทังรอยเปื้ อน ละลายออก จากนั้นซักในน้ าสบู่
             ่

เสื้ อผ้าที่เลอะสี ปากกาเมจิก
ให้ถูดวยน้ ามันสน แล้วนาไปซัก
         ้

เสื้ อผ้าที่เลอะคราบปากกาลูกลื่น
ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ าชุบแอลกอฮอล์เช็ดจนรอยเลอะจางลง แล้วจึงนาไปซัก

เสื้ อผ้าที่เลอะคราบดินสอ
ใช้ยาสี ฟันป้ ายลงบนรอยดินสอแล้วขยี้

เสื้ อผ้าที่เลอะยางหญ้า ยางดอกไม้
ขจัดคราบโดยนามาซักในน้ าสบู่ที่ขนและร้อน ถ้ายังไม่ออกให้ใช้สารฟอกขาวช่วย
                                  ้

More Related Content

Similar to ๶คล็ดลับการขจัดรอยเปื้อȨȨสื้อผ้า (9)

PDF
การศึกษาเรื่องการซ่อมแซม ดัดแปลงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สามารถแบ่งออกได้ดังนี้
Wanlop Chimpalee
PDF
การดูแลใช้ส่วนตัว
Wanlop Chimpalee
PDF
๶ทคȨคการทำความสะอาด
Raming Thonglek
PDF
Mold remediation-after-flood
Boonlert Aroonpiboon
PDF
วิธีกำจัึϹชื้อในบ้านหลังȨำท่วม
Poramate Minsiri
PPTX
unit1_2
Duj-Aroon Inta
PDF
สารลึϹรงตึงผิวในผงซักฟอก
adriamycin
PDF
ใบความรู้ เรื่องการรีดผ้า
Duangsuwun Lasadang
การศึกษาเรื่องการซ่อมแซม ดัดแปลงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สามารถแบ่งออกได้ดังนี้
Wanlop Chimpalee
การดูแลใช้ส่วนตัว
Wanlop Chimpalee
๶ทคȨคการทำความสะอาด
Raming Thonglek
Mold remediation-after-flood
Boonlert Aroonpiboon
วิธีกำจัึϹชื้อในบ้านหลังȨำท่วม
Poramate Minsiri
สารลึϹรงตึงผิวในผงซักฟอก
adriamycin
ใบความรู้ เรื่องการรีดผ้า
Duangsuwun Lasadang

More from Wanlop Chimpalee (14)

PDF
ไม้ดอกไม้ประึϸบ
Wanlop Chimpalee
PDF
๶ครื่องมือการ๶กษตรและการึϸแลรักษา
Wanlop Chimpalee
PDF
อาชีพใȨัน
Wanlop Chimpalee
PDF
ความสำคัญྺองการประกอบทำอาหาร
Wanlop Chimpalee
PDF
มารยาทการรับประทานอาหาร
Wanlop Chimpalee
PDF
มารยาทในการรับแྺก
Wanlop Chimpalee
PDF
การดูแลรักษาอุปกรณ์ใȨารซ่อมแซมเสื้อผ้า
Wanlop Chimpalee
PDF
มารยาทในห้อง๶รียน1
Wanlop Chimpalee
DOC
04028 683
Wanlop Chimpalee
PDF
ใบความรู้ เรื่อง
Wanlop Chimpalee
PDF
ใบความรู้ เรื่อง
Wanlop Chimpalee
PDF
การติดตั้ง
Wanlop Chimpalee
PDF
๶กมพละ11
Wanlop Chimpalee
ไม้ดอกไม้ประึϸบ
Wanlop Chimpalee
๶ครื่องมือการ๶กษตรและการึϸแลรักษา
Wanlop Chimpalee
อาชีพใȨัน
Wanlop Chimpalee
ความสำคัญྺองการประกอบทำอาหาร
Wanlop Chimpalee
มารยาทการรับประทานอาหาร
Wanlop Chimpalee
มารยาทในการรับแྺก
Wanlop Chimpalee
การดูแลรักษาอุปกรณ์ใȨารซ่อมแซมเสื้อผ้า
Wanlop Chimpalee
มารยาทในห้อง๶รียน1
Wanlop Chimpalee
ใบความรู้ เรื่อง
Wanlop Chimpalee
ใบความรู้ เรื่อง
Wanlop Chimpalee
การติดตั้ง
Wanlop Chimpalee
๶กมพละ11
Wanlop Chimpalee
Ad

๶คล็ดลับการขจัดรอยเปื้อȨȨสื้อผ้า

  • 1. เคล็ดลับการขจัดรอยเปื้ อนบนเสื้อผ้ า เสื้อผ้าสี ขาวทีเ่ ริ่มจะกลายเป็ นสี เหลือง สามารถแก้ ไขได้ โดยใช้ เปลือกไข่ ป่นละเอียด ใส่ ลงไปในอ่ างแช่ ผ้า ทิงไว้ สักครู่ แล้ วจึงซั ก ้ เสื้ อผ้าที่เลอะคราบครี ม เนย น้ ามัน ขจัดคราบโดยนาแป้ งที่ใช้สาหรับทาตัวมาโรย ใช้กระดาษทิชชู หรื อกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นาเตารี ดที่มีความ ร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้ งดูดคราบออกจนหมด แล้วจึงนาไปซัก เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบเลือด ขจัดคราบโดยนานมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่ แล้วนาไปขยี้น้ าออก เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบเลือดจางๆ ขจัดคราบโดยใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ าสักเล็กน้อย จนแป้ งข้นๆ ถูเบาๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่ นออก เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบเลือดฝังแน่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ าจุ่มน้ าเย็น ที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง แล้วใช้น้ าเปล่าถูอีกครั้ง สุ ดท้ายใช้ทิชชูซบน้ าให้แห้ง ั เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบกาแฟ ขจัดคราบโดยใช้แป้ งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบชอกโกแล็ต ขจัดคราบโดยรี บนาไปแช่น้ าอุ่นทันทีที่เปื้ อน อาจใช้น้ ายาขจัดคราบฝังแน่น ช่วยด้วย จากนั้นนาไปซักแห้ง
  • 2. เสื้ อผ้าที่เลอะคราบน้ าตาเทียน ้ ขจัดคราบโดยใช้กอนน้ าแข็งขูดเกล็ดเทียนออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้กระดาษประกบบริ เวณที่เปื้ อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารี ดอุ่นๆ รี ดทับจนน้ าตาเทียนซึ มออกมาติดกับกระดาษ เสื้ อผ้าที่เลอะโคลน ขจัดคราบโดยปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปั ดออก ซักด้วยน้ าเย็นหลายๆ ครั้ง จนไม่มีน้ าโคลนออกมา จึงซัก ด้วยผงซักฟอก เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบน้ าชา ่ ขจัดคราบโดยรี บเทน้ าเดือดลงบนรอยเปื้ อนบนผ้าที่ยงเป็ นรอยใหม่อยูจนสี จางลงแล้ว รี บนาไปซักทันที ั ให้ซกในน้ าอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออก ให้ใช้น้ ายาฟอกขาวเช็ด แล้วจึงซัก ั เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบน้ าผลไม้ น้ ามันพืช ขจัดคราบโดยให้ขึงผ้าที่เปื้ อนบนปากถัง เทน้ าเดือดลงตรงรอยเปื้ อน แล้วจึงซัก เสื้ อผ้าที่เลอะน้ ามันขัดเงา ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ าชุบทินเนอร์ ทาบริ เวณที่เปื้ อนในขณะที่ยงเปี ยกอยู่ ใช้น้ ายาซักผ้า ขยี้ตรงรอยเปื้ อนทันที ั นามาแช่ในน้ าอุ่น แล้วรี บซักทันที เสื้ อผ้าที่เลอะคราบน้ ามันดิบ ่ ขจัดคราบโดยขูดน้ ามันดิบที่ติดอยูออกด้วยมีดที่ไม่คม แล้วถูดวยน้ ามันสน หรื อน้ ามันก๊าดหรื อน้ ามันเบนซิ น ้ (ห้ามใช้น้ าเด็ดขาด) เสื้ อผ้าที่ข้ ึนราเล็กน้อย ขจัดคราบโดยรี บนาผ้าที่ข้ ึนราใหม่ๆ ซักในน้ าสบู่ร้อนๆ ให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะทาได้ / ให้บีบมะนาวลงไป แล้วแช่ ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปกติ
  • 3. เสื้ อผ้าที่เปื้ อนรอยสนิม ขจัดคราบโดยนาผ้ามาชุบน้ าให้เปี ยกก่อน บีบน้ ามะนาวลงไปบนรอยเปื้ อน ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงนาไปซัก ตามปกติ เสื้ อผ้าที่เลอะคราบเบียร์ ขจัดคราบโดยซักในน้ าเย็นทันที หรื อใช้แปรงจุ่มน้ าเย็น แปรงตรงรอยเปื้ อนทันที เสื้ อที่เลอะคราบน้ ามันรถ (น้ ามันเครื่ อง) ขจัดคราบโดยใช้มะนาวถูบริ เวณที่เปื้ อน จนรอยเปื้ อนจางลง แล้วจึงนาไปซัก เสื้ อผ้าที่เปื้ อนคราบน้ าส้มสายชู ขจัดคราบโดยผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนชา ในน้ า 2 ถ้วย (ครึ่ งลิตร) แล้วแช่ 2-3 นาที ล้างออกแล้วซักตามปกติ เสื้ อผ้าที่เลอะคราบน้ าหมาก น้ าหมึก ขจัดคราบโดยก่อนซักให้นาเกลือป่ นโรยตรงรอยเปื้ อน แล้วบีบน้ ามะนาว ลงไปให้ชุ่ม ผึ่งแดดไว้ครึ่ งวัน จึงค่อย นาไปซัก เสื้ อผ้าที่เลอะกาว ขจัดคราบได้โดย ใช้น้ าส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้ อน นามาแช่ในน้ าเย็น แล้วซักตามปกติ เสื้ อผ้าที่เลอะขี้ผ้ ง ึ ขจัดคราบโดยการวางกระดาษซับบนรอยเปื้ อนแล้วกดด้วยเตารี ดที่ร้อน เปลี่ยนกระดาษจนกระทังไขทั้งหมดถูก ่ ดูดซับไปหมด ถ้าเป็ นผ้าที่บาง หรื อผ้าไหมให้ใช้กระดาษทิชชู และเตารี ดที่เย็นกว่า
  • 4. เสื้ อผ้าที่เลอะลิปสติก เอามันเปลวหมูทาตรงรอยเปื้ อน หรื อใช้น้ ามันหมูทา แล้วจึงซักในน้ าสบู่ร้อนๆ หรื อใช้ผงซักฟอกขาว โรยตรง รอยเปื้ อนแล้วขยี้ แล้วจึงซักตามปกติ / ใช้วาสลินถูตรงรอยเปื้ อนแล้วนามาซักตามปกติ / นามาแช้ไว้ในน้ าผสม เกลือทิงไว้ 1 คืน จะทาให้รอยลิปสติกหาย ้ เสื้ อผ้าที่เลอะไข่ ขจัดคราบได้โดยให้ผสมน้ ายาซักผ้ากับน้ าอุ่นซัก เสื้ อผ้าที่เลอะยางกล้วย ขจัดคราบโดยใช้มะนาวที่ฝานเป็ นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้ อน ที่เป็ นคราบดา แล้วรี บนามาซักทันที เสื้ อผ้าที่เลอะยาทาเล็บ ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้ อนด้วยน้ ายาล้างเล็บ และเช็ดด้วยผ้าที่สะอาด จนกระทังรอยเปื้ อนจางลง (ควรลอง ่ หยดน้ ายาล้างเล็บลงผ้าก่อน) เสื้ อผ้าที่เลอะยาแดง ขจัดคราบโดยเช็ดรอยเปื้ อนด้วยแอมโมเนีย หรื อซักด้วยน้ าส้มสายชูผสมน้ า เสื้ อผ้าที่เลอะมัสตาร์ ด ขจัดคราบโดยใช้น้ าส้มสายชูถู แล้วรี บนาไปซัก เสื้ อผ้าที่เลอะคราบปั สสาวะ ให้ซบที่รอยเปื้ อน ด้วยแอมโมเนียเจือจาง หรื อเบคกิ้งโซดา แล้วล้างออกด้วยน้ าอุ่น ั แล้วซักได้ตามปกติ เสื้ อผ้าที่เลอะคราบเหงื่อ มี 3 วิธี 1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ าที่ผสมน้ าส้มสายชูเล็กน้อย หรื อน้ ามะนาว 2.แช่ผาไว้ในน้ ายาซักผ้าที่ทาให้เจือจางในน้ าจากนั้นซักได้ตามปกติ ้ 3.ละลายแอสไพริ น 2 เม็ดลงในน้ า แล้วแช่ผาไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ ้ เสื้ อผ้าที่เลอะหมึกแห้ง ขจัดคราบได้โดย ใช้สเปรย์ฉีดผมฉี ดตรงรอยนั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วใช้น้ าส้มสายชูผสมน้ าอย่างละเท่ากัน เช็ดให้แห้งแล้วนาไปซัก
  • 5. เสื้ อผ้าที่เลอะหมึกจีน ขจัดคราบได้โดย ให้ฝนหัวผักกาดขาวห่อด้วยผ้ากอซ ถูจนรอยเปื้ อนจาง แล้วซักตามปกติ เสื้ อผ้าที่เลอะสี น้ ามัน ขจัดคราบโดยใช้น้ ามันเบนซิ นเช็ดรอยเปื้ อนให้ชุ่ม แล้วใช้น้ ามันสนเช็ดอีกที จากนั้นซักตามปกติ เสื้ อผ้าที่เลอะสี เคลือบเงา ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้ อนด้วยน้ ามันสน หรื อผสมแอมโมเนีย กับน้ ามันสนในอัตราส่ วนที่เท่ากัน แช่ผาไว้ ้ จนกระทังรอยเปื้ อน ละลายออก จากนั้นซักในน้ าสบู่ ่ เสื้ อผ้าที่เลอะสี ปากกาเมจิก ให้ถูดวยน้ ามันสน แล้วนาไปซัก ้ เสื้ อผ้าที่เลอะคราบปากกาลูกลื่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ าชุบแอลกอฮอล์เช็ดจนรอยเลอะจางลง แล้วจึงนาไปซัก เสื้ อผ้าที่เลอะคราบดินสอ ใช้ยาสี ฟันป้ ายลงบนรอยดินสอแล้วขยี้ เสื้ อผ้าที่เลอะยางหญ้า ยางดอกไม้ ขจัดคราบโดยนามาซักในน้ าสบู่ที่ขนและร้อน ถ้ายังไม่ออกให้ใช้สารฟอกขาวช่วย ้