ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
พลังงาȨฟฟา
          ้
ไฟฟาสถิต (Statics Electricity)
   ้

       ไฟฟาสถิต เป็ นกระแสไฟฟาที่เกิดจากการเสียดสีของวัตถุ 2 ชนิด คือแท่ง
          ้                     ้
แก้ วนามาขัดถูกบผ้ าไหม จะมีผลทาให้ ทาให้ อิเล็กตรอนย้ ายที่ แท่งแก้ วจะมี
               ั
อานาจไฟฟาดึงดูดวัตถุเบา ๆ เช่น เศษกระดาษ หรื อไฟฟาสถิตที่เกิดจาก
            ้                                      ้
ธรรมชาติ เช่น ฟาแล็บ ฟาร้ อง ฟาผ่า
                 ้     ้      ้
ไฟฟากระแส (Current Electricity)
   ้

      คือแหล่งกาเนิดไฟฟาที่มนุษย์สามารถผลิตขึ ้นมาเพื่อใช้ งานด้ านต่างๆได้ อย่าง
                       ้
มากมายโดยการส่งกระแสไฟฟาให้ เคลื่อน ที่ ไปในลวดตัวนา แบ่งออกเป็ น 2 ชนิดคือ
                         ้
ไฟฟากระแสตรง( Direct Current) ไฟฟากระแสสลับ (Alternation
   ้                                      ้
Current)
ไฟฟากระแสตรง (Direct Current)
   ้

        ไฟฟากระแสตรงนี ้จะมีทศทางการไหลไปในลวดตัวนาเพียงทิศทางเดียวโดย
            ้                ิ
กระแสไฟฟาจะไหลจากขัวลบไปยังขัวบวก เสมอ เราเรี ยกว่ากระแสอิเล็กตรอน
              ้          ้       ้
(Electron - Current) แต่เรานิยมให้ กระแสไฟฟาไหลจากขัวบวกไปหาขัวลบ
                                              ้           ้          ้
เราเรี ยกว่า กระแสนิยม (Conventional- Current)แหล่งกาเนิดไฟฟา    ้
กระแสตรงนันมีต้นกาเนิดมาจากเซลไฟฟา เช่น ถ่านไฟฉายและเบตเตอรี่ รถยนต์
                ้                   ้
• เซลไฟฟา คือต้ นกาเนิดแรงเคลื่อนไฟฟาที่ใช้ ปฏิกิริยาทางเคมี แบ่ง
         ้                          ้
  ตามลักษณะการใช้ งาน ได้ 2 ชนิดคือ

     1.) เซลปฐมภูมิ (Primary Cell) คือเซลไฟฟาที่นามาใช้ งาน
                                                  ้
  จนหมดสภาพแล้ วเราไม่สามารถนามาใช้ ได้ อีก เช่น ถ่านไฟฉาย
2.) เซลทุติยภูมิ (SecondaryCell)แบตเตอรี่ แบบสะสมคือเซลไฟฟาที่              ้
นามาใช้ งานแล้ วสามารถนากลับมาใช้ ใหม่ ได้ อีก โดยการเติมประจุ (Charge)
เข้ าที่เซลล์ไฟฟานี ้ เช่น แบตเตอรี่ รถยนต์ หรื อถ่านนิเกิลแคดเมี่ยมที่ใช้ กบ
                ้                                                           ั
โทรศัพท์มือถือ
ไฟฟากระแสสลับ (Alternation Current) เป็ นกระแสไฟฟาที่มี
               ้                                                    ้
การไหลเปลี่ยนแปลงอย่ตลอดเวลาคือมีทงขัวบวกและขัวลบ สลับกัน โดยหลักการ
                                       ั้ ้         ้
พื ้นฐานแล้ วกระแสไฟฟาสลับนี ้เกิด จากการเหนี่ยวนาของสนามแม่เหล็กตัดกับ
                      ้
ขดลวด โดยการ นาเอาขดลวดไปวางไว้ ระหว่างสนามแม่เหล็กและหมุนขดลวดนัน      ้
แล้ วใช้ เทคนิคในการต่อขัวทังสองของขดลวดออก มาเราก็สามารถบังคับให้
                         ้ ้
กระแสไฟฟาสลับออกมาใช้ งานได้
             ้
ทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาที่เกิดขึ ้นในขดลวด จะเปลี่ยนแปลงไปตามการ
                               ้
หมุนซึงตรวจดูความสัมพันธ์ ระหว่างมุมที่ขด ลวดกับขนาดทิศทางของ
      ่
แรงเคลื่อนไฟฟาที่เกิดขึ ้น จะได้ ผลดังรูป
             ้
เมื่อขดลวดอยูในตาแหน่ง (a)กาหนดให้ เป็ นมุม 0 องศาและกาหนดให้
                    ่
ขดลวดหมุนไปตามทิศทางของลูกศรในรูปเมื่อขดลวดอยู่ 0องศาขดลวดไม่ได้
ติดฟลักซ์แม่เหล็กแรงเคลื่อนไฟฟาจะเป็ น0 เมื่อขดลวดหมุนไปอยูที่ 30 องศา
                               ้                            ่
และ 60 องศาแรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาสูงขึ ้นและมีกระแสไหลจาก A ไป B ถ้ า
                             ้   ่
กาหนดให้ ทิศดังกล่าวเป็ นบวกทิศของแรงเคลื่อนไฟฟาซึงเป็ นบวกด้ วยเมื่อ
                                                ้ ่
ขดลวดมาอยูตาแหน่งที่ (b) คือ 90 องศา ขดลวด A จะอยูใต้ แม่เหล็ก S พอดี
              ่                                         ่
แรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาสูงสุดเมื่อขดลวดหมุนไปที่ 120 องศา และ 150 องศา
                ้      ่
แรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาลดลงและจะเป็ น 0 เมื่อขดลวดอยูในตาแหน่ง (c ) คือ
                  ้      ่                           ่
ที่ 180 องศา เมื่อเลย 180องศาไปจะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟาขึ ้นอีกแต่มีทิศทาง
                                                   ้
กลับกันกระแสจะไหลจาก B ไป A เมื่อขดลวดหมุนไปเรื่ อยๆก็จะได้ ขนาดและ
ทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาเหมือนรูปข้ างต้ น
                           ้
ผู้จัดทำ

 ด.ช. อมรศิลป์ กันวงค์ เลขที่ 17

 ด.ช. ชญำนนท์ ศรีโชติ เลขที่ 18

ด.ญ. กรรณิกำ กันทะไชย เลขที่ 19

  ด.ญ. กุลธิดำ ขัดแก้ ว เลขที่ 20

     ชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ 3/3

More Related Content

งาȨำเสนอ

  • 2. ไฟฟาสถิต (Statics Electricity) ้ ไฟฟาสถิต เป็ นกระแสไฟฟาที่เกิดจากการเสียดสีของวัตถุ 2 ชนิด คือแท่ง ้ ้ แก้ วนามาขัดถูกบผ้ าไหม จะมีผลทาให้ ทาให้ อิเล็กตรอนย้ ายที่ แท่งแก้ วจะมี ั อานาจไฟฟาดึงดูดวัตถุเบา ๆ เช่น เศษกระดาษ หรื อไฟฟาสถิตที่เกิดจาก ้ ้ ธรรมชาติ เช่น ฟาแล็บ ฟาร้ อง ฟาผ่า ้ ้ ้
  • 3. ไฟฟากระแส (Current Electricity) ้ คือแหล่งกาเนิดไฟฟาที่มนุษย์สามารถผลิตขึ ้นมาเพื่อใช้ งานด้ านต่างๆได้ อย่าง ้ มากมายโดยการส่งกระแสไฟฟาให้ เคลื่อน ที่ ไปในลวดตัวนา แบ่งออกเป็ น 2 ชนิดคือ ้ ไฟฟากระแสตรง( Direct Current) ไฟฟากระแสสลับ (Alternation ้ ้ Current)
  • 4. ไฟฟากระแสตรง (Direct Current) ้ ไฟฟากระแสตรงนี ้จะมีทศทางการไหลไปในลวดตัวนาเพียงทิศทางเดียวโดย ้ ิ กระแสไฟฟาจะไหลจากขัวลบไปยังขัวบวก เสมอ เราเรี ยกว่ากระแสอิเล็กตรอน ้ ้ ้ (Electron - Current) แต่เรานิยมให้ กระแสไฟฟาไหลจากขัวบวกไปหาขัวลบ ้ ้ ้ เราเรี ยกว่า กระแสนิยม (Conventional- Current)แหล่งกาเนิดไฟฟา ้ กระแสตรงนันมีต้นกาเนิดมาจากเซลไฟฟา เช่น ถ่านไฟฉายและเบตเตอรี่ รถยนต์ ้ ้
  • 5. • เซลไฟฟา คือต้ นกาเนิดแรงเคลื่อนไฟฟาที่ใช้ ปฏิกิริยาทางเคมี แบ่ง ้ ้ ตามลักษณะการใช้ งาน ได้ 2 ชนิดคือ 1.) เซลปฐมภูมิ (Primary Cell) คือเซลไฟฟาที่นามาใช้ งาน ้ จนหมดสภาพแล้ วเราไม่สามารถนามาใช้ ได้ อีก เช่น ถ่านไฟฉาย
  • 6. 2.) เซลทุติยภูมิ (SecondaryCell)แบตเตอรี่ แบบสะสมคือเซลไฟฟาที่ ้ นามาใช้ งานแล้ วสามารถนากลับมาใช้ ใหม่ ได้ อีก โดยการเติมประจุ (Charge) เข้ าที่เซลล์ไฟฟานี ้ เช่น แบตเตอรี่ รถยนต์ หรื อถ่านนิเกิลแคดเมี่ยมที่ใช้ กบ ้ ั โทรศัพท์มือถือ
  • 7. ไฟฟากระแสสลับ (Alternation Current) เป็ นกระแสไฟฟาที่มี ้ ้ การไหลเปลี่ยนแปลงอย่ตลอดเวลาคือมีทงขัวบวกและขัวลบ สลับกัน โดยหลักการ ั้ ้ ้ พื ้นฐานแล้ วกระแสไฟฟาสลับนี ้เกิด จากการเหนี่ยวนาของสนามแม่เหล็กตัดกับ ้ ขดลวด โดยการ นาเอาขดลวดไปวางไว้ ระหว่างสนามแม่เหล็กและหมุนขดลวดนัน ้ แล้ วใช้ เทคนิคในการต่อขัวทังสองของขดลวดออก มาเราก็สามารถบังคับให้ ้ ้ กระแสไฟฟาสลับออกมาใช้ งานได้ ้
  • 8. ทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาที่เกิดขึ ้นในขดลวด จะเปลี่ยนแปลงไปตามการ ้ หมุนซึงตรวจดูความสัมพันธ์ ระหว่างมุมที่ขด ลวดกับขนาดทิศทางของ ่ แรงเคลื่อนไฟฟาที่เกิดขึ ้น จะได้ ผลดังรูป ้
  • 9. เมื่อขดลวดอยูในตาแหน่ง (a)กาหนดให้ เป็ นมุม 0 องศาและกาหนดให้ ่ ขดลวดหมุนไปตามทิศทางของลูกศรในรูปเมื่อขดลวดอยู่ 0องศาขดลวดไม่ได้ ติดฟลักซ์แม่เหล็กแรงเคลื่อนไฟฟาจะเป็ น0 เมื่อขดลวดหมุนไปอยูที่ 30 องศา ้ ่ และ 60 องศาแรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาสูงขึ ้นและมีกระแสไหลจาก A ไป B ถ้ า ้ ่ กาหนดให้ ทิศดังกล่าวเป็ นบวกทิศของแรงเคลื่อนไฟฟาซึงเป็ นบวกด้ วยเมื่อ ้ ่ ขดลวดมาอยูตาแหน่งที่ (b) คือ 90 องศา ขดลวด A จะอยูใต้ แม่เหล็ก S พอดี ่ ่ แรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาสูงสุดเมื่อขดลวดหมุนไปที่ 120 องศา และ 150 องศา ้ ่ แรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาลดลงและจะเป็ น 0 เมื่อขดลวดอยูในตาแหน่ง (c ) คือ ้ ่ ่ ที่ 180 องศา เมื่อเลย 180องศาไปจะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟาขึ ้นอีกแต่มีทิศทาง ้ กลับกันกระแสจะไหลจาก B ไป A เมื่อขดลวดหมุนไปเรื่ อยๆก็จะได้ ขนาดและ ทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาเหมือนรูปข้ างต้ น ้
  • 10. ผู้จัดทำ ด.ช. อมรศิลป์ กันวงค์ เลขที่ 17 ด.ช. ชญำนนท์ ศรีโชติ เลขที่ 18 ด.ญ. กรรณิกำ กันทะไชย เลขที่ 19 ด.ญ. กุลธิดำ ขัดแก้ ว เลขที่ 20 ชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ 3/3