ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
โครงการธนาคารข้า ว
     " ... โครงการที่ได้ปฏิบัติมาจนถึงเดี๋ยวนี้กได้ใช้ข้าวเป็น
                                                ็
   จำานวนมาก สำาหรับส่งไปสงเคราะห์ในบริเวณชายแดน โดย
     อาศัยการส่งไปให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อที่จะได้แจกจ่ายแก่ผู้ที่
   ขาดแคลน นอกจากนี้ก็ได้ปฏิบัติอีกวิธีหนึ่ง คือนอกจากจะไป
  แจกแก่ผู้ที่ขาดแคลนคือ ได้ไปตั้งเป็นคลัง เป็นฉางข้าวในบาง
  แห่ง คือ บางแห่งมีความขาดแคลนข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีที่
   แล้วก็มีความเดือดร้อน เพราะว่ามีการขาดนำ้า ทำาให้ข้าไม่ได้
  ผลเพียงพอจึงได้ให้ข้าวจำานวนหนึ่งแก่หมู่บ้านและตั้งเป็นฉาง
  ข้าว กล่าวคือ ให้ข้าวไว้และก็ถ้าต่อมาเขามีรายได้เพิ่มขึนหรือ
                                                           ้
  ปลูกข้าวได้ก็เอามาคืน โดยมีดอกเบี้ยเพิ่มเติมเข้ามา ข้าวที่ให้
    ไปจึงเป็นข้าวที่หมุนเวียนและทำาให้ประชาชนสามารถที่จะ
  เข้าใจถึงการประหยัดถึงวิธีที่จะร่วมมือกัน มีชีวิตเป็นกลุ่ม ..."
ทีม าของโครงการธนาคารข้า ว
  ่
     ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผลผลิตข้าวปีละประมาณ ๑๙ ล้านตัน เป็นประเทศส่งออก
 ข้าวรายใหญ่รายหนึ่งของโลก นับเป็นประเทศที่มีธัญพืชและทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ยิ่ง
 แห่งหนึ่ง แต่ก็ยงมีผู้คนในชนบทจำานวนมาก ภายหลังจาก
                  ั                                          ที่ได้เก็บเกี่ยวข้าวในนา
 ของตนไปแล้ว กลับขาดแคลนข้าวที่จะบริโภค หรือใช้ทำาพันธุ์ในฤดูเพาะปลูกครั้งต่อ
 ไป
       การขาดแคลนข้าวของชาวนาในชนบทเป็นความเดือดร้อนอย่างยิง ครัวเรือนที่
                                                                        ่
 ยากจนมักแก้ไขปัญหา โดยวิธีกู้ยมจากพ่อค้าคนกลาง ซึ่งอาจจะกูยืมเป็นข้าว หรือ
                                  ื                               ้
 เป็นเงิน โดยต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก เฉลี่ยแล้วราวร้อยละ ๓๐-๑๒๐ บาทต่อ
 ปี ในบางกรณีก็ต้องกูยืมโดยวิธีการขายข้าวเขียว ซึ่งเป็นผลให้ผู้กู้เสียเปรียบอย่าง
                        ้
 มาก ทำาให้ผลผลิตข้าวที่ได้ไม่เพียงพอสำาหรับการบริโภค และการชำาระหนี้ ในที่สุดก็
 กลายเป็นผู้ที่มีหนี้สินพอกพูน ตกอยูในสภาพที่ยากจน ล้าหลัง ไม่สามารถพึ่งตนเองได้
                                    ่
 และเป็นที่มาของปัญหาการพัฒนาด้านอื่น ๆ ต่อไปอีก
ทีม าของโครงการธนาคารข้า ว (ต่อ )
  ่
  การที่ประเทศเรามีธัญพืชมากพอที่จะเลี้ยงดูคนทั้งประเทศ แต่ก็ยังมีผู้ที่ไม่มีขาวพอ
                                                                              ้
 กินเป็นสองภาพที่ขัดแย้งกันของชนบทไทย ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นด้วยปัจจัย
 หลายประการประกอบกัน นับแต่ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรดินและนำ้า
 ประสิทธิภาพของการผลิต การควบคุมระบบตลาด กลไกราคา และภาวะการค้าต่าง
 ประเทศ แม้ว่า รัฐบาลจะกำาหนดนโยบายและวางแผนที่จะแก้ไขปัญหาแหล่านี้ด้วย
 มาตรการต่าง ๆ จำานวนมาก แต่การเปลี่ยนแปลงแก้ไขก็เป็นเรื่องระยะยาวที่มองไม่
 เห็นผลในทันที
วัต ถุป ระสงค์ข องการจัด ตั้ง  
  1.เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  
  2.เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบทุพภิกขภัยในถิ่นทุรกันดาร  
  3.เพื่อให้ราษฎรผูประสบภัยมีขาวพอเพียงต่อการบริโภคตลอดปี  
                     ้          ้
  4.เพื่อป้องกันผู้ฉวยโอกาสที่จะเข้าแสวงหาผลประโยชน์อันไม่เป็นธรรมแก่ราษฎรผู้
  ประสบภัยซึ่งยากจน
  และขาดแคลนข้าวเพื่อบริโภค 
  5.เพื่อเป็นพื้นฐานให้ราษฎรได้เข้าใจหลักการเบื้องต้นของระบบสหกรณ์ซึ่งจะได้
  ดำาเนินการที่สมควรต่อไป 
  6.เพื่อสร้างเสริมอุปนิสัยของราษฎรผู้ประสบภัยให้รู้จักอยู่ร่วมกันในระบอบ
  ประชาธิปไตย โดยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
  มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและผู้อื่น อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้
  ราษฎรมีความขยันขันแข็ง
  ในการประกอบอาชีพ 
  7.เพื่อเป็นพื้นฐานในการสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างราษฎรกับเจ้า
  หน้าที่ 
  8.เพื่อเป็นการช่วยเหลือราษฎรให้รู้จักประหยัดทรัพย์
หลัก การตั้ง โครงการธนาคารข้า ว  
 1.จัดตั้งในหมู่บ้านที่มีประชาชนร้องขอหรือทราบว่าราษฎรขาดแคลนเพื่อบริโภคและ
 ไม่
 สามารถดำาเนินการจัดหาข้าว เพื่อบริโภคในหมู่บ้านได้เพียงพอ  
 2.ไม่จัดตั้งซำ้าซ้อนหรือใกล้เคียงกับหมู่บ้านที่มีการจัดตั้งโครงการธนาคารข้าวของ
 หน่วยงานอื่นที่ได้ดำาเนินการอยู่
 3.พิจารณาพื้นที่ที่จัดตั้งโดยคำานึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับต่อหมู่บ้านบริวาร  
 4.ดำาเนินการจัดตั้งในหมู่บ้านที่มีความปลอดภัยในการควบคุมและติดตามผล  
 5.ไม่เป็นหมู่บ้านที่มีแนวโน้มที่จะมีการโยกย้าย 
แนวพระราชดำา ริ เกี่ย วกับ โครงการธนาคารข้า ว
  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว ได้เสด็จฯ สู่ภูมิภาคต่าง ๆ ในท้องถินชนบทของประเทศ
                              ั                                ่
  อย่างสมำ่าเสมอมานับสิบปี ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงเห็นสภาพความยากจน เดือดร้อน
  และเข้าพระราชหฤทัยอย่างลึกซึ้งแจ่มชัดถึงสาเหตุแห่งปัญหา พระองค์ทรงริเริ่มและ
  พระราชทานแนวพระราชดำาริในการแก้ไขปัญหาในระดับต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ทรง
  ตั้งพระราชหฤทัยที่จะให้ประชาชนพึ่งตนเอง ให้พึ่งพาอาศัยปัจจัยภายนอกให้น้อย
  ที่สุด ในบางเรื่องทรงเห็นว่าการจัดสรรทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานที่สำาคัญ ๆ จะ
  ช่วยแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาวและในบางกรณีก็ทรงเห็นว่า จำาเป็นต้องมีมาตรการ
  แก้ไขความเดือนร้อนเฉพาะหน้าของราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิง ในเรื่องข้าว ทรง
                                                            ่
  พยายามทำาทุกวิถีทางในเกษตรกรมีข้าวพอกินอาจกล่าวได้ว่า
แนวพระราชดำา ริ เกี่ย วกับ โครงการธนาคารข้า ว (ต่อ )
       "ธนาคารข้า ว" เป็นผลมาจากพระปรีชาดังกล่าว เป็นความพยายามด้านหนึ่งที่
  จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และเป็นพะราชประสงค์โดยตรงที่จะให้ทางราชการไปช่วย
  เหลือในการจัดตั้งธนาคารข้าว เพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรที่ยากจนโดยทั่วไป อาจ
  กล่าวได้ว่าพระองค์ทรงมีบทบาทสำาคัญยิ่งในการก่อรูป "ธนาคารข้าว" ขึ้น และทำาให้
  ธนาคารข้าวกลายเป็นแนวคิดที่แพร่หลาย เป็นนโยบายของรัฐและเป็นแผนงานสำาคัญ
  แผนหนึ่งของการพัฒนาชนบทยากจนที่ผ่านมา
   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัว ทรงสนับสนุนให้มีการจัดตั้งธนาคารข้าว ขึ้นตั้งแต่ปี
                           ่
  พ.ศ. ๒๕๑๙ เมื่อครั้งทรงเสด็จพระราชดำาเนินไปเยียมราษฎรชาวเขาเผากะเหรี่ยง ใน
                                                     ่
  เขตอำาเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ได้พระราชทานข้าวเปลือกจำานวนหนึ่งให้แก่
  ผู้ใหญ่บ้านหลายหมู่บ้าน เพื่อให้เป็นทุนเริ่มดำาเนินกิจการธนาคารข้าว ได้
  พระราชทานแนวทางดำาเนินงานไว้อย่างละเอียดชัดเจน ดังบันทึกดังต่อไปนี้
แนวพระราชดำา ริ เกี่ย วกับ โครงการธนาคารข้า ว (ต่อ )
  "ให้มีคณะกรรมการควบคุม ที่คัดเลือกจากราษฎรในหมู่บ้าน เป็นผู้เก็บรักษาพิจารณา
  จำานวนข้าวที่จะให้ยืมและรับข้าวคืน ตลอดจนจัดทำาบัญชีทำาการของธนาคารข้าว
  ราษฎรที่ต้องการข้าวไปใช้บริโภคในยามจำาเป็น ให้ลงบัญชียืมข้าวไปใช้จำานวนหนึ่ง
  เมื่อสามารถเก็บเกียวข้าวได้แล้ว ก็นำามาคืนธนาคาร พร้อมด้วยดอกเบี้ยจำานวนเล็ก
                    ่
  น้อยตามแต่ตกลงกัน ซึ่งข้าวที่เป็นดอกเบี้ยดังกล่าวก็จะเก็บรวมไว้ในธนาคาร และถือ
  เป็นสมบัติของส่วนรวม สำาหรับกรรมการควบคุมข้าวนั้น มีสิทธิในการขอยืมข้าว
  เท่ากับราษฎรทุกประการ ต้องอธิบายให้กรรมการและราษฎรเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ถึง
  หลักการของธนาคารข้าว โดยพยายามชี้แจงอย่างง่าย ๆ แต่ต้องให้แน่ใจว่า ทุกคน
  เข้าใจดี กรรมการและราษฎรก็ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อหลักการ เมื่อยืมข้าวจากธนาคาร
  ข้าว ซึ่งเป็นของส่วนรวมไปใช้ และถึงกำาหนดเวลาที่สัญญาไว้ ก็ต้องนำาข้าวมาคืน
  พร้อมด้วยดอกเบี้ย นอกจากว่ามีเหตุสุดวิสัย ซึ่งต้องชี้แจ้งให้กรรมการพิจารณาข้อเท็จ
  จริง ราษฎรต้องร่วมมือกันสร้างยุ้งที่แข็งแรง ทั้งนี้หากปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้
  จำานวนข้าวที่หมุนเวียนในธนาคารจะไม่มีวันหมด แต่จะค่อยๆ เพิ่มจำานวนขึ้น และจะมี
  ข้าวสำาหรับบริโภคตลอดไปจนถึงลูกหลาน ในที่สุดธนาคารข้าวก็จะเป็นแหล่งที่รักษา
  ผลประโยชน์ของราษฎรในหมู่บ้าน และเป็นแหล่งอาหารสำารองของหมู่บ้านด้วย “


การดำา เนิน การได้ต ิด ตามผล
      ราษฎรได้กยืมข้าว โดยมีคณะกรรมการในหมู่บ้านเป็นผู้ดำาเนินการการดำาเนินการ
               ู้
  ที่ผ่านมา
  ประสบความสำาเร็จเป็นอย่างดี
สรุป
   ธนาคารข้าว เป็นโครงการในเชิงการให้สวัสดิการสังคม สิ่งที่เกิดขึนเท่ากับเป็นการ
                                                                      ้
 โอนรายได้ (Transfer income) จากคนรวยไปยังคนจนและเป็นการกระจายรายได้ที่
 ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ ราษฎรมีแหล่งข้าวกลางของหมู่บ้านที่สามารถกู้ยมไปบริโภคื
 หรือทำาพันธุ์ โดยเสียดอกเบี้ยในอัตราตำ่ากว่าอัตราซึ่งต้องเสียให้แก่พ่อค้าคนกลางเป็น
 อันมาก ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากการอดอยากขาดแคลน ช่วยยกระดับฐานะ
 ความเป็นอยู่ และระดับรายได้ของเกษตรกรที่ยากจน เป็นการแก้ปัญหาที่ได้ผลและ
 ตรงจุดประการหนึ่ง
  สิ่งที่ได้มานอกจากนั้น เป็นเรื่องที่มองไม่เห็นผลโดยตรง แต่เป็นเรื่องที่สำาคัญยิ่ง
 เพราะเป็นการสร้างพื้นฐานสำาคัญของการพัฒนาสร้างความสมัครสมานสามัคคีของ
 ชุมชนในการ ที่จะเรียนรู้และดำาเนินการแก้ไขปัญหาของตนซึ่งเป็นสิ่งที่พระบาท
 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยำ้าอยู่เสมอ ในเรื่องความเข้าใจของราษฎร ความรับผิดชอบ
 ความซื่อสัตย์ และความรู้สึกมีส่วนร่วม พระองค์ทรงเห็นว่า สิ่งเหล่านี้ปลูกฝังได้
 ธนาคารข้าวอาจทำาหน้าที่เป็นโรงเรียนที่ดี ในขณะเดียวกัน ก็เป็นตัวชี้ถึงประสิทธิภาพ
 และความเข้มแข็งของชุมชน นั้น ๆ ธนาคารข้าวที่ประสบความสำาเร็จมิได้บรรลุเพียง
 จุดมุ่งหมายพื้นฐานในการบรรเทาการขาดแคลนข้าวเท่านั้น แต่ยงได้สร้างกิจกรรมต่อ
                                                                  ั
 เนื่องอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพ สร้างการมีส่วนร่วมภาวะผู้นำา และความร่วม
 มือในระดับชุมชนอีกด้วย
สรุป (ต่อ )
    กิจกรรมธนาคารข้าวในท้องที่หลายแห่งเป็นที่มาของความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ของ
 ชาวบ้านที่ร่วมใจกันหาวิธีการนำาข้าวมาเข้ากองทุน และในอีกหลายท้องที่ ผล
 ประโยชน์ที่เพิ่มพูนขึ้นจากการดำาเนินกิจกรรมธนาคารข้าว ถูกนำามาใช้ในการพัฒนา
 ท้องถิ่นของตนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อความสำาเร็จที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันใน
 จุดเล็ก ๆ ที่พร้อมจะเติบโตต่อไป
 รัฐบาลโดยหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับสนองพระบรม
 ราโชบาย ขยายขอบเขตการดำาเนินงานธนาคารข้าวออกไปอย่างกว้างขวาง จนถึงปี
 พ.ศ. ๒๕๒๘ มีธนาคารข้าวที่จัดตั้งขึนในท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ มากกว่า ๔,๓๐๐
                                    ้
 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ ๕๗ จังหวัด จำานวนข้าวหมุนเวียนในธนาคารข้าวมากกว่า ๑๔.๕
 ล้านกิโลกรัม หลักการดำาเนินงานของธนาคารข้าว ปัจจุบันสามารถปรับใช้ได้กับ
 สภาพปัญหาและความจำาเป็นที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่ เช่น ลักษณะการให้บริการ
 ซึ่งมีทั้งให้เปล่า ให้โดยแลกแรงงาน ให้ยมหรือให้กู้สำาหรับทุนดำาเนินงานนั้น อาจหา
                                        ื
 ทุนได้หลายวิธี เช่น การรับบริจาค การเรียกหุ้น ฯลฯ และในกรณีที่ไม่สามารถจัดตั้ง
 กองทุนเริ่มต้นขี้นมาได้เอง ก็อาจเสนอแผนงานเพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ
 ได้

More Related Content

โครงการธȨคารྺ้าว2

  • 1. โครงการธนาคารข้า ว " ... โครงการที่ได้ปฏิบัติมาจนถึงเดี๋ยวนี้กได้ใช้ข้าวเป็น ็ จำานวนมาก สำาหรับส่งไปสงเคราะห์ในบริเวณชายแดน โดย อาศัยการส่งไปให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อที่จะได้แจกจ่ายแก่ผู้ที่ ขาดแคลน นอกจากนี้ก็ได้ปฏิบัติอีกวิธีหนึ่ง คือนอกจากจะไป แจกแก่ผู้ที่ขาดแคลนคือ ได้ไปตั้งเป็นคลัง เป็นฉางข้าวในบาง แห่ง คือ บางแห่งมีความขาดแคลนข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีที่ แล้วก็มีความเดือดร้อน เพราะว่ามีการขาดนำ้า ทำาให้ข้าไม่ได้ ผลเพียงพอจึงได้ให้ข้าวจำานวนหนึ่งแก่หมู่บ้านและตั้งเป็นฉาง ข้าว กล่าวคือ ให้ข้าวไว้และก็ถ้าต่อมาเขามีรายได้เพิ่มขึนหรือ ้ ปลูกข้าวได้ก็เอามาคืน โดยมีดอกเบี้ยเพิ่มเติมเข้ามา ข้าวที่ให้ ไปจึงเป็นข้าวที่หมุนเวียนและทำาให้ประชาชนสามารถที่จะ เข้าใจถึงการประหยัดถึงวิธีที่จะร่วมมือกัน มีชีวิตเป็นกลุ่ม ..."
  • 2. ทีม าของโครงการธนาคารข้า ว ่ ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผลผลิตข้าวปีละประมาณ ๑๙ ล้านตัน เป็นประเทศส่งออก ข้าวรายใหญ่รายหนึ่งของโลก นับเป็นประเทศที่มีธัญพืชและทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ยิ่ง แห่งหนึ่ง แต่ก็ยงมีผู้คนในชนบทจำานวนมาก ภายหลังจาก ั ที่ได้เก็บเกี่ยวข้าวในนา ของตนไปแล้ว กลับขาดแคลนข้าวที่จะบริโภค หรือใช้ทำาพันธุ์ในฤดูเพาะปลูกครั้งต่อ ไป การขาดแคลนข้าวของชาวนาในชนบทเป็นความเดือดร้อนอย่างยิง ครัวเรือนที่ ่ ยากจนมักแก้ไขปัญหา โดยวิธีกู้ยมจากพ่อค้าคนกลาง ซึ่งอาจจะกูยืมเป็นข้าว หรือ ื ้ เป็นเงิน โดยต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก เฉลี่ยแล้วราวร้อยละ ๓๐-๑๒๐ บาทต่อ ปี ในบางกรณีก็ต้องกูยืมโดยวิธีการขายข้าวเขียว ซึ่งเป็นผลให้ผู้กู้เสียเปรียบอย่าง ้ มาก ทำาให้ผลผลิตข้าวที่ได้ไม่เพียงพอสำาหรับการบริโภค และการชำาระหนี้ ในที่สุดก็ กลายเป็นผู้ที่มีหนี้สินพอกพูน ตกอยูในสภาพที่ยากจน ล้าหลัง ไม่สามารถพึ่งตนเองได้ ่ และเป็นที่มาของปัญหาการพัฒนาด้านอื่น ๆ ต่อไปอีก
  • 3. ทีม าของโครงการธนาคารข้า ว (ต่อ ) ่ การที่ประเทศเรามีธัญพืชมากพอที่จะเลี้ยงดูคนทั้งประเทศ แต่ก็ยังมีผู้ที่ไม่มีขาวพอ ้ กินเป็นสองภาพที่ขัดแย้งกันของชนบทไทย ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นด้วยปัจจัย หลายประการประกอบกัน นับแต่ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรดินและนำ้า ประสิทธิภาพของการผลิต การควบคุมระบบตลาด กลไกราคา และภาวะการค้าต่าง ประเทศ แม้ว่า รัฐบาลจะกำาหนดนโยบายและวางแผนที่จะแก้ไขปัญหาแหล่านี้ด้วย มาตรการต่าง ๆ จำานวนมาก แต่การเปลี่ยนแปลงแก้ไขก็เป็นเรื่องระยะยาวที่มองไม่ เห็นผลในทันที
  • 4. วัต ถุป ระสงค์ข องการจัด ตั้ง   1.เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ   2.เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบทุพภิกขภัยในถิ่นทุรกันดาร   3.เพื่อให้ราษฎรผูประสบภัยมีขาวพอเพียงต่อการบริโภคตลอดปี   ้ ้ 4.เพื่อป้องกันผู้ฉวยโอกาสที่จะเข้าแสวงหาผลประโยชน์อันไม่เป็นธรรมแก่ราษฎรผู้ ประสบภัยซึ่งยากจน และขาดแคลนข้าวเพื่อบริโภค  5.เพื่อเป็นพื้นฐานให้ราษฎรได้เข้าใจหลักการเบื้องต้นของระบบสหกรณ์ซึ่งจะได้ ดำาเนินการที่สมควรต่อไป  6.เพื่อสร้างเสริมอุปนิสัยของราษฎรผู้ประสบภัยให้รู้จักอยู่ร่วมกันในระบอบ ประชาธิปไตย โดยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและผู้อื่น อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ ราษฎรมีความขยันขันแข็ง ในการประกอบอาชีพ  7.เพื่อเป็นพื้นฐานในการสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างราษฎรกับเจ้า หน้าที่  8.เพื่อเป็นการช่วยเหลือราษฎรให้รู้จักประหยัดทรัพย์
  • 5. หลัก การตั้ง โครงการธนาคารข้า ว   1.จัดตั้งในหมู่บ้านที่มีประชาชนร้องขอหรือทราบว่าราษฎรขาดแคลนเพื่อบริโภคและ ไม่ สามารถดำาเนินการจัดหาข้าว เพื่อบริโภคในหมู่บ้านได้เพียงพอ   2.ไม่จัดตั้งซำ้าซ้อนหรือใกล้เคียงกับหมู่บ้านที่มีการจัดตั้งโครงการธนาคารข้าวของ หน่วยงานอื่นที่ได้ดำาเนินการอยู่ 3.พิจารณาพื้นที่ที่จัดตั้งโดยคำานึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับต่อหมู่บ้านบริวาร   4.ดำาเนินการจัดตั้งในหมู่บ้านที่มีความปลอดภัยในการควบคุมและติดตามผล   5.ไม่เป็นหมู่บ้านที่มีแนวโน้มที่จะมีการโยกย้าย 
  • 6. แนวพระราชดำา ริ เกี่ย วกับ โครงการธนาคารข้า ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว ได้เสด็จฯ สู่ภูมิภาคต่าง ๆ ในท้องถินชนบทของประเทศ ั ่ อย่างสมำ่าเสมอมานับสิบปี ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงเห็นสภาพความยากจน เดือดร้อน และเข้าพระราชหฤทัยอย่างลึกซึ้งแจ่มชัดถึงสาเหตุแห่งปัญหา พระองค์ทรงริเริ่มและ พระราชทานแนวพระราชดำาริในการแก้ไขปัญหาในระดับต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ทรง ตั้งพระราชหฤทัยที่จะให้ประชาชนพึ่งตนเอง ให้พึ่งพาอาศัยปัจจัยภายนอกให้น้อย ที่สุด ในบางเรื่องทรงเห็นว่าการจัดสรรทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานที่สำาคัญ ๆ จะ ช่วยแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาวและในบางกรณีก็ทรงเห็นว่า จำาเป็นต้องมีมาตรการ แก้ไขความเดือนร้อนเฉพาะหน้าของราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิง ในเรื่องข้าว ทรง ่ พยายามทำาทุกวิถีทางในเกษตรกรมีข้าวพอกินอาจกล่าวได้ว่า
  • 7. แนวพระราชดำา ริ เกี่ย วกับ โครงการธนาคารข้า ว (ต่อ ) "ธนาคารข้า ว" เป็นผลมาจากพระปรีชาดังกล่าว เป็นความพยายามด้านหนึ่งที่ จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และเป็นพะราชประสงค์โดยตรงที่จะให้ทางราชการไปช่วย เหลือในการจัดตั้งธนาคารข้าว เพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรที่ยากจนโดยทั่วไป อาจ กล่าวได้ว่าพระองค์ทรงมีบทบาทสำาคัญยิ่งในการก่อรูป "ธนาคารข้าว" ขึ้น และทำาให้ ธนาคารข้าวกลายเป็นแนวคิดที่แพร่หลาย เป็นนโยบายของรัฐและเป็นแผนงานสำาคัญ แผนหนึ่งของการพัฒนาชนบทยากจนที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัว ทรงสนับสนุนให้มีการจัดตั้งธนาคารข้าว ขึ้นตั้งแต่ปี ่ พ.ศ. ๒๕๑๙ เมื่อครั้งทรงเสด็จพระราชดำาเนินไปเยียมราษฎรชาวเขาเผากะเหรี่ยง ใน ่ เขตอำาเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ได้พระราชทานข้าวเปลือกจำานวนหนึ่งให้แก่ ผู้ใหญ่บ้านหลายหมู่บ้าน เพื่อให้เป็นทุนเริ่มดำาเนินกิจการธนาคารข้าว ได้ พระราชทานแนวทางดำาเนินงานไว้อย่างละเอียดชัดเจน ดังบันทึกดังต่อไปนี้
  • 8. แนวพระราชดำา ริ เกี่ย วกับ โครงการธนาคารข้า ว (ต่อ ) "ให้มีคณะกรรมการควบคุม ที่คัดเลือกจากราษฎรในหมู่บ้าน เป็นผู้เก็บรักษาพิจารณา จำานวนข้าวที่จะให้ยืมและรับข้าวคืน ตลอดจนจัดทำาบัญชีทำาการของธนาคารข้าว ราษฎรที่ต้องการข้าวไปใช้บริโภคในยามจำาเป็น ให้ลงบัญชียืมข้าวไปใช้จำานวนหนึ่ง เมื่อสามารถเก็บเกียวข้าวได้แล้ว ก็นำามาคืนธนาคาร พร้อมด้วยดอกเบี้ยจำานวนเล็ก ่ น้อยตามแต่ตกลงกัน ซึ่งข้าวที่เป็นดอกเบี้ยดังกล่าวก็จะเก็บรวมไว้ในธนาคาร และถือ เป็นสมบัติของส่วนรวม สำาหรับกรรมการควบคุมข้าวนั้น มีสิทธิในการขอยืมข้าว เท่ากับราษฎรทุกประการ ต้องอธิบายให้กรรมการและราษฎรเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ถึง หลักการของธนาคารข้าว โดยพยายามชี้แจงอย่างง่าย ๆ แต่ต้องให้แน่ใจว่า ทุกคน เข้าใจดี กรรมการและราษฎรก็ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อหลักการ เมื่อยืมข้าวจากธนาคาร ข้าว ซึ่งเป็นของส่วนรวมไปใช้ และถึงกำาหนดเวลาที่สัญญาไว้ ก็ต้องนำาข้าวมาคืน พร้อมด้วยดอกเบี้ย นอกจากว่ามีเหตุสุดวิสัย ซึ่งต้องชี้แจ้งให้กรรมการพิจารณาข้อเท็จ จริง ราษฎรต้องร่วมมือกันสร้างยุ้งที่แข็งแรง ทั้งนี้หากปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้ จำานวนข้าวที่หมุนเวียนในธนาคารจะไม่มีวันหมด แต่จะค่อยๆ เพิ่มจำานวนขึ้น และจะมี ข้าวสำาหรับบริโภคตลอดไปจนถึงลูกหลาน ในที่สุดธนาคารข้าวก็จะเป็นแหล่งที่รักษา ผลประโยชน์ของราษฎรในหมู่บ้าน และเป็นแหล่งอาหารสำารองของหมู่บ้านด้วย “ การดำา เนิน การได้ต ิด ตามผล ราษฎรได้กยืมข้าว โดยมีคณะกรรมการในหมู่บ้านเป็นผู้ดำาเนินการการดำาเนินการ ู้ ที่ผ่านมา ประสบความสำาเร็จเป็นอย่างดี
  • 9. สรุป ธนาคารข้าว เป็นโครงการในเชิงการให้สวัสดิการสังคม สิ่งที่เกิดขึนเท่ากับเป็นการ ้ โอนรายได้ (Transfer income) จากคนรวยไปยังคนจนและเป็นการกระจายรายได้ที่ ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ ราษฎรมีแหล่งข้าวกลางของหมู่บ้านที่สามารถกู้ยมไปบริโภคื หรือทำาพันธุ์ โดยเสียดอกเบี้ยในอัตราตำ่ากว่าอัตราซึ่งต้องเสียให้แก่พ่อค้าคนกลางเป็น อันมาก ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากการอดอยากขาดแคลน ช่วยยกระดับฐานะ ความเป็นอยู่ และระดับรายได้ของเกษตรกรที่ยากจน เป็นการแก้ปัญหาที่ได้ผลและ ตรงจุดประการหนึ่ง สิ่งที่ได้มานอกจากนั้น เป็นเรื่องที่มองไม่เห็นผลโดยตรง แต่เป็นเรื่องที่สำาคัญยิ่ง เพราะเป็นการสร้างพื้นฐานสำาคัญของการพัฒนาสร้างความสมัครสมานสามัคคีของ ชุมชนในการ ที่จะเรียนรู้และดำาเนินการแก้ไขปัญหาของตนซึ่งเป็นสิ่งที่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยำ้าอยู่เสมอ ในเรื่องความเข้าใจของราษฎร ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ และความรู้สึกมีส่วนร่วม พระองค์ทรงเห็นว่า สิ่งเหล่านี้ปลูกฝังได้ ธนาคารข้าวอาจทำาหน้าที่เป็นโรงเรียนที่ดี ในขณะเดียวกัน ก็เป็นตัวชี้ถึงประสิทธิภาพ และความเข้มแข็งของชุมชน นั้น ๆ ธนาคารข้าวที่ประสบความสำาเร็จมิได้บรรลุเพียง จุดมุ่งหมายพื้นฐานในการบรรเทาการขาดแคลนข้าวเท่านั้น แต่ยงได้สร้างกิจกรรมต่อ ั เนื่องอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพ สร้างการมีส่วนร่วมภาวะผู้นำา และความร่วม มือในระดับชุมชนอีกด้วย
  • 10. สรุป (ต่อ ) กิจกรรมธนาคารข้าวในท้องที่หลายแห่งเป็นที่มาของความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ของ ชาวบ้านที่ร่วมใจกันหาวิธีการนำาข้าวมาเข้ากองทุน และในอีกหลายท้องที่ ผล ประโยชน์ที่เพิ่มพูนขึ้นจากการดำาเนินกิจกรรมธนาคารข้าว ถูกนำามาใช้ในการพัฒนา ท้องถิ่นของตนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อความสำาเร็จที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันใน จุดเล็ก ๆ ที่พร้อมจะเติบโตต่อไป รัฐบาลโดยหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับสนองพระบรม ราโชบาย ขยายขอบเขตการดำาเนินงานธนาคารข้าวออกไปอย่างกว้างขวาง จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๒๘ มีธนาคารข้าวที่จัดตั้งขึนในท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ มากกว่า ๔,๓๐๐ ้ แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ ๕๗ จังหวัด จำานวนข้าวหมุนเวียนในธนาคารข้าวมากกว่า ๑๔.๕ ล้านกิโลกรัม หลักการดำาเนินงานของธนาคารข้าว ปัจจุบันสามารถปรับใช้ได้กับ สภาพปัญหาและความจำาเป็นที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่ เช่น ลักษณะการให้บริการ ซึ่งมีทั้งให้เปล่า ให้โดยแลกแรงงาน ให้ยมหรือให้กู้สำาหรับทุนดำาเนินงานนั้น อาจหา ื ทุนได้หลายวิธี เช่น การรับบริจาค การเรียกหุ้น ฯลฯ และในกรณีที่ไม่สามารถจัดตั้ง กองทุนเริ่มต้นขี้นมาได้เอง ก็อาจเสนอแผนงานเพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ ได้