ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
การวิเคราะห์แนวโน้มและการเปลี่ยนแปลง
ด้านวิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยี
ของประเทศไทยในอนาคต




                                นายพิเชษฐ พิมพ์เจริญ
                              รหัสนิสิต 55199150051
The World




            3,500 ล้านปี
Human Revolution




                   8,000 ปี
Brain
Brain
มนุษย์มีสมอง นิ้วมือ ที่ทํางานได้อย่างดี
 ต้องปรับตัวเองเพื่อดํารงชีวิต
 รู้จักคิดค้น สิ่งอํานวยความสะดวก (ปัจจัย 4)
 แสวงหาความรู้ ศึกษาธรรมชาติ
 สงสัย สังเกต จนทําให้เกิด วิทยาศาสตร์
 หลังจากนั้นคําว่าวิทยาศาสตร์ก็ใช้ควบคู่
 กับคําว่า๶ทคโนโลยี
“วิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยี”
วิทยาศาสตร์ : Science
การศึกษาและสะสมความรูเกี่ยวกับ
ปรากฏการณตางๆ ในธรรมชาติ
โดยเขาใจถึงความเปนมา เพื่อ
นํามาประยุกตใช
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ : Scientific method
เป็นรากฐานของวิธีการศึกษา เพื่อความถูกต้อง แม่นยํา
แน่นอน
ลําดับขั้นตอนการศึกษาได้เป็นขั้นๆ ดังนี้
1. การสังเกต : Observation
เป็นรากฐานที่ทําให้
เกิดแนวคิด
                      Isaac Newton
2. ปัญหา : Problem
เมื่อสังเกตแล้ว ก่อให้เกิดแนวคิด ตั้งปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่
สังเกตนั้นเพื่อแสวงหาคําตอบ
3. สมมติฐาน : Hypothesis
การเดาคําตอบของปัญหา อาจถูกหรือผิดก็ได้ คําตอบมีได้
หลายรูปแบบแต่คําตอบทีถกต้องจะมีเพียงคําตอบเดียว
                     ู่
4. การพิสูจน์ หรือการทดลอง : Experimentation
การทดลองเป็นการที่จะพิสูจน์ว่าสมมติฐานใดถูกต้อง
เป็นขั้นตอนสําคัญ หากผิดพลาดจะเกิดผลเสีย
5. ความจริง หรือทฤษฎี : Fact or Theory
เมื่อรวบรวมผลการทดลองและพิสูจน์ได้ว่าสมมติฐานเป็น
ความจริง สมมติฐานนี้ก็คือความจริงหรือ ทฤษฎี
๶ทคโนโลยี
     การนําวิทยาศาสตร์และความรู้ที่ได้จากการรวบรวมมา
ประยุกต์ใช้ตามวัตถุประสงค์ของมนุษย์เพื่อแก้ไขปัญหา และ
เพิ่มความสะดวกสบายในการดํารงชีวิต ซึ่งการนํามาใช้นั้น
ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ
 1) ความเหมาะสม
 2) ค่านิยม
 3) วัฒนธรรมทางสังคม
ระดับของ๶ทคโนโลยี แบ่งได้ 4 ระดับ

ระดับที่ 1 ๶ทคโนโลยีชาวบ้าน
ระดับที่ 2 ๶ทคโนโลยีขั้นกลาง
ระดับที่ 3 ๶ทคโนโลยีขั้นสูง
ระดับที่ 4 ๶ทคโนโลยีก้าวหน้า
วิวัฒนาการของมนุษย์กับ๶ทคโนโลยี
1. ยุคแรกเมื่อมีมนุษย์ (4,000-8,000 ปีกอน)
                                       ่
- การดํารงชีพขึ้นอยู่กับธรรมชาติ
- รู้จักเครื่องทุ่นแรง ค้นพบไฟ
- สะสมประสบการณ์จาก
       ปรากฏการณ์ธรรมชาติ
2. ยุคของการตั้งถินฐานเกษตรกรรม (2,000–4,000 ปี)
                   ่
- รู้จักการเลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช
-   มีการประดิษฐ์ตัวอักษรเพื่อใช้ในการบันทึกข้อความ
-   มีวิชาปรัชญาและการคํานวณซึ่งเป็นรากฐานของ
    วิทยาศาสตร์
3. ยุคของการพาณิชย์ (300-2,000 ปี)
- รู้จักการแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน
- กระจายความรู้และอารยธรรม
- มีการส่งเรือสําเภาไปติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ
4. ยุคของวิทยาศาสตร์และการปฏิวัติอุตสาหกรรม
  (300-WWII)
- มีนักวิทยาศาสตร์และความรู้เกิดขึ้นมากมาย
- มีการพัฒนาความรู้ด้านฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา
- สังคมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและซับซ้อนมากขึ้น
- การนําความรู้มาใช้ในการทําสงคราม
5. ยุคของวิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยีในปัจจุบนและ
                                          ั
  อนาคต
- หลัง WWII ๶ทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
- ความรู้ด้าน DNA การตัดต่อยีน
- การสร้างวงจรไฟฟ้าขนาดเล็ก ผลิตคอมพิวเตอร์
  โทรศัพท์มือถือ หุ่นยนต์
- ทําลายสิ่งแวดล้อมมากมาย
ประโยชน์ – โทษ ของ๶ทคโนโลยี
     ประโยชน์
-   การดํารงชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น
-   การติดต่อสื่อสารสะดวก รวดเร็ว
-   การรักษาพยาบาลทันสมัย อายุยืนมากขึ้น
โทษ
-   ผลเสียต่อสภาพแวดล้อม
-   ธรรมชาติขาดสมดุล ภัยพิบัติมากขึ้น รุนแรงขึ้น
-   สภาพสังคมซับซ้อนมากขึ้น
การวิเคราะห์แนวโȨมและการเปลี่ยนแปลงึϹานวิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยีไทยใȨȨคต
วัฎจักรของ๶ทคโนโลยี
1. การวิจัย : Research
2. พัฒนา : Develope
3. โครงการต้นแบบ : Pilot
4. แนะนําเชิงพาณิชย์ : Intro
5. ขยายวงการใช้๶ทคโนโลยี : Growth
6. ระยะอิ่มตัว : Mature
7. ระยะลดต่ํา : Decline
๶ทคโนโลยีในโลกอนาคต
ระหว่างศตวรรษที่ 21 เราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงใน
ชีวิตประจําวัน ความก้าวหน้าทางวิทยาการอย่างมากใน
หลากหลายสาขา อาทิ การแพทย์ การสื่อสาร สถาปัตยกรรม
และการขนส่ง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก
เมืองในอนาคต
 มนุษย์ตระหนักว่าการอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ทําให้พวกเขามีโอกาสอยู่
รอดมากที่สุด ก็เริ่มตั้งถิ่นฐานถาวรขึ้น หลายแห่งได้กลายเป็นเมือง
ใหญ่ทั้ง ๆ ที่มีปญหาเกี่ยวกับประชากรล้นและมลพิษ แต่เมืองต่าง ๆ ก็
                 ั
จะยังขยายตัวต่อไปในศตวรรษที่ 21 นี้ ทะเลจะถูกถมมากขึ้น การ
ก่อสร้างด้วยวิธีการที่ก้าวหน้าจะช่วยให้สร้างตึกระฟ้าได้สูงอุโมงค์และ
เส้นทางเชื่อมโยงการขนส่งสําคัญจะถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิคแบบใหม่
ค.ศ. 2025 ประชากร 8 พันล้านคน
การวิเคราะห์แนวโȨมและการเปลี่ยนแปลงึϹานวิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยีไทยใȨȨคต
เมืองไซเบอร์
ตัวอย่างของเมือง ไซเบอร์ คือ ไซเบอร์จายา (Cyberjaya) เป็นเมืองที่
สร้างขึ้นในประเทศมาเลเซีย เป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมด้านสื่อ
มัลติมีเดียศูนย์การค้นคว้าและวิจัย (R&D Centers) มหาวิทยาลัย
มัลติมีเดีย สามารถเป็นต้นแบบของเมืองในศตวรรษที่ 21 ในแผนการ
อาศัยในเมืองไซเบอร์จายานั้น
ห้ามใช้ยานพาหนะต่าง ๆ ที่
ใช้น้ํามันเชื้อเพลิง และสนับ
สนุนให้ใช้สิ่งที่ไม่ก่อให้เกิด
มลพิษ บ้านใช้พลังงานแสง
อาทิตย์และเชื่อมต่อกับศูนย์
สั่งการของเมือง
บ้านในอนาคต
จะได้รับการออกแบบให้ใช้พลังงานรูปแบบอืน เช่น พลังงานลม
                                      ่
พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบรักษาความปลอดภัยจะใช้ระบบชีวมิติที่
สแกนลักษะเฉพาะบุคคลก่อนจะอนุญาต กําแพงสามารถทําหน้าที่
เป็นจอภาพขนาดใหญ่ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ควบคุมด้วยระบบ
คอมพิวเตอร์
การคมนาคม
ระหว่างศตวรรษที่ 21 การคมนาคมหลายรูปแบบจะรวดเร็วขึ้น และ
ทําลายสภาพแวดล้อมน้อยลง คาดว่าภายในปี ค.ศ.2025 รถยนต์
พลังงานไฟฟ้าจะเป็นสิ่งธรรมดาบนท้องถนน การคมนาคมทางเรือและ
ทางรถไฟจะใช้แรงขับเคลื่อนแม่เหล็ก สําหรับการเดินทางระยะไกล
เครื่องบินโดยสาร hypersonic จะถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น
ในขณะที่ ประเทศที่พัฒนาแล้วมีนโยบายการส่งเสริมการขนส่งมวลชน
และการห้ามใช้รถยนต์ใจกลางเมือง ส่งเสริมการใช้รถจักรยาน รวมทั้ง
ส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แต่นโยบายของรัฐบาลไทยสนับสนุน
โครงการรถคันแรก ซึ่งทําให้มีรถเพิ่มขึ้นกว่า 1.4 แสนคัน
สุขภาพ
ระหว่างศตวรรษที่ 21 มนุษย์จะอายุยนขึ้นและมีสุขภาพที่ดีกว่าที่เคย
                                  ื
เป็นมาในอดีต การดูแลสุขภาพที่พัฒนาให้ดขึ้น ความก้าวหน้าทาง
                                       ี
วิทยาการเกี่ยวกับความเข้าใจการทํางานของร่างกาย และการปลูกถ่าย
อวัยวะสํารอง ความก้าวหน้าทางพันธุศาสตร์จะช่วยให้แพทย์วนจฉัยและ
                                                         ิ ิ
รักษาโลกที่ปัจจุบนรักษาไม่ได้
                 ั
โคลนนิ่ง :
นักวิทยาศาสตร์ได้ประสบผลสําเร็จในการสร้างสิ่งที่เหมือนกันทุกประการ
เรียกว่า โคลน (clone) เช่น แกะดอลลี่ การโคลนทําให้เกิดความกลัวว่า
จะมีการโคลนมนุษย์โดยมีวัตถุประสงค์ในทางไม่ดี
อาหาร
นิตยสาร Popular Science ได้คาดการณ์ไว้ว่าความต้องการทาง
โภชนาการของมนุษย์อาจเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นเม็ดเพียงเม็ดเดียว
ความสามารถในการแข่งྺันของประ๶ทศ
   ด้านวิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยี
การวิเคราะห์แนวโȨมและการเปลี่ยนแปลงึϹานวิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยีไทยใȨȨคต
วิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยีของประเทศไทย
    ปัจจุบนที่ประเทศไทยได้เข้ามาสู่ยคโลกาภิวัตน์ที่มีการสื่อสารไร้
          ั                         ุ
พรมแดน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนอกประเทศส่งผลกระทบอย่างมาก จน
สังคมไทยปรับตัวไม่ทันกับคลื่นการเปลี่ยนแปลงสังคมของโลก
(Future Shock) เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคม
อย่างรวดเร็ว ด้วยพลังแห่งวิทยาศาสตร์ ๶ทคโนโลยีและนวัตกรรม ใน
รูปแบบการสื่อสารแบบไร้พรมแดน ที่มีปจจัยขับเคลื่อน (Driving
                                      ั
Forces) หลักของประเทศ
การวิเคราะห์แนวโȨมและการเปลี่ยนแปลงึϹานวิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยีไทยใȨȨคต
การวิเคราะห์วทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยีของไทย
                      ิ
- ประเทศไทย มีปญหาเชิงโครงสร้างการพัฒนาของประเทศที่ไม่สมดุล
                   ั
  ไม่ยั่งยืน และอ่อนไหวต่อผลกระทบจากความผันผวนของปัจจัย
  ภายนอกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
- ประเทศไทยจึงจําเป็นต้องปรับตัวหันมาทบทวนอนาคต ไปสู่การพัฒนา
  ในทิศทางที่พ่งพาตนเองและมีภูมิคมกันมากขึ้น โดยมุ่งเน้นการใช้
                ึ                ุ้
  วิทยาศาสตร์ ๶ทคโนโลยีและนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา
  ภาคส่วนต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาแบบบูรณาการเป็นองค์รวมที่
  ยึด “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อให้การพัฒนาและบริหารประเทศ
  เป็นไปในทางสายกลาง
- โดยมีการวิเคราะห์อย่าง “มีเหตุผล” และใช้หลัก “สังคมคุณภาพ
และมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ” ให้เกิดความสมดุลระหว่างวัตถุกับ
จิตใจของคนในชาติ ความสมดุลระหว่างความสามารถในการ
พึ่งตนเองกับความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก ความสมดุล
ระหว่างสังคมชนบทกับสังคมเมือง โดยมีการเตรียมการบริหารจัดการ
ความเสี่ยงให้เพียงพอพร้อมรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง
- การขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาทุกขั้นตอนต้องใช้ “ความรู้” ในการ
  พัฒนาด้านต่างๆ ด้วยความรอบคอบ เป็นไปตามลําดับขั้นตอน และ
  สอดคล้องกับวิถีชีวิตของสังคมไทย รวมทั้งการเสริมสร้างศีลธรรมและ
  สํานึกใน “คุณธรรม” จริยธรรมในการปฏิบติหน้าที่และดําเนินชีวิต
                                            ั
  ด้วยความเพียร อันจะเป็นภูมิคุ้มกันในตัวที่ดให้พร้อมเผชิญการ
                                              ี
  เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน สังคมและ
  ประเทศชาติ และยังสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่ง
  ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐
แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลง

จากแนวทางในการใช้วิทยาศาสตร์ ๶ทคโนโลยีและนวัตกรรมกับการ
รองรับการเปลี่ยนแปลง ตามนโยบายและแผนวิทยาศาสตร์ ๶ทคโนโลยี
และนวัตกรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลง ได้แก่
- วทน.จะเกิดการเชื่อมโยงในทุกมิติของเศรษฐกิจโลก และการเกิด
ประชาคมใหม่จากการรวมตัวของกลุ่มเศรษฐกิจ ASEAN
- การเกิดนวัตกรรมสีเขียว (Green Innovation) โดยให้ความสําคัญ
  กับ การผลิตและบริการเชิงนิเวศน์ การสร้างสรรค์วิทยาศาสตร์และ
  ๶ทคโนโลยีใหม่และร่วมสมัย ในกรอบของ๶ทคโนโลยีอุบัติใหม่
  (Emerging Technology) วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ๶ทคโนโลยีชีวภาพ
  ๶ทคโนโลยีวสดุ ๶ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และนา
             ั
  โน๶ทคโนโลยี (Nanotechnology)
- วทน.จะเกิดทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรและสังคม
  (Demographic and Social Change) โดยให้ความสําคัญกับ
  การกระจายความเจริญ
- วทน.จะเกิดทําให้เกิดการการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน อาหาร
  ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสําคัญกับ ความ
  มั่นคงทางพลังงานและพลังงานสะอาด (Energy Security and
  Clean Energy) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate
  Change)
การวิเคราะห์แนวโȨมและการเปลี่ยนแปลงึϹานวิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยีไทยใȨȨคต
การวิเคราะห์แนวโȨมและการเปลี่ยนแปลงึϹานวิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยีไทยใȨȨคต
การวิเคราะห์แนวโȨมและการเปลี่ยนแปลงึϹานวิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยีไทยใȨȨคต
ยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน
1. เสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน
2. อนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
3. พัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด
4. กํากับดูแลกิจการพลังงานและราคาพลังงาน
5. อุตสาหกรรมพลังงานสร้างรายได้ให้กับประเทศ
6. การเป็นองค์กรสมรถนะสูงที่ยึดมั่นในหลักธรรมาธิบาล
ขอบคุณครับ

More Related Content

การวิเคราะห์แนวโȨมและการเปลี่ยนแปลงึϹานวิทยาศาสตร์และ๶ทคโนโลยีไทยใȨȨคต