ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
การประ๶มิȨครงการ

                                               โดย มาโนช จันทร์แจ่ม
                                               ศึกษานิเทศก์ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาราชบุรี เขต 1

                 การบริหารงานองค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรทางด้านธุรกิจ การเมืองหรือทางการศึกษา ก็ตาม
จะใช้แผนงานและโครงการเป็นเครื่องมือ ช่วยให้การดาเนินงานประสบผลสาเร็จ บรรลุผลตามวัตถุประสงค์
และเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะหน่วยงานทางการศึกษา ในปัจจุบันมีการวางแผนทางานอย่างชัดเจน และ
ปฏิบัติงานตามแผนอย่างจริงจัง แต่จากการนิเทศ ติดตาม ประเมินงาน พบว่า หน่วยงานส่วนมากเน้นการ
ปฏิบัติมากกว่าการประเมิน เมื่อถูกตั้งคาถามว่า การดาเนินงานตามแผนงานและโครงการประสบผลสาเร็จ
เพียงใด เช่นถ้าถามถึงงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา ก็จะได้รับคาตอบว่ามีคุณภาพเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเป็น
คาตอบกลาง ๆ ขาดความชัดเจน ไม่สามารถระบุได้ว่าคุณภาพด้านใดบ้างที่ดี ปานกลาง หรือต้องปรับปรุง
ไม่สามารถบอกได้ว่าคุณภาพโดยรวม พัฒนาเพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่ เพียงใด เป็นต้น
                 จากตัวอย่างที่กล่าว แสดงให้เห็นว่า หน่วยงานต่าง ๆ ยังขาดการประ๶มิȨครงการ ซึ่งถือว่า
เป็นปัญหาสาคัญในปัจจุบัน การดาเนินงานตามโครงการ ถ้าไม่มีการประเมินควบคู่กันไป คณะทางานหรือ
หน่วยงานที่รับผิดชอบจะไม่ทราบเลยว่า งานนั้นประสบผลสาเร็จหรือไม่ เพียงใด         มีเรื่องใดที่ต้องพัฒนา
ต่อยอด และเรื่องใดต้องช่วยเหลือปรับปรุงเพิ่ม แต่ในทางตรงข้ามถ้าหน่วยงานต่าง ๆ มีการประเมินควบคู่ไป
กับการดาเนินงานตามโครงการ            จะช่วยให้ทราบผลที่ชัดเจนและนาไปใช้เป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาและ
พัฒนางานได้ในโอกาสต่อไป
                 การประ๶มิȨครงการนี้ วิธีที่ดี ควรดาเนินการให้ครบถ้วนทั้งกระบวนการของงาน หรือ
โครงการ ตามแนวทางต่อไปนี้
                 1. ประเมินก่อนดาเนินโครงการ
                    1.1ประเมินเพื่ออะไร มีส่วนใดบ้างที่ต้องประเมิน
                         การประเมินก่อนดาเนินงาน เป็นการประเมิน เพื่อวางแผนโครงการโดยพิจารณา
ว่าโครงการมีความเป็นไปได้หรือไม่ มีความเหมาะสมเพียงใด โดย พิจารณาประเมินในด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้
                        1.1.1 ความจาเป็นและความต้องการ
                        1.1.2 ความเหมาะสมและความชัดเจนของวัตถุประสงค์ในโครงการ
                        1.1.3 ความเหมาะสมของบุคลากร ระยะเวลา งบประมาณ สถานที่และ
                                 วัสดุอุปกรณ์
                        1.1.4 เนื้อหาสาระของโครงการ โดยพิจารณาว่ามีมากน้อยเพียงใด ลักษณะงาน
                                 ตามโครงการเหมาะสมหรือไม่
                        1.1.5แผนการดาเนินงาน มีความชัดเจนเหมาะสมกับการปฏิบัติมากน้อยเพียงใด
-2-


                      1.2 การพิจารณาประเมิน
                          การพิจารณาการประเมิน สามารถทาได้โดยนาองค์ประกอบด้านต่าง ๆ ของ
โครงการทั้ง 5 รายการ ดังกล่าวข้างต้น มาพิจารณาประกอบการประเมิน               ผู้ประเมินอาจประกอบด้วย
คณะกรรมการดาเนินโครงการ หรือคณะกรรมการที่รับผิดชอบประเมินโครงการ เพื่อตัดสินใจสรุปว่าโครงการ
ที่วางไว้มีความคุ้มค่า เหมาะสมและเป็นไปได้หรือไม่ที่จะดาเนินการตามแผนงานที่กาหนดไว้
                      1.3 เครื่องมือที่ใช้ประเมิน
                          เนื่องจากการประเมินก่อนดาเนินโครงการนี้ คณะบุคคลเป็นผู้พิจารณาประเมิน
จากเอกสารหลักฐานและข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยทาการประเมินก่อนดาเนินโครงการคือ ประเมินในส่วน
ปัจจัยป้อน วิธีประเมินอาจใช้วิธีการและเครื่องมือต่าง ๆ เช่น
                          1.3.1 การวิเคราะห์เอกสารหลักฐานแล้วสรุปผล
                          1.3.2 ใช้แบบสารวจรายการ ประกอบการพิจารณาเอกสารหลักฐานและข้อมูลที่
                                  เกี่ยวข้อง
                          จากนั้นจึงสรุปและประเมินผลเพื่อตัดสินใจ     เรื่องการประเมินก่อนดาเนินการนี้
ถ้าเป็นโครงการที่มีเทคนิคเฉพาะด้าน อาจเชิญผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ประเมินก็สามารถทาได้

               2. ประเมินระหว่างดาเนินการ
                      2.1ประเมินเพื่ออะไร มีส่วนใดบ้างที่ต้องประเมิน
                          การประเมินระหว่างดาเนินการ เป็นการประเมินเพื่อติดตาม ตรวจสอบและหาทาง
ปรับปรุงการปฏิบัติ ซึ่งพิจารณาได้จากด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้
                          2.1.1 ด้านการบริหารหรือการจัดการโครงการ
                          2.1.2 ด้านวิธีการ หรือวิธีการดาเนินงานตามโครงการ
                          2.1.3 ด้านกิจกรรม หรือการปฏิบัติกิจกรรมของผู้ร่วมโครงการ
                      2.2 การพิจารณาประเมิน
                          การพิจารณาให้ดูที่ความเหมาะสมของการจัดการในการใช้ทรัพยากรและ
การจัดการให้งานดาเนินไปตามขั้นที่วางไว้ ตลอดจนพิจารณาถึงเทคนิควิธีการ กิจกรรมต่าง ๆ โดยประเมิน
ว่ามีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด ควรปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมส่วนใดบ้าง
-3-


                        2.3เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน
                            เนื่องจากข้อมูลที่ได้ในการประเมิน จะได้จากการพิจารณาของผู้สังเกต ได้แก่
ผู้รับผิดชอบโครงการหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ทาหน้าที่ประเมินโครงการ              รวมถึงการได้ข้อมูลจาก
ผู้เกี่ยวข้อง และผู้ร่วมโครงการ เช่น ครู-อาจารย์ เป็นต้น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่
                           2.3.1 แบบสังเกตกระบวนการทางาน
                           2.3.2 แบบสัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบโครงการ และผู้ร่วมโครงการ
                3. ประเมินเมื่อสิ้นสุดโครงกา
                       3.1ประเมินเพื่ออะไร มีส่วนใดบ้างที่ต้องประเมิน
                            การประเมินเมื่อสิ้นสุดโครงการเป็นการประเมินผลที่ได้ของโครงการหรือเป็นการ
ประเมินเพื่อสรุปผลโครงการ โดยพิจารณาประเมินส่วนต่าง ๆ ได้แก่
                           3.1.1 ผลผลิตที่เกิดจากการดาเนินโครงการ เช่น ผลสัมฤทธิ์ของโครงการ เจตคติ
ของผู้ร่วมกิจกรรมตามโครงการ
                           3.1.2 ผลกระทบ จากการดาเนินโครงการหมายถึง เมื่อเกิดผลผลิตขึ้นแล้วเป็น
เหตุให้เกิดอะไรขึ้นอีก สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคือผลกระทบ
                           3.1.3 ประสิทธิภาพของโครงการ เป็นการพิจารณาถึงสภาพความสาเร็จที่เกิดขึ้น
โดยการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด ถ้าใช้ทรัพยากรน้อยแล้วมีผลสาเร็จสูงสุดแสดงว่ามีประสิทธิภาพดี
                       3.2 การพิจารณาประเมิน
                            ในการประเมินสามารถพิจารณาได้จากผลที่เกิดขึ้น ด้านความรู้ความเข้าใจ ทักษะ
กระบวนการและเจตคติ ซึ่งจะเกิดขึ้นกับผู้ร่วมกิจกรรมตามโครงการ ภายหลังเสร็จสิ้นโครงการรวมทั้ง
พิจารณาจากผลกระทบและผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น
                       3.3เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน
                            เนื่องจากผลการประเมินเมื่อสิ้นสุดโครงการ พิจารณาได้จากองค์ประกอบต่าง ๆ
หลายด้าน เครื่องมือที่ใช้ในการวัดเพื่อนาข้อมูลมาสรุปประเมินผล จึงแตกต่างกันไป ตามคุณลักษณะของ
สิ่งที่ต้องการวัดดังตัวอย่างต่อไปนี้
                           3.3.1 ด้านความรู้ความเข้าใจ ใช้แบบทดสอบชนิดต่าง ๆ
                           3.3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ ใช้แบบสังเกตชนิดต่าง ๆ
                           3.3.3 ด้านเจตคติ หรือความรู้สึก ใช้แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ เป็นต้น
-4-

               จากรายละเอียดที่กล่าวไว้ข้างต้น คงจะมีส่วนช่วยให้ผู้บริหารและครูอาจารย์ทุกท่าน ได้เห็น
ประโยชน์และทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการประ๶มิȨครงการบ้างตามสมควร ดังนั้นจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
ในอนาคต การวางแผนและจัดทาโครงการทุกครั้งของสถานศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ                     ที่เกี่ยวข้อง
คงจะมีการกาหนดแผนการประ๶มิȨครงการควบคู่ไปกับแผนปฏิบัติการ เพราะนอกจากจะเป็นการควบคุม
ติดตาม กากับและประเมินงานแล้ว ยังจะช่วยให้งานมีการพัฒนาอยู่เสมอ และได้ข้อมูลความสาเร็จที่ชัดเจน
เป็นรูปธรรมจากการทางาน      การประ๶มิȨครงการถ้ามีการนามาใช้อย่างจริงจังนอกจากจะเกิดประโยชน์
โดยตรง ต่อการช่วยให้บรรลุผลตามเป้าหมายของโครงการแล้ว จะทาให้ได้ข้อมูลเพียงพอในการใช้เป็น
แนวทางแก้ปัญหาและพัฒนางานในโอกาสต่อไป รวมทั้งผลสาเร็จที่ได้รับจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดความภูมิใจ
และประทับอยู่ในความทรงจาของผู้บริหาร ผู้รับผิดชอบโครงการและผู้เกี่ยวข้องตลอดไป

More Related Content

การประ๶มิȨครงการ

  • 1. การประ๶มิȨครงการ โดย มาโนช จันทร์แจ่ม ศึกษานิเทศก์ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาราชบุรี เขต 1 การบริหารงานองค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรทางด้านธุรกิจ การเมืองหรือทางการศึกษา ก็ตาม จะใช้แผนงานและโครงการเป็นเครื่องมือ ช่วยให้การดาเนินงานประสบผลสาเร็จ บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะหน่วยงานทางการศึกษา ในปัจจุบันมีการวางแผนทางานอย่างชัดเจน และ ปฏิบัติงานตามแผนอย่างจริงจัง แต่จากการนิเทศ ติดตาม ประเมินงาน พบว่า หน่วยงานส่วนมากเน้นการ ปฏิบัติมากกว่าการประเมิน เมื่อถูกตั้งคาถามว่า การดาเนินงานตามแผนงานและโครงการประสบผลสาเร็จ เพียงใด เช่นถ้าถามถึงงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา ก็จะได้รับคาตอบว่ามีคุณภาพเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเป็น คาตอบกลาง ๆ ขาดความชัดเจน ไม่สามารถระบุได้ว่าคุณภาพด้านใดบ้างที่ดี ปานกลาง หรือต้องปรับปรุง ไม่สามารถบอกได้ว่าคุณภาพโดยรวม พัฒนาเพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่ เพียงใด เป็นต้น จากตัวอย่างที่กล่าว แสดงให้เห็นว่า หน่วยงานต่าง ๆ ยังขาดการประ๶มิȨครงการ ซึ่งถือว่า เป็นปัญหาสาคัญในปัจจุบัน การดาเนินงานตามโครงการ ถ้าไม่มีการประเมินควบคู่กันไป คณะทางานหรือ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะไม่ทราบเลยว่า งานนั้นประสบผลสาเร็จหรือไม่ เพียงใด มีเรื่องใดที่ต้องพัฒนา ต่อยอด และเรื่องใดต้องช่วยเหลือปรับปรุงเพิ่ม แต่ในทางตรงข้ามถ้าหน่วยงานต่าง ๆ มีการประเมินควบคู่ไป กับการดาเนินงานตามโครงการ จะช่วยให้ทราบผลที่ชัดเจนและนาไปใช้เป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาและ พัฒนางานได้ในโอกาสต่อไป การประ๶มิȨครงการนี้ วิธีที่ดี ควรดาเนินการให้ครบถ้วนทั้งกระบวนการของงาน หรือ โครงการ ตามแนวทางต่อไปนี้ 1. ประเมินก่อนดาเนินโครงการ 1.1ประเมินเพื่ออะไร มีส่วนใดบ้างที่ต้องประเมิน การประเมินก่อนดาเนินงาน เป็นการประเมิน เพื่อวางแผนโครงการโดยพิจารณา ว่าโครงการมีความเป็นไปได้หรือไม่ มีความเหมาะสมเพียงใด โดย พิจารณาประเมินในด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้ 1.1.1 ความจาเป็นและความต้องการ 1.1.2 ความเหมาะสมและความชัดเจนของวัตถุประสงค์ในโครงการ 1.1.3 ความเหมาะสมของบุคลากร ระยะเวลา งบประมาณ สถานที่และ วัสดุอุปกรณ์ 1.1.4 เนื้อหาสาระของโครงการ โดยพิจารณาว่ามีมากน้อยเพียงใด ลักษณะงาน ตามโครงการเหมาะสมหรือไม่ 1.1.5แผนการดาเนินงาน มีความชัดเจนเหมาะสมกับการปฏิบัติมากน้อยเพียงใด
  • 2. -2- 1.2 การพิจารณาประเมิน การพิจารณาการประเมิน สามารถทาได้โดยนาองค์ประกอบด้านต่าง ๆ ของ โครงการทั้ง 5 รายการ ดังกล่าวข้างต้น มาพิจารณาประกอบการประเมิน ผู้ประเมินอาจประกอบด้วย คณะกรรมการดาเนินโครงการ หรือคณะกรรมการที่รับผิดชอบประเมินโครงการ เพื่อตัดสินใจสรุปว่าโครงการ ที่วางไว้มีความคุ้มค่า เหมาะสมและเป็นไปได้หรือไม่ที่จะดาเนินการตามแผนงานที่กาหนดไว้ 1.3 เครื่องมือที่ใช้ประเมิน เนื่องจากการประเมินก่อนดาเนินโครงการนี้ คณะบุคคลเป็นผู้พิจารณาประเมิน จากเอกสารหลักฐานและข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยทาการประเมินก่อนดาเนินโครงการคือ ประเมินในส่วน ปัจจัยป้อน วิธีประเมินอาจใช้วิธีการและเครื่องมือต่าง ๆ เช่น 1.3.1 การวิเคราะห์เอกสารหลักฐานแล้วสรุปผล 1.3.2 ใช้แบบสารวจรายการ ประกอบการพิจารณาเอกสารหลักฐานและข้อมูลที่ เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงสรุปและประเมินผลเพื่อตัดสินใจ เรื่องการประเมินก่อนดาเนินการนี้ ถ้าเป็นโครงการที่มีเทคนิคเฉพาะด้าน อาจเชิญผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ประเมินก็สามารถทาได้ 2. ประเมินระหว่างดาเนินการ 2.1ประเมินเพื่ออะไร มีส่วนใดบ้างที่ต้องประเมิน การประเมินระหว่างดาเนินการ เป็นการประเมินเพื่อติดตาม ตรวจสอบและหาทาง ปรับปรุงการปฏิบัติ ซึ่งพิจารณาได้จากด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้ 2.1.1 ด้านการบริหารหรือการจัดการโครงการ 2.1.2 ด้านวิธีการ หรือวิธีการดาเนินงานตามโครงการ 2.1.3 ด้านกิจกรรม หรือการปฏิบัติกิจกรรมของผู้ร่วมโครงการ 2.2 การพิจารณาประเมิน การพิจารณาให้ดูที่ความเหมาะสมของการจัดการในการใช้ทรัพยากรและ การจัดการให้งานดาเนินไปตามขั้นที่วางไว้ ตลอดจนพิจารณาถึงเทคนิควิธีการ กิจกรรมต่าง ๆ โดยประเมิน ว่ามีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด ควรปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมส่วนใดบ้าง
  • 3. -3- 2.3เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน เนื่องจากข้อมูลที่ได้ในการประเมิน จะได้จากการพิจารณาของผู้สังเกต ได้แก่ ผู้รับผิดชอบโครงการหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ทาหน้าที่ประเมินโครงการ รวมถึงการได้ข้อมูลจาก ผู้เกี่ยวข้อง และผู้ร่วมโครงการ เช่น ครู-อาจารย์ เป็นต้น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 2.3.1 แบบสังเกตกระบวนการทางาน 2.3.2 แบบสัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบโครงการ และผู้ร่วมโครงการ 3. ประเมินเมื่อสิ้นสุดโครงกา 3.1ประเมินเพื่ออะไร มีส่วนใดบ้างที่ต้องประเมิน การประเมินเมื่อสิ้นสุดโครงการเป็นการประเมินผลที่ได้ของโครงการหรือเป็นการ ประเมินเพื่อสรุปผลโครงการ โดยพิจารณาประเมินส่วนต่าง ๆ ได้แก่ 3.1.1 ผลผลิตที่เกิดจากการดาเนินโครงการ เช่น ผลสัมฤทธิ์ของโครงการ เจตคติ ของผู้ร่วมกิจกรรมตามโครงการ 3.1.2 ผลกระทบ จากการดาเนินโครงการหมายถึง เมื่อเกิดผลผลิตขึ้นแล้วเป็น เหตุให้เกิดอะไรขึ้นอีก สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคือผลกระทบ 3.1.3 ประสิทธิภาพของโครงการ เป็นการพิจารณาถึงสภาพความสาเร็จที่เกิดขึ้น โดยการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด ถ้าใช้ทรัพยากรน้อยแล้วมีผลสาเร็จสูงสุดแสดงว่ามีประสิทธิภาพดี 3.2 การพิจารณาประเมิน ในการประเมินสามารถพิจารณาได้จากผลที่เกิดขึ้น ด้านความรู้ความเข้าใจ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ ซึ่งจะเกิดขึ้นกับผู้ร่วมกิจกรรมตามโครงการ ภายหลังเสร็จสิ้นโครงการรวมทั้ง พิจารณาจากผลกระทบและผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น 3.3เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน เนื่องจากผลการประเมินเมื่อสิ้นสุดโครงการ พิจารณาได้จากองค์ประกอบต่าง ๆ หลายด้าน เครื่องมือที่ใช้ในการวัดเพื่อนาข้อมูลมาสรุปประเมินผล จึงแตกต่างกันไป ตามคุณลักษณะของ สิ่งที่ต้องการวัดดังตัวอย่างต่อไปนี้ 3.3.1 ด้านความรู้ความเข้าใจ ใช้แบบทดสอบชนิดต่าง ๆ 3.3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ ใช้แบบสังเกตชนิดต่าง ๆ 3.3.3 ด้านเจตคติ หรือความรู้สึก ใช้แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ เป็นต้น
  • 4. -4- จากรายละเอียดที่กล่าวไว้ข้างต้น คงจะมีส่วนช่วยให้ผู้บริหารและครูอาจารย์ทุกท่าน ได้เห็น ประโยชน์และทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการประ๶มิȨครงการบ้างตามสมควร ดังนั้นจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคต การวางแผนและจัดทาโครงการทุกครั้งของสถานศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คงจะมีการกาหนดแผนการประ๶มิȨครงการควบคู่ไปกับแผนปฏิบัติการ เพราะนอกจากจะเป็นการควบคุม ติดตาม กากับและประเมินงานแล้ว ยังจะช่วยให้งานมีการพัฒนาอยู่เสมอ และได้ข้อมูลความสาเร็จที่ชัดเจน เป็นรูปธรรมจากการทางาน การประ๶มิȨครงการถ้ามีการนามาใช้อย่างจริงจังนอกจากจะเกิดประโยชน์ โดยตรง ต่อการช่วยให้บรรลุผลตามเป้าหมายของโครงการแล้ว จะทาให้ได้ข้อมูลเพียงพอในการใช้เป็น แนวทางแก้ปัญหาและพัฒนางานในโอกาสต่อไป รวมทั้งผลสาเร็จที่ได้รับจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดความภูมิใจ และประทับอยู่ในความทรงจาของผู้บริหาร ผู้รับผิดชอบโครงการและผู้เกี่ยวข้องตลอดไป