ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ไฟฟ้า
จัดทาโดย
 ด.ญ. รวิวรรณ ต้ นนา ม. 3/6 เลขที่ 27
 ด.ญ. วาสนา แสงตะวัน ม. 3/6 เลขที่28
 ด.ญ. อริสรา ยาเจริญ ม. 3/6 เลขที่ 29
รูปแบบของเครืองใช้ภายใȨ้าน
                                                  ่
 วงจรไฟฟ้ าภายในบ้าน หมายถึง ทางเดินของกระแสไฟฟ้ าที่จะไหลไปตามส่วนต่าง ๆ ของวงจรที่เป็ นตัวนา
 การต่อวงจรไฟฟ้ าในบ้าน หมายถึง การต่อความต้านทาน ซึ่งมีอยู่ 3 แบบ คือ
 . 1.1   การต่อความต้านทานแบบอันดับ หรือแบบอนุ กรม
   เป็ นการต่อความต้ านทานเรียงกันไปตามลาดับ โดยที่ปลายสายของความต้ านทานหรืออุปกรณ์ไฟฟ้ า
   (หลอด) ของตัวที่หนึ่งต่อกับต้ นสายของ
   ความต้ านทานหรืออุปกรณ์ไฟฟ้ า (หลอด) ของตัวที่สอง และอีกปลายหนึ่งของความต้ านทานหรือ
   อุปกรณ์ไฟฟ้ าตัวที่สองต่อกับต้ นสายของความต้ านทาน หรือ
   อุปกรณ์ตัวที่สามเรียงต่อกันไปอย่างนี้จนครบวงจร
คุณสมบัติของวงจรแบบอันดับหรืออนุ กรม
     1. กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านความต้ านทานแต่ละตัวมีค่าเท่ากัน
   2. แรงดันกระแสไฟฟ้ าของวงจรทั้งหมดเท่ากัน แรงดันกระแสไฟฟ้ าตกคร่อมของแต่ละความต้ านทาน
   รวมกัน
1.2 การต่ อความต้ านทานแบบขนาน
การต่อความต้านทานแบบขนาน เป็ นการต่อสายของความต้านทานแต่ละตัวไว้ที่เดียวกัน และปลายสายอีกด้าน
หนึ่งต่อร่ วมกันไว้ที่เดียวกัน
คุณสมบัติของการต่อวงจรแบบขนาน
1. ความต้ านทานแต่ละตัวได้ รับแรงดันกระแสไฟฟ้ าเท่ากัน
2. กระแสไฟฟ้ าที่ไหลผ่านความต้ านทานแต่ละตัวมีค่าไม่เท่ากัน ทั้งนี้ข้ ึนอยู่กบความต้ านทานนั้น ๆ คือ ถ้ ามีความ
                                                                             ั
ต้ านทานมาก
กระแสไฟฟ้ าจะไหลได้ น้อย ถ้ ามีความต้ านทานน้ อยกระแสไฟฟ้ าจะไหลได้ มาก
3. ผลรวมของกระแสไฟฟ้ าที่แยกไหลผ่านแต่ละความต้ าน เมื่อรวมกันแล้ วจะเท่ากับกระแสไฟฟ้ าของวงจร
1.3 การต่อความต้านทานแบบผสม .........เป็ นการต่อความ
ต้านทานทีมทง 2 แบบในวงจรเดียวกัน
         ่ ี ั้
 วงจรไฟฟ้ าภายในบ้ านนิยมแบบขนาน เนื่องจากถ้ ามีอุปกรณ์ไฟฟ้ าตัวใดตัวหนึ่งขาด อุปกรณ์ไฟฟ้ าที่เหลือก็
   จะใช้ งานได้




 1.4 แผนผังการต่อวงจรไฟฟ้ าในบ้าน การต่อไฟฟ้ าในบ้ านเริ่มต้ นจากสายไฟฟ้ าใหญ่ลงมาที่มาตรไฟฟ้ า
   จากมาตรไฟฟ้ าต่อเข้ าคัตเอาท์และฟิ วส์สายที่ต่อจากฟิ วส์เป็ นสายประธานซึ่งสามารถต่อแยกไปยังส่วนต่าง
   ๆ ของอาคารได้
2. อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟาภายในบ้านที่จาเป็ น
                          ้
 2.1 อุปกรณ์ไฟฟ้ าที่ใช้ภายในบ้าน
  2.1.1 เต้าเสียบ หรือเต้ารองรับ เป็ นอุปกรณ์ไฟฟ้ าที่ใช้ เป็ นจุดต่อของวงจรอุปกรณ์ไฟฟ้ า
  ภายในบ้ าน เพื่อความสะดวกในการใช้ งาน
  เต้ าเสียบที่ใช้ ในบ้ านเราจะมี 2 ช่อง แต่เต้ าเสียบที่จะช่วยให้ เกิดความปลอดภัยมากคือ
  เต้ าเสียบแบบ 3 ช่อง เพราะช่องที่ 3 จะต่อกับสายดิน ซึ่งจะช่วย
  ให้ เกิดความปลอดภัยในการใช้ งาน
2.1.2 ลูกเสียบ (ปลั๊กเสียบ) เป็ นอุปกรณ์ทต่อกับสายของเครืองใช้ไฟฟา มี 2 แบบ คือ
                                               ี่        ่       ้
ลูกเสียบแบบ 2 ขา ซึงจะใช้กบเต้าเสียบ 2 ช่อง
                   ่      ั
กับลูกเสียบแบบ 3 ขา ซึงจะใช้กบเต้าเสียบทีม ี 3 ช่อง
                      ่      ั           ่




 .ลูกเสียบนี้จะต่อกับปลายสายไฟฟ้ าที่ต่อเข้ าอุปกรณ์ไฟฟ้ าต่าง ๆ จะต้ องต่อสายไฟ
  เข้ าขั้วต่อสายอย่างแข็งแรงและถูกต้ องตามวิธี คือ ภายใน
  จะต้ องผูกปมอย่างถูกวิธี
.2.1.3 สวิตช์ไฟฟ้า.... เป็ นอุปกรณ์สาหรับปิ ด-เปิ ดวงจรไฟฟ้า สวิตช์ไฟฟ้าทีใ่ ช้ตามบ้าน
มีหลายแบบ ขึนอยู่กบบริษททีผลิต
             ้ ั ั ่
แบ่งเป็ น 2 ประเภทคือ แบบฝั ง (ใช้ฝังในผนัง) แบบที่ 2 แบบไม่ฝัง หรือเรียกว่า แบบลอย
(Surface Switches) คือ ติดตังบนผนัง นิยม   ้
ใช้ในอาคาร ตามชนบททัวไป เพราะราคาถูกและติดตังง่ายกว่าแบบฝั ง
                       ่                        ้
การต่อสวิตช์ไฟฟาจาเป็ นต้องต่อให้ถูกวิธี คือ จะต้องต่อสายมีไฟเข้าสวิตช์ เพราะเมือปิ ดไฟ
                ้                                                               ่
(Close switch) แล้วสามารถซ่อมหรือแก้ไขหลอดไฟ
ได้อย่างปลอดภัย
.2.2 เครื่องใช้ไฟฟาภายในบ้าน
                   ้
 .เครื่องใช้ ไฟฟ้ าภายในบ้ านมีหลายประเภททั้งที่ให้ แสงสว่าง ความร้ อน และประเภทที่ใช้
   มอเตอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้ าแต่ละอย่างจะมีวิธใช้ และการบารุง
                                                  ี
   รักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้น ผู้ใช้ จะต้ องรู้จักวิธใช้ อย่างถูกต้ องปลอดภัย ประเภทของ
                                                     ี
   เครื่องใช้ ไฟฟ้ า มีดงนี้
                        ั
   2.2.1 เครืองใช้ไฟฟ้ าประเภทให้ความร้อนที่ควรรูจก คือ
                ่                                             ้ั
    1) เตารีดไฟฟ้ า เตารีดไฟฟ้ ามีหลายแบบ แบบที่นิยมใช้ คือ แบบปรับความร้ อนโดย
   อัตโนมัติธรรมดา และแบบปรับความร้ อน
   อัตโนมัติมีไอนา  ้
ส่วนประกอบของเตารีดไฟฟา แบ่งออกเป็ น 2 ส่วนคือ
                      ้

 . 1. ส่วนที่ให้ ความร้ อน ประกอบด้ วย ลวดนิโครม ซึ่งเป็ นโลหะผสมระหว่างนิกเกิลกับโครเมียม
   ซึ่งเป็ นโลหะที่มีความต้ านทานสูง และจุดหลอมเหลวสูงเป็ นตัวจ่ายความร้ อน และแผ่นไมก้ า ซึ่ง
   เป็ นฉนวนความร้ อน




 .2. ส่วนที่ควบคุมความร้ อน หรือที่เราเรียกว่า เทอร์โมสตาร์ต ประกอบด้ วยโลหะที่มีความจุความ
   ร้ อนต่างกัน 2 แผ่น ประกบ
   ติดกัน เมื่อได้ รับความร้ อนเท่ากัน การขยายตัวจะต่างกัน ทาให้ แผ่นโลหะโค้ งขึ้น วงจรปิ ด
   กระแสไฟฟ้ าไม่ไหลผ่าน เมื่ออุณหภูมิลดลง
   แผ่นโลหะก็จะกลับเหมือนเดิม วงจรเปิ ด กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านได้ ซึ่งการทางานจะเป็ นดังนี้ตลอด
   การใช้ งาน
2.2.2 หม้อหุงข้าวไฟฟา มีหลายแบบแตกต่างกันไปตาม
                       ้
บริษทผู ผลิต ส่วนประกอบของหม้อหุงข้าวไฟฟา มีดงนี้
    ั ้                                 ้    ั



หลักในการทางาน
    หม้ อหุงข้ าวไฟฟ้ าประกอบด้ วยส่วนสาคัญ 2 ส่วน คือ
    - ส่วนที่ให้ ความร้ อน ประกอบไปด้ วยแผ่นโลหะที่มีความต้ านทานสูง และจุดหลอมเหลวสูง
    - ส่วนควบคุมอุณหภูมิหรือเทอร์โมสตาร์ต ประกอบด้ วยโลหะที่มความจุความร้ อนต่างกัน 2 แผ่นประกบ
                                                                   ี
    ติดกันอยู่
    ..การทางานเมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้ าผ่านเข้ าไปในหม้ อหุงข้ าว ไฟฟ้ าจะทาให้ แผ่นความร้ อนส่งผ่านพลังงาน
    ความร้ อนไปยังหม้ อใน และเมื่อ
    อุณหภูมสงจนถึงที่กาหนดไว้ เทอร์โมสตาร์ตก็จะตัดวงจร ทาให้ ไม่มีกระแสไฟฟ้ าไหลในวงจรที่ผ่านแผ่น
             ิ ู
    ความร้ อน
.2.3 เครื่องใช้ไฟฟาประเภทใช้มอเตอร์
                  ้

 2.3.1 พัดลมไฟฟ้ า พัดลมไฟฟ้ ามีหลายแบบ หลายบริษัทผู้ผลิต เช่น แบบตั้งโค๊ะ
  แบบตั้งพื้น แบบโคจร เป็ นต้ น
2.4 เครื่องใช้ไฟฟาประเภทให้แสงสว่าง ไฟฟาแสงสว่างทีนยมใช้ใน
                    ้                  ้          ่ิ
บ้านพักอาศัยมีอยู่ 2 แบบ คือ
 2.4.1 หลอดชนิดไส้ (Incandescent Lamp) หมายถึง หลอดไฟฟ้ าที่ไส้ หลอดทาด้ วยโลหะทังสเตน
   ภายในเป็ นสูญญากาศ การใช้
   จะต้ องเสียบลงในขั้วหลอด ซึ่งมีท้งแบบเกลียว และแบบเขี้ยว หลอดไฟฟ้ าขนาดต่าง ๆ บอกกาลังไฟฟ้ าเป็ น
                                    ั
   วัตต์



.2.4.2 หลอดวาวแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ ....เป็ นหลอดมีไส้ อกชนิดหนึ่ง ประกอบด้ วยส่วนสาคัญ คือ
                                                           ี
    รางหลอด ขั้วหลอด
    บัลลาสต์ และสตาร์ตเตอร์สวิตช์ ซึ่งต่อเป็ นวงจร
 1) บัลลาสต์ เป็ นส่วนประกอบที่สาคัญของหลอดวาวแสง เพราะเป็ นตัวจากัดกระแสไฟฟ้ า ทาให้ หลอดมี
   อายุยืน มีขนาด40 วัตต์ 32 วัตต์ (สาหรับหลอดกลม) และ 20 วัตต์ ปัจจุบันมีนโยบายประหยัดพลังงาน
   บริษัทได้ ผลิตบัลลาสต์ชนิดประหยัดพลังงานไฟฟ้ า เรียกว่า “โลลอสบัลลาสต์” (Low Loss Ballast)
   เป็ นบัลลาสต์ท่มการสูญเสียกาลังงานไฟฟ้ าต่ากว่าบัลลาสต์ธรรมดา เป็ นการประหยัดไฟฟ้ าได้ 4 - 6 วัตต์
                  ี ี
   ต่อ 1 หลอด คิดเป็ น 40 เปอร์เซ็นต์ของบัลลาสต์แบบเดิม




 .2) สตาร์ตเตอร์ เป็ นอุปกรณ์ประกอบวงจรหลอดวาวแสง ขาหลอดจะออกแบบไว้ ใส่สตาร์ตเตอร์
   โดยเฉพาะสตาร์ตเตอร์มีหน้ าที่ต่อวงจร เพื่ออุ่นไส้ หลอดเกิดอิเล็กตรอนไหลในหลอด แล้ วสตาร์ตเตอร์จะ
   ตัดวงจรโดยอัตโนมัติโดยอาศัยหลักการขยายตัวของโลหะต่างชนิดกัน เรียกว่า แผ่นไบเมทอล
   (Bimetallic strip)
 การทางานของหลอดไฟฟ้ า
  .... ภายในหลอดฟลูออเรสเซนต์ สูบอากาศออกให้ เหลือความดันประมาณ 1/6
  ของบรรยากาศ แล้ วหยดไอปรอทลงไป ผนังหลอด
  ฉาบสารเรืองแสง (ฟลูออ) เมื่อมีกระแสไฟฟ้ าไหลผ่านวงจรผ่านบัลลาสต์ จะทาให้
  เกิดแรงดันกระแสไฟฟ้ าสูง อิเล็กตรอนจะหลุดออกจาก
  ไส้ หลอดด้ านหนึ่งผ่านหลอดไปยังอีกขั้วหลอดที่อยู่ตรงข้ าม ซึ่งช่วงนี้บลลาสต์จะลด
                                                                        ั
  แรงดันกระแสไฟฟ้ าลง สตาร์ตเตอร์สวิตช์กเ็ ปิ ดวงจร
  ไฟฟ้ า ขณะที่อเล็กตรอนผ่านและชนโมเลกุลของไอปรอท ทาให้ เกิดแสง
                ิ
  อัลตราไวโอเลต ซึ่งทาให้ เกิดการเรืองแสงในหลอด
หลอดวาวแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์

 มีขนาดต่าง ๆ เช่น 20 วัตต์ 32 วัตต์ และ 40 วัตต์ ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตได้ คิดประดิษฐ์หลอดไฟฟ้ าแบบ
   ประหยัดขึ้นเพื่อโครงการ
   ประหยัดพลังงานคือ
   1. หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ (หลอดตะเกียบ)
   2. หลอดประหยัดไฟฟ้ า (แบบผอม) ขนาด 18 วัตต์ แทนหลอดไฟฟ้ าขนาด 20 วัตต์ (แบบอ้ วน) ซึ่ง
   ประหยัดไฟฟ้ า 2 วัตต์ คิดเป็ น ... 10 เปอร์เซนต์ของหลอดอ้ วน (20 วัตต์) ซึ่งให้ แสงสว่างเท่ากัน
   3. หลอดประหยัดไฟ 36 วัตต์ (หลอดผอม) แทนหลอดไฟฟ้ าแบบอ้ วน (40 วัตต์) ประหยัดไฟฟ้ า 4 วัตต์
   คิดเป็ น 40 เปอร์เซนต์.. ของหลอดอ้ วน (40 วัตต์) ซึ่งให้ แสงสว่างเท่ากัน
3 การใช้ไฟฟาอย่างประหยัด
           ้
 การประหยัดพลังงานไฟฟ้ าอาจจะทาได้ดงนี้
                                    ั
  1. ใช้ หลอดวาวแสงแบบประหยัด (หลอดผอม)
  2. ปิ ดไฟฟ้ าเมื่อไม่ใช้ งาน ก่อนถอดปลั๊กไฟต้ องปิ ดเครื่องใช้ ไฟฟ้ าก่อนเสมอ
  3. ใช้ แสงสว่างเท่าที่จาเป็ น
  4. ใช้ หลอดไฟฟ้ าวัตต์ต่า
  5. ออกแบบโคมไฟฟ้ าที่มีกาลังสะท้อนแสงสูง
  6. หมั่นทาความสะอาดโคมไฟฟ้ า
  7. หลีกเลี่ยงใช้ สทบแสงในอาคารต่าง ๆ
                      ี ึ
  8. ประหยัดไฟฟ้ าในระบบทาความเย็น
  - เลือกใช้ ต้ ูเย็นขนาดต่าพอเหมาะหรือเลือกใช้ ต้ ูเย็นแบบประหยัดไฟฟ้ า
  - ลดภาระความร้ อนของเครื่องปรับอากาศ เช่น ความร้ อนจากภายนอกห้ องและความร้ อน
  ภายในห้ อง
  - เลือกใช้ เครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม
  9. เลือกใช้ โทรทัศน์ขนาดเหมาะสม
สิ้นสุึϸารȨ๶สนอ

More Related Content

ไฟฟ้า

  • 2. จัดทาโดย  ด.ญ. รวิวรรณ ต้ นนา ม. 3/6 เลขที่ 27  ด.ญ. วาสนา แสงตะวัน ม. 3/6 เลขที่28  ด.ญ. อริสรา ยาเจริญ ม. 3/6 เลขที่ 29
  • 3. รูปแบบของเครืองใช้ภายใȨ้าน ่ วงจรไฟฟ้ าภายในบ้าน หมายถึง ทางเดินของกระแสไฟฟ้ าที่จะไหลไปตามส่วนต่าง ๆ ของวงจรที่เป็ นตัวนา การต่อวงจรไฟฟ้ าในบ้าน หมายถึง การต่อความต้านทาน ซึ่งมีอยู่ 3 แบบ คือ  . 1.1 การต่อความต้านทานแบบอันดับ หรือแบบอนุ กรม เป็ นการต่อความต้ านทานเรียงกันไปตามลาดับ โดยที่ปลายสายของความต้ านทานหรืออุปกรณ์ไฟฟ้ า (หลอด) ของตัวที่หนึ่งต่อกับต้ นสายของ ความต้ านทานหรืออุปกรณ์ไฟฟ้ า (หลอด) ของตัวที่สอง และอีกปลายหนึ่งของความต้ านทานหรือ อุปกรณ์ไฟฟ้ าตัวที่สองต่อกับต้ นสายของความต้ านทาน หรือ อุปกรณ์ตัวที่สามเรียงต่อกันไปอย่างนี้จนครบวงจร คุณสมบัติของวงจรแบบอันดับหรืออนุ กรม 1. กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านความต้ านทานแต่ละตัวมีค่าเท่ากัน 2. แรงดันกระแสไฟฟ้ าของวงจรทั้งหมดเท่ากัน แรงดันกระแสไฟฟ้ าตกคร่อมของแต่ละความต้ านทาน รวมกัน
  • 4. 1.2 การต่ อความต้ านทานแบบขนาน การต่อความต้านทานแบบขนาน เป็ นการต่อสายของความต้านทานแต่ละตัวไว้ที่เดียวกัน และปลายสายอีกด้าน หนึ่งต่อร่ วมกันไว้ที่เดียวกัน คุณสมบัติของการต่อวงจรแบบขนาน 1. ความต้ านทานแต่ละตัวได้ รับแรงดันกระแสไฟฟ้ าเท่ากัน 2. กระแสไฟฟ้ าที่ไหลผ่านความต้ านทานแต่ละตัวมีค่าไม่เท่ากัน ทั้งนี้ข้ ึนอยู่กบความต้ านทานนั้น ๆ คือ ถ้ ามีความ ั ต้ านทานมาก กระแสไฟฟ้ าจะไหลได้ น้อย ถ้ ามีความต้ านทานน้ อยกระแสไฟฟ้ าจะไหลได้ มาก 3. ผลรวมของกระแสไฟฟ้ าที่แยกไหลผ่านแต่ละความต้ าน เมื่อรวมกันแล้ วจะเท่ากับกระแสไฟฟ้ าของวงจร
  • 5. 1.3 การต่อความต้านทานแบบผสม .........เป็ นการต่อความ ต้านทานทีมทง 2 แบบในวงจรเดียวกัน ่ ี ั้  วงจรไฟฟ้ าภายในบ้ านนิยมแบบขนาน เนื่องจากถ้ ามีอุปกรณ์ไฟฟ้ าตัวใดตัวหนึ่งขาด อุปกรณ์ไฟฟ้ าที่เหลือก็ จะใช้ งานได้  1.4 แผนผังการต่อวงจรไฟฟ้ าในบ้าน การต่อไฟฟ้ าในบ้ านเริ่มต้ นจากสายไฟฟ้ าใหญ่ลงมาที่มาตรไฟฟ้ า จากมาตรไฟฟ้ าต่อเข้ าคัตเอาท์และฟิ วส์สายที่ต่อจากฟิ วส์เป็ นสายประธานซึ่งสามารถต่อแยกไปยังส่วนต่าง ๆ ของอาคารได้
  • 6. 2. อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟาภายในบ้านที่จาเป็ น ้  2.1 อุปกรณ์ไฟฟ้ าที่ใช้ภายในบ้าน 2.1.1 เต้าเสียบ หรือเต้ารองรับ เป็ นอุปกรณ์ไฟฟ้ าที่ใช้ เป็ นจุดต่อของวงจรอุปกรณ์ไฟฟ้ า ภายในบ้ าน เพื่อความสะดวกในการใช้ งาน เต้ าเสียบที่ใช้ ในบ้ านเราจะมี 2 ช่อง แต่เต้ าเสียบที่จะช่วยให้ เกิดความปลอดภัยมากคือ เต้ าเสียบแบบ 3 ช่อง เพราะช่องที่ 3 จะต่อกับสายดิน ซึ่งจะช่วย ให้ เกิดความปลอดภัยในการใช้ งาน
  • 7. 2.1.2 ลูกเสียบ (ปลั๊กเสียบ) เป็ นอุปกรณ์ทต่อกับสายของเครืองใช้ไฟฟา มี 2 แบบ คือ ี่ ่ ้ ลูกเสียบแบบ 2 ขา ซึงจะใช้กบเต้าเสียบ 2 ช่อง ่ ั กับลูกเสียบแบบ 3 ขา ซึงจะใช้กบเต้าเสียบทีม ี 3 ช่อง ่ ั ่  .ลูกเสียบนี้จะต่อกับปลายสายไฟฟ้ าที่ต่อเข้ าอุปกรณ์ไฟฟ้ าต่าง ๆ จะต้ องต่อสายไฟ เข้ าขั้วต่อสายอย่างแข็งแรงและถูกต้ องตามวิธี คือ ภายใน จะต้ องผูกปมอย่างถูกวิธี
  • 8. .2.1.3 สวิตช์ไฟฟ้า.... เป็ นอุปกรณ์สาหรับปิ ด-เปิ ดวงจรไฟฟ้า สวิตช์ไฟฟ้าทีใ่ ช้ตามบ้าน มีหลายแบบ ขึนอยู่กบบริษททีผลิต ้ ั ั ่ แบ่งเป็ น 2 ประเภทคือ แบบฝั ง (ใช้ฝังในผนัง) แบบที่ 2 แบบไม่ฝัง หรือเรียกว่า แบบลอย (Surface Switches) คือ ติดตังบนผนัง นิยม ้ ใช้ในอาคาร ตามชนบททัวไป เพราะราคาถูกและติดตังง่ายกว่าแบบฝั ง ่ ้
  • 9. การต่อสวิตช์ไฟฟาจาเป็ นต้องต่อให้ถูกวิธี คือ จะต้องต่อสายมีไฟเข้าสวิตช์ เพราะเมือปิ ดไฟ ้ ่ (Close switch) แล้วสามารถซ่อมหรือแก้ไขหลอดไฟ ได้อย่างปลอดภัย
  • 10. .2.2 เครื่องใช้ไฟฟาภายในบ้าน ้  .เครื่องใช้ ไฟฟ้ าภายในบ้ านมีหลายประเภททั้งที่ให้ แสงสว่าง ความร้ อน และประเภทที่ใช้ มอเตอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้ าแต่ละอย่างจะมีวิธใช้ และการบารุง ี รักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้น ผู้ใช้ จะต้ องรู้จักวิธใช้ อย่างถูกต้ องปลอดภัย ประเภทของ ี เครื่องใช้ ไฟฟ้ า มีดงนี้ ั 2.2.1 เครืองใช้ไฟฟ้ าประเภทให้ความร้อนที่ควรรูจก คือ ่ ้ั 1) เตารีดไฟฟ้ า เตารีดไฟฟ้ ามีหลายแบบ แบบที่นิยมใช้ คือ แบบปรับความร้ อนโดย อัตโนมัติธรรมดา และแบบปรับความร้ อน อัตโนมัติมีไอนา ้
  • 11. ส่วนประกอบของเตารีดไฟฟา แบ่งออกเป็ น 2 ส่วนคือ ้  . 1. ส่วนที่ให้ ความร้ อน ประกอบด้ วย ลวดนิโครม ซึ่งเป็ นโลหะผสมระหว่างนิกเกิลกับโครเมียม ซึ่งเป็ นโลหะที่มีความต้ านทานสูง และจุดหลอมเหลวสูงเป็ นตัวจ่ายความร้ อน และแผ่นไมก้ า ซึ่ง เป็ นฉนวนความร้ อน  .2. ส่วนที่ควบคุมความร้ อน หรือที่เราเรียกว่า เทอร์โมสตาร์ต ประกอบด้ วยโลหะที่มีความจุความ ร้ อนต่างกัน 2 แผ่น ประกบ ติดกัน เมื่อได้ รับความร้ อนเท่ากัน การขยายตัวจะต่างกัน ทาให้ แผ่นโลหะโค้ งขึ้น วงจรปิ ด กระแสไฟฟ้ าไม่ไหลผ่าน เมื่ออุณหภูมิลดลง แผ่นโลหะก็จะกลับเหมือนเดิม วงจรเปิ ด กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านได้ ซึ่งการทางานจะเป็ นดังนี้ตลอด การใช้ งาน
  • 12. 2.2.2 หม้อหุงข้าวไฟฟา มีหลายแบบแตกต่างกันไปตาม ้ บริษทผู ผลิต ส่วนประกอบของหม้อหุงข้าวไฟฟา มีดงนี้ ั ้ ้ ั หลักในการทางาน หม้ อหุงข้ าวไฟฟ้ าประกอบด้ วยส่วนสาคัญ 2 ส่วน คือ - ส่วนที่ให้ ความร้ อน ประกอบไปด้ วยแผ่นโลหะที่มีความต้ านทานสูง และจุดหลอมเหลวสูง - ส่วนควบคุมอุณหภูมิหรือเทอร์โมสตาร์ต ประกอบด้ วยโลหะที่มความจุความร้ อนต่างกัน 2 แผ่นประกบ ี ติดกันอยู่ ..การทางานเมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้ าผ่านเข้ าไปในหม้ อหุงข้ าว ไฟฟ้ าจะทาให้ แผ่นความร้ อนส่งผ่านพลังงาน ความร้ อนไปยังหม้ อใน และเมื่อ อุณหภูมสงจนถึงที่กาหนดไว้ เทอร์โมสตาร์ตก็จะตัดวงจร ทาให้ ไม่มีกระแสไฟฟ้ าไหลในวงจรที่ผ่านแผ่น ิ ู ความร้ อน
  • 13. .2.3 เครื่องใช้ไฟฟาประเภทใช้มอเตอร์ ้  2.3.1 พัดลมไฟฟ้ า พัดลมไฟฟ้ ามีหลายแบบ หลายบริษัทผู้ผลิต เช่น แบบตั้งโค๊ะ แบบตั้งพื้น แบบโคจร เป็ นต้ น
  • 14. 2.4 เครื่องใช้ไฟฟาประเภทให้แสงสว่าง ไฟฟาแสงสว่างทีนยมใช้ใน ้ ้ ่ิ บ้านพักอาศัยมีอยู่ 2 แบบ คือ  2.4.1 หลอดชนิดไส้ (Incandescent Lamp) หมายถึง หลอดไฟฟ้ าที่ไส้ หลอดทาด้ วยโลหะทังสเตน ภายในเป็ นสูญญากาศ การใช้ จะต้ องเสียบลงในขั้วหลอด ซึ่งมีท้งแบบเกลียว และแบบเขี้ยว หลอดไฟฟ้ าขนาดต่าง ๆ บอกกาลังไฟฟ้ าเป็ น ั วัตต์ .2.4.2 หลอดวาวแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ ....เป็ นหลอดมีไส้ อกชนิดหนึ่ง ประกอบด้ วยส่วนสาคัญ คือ ี รางหลอด ขั้วหลอด บัลลาสต์ และสตาร์ตเตอร์สวิตช์ ซึ่งต่อเป็ นวงจร
  • 15.  1) บัลลาสต์ เป็ นส่วนประกอบที่สาคัญของหลอดวาวแสง เพราะเป็ นตัวจากัดกระแสไฟฟ้ า ทาให้ หลอดมี อายุยืน มีขนาด40 วัตต์ 32 วัตต์ (สาหรับหลอดกลม) และ 20 วัตต์ ปัจจุบันมีนโยบายประหยัดพลังงาน บริษัทได้ ผลิตบัลลาสต์ชนิดประหยัดพลังงานไฟฟ้ า เรียกว่า “โลลอสบัลลาสต์” (Low Loss Ballast) เป็ นบัลลาสต์ท่มการสูญเสียกาลังงานไฟฟ้ าต่ากว่าบัลลาสต์ธรรมดา เป็ นการประหยัดไฟฟ้ าได้ 4 - 6 วัตต์ ี ี ต่อ 1 หลอด คิดเป็ น 40 เปอร์เซ็นต์ของบัลลาสต์แบบเดิม  .2) สตาร์ตเตอร์ เป็ นอุปกรณ์ประกอบวงจรหลอดวาวแสง ขาหลอดจะออกแบบไว้ ใส่สตาร์ตเตอร์ โดยเฉพาะสตาร์ตเตอร์มีหน้ าที่ต่อวงจร เพื่ออุ่นไส้ หลอดเกิดอิเล็กตรอนไหลในหลอด แล้ วสตาร์ตเตอร์จะ ตัดวงจรโดยอัตโนมัติโดยอาศัยหลักการขยายตัวของโลหะต่างชนิดกัน เรียกว่า แผ่นไบเมทอล (Bimetallic strip)
  • 16.  การทางานของหลอดไฟฟ้ า .... ภายในหลอดฟลูออเรสเซนต์ สูบอากาศออกให้ เหลือความดันประมาณ 1/6 ของบรรยากาศ แล้ วหยดไอปรอทลงไป ผนังหลอด ฉาบสารเรืองแสง (ฟลูออ) เมื่อมีกระแสไฟฟ้ าไหลผ่านวงจรผ่านบัลลาสต์ จะทาให้ เกิดแรงดันกระแสไฟฟ้ าสูง อิเล็กตรอนจะหลุดออกจาก ไส้ หลอดด้ านหนึ่งผ่านหลอดไปยังอีกขั้วหลอดที่อยู่ตรงข้ าม ซึ่งช่วงนี้บลลาสต์จะลด ั แรงดันกระแสไฟฟ้ าลง สตาร์ตเตอร์สวิตช์กเ็ ปิ ดวงจร ไฟฟ้ า ขณะที่อเล็กตรอนผ่านและชนโมเลกุลของไอปรอท ทาให้ เกิดแสง ิ อัลตราไวโอเลต ซึ่งทาให้ เกิดการเรืองแสงในหลอด
  • 17. หลอดวาวแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์  มีขนาดต่าง ๆ เช่น 20 วัตต์ 32 วัตต์ และ 40 วัตต์ ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตได้ คิดประดิษฐ์หลอดไฟฟ้ าแบบ ประหยัดขึ้นเพื่อโครงการ ประหยัดพลังงานคือ 1. หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ (หลอดตะเกียบ) 2. หลอดประหยัดไฟฟ้ า (แบบผอม) ขนาด 18 วัตต์ แทนหลอดไฟฟ้ าขนาด 20 วัตต์ (แบบอ้ วน) ซึ่ง ประหยัดไฟฟ้ า 2 วัตต์ คิดเป็ น ... 10 เปอร์เซนต์ของหลอดอ้ วน (20 วัตต์) ซึ่งให้ แสงสว่างเท่ากัน 3. หลอดประหยัดไฟ 36 วัตต์ (หลอดผอม) แทนหลอดไฟฟ้ าแบบอ้ วน (40 วัตต์) ประหยัดไฟฟ้ า 4 วัตต์ คิดเป็ น 40 เปอร์เซนต์.. ของหลอดอ้ วน (40 วัตต์) ซึ่งให้ แสงสว่างเท่ากัน
  • 18. 3 การใช้ไฟฟาอย่างประหยัด ้  การประหยัดพลังงานไฟฟ้ าอาจจะทาได้ดงนี้ ั 1. ใช้ หลอดวาวแสงแบบประหยัด (หลอดผอม) 2. ปิ ดไฟฟ้ าเมื่อไม่ใช้ งาน ก่อนถอดปลั๊กไฟต้ องปิ ดเครื่องใช้ ไฟฟ้ าก่อนเสมอ 3. ใช้ แสงสว่างเท่าที่จาเป็ น 4. ใช้ หลอดไฟฟ้ าวัตต์ต่า 5. ออกแบบโคมไฟฟ้ าที่มีกาลังสะท้อนแสงสูง 6. หมั่นทาความสะอาดโคมไฟฟ้ า 7. หลีกเลี่ยงใช้ สทบแสงในอาคารต่าง ๆ ี ึ 8. ประหยัดไฟฟ้ าในระบบทาความเย็น - เลือกใช้ ต้ ูเย็นขนาดต่าพอเหมาะหรือเลือกใช้ ต้ ูเย็นแบบประหยัดไฟฟ้ า - ลดภาระความร้ อนของเครื่องปรับอากาศ เช่น ความร้ อนจากภายนอกห้ องและความร้ อน ภายในห้ อง - เลือกใช้ เครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม 9. เลือกใช้ โทรทัศน์ขนาดเหมาะสม