โครงการธȨคารྺ้าว2
- 1. โครงการธนาคารข้า ว
" ... โครงการที่ได้ปฏิบัติมาจนถึงเดี๋ยวนี้กได้ใช้ข้าวเป็น
็
จำานวนมาก สำาหรับส่งไปสงเคราะห์ในบริเวณชายแดน โดย
อาศัยการส่งไปให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อที่จะได้แจกจ่ายแก่ผู้ที่
ขาดแคลน นอกจากนี้ก็ได้ปฏิบัติอีกวิธีหนึ่ง คือนอกจากจะไป
แจกแก่ผู้ที่ขาดแคลนคือ ได้ไปตั้งเป็นคลัง เป็นฉางข้าวในบาง
แห่ง คือ บางแห่งมีความขาดแคลนข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีที่
แล้วก็มีความเดือดร้อน เพราะว่ามีการขาดนำ้า ทำาให้ข้าไม่ได้
ผลเพียงพอจึงได้ให้ข้าวจำานวนหนึ่งแก่หมู่บ้านและตั้งเป็นฉาง
ข้าว กล่าวคือ ให้ข้าวไว้และก็ถ้าต่อมาเขามีรายได้เพิ่มขึนหรือ
้
ปลูกข้าวได้ก็เอามาคืน โดยมีดอกเบี้ยเพิ่มเติมเข้ามา ข้าวที่ให้
ไปจึงเป็นข้าวที่หมุนเวียนและทำาให้ประชาชนสามารถที่จะ
เข้าใจถึงการประหยัดถึงวิธีที่จะร่วมมือกัน มีชีวิตเป็นกลุ่ม ..."
- 2. ทีม าของโครงการธนาคารข้า ว
่
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผลผลิตข้าวปีละประมาณ ๑๙ ล้านตัน เป็นประเทศส่งออก
ข้าวรายใหญ่รายหนึ่งของโลก นับเป็นประเทศที่มีธัญพืชและทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ยิ่ง
แห่งหนึ่ง แต่ก็ยงมีผู้คนในชนบทจำานวนมาก ภายหลังจาก
ั ที่ได้เก็บเกี่ยวข้าวในนา
ของตนไปแล้ว กลับขาดแคลนข้าวที่จะบริโภค หรือใช้ทำาพันธุ์ในฤดูเพาะปลูกครั้งต่อ
ไป
การขาดแคลนข้าวของชาวนาในชนบทเป็นความเดือดร้อนอย่างยิง ครัวเรือนที่
่
ยากจนมักแก้ไขปัญหา โดยวิธีกู้ยมจากพ่อค้าคนกลาง ซึ่งอาจจะกูยืมเป็นข้าว หรือ
ื ้
เป็นเงิน โดยต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก เฉลี่ยแล้วราวร้อยละ ๓๐-๑๒๐ บาทต่อ
ปี ในบางกรณีก็ต้องกูยืมโดยวิธีการขายข้าวเขียว ซึ่งเป็นผลให้ผู้กู้เสียเปรียบอย่าง
้
มาก ทำาให้ผลผลิตข้าวที่ได้ไม่เพียงพอสำาหรับการบริโภค และการชำาระหนี้ ในที่สุดก็
กลายเป็นผู้ที่มีหนี้สินพอกพูน ตกอยูในสภาพที่ยากจน ล้าหลัง ไม่สามารถพึ่งตนเองได้
่
และเป็นที่มาของปัญหาการพัฒนาด้านอื่น ๆ ต่อไปอีก
- 3. ทีม าของโครงการธนาคารข้า ว (ต่อ )
่
การที่ประเทศเรามีธัญพืชมากพอที่จะเลี้ยงดูคนทั้งประเทศ แต่ก็ยังมีผู้ที่ไม่มีขาวพอ
้
กินเป็นสองภาพที่ขัดแย้งกันของชนบทไทย ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นด้วยปัจจัย
หลายประการประกอบกัน นับแต่ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรดินและนำ้า
ประสิทธิภาพของการผลิต การควบคุมระบบตลาด กลไกราคา และภาวะการค้าต่าง
ประเทศ แม้ว่า รัฐบาลจะกำาหนดนโยบายและวางแผนที่จะแก้ไขปัญหาแหล่านี้ด้วย
มาตรการต่าง ๆ จำานวนมาก แต่การเปลี่ยนแปลงแก้ไขก็เป็นเรื่องระยะยาวที่มองไม่
เห็นผลในทันที
- 4. วัต ถุป ระสงค์ข องการจัด ตั้ง
1.เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
2.เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบทุพภิกขภัยในถิ่นทุรกันดาร
3.เพื่อให้ราษฎรผูประสบภัยมีขาวพอเพียงต่อการบริโภคตลอดปี
้ ้
4.เพื่อป้องกันผู้ฉวยโอกาสที่จะเข้าแสวงหาผลประโยชน์อันไม่เป็นธรรมแก่ราษฎรผู้
ประสบภัยซึ่งยากจน
และขาดแคลนข้าวเพื่อบริโภค
5.เพื่อเป็นพื้นฐานให้ราษฎรได้เข้าใจหลักการเบื้องต้นของระบบสหกรณ์ซึ่งจะได้
ดำาเนินการที่สมควรต่อไป
6.เพื่อสร้างเสริมอุปนิสัยของราษฎรผู้ประสบภัยให้รู้จักอยู่ร่วมกันในระบอบ
ประชาธิปไตย โดยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและผู้อื่น อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้
ราษฎรมีความขยันขันแข็ง
ในการประกอบอาชีพ
7.เพื่อเป็นพื้นฐานในการสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างราษฎรกับเจ้า
หน้าที่
8.เพื่อเป็นการช่วยเหลือราษฎรให้รู้จักประหยัดทรัพย์
- 5. หลัก การตั้ง โครงการธนาคารข้า ว
1.จัดตั้งในหมู่บ้านที่มีประชาชนร้องขอหรือทราบว่าราษฎรขาดแคลนเพื่อบริโภคและ
ไม่
สามารถดำาเนินการจัดหาข้าว เพื่อบริโภคในหมู่บ้านได้เพียงพอ
2.ไม่จัดตั้งซำ้าซ้อนหรือใกล้เคียงกับหมู่บ้านที่มีการจัดตั้งโครงการธนาคารข้าวของ
หน่วยงานอื่นที่ได้ดำาเนินการอยู่
3.พิจารณาพื้นที่ที่จัดตั้งโดยคำานึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับต่อหมู่บ้านบริวาร
4.ดำาเนินการจัดตั้งในหมู่บ้านที่มีความปลอดภัยในการควบคุมและติดตามผล
5.ไม่เป็นหมู่บ้านที่มีแนวโน้มที่จะมีการโยกย้าย
- 6. แนวพระราชดำา ริ เกี่ย วกับ โครงการธนาคารข้า ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว ได้เสด็จฯ สู่ภูมิภาคต่าง ๆ ในท้องถินชนบทของประเทศ
ั ่
อย่างสมำ่าเสมอมานับสิบปี ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงเห็นสภาพความยากจน เดือดร้อน
และเข้าพระราชหฤทัยอย่างลึกซึ้งแจ่มชัดถึงสาเหตุแห่งปัญหา พระองค์ทรงริเริ่มและ
พระราชทานแนวพระราชดำาริในการแก้ไขปัญหาในระดับต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ทรง
ตั้งพระราชหฤทัยที่จะให้ประชาชนพึ่งตนเอง ให้พึ่งพาอาศัยปัจจัยภายนอกให้น้อย
ที่สุด ในบางเรื่องทรงเห็นว่าการจัดสรรทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานที่สำาคัญ ๆ จะ
ช่วยแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาวและในบางกรณีก็ทรงเห็นว่า จำาเป็นต้องมีมาตรการ
แก้ไขความเดือนร้อนเฉพาะหน้าของราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิง ในเรื่องข้าว ทรง
่
พยายามทำาทุกวิถีทางในเกษตรกรมีข้าวพอกินอาจกล่าวได้ว่า
- 7. แนวพระราชดำา ริ เกี่ย วกับ โครงการธนาคารข้า ว (ต่อ )
"ธนาคารข้า ว" เป็นผลมาจากพระปรีชาดังกล่าว เป็นความพยายามด้านหนึ่งที่
จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และเป็นพะราชประสงค์โดยตรงที่จะให้ทางราชการไปช่วย
เหลือในการจัดตั้งธนาคารข้าว เพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรที่ยากจนโดยทั่วไป อาจ
กล่าวได้ว่าพระองค์ทรงมีบทบาทสำาคัญยิ่งในการก่อรูป "ธนาคารข้าว" ขึ้น และทำาให้
ธนาคารข้าวกลายเป็นแนวคิดที่แพร่หลาย เป็นนโยบายของรัฐและเป็นแผนงานสำาคัญ
แผนหนึ่งของการพัฒนาชนบทยากจนที่ผ่านมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัว ทรงสนับสนุนให้มีการจัดตั้งธนาคารข้าว ขึ้นตั้งแต่ปี
่
พ.ศ. ๒๕๑๙ เมื่อครั้งทรงเสด็จพระราชดำาเนินไปเยียมราษฎรชาวเขาเผากะเหรี่ยง ใน
่
เขตอำาเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ได้พระราชทานข้าวเปลือกจำานวนหนึ่งให้แก่
ผู้ใหญ่บ้านหลายหมู่บ้าน เพื่อให้เป็นทุนเริ่มดำาเนินกิจการธนาคารข้าว ได้
พระราชทานแนวทางดำาเนินงานไว้อย่างละเอียดชัดเจน ดังบันทึกดังต่อไปนี้
- 8. แนวพระราชดำา ริ เกี่ย วกับ โครงการธนาคารข้า ว (ต่อ )
"ให้มีคณะกรรมการควบคุม ที่คัดเลือกจากราษฎรในหมู่บ้าน เป็นผู้เก็บรักษาพิจารณา
จำานวนข้าวที่จะให้ยืมและรับข้าวคืน ตลอดจนจัดทำาบัญชีทำาการของธนาคารข้าว
ราษฎรที่ต้องการข้าวไปใช้บริโภคในยามจำาเป็น ให้ลงบัญชียืมข้าวไปใช้จำานวนหนึ่ง
เมื่อสามารถเก็บเกียวข้าวได้แล้ว ก็นำามาคืนธนาคาร พร้อมด้วยดอกเบี้ยจำานวนเล็ก
่
น้อยตามแต่ตกลงกัน ซึ่งข้าวที่เป็นดอกเบี้ยดังกล่าวก็จะเก็บรวมไว้ในธนาคาร และถือ
เป็นสมบัติของส่วนรวม สำาหรับกรรมการควบคุมข้าวนั้น มีสิทธิในการขอยืมข้าว
เท่ากับราษฎรทุกประการ ต้องอธิบายให้กรรมการและราษฎรเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ถึง
หลักการของธนาคารข้าว โดยพยายามชี้แจงอย่างง่าย ๆ แต่ต้องให้แน่ใจว่า ทุกคน
เข้าใจดี กรรมการและราษฎรก็ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อหลักการ เมื่อยืมข้าวจากธนาคาร
ข้าว ซึ่งเป็นของส่วนรวมไปใช้ และถึงกำาหนดเวลาที่สัญญาไว้ ก็ต้องนำาข้าวมาคืน
พร้อมด้วยดอกเบี้ย นอกจากว่ามีเหตุสุดวิสัย ซึ่งต้องชี้แจ้งให้กรรมการพิจารณาข้อเท็จ
จริง ราษฎรต้องร่วมมือกันสร้างยุ้งที่แข็งแรง ทั้งนี้หากปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้
จำานวนข้าวที่หมุนเวียนในธนาคารจะไม่มีวันหมด แต่จะค่อยๆ เพิ่มจำานวนขึ้น และจะมี
ข้าวสำาหรับบริโภคตลอดไปจนถึงลูกหลาน ในที่สุดธนาคารข้าวก็จะเป็นแหล่งที่รักษา
ผลประโยชน์ของราษฎรในหมู่บ้าน และเป็นแหล่งอาหารสำารองของหมู่บ้านด้วย “
การดำา เนิน การได้ต ิด ตามผล
ราษฎรได้กยืมข้าว โดยมีคณะกรรมการในหมู่บ้านเป็นผู้ดำาเนินการการดำาเนินการ
ู้
ที่ผ่านมา
ประสบความสำาเร็จเป็นอย่างดี
- 9. สรุป
ธนาคารข้าว เป็นโครงการในเชิงการให้สวัสดิการสังคม สิ่งที่เกิดขึนเท่ากับเป็นการ
้
โอนรายได้ (Transfer income) จากคนรวยไปยังคนจนและเป็นการกระจายรายได้ที่
ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ ราษฎรมีแหล่งข้าวกลางของหมู่บ้านที่สามารถกู้ยมไปบริโภคื
หรือทำาพันธุ์ โดยเสียดอกเบี้ยในอัตราตำ่ากว่าอัตราซึ่งต้องเสียให้แก่พ่อค้าคนกลางเป็น
อันมาก ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากการอดอยากขาดแคลน ช่วยยกระดับฐานะ
ความเป็นอยู่ และระดับรายได้ของเกษตรกรที่ยากจน เป็นการแก้ปัญหาที่ได้ผลและ
ตรงจุดประการหนึ่ง
สิ่งที่ได้มานอกจากนั้น เป็นเรื่องที่มองไม่เห็นผลโดยตรง แต่เป็นเรื่องที่สำาคัญยิ่ง
เพราะเป็นการสร้างพื้นฐานสำาคัญของการพัฒนาสร้างความสมัครสมานสามัคคีของ
ชุมชนในการ ที่จะเรียนรู้และดำาเนินการแก้ไขปัญหาของตนซึ่งเป็นสิ่งที่พระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยำ้าอยู่เสมอ ในเรื่องความเข้าใจของราษฎร ความรับผิดชอบ
ความซื่อสัตย์ และความรู้สึกมีส่วนร่วม พระองค์ทรงเห็นว่า สิ่งเหล่านี้ปลูกฝังได้
ธนาคารข้าวอาจทำาหน้าที่เป็นโรงเรียนที่ดี ในขณะเดียวกัน ก็เป็นตัวชี้ถึงประสิทธิภาพ
และความเข้มแข็งของชุมชน นั้น ๆ ธนาคารข้าวที่ประสบความสำาเร็จมิได้บรรลุเพียง
จุดมุ่งหมายพื้นฐานในการบรรเทาการขาดแคลนข้าวเท่านั้น แต่ยงได้สร้างกิจกรรมต่อ
ั
เนื่องอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพ สร้างการมีส่วนร่วมภาวะผู้นำา และความร่วม
มือในระดับชุมชนอีกด้วย
- 10. สรุป (ต่อ )
กิจกรรมธนาคารข้าวในท้องที่หลายแห่งเป็นที่มาของความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ของ
ชาวบ้านที่ร่วมใจกันหาวิธีการนำาข้าวมาเข้ากองทุน และในอีกหลายท้องที่ ผล
ประโยชน์ที่เพิ่มพูนขึ้นจากการดำาเนินกิจกรรมธนาคารข้าว ถูกนำามาใช้ในการพัฒนา
ท้องถิ่นของตนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อความสำาเร็จที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันใน
จุดเล็ก ๆ ที่พร้อมจะเติบโตต่อไป
รัฐบาลโดยหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับสนองพระบรม
ราโชบาย ขยายขอบเขตการดำาเนินงานธนาคารข้าวออกไปอย่างกว้างขวาง จนถึงปี
พ.ศ. ๒๕๒๘ มีธนาคารข้าวที่จัดตั้งขึนในท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ มากกว่า ๔,๓๐๐
้
แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ ๕๗ จังหวัด จำานวนข้าวหมุนเวียนในธนาคารข้าวมากกว่า ๑๔.๕
ล้านกิโลกรัม หลักการดำาเนินงานของธนาคารข้าว ปัจจุบันสามารถปรับใช้ได้กับ
สภาพปัญหาและความจำาเป็นที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่ เช่น ลักษณะการให้บริการ
ซึ่งมีทั้งให้เปล่า ให้โดยแลกแรงงาน ให้ยมหรือให้กู้สำาหรับทุนดำาเนินงานนั้น อาจหา
ื
ทุนได้หลายวิธี เช่น การรับบริจาค การเรียกหุ้น ฯลฯ และในกรณีที่ไม่สามารถจัดตั้ง
กองทุนเริ่มต้นขี้นมาได้เอง ก็อาจเสนอแผนงานเพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ
ได้