ݺߣ
Submit Search
การประมิȨครงการ
•
0 likes
•
4,090 views
R
rbsupervision
1 of 4
Download now
Downloaded 14 times
More Related Content
การประมิȨครงการ
1.
การประมิȨครงการ
โดย มาโนช จันทร์แจ่ม ศึกษานิเทศก์ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาราชบุรี เขต 1 การบริหารงานองค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรทางด้านธุรกิจ การเมืองหรือทางการศึกษา ก็ตาม จะใช้แผนงานและโครงการเป็นเครื่องมือ ช่วยให้การดาเนินงานประสบผลสาเร็จ บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะหน่วยงานทางการศึกษา ในปัจจุบันมีการวางแผนทางานอย่างชัดเจน และ ปฏิบัติงานตามแผนอย่างจริงจัง แต่จากการนิเทศ ติดตาม ประเมินงาน พบว่า หน่วยงานส่วนมากเน้นการ ปฏิบัติมากกว่าการประเมิน เมื่อถูกตั้งคาถามว่า การดาเนินงานตามแผนงานและโครงการประสบผลสาเร็จ เพียงใด เช่นถ้าถามถึงงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา ก็จะได้รับคาตอบว่ามีคุณภาพเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเป็น คาตอบกลาง ๆ ขาดความชัดเจน ไม่สามารถระบุได้ว่าคุณภาพด้านใดบ้างที่ดี ปานกลาง หรือต้องปรับปรุง ไม่สามารถบอกได้ว่าคุณภาพโดยรวม พัฒนาเพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่ เพียงใด เป็นต้น จากตัวอย่างที่กล่าว แสดงให้เห็นว่า หน่วยงานต่าง ๆ ยังขาดการประมิȨครงการ ซึ่งถือว่า เป็นปัญหาสาคัญในปัจจุบัน การดาเนินงานตามโครงการ ถ้าไม่มีการประเมินควบคู่กันไป คณะทางานหรือ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะไม่ทราบเลยว่า งานนั้นประสบผลสาเร็จหรือไม่ เพียงใด มีเรื่องใดที่ต้องพัฒนา ต่อยอด และเรื่องใดต้องช่วยเหลือปรับปรุงเพิ่ม แต่ในทางตรงข้ามถ้าหน่วยงานต่าง ๆ มีการประเมินควบคู่ไป กับการดาเนินงานตามโครงการ จะช่วยให้ทราบผลที่ชัดเจนและนาไปใช้เป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาและ พัฒนางานได้ในโอกาสต่อไป การประมิȨครงการนี้ วิธีที่ดี ควรดาเนินการให้ครบถ้วนทั้งกระบวนการของงาน หรือ โครงการ ตามแนวทางต่อไปนี้ 1. ประเมินก่อนดาเนินโครงการ 1.1ประเมินเพื่ออะไร มีส่วนใดบ้างที่ต้องประเมิน การประเมินก่อนดาเนินงาน เป็นการประเมิน เพื่อวางแผนโครงการโดยพิจารณา ว่าโครงการมีความเป็นไปได้หรือไม่ มีความเหมาะสมเพียงใด โดย พิจารณาประเมินในด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้ 1.1.1 ความจาเป็นและความต้องการ 1.1.2 ความเหมาะสมและความชัดเจนของวัตถุประสงค์ในโครงการ 1.1.3 ความเหมาะสมของบุคลากร ระยะเวลา งบประมาณ สถานที่และ วัสดุอุปกรณ์ 1.1.4 เนื้อหาสาระของโครงการ โดยพิจารณาว่ามีมากน้อยเพียงใด ลักษณะงาน ตามโครงการเหมาะสมหรือไม่ 1.1.5แผนการดาเนินงาน มีความชัดเจนเหมาะสมกับการปฏิบัติมากน้อยเพียงใด
2.
-2-
1.2 การพิจารณาประเมิน การพิจารณาการประเมิน สามารถทาได้โดยนาองค์ประกอบด้านต่าง ๆ ของ โครงการทั้ง 5 รายการ ดังกล่าวข้างต้น มาพิจารณาประกอบการประเมิน ผู้ประเมินอาจประกอบด้วย คณะกรรมการดาเนินโครงการ หรือคณะกรรมการที่รับผิดชอบประเมินโครงการ เพื่อตัดสินใจสรุปว่าโครงการ ที่วางไว้มีความคุ้มค่า เหมาะสมและเป็นไปได้หรือไม่ที่จะดาเนินการตามแผนงานที่กาหนดไว้ 1.3 เครื่องมือที่ใช้ประเมิน เนื่องจากการประเมินก่อนดาเนินโครงการนี้ คณะบุคคลเป็นผู้พิจารณาประเมิน จากเอกสารหลักฐานและข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยทาการประเมินก่อนดาเนินโครงการคือ ประเมินในส่วน ปัจจัยป้อน วิธีประเมินอาจใช้วิธีการและเครื่องมือต่าง ๆ เช่น 1.3.1 การวิเคราะห์เอกสารหลักฐานแล้วสรุปผล 1.3.2 ใช้แบบสารวจรายการ ประกอบการพิจารณาเอกสารหลักฐานและข้อมูลที่ เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงสรุปและประเมินผลเพื่อตัดสินใจ เรื่องการประเมินก่อนดาเนินการนี้ ถ้าเป็นโครงการที่มีเทคนิคเฉพาะด้าน อาจเชิญผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ประเมินก็สามารถทาได้ 2. ประเมินระหว่างดาเนินการ 2.1ประเมินเพื่ออะไร มีส่วนใดบ้างที่ต้องประเมิน การประเมินระหว่างดาเนินการ เป็นการประเมินเพื่อติดตาม ตรวจสอบและหาทาง ปรับปรุงการปฏิบัติ ซึ่งพิจารณาได้จากด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้ 2.1.1 ด้านการบริหารหรือการจัดการโครงการ 2.1.2 ด้านวิธีการ หรือวิธีการดาเนินงานตามโครงการ 2.1.3 ด้านกิจกรรม หรือการปฏิบัติกิจกรรมของผู้ร่วมโครงการ 2.2 การพิจารณาประเมิน การพิจารณาให้ดูที่ความเหมาะสมของการจัดการในการใช้ทรัพยากรและ การจัดการให้งานดาเนินไปตามขั้นที่วางไว้ ตลอดจนพิจารณาถึงเทคนิควิธีการ กิจกรรมต่าง ๆ โดยประเมิน ว่ามีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด ควรปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมส่วนใดบ้าง
3.
-3-
2.3เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน เนื่องจากข้อมูลที่ได้ในการประเมิน จะได้จากการพิจารณาของผู้สังเกต ได้แก่ ผู้รับผิดชอบโครงการหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ทาหน้าที่ประเมินโครงการ รวมถึงการได้ข้อมูลจาก ผู้เกี่ยวข้อง และผู้ร่วมโครงการ เช่น ครู-อาจารย์ เป็นต้น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 2.3.1 แบบสังเกตกระบวนการทางาน 2.3.2 แบบสัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบโครงการ และผู้ร่วมโครงการ 3. ประเมินเมื่อสิ้นสุดโครงกา 3.1ประเมินเพื่ออะไร มีส่วนใดบ้างที่ต้องประเมิน การประเมินเมื่อสิ้นสุดโครงการเป็นการประเมินผลที่ได้ของโครงการหรือเป็นการ ประเมินเพื่อสรุปผลโครงการ โดยพิจารณาประเมินส่วนต่าง ๆ ได้แก่ 3.1.1 ผลผลิตที่เกิดจากการดาเนินโครงการ เช่น ผลสัมฤทธิ์ของโครงการ เจตคติ ของผู้ร่วมกิจกรรมตามโครงการ 3.1.2 ผลกระทบ จากการดาเนินโครงการหมายถึง เมื่อเกิดผลผลิตขึ้นแล้วเป็น เหตุให้เกิดอะไรขึ้นอีก สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคือผลกระทบ 3.1.3 ประสิทธิภาพของโครงการ เป็นการพิจารณาถึงสภาพความสาเร็จที่เกิดขึ้น โดยการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด ถ้าใช้ทรัพยากรน้อยแล้วมีผลสาเร็จสูงสุดแสดงว่ามีประสิทธิภาพดี 3.2 การพิจารณาประเมิน ในการประเมินสามารถพิจารณาได้จากผลที่เกิดขึ้น ด้านความรู้ความเข้าใจ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ ซึ่งจะเกิดขึ้นกับผู้ร่วมกิจกรรมตามโครงการ ภายหลังเสร็จสิ้นโครงการรวมทั้ง พิจารณาจากผลกระทบและผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น 3.3เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน เนื่องจากผลการประเมินเมื่อสิ้นสุดโครงการ พิจารณาได้จากองค์ประกอบต่าง ๆ หลายด้าน เครื่องมือที่ใช้ในการวัดเพื่อนาข้อมูลมาสรุปประเมินผล จึงแตกต่างกันไป ตามคุณลักษณะของ สิ่งที่ต้องการวัดดังตัวอย่างต่อไปนี้ 3.3.1 ด้านความรู้ความเข้าใจ ใช้แบบทดสอบชนิดต่าง ๆ 3.3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ ใช้แบบสังเกตชนิดต่าง ๆ 3.3.3 ด้านเจตคติ หรือความรู้สึก ใช้แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ เป็นต้น
4.
-4-
จากรายละเอียดที่กล่าวไว้ข้างต้น คงจะมีส่วนช่วยให้ผู้บริหารและครูอาจารย์ทุกท่าน ได้เห็น ประโยชน์และทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการประมิȨครงการบ้างตามสมควร ดังนั้นจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคต การวางแผนและจัดทาโครงการทุกครั้งของสถานศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คงจะมีการกาหนดแผนการประมิȨครงการควบคู่ไปกับแผนปฏิบัติการ เพราะนอกจากจะเป็นการควบคุม ติดตาม กากับและประเมินงานแล้ว ยังจะช่วยให้งานมีการพัฒนาอยู่เสมอ และได้ข้อมูลความสาเร็จที่ชัดเจน เป็นรูปธรรมจากการทางาน การประมิȨครงการถ้ามีการนามาใช้อย่างจริงจังนอกจากจะเกิดประโยชน์ โดยตรง ต่อการช่วยให้บรรลุผลตามเป้าหมายของโครงการแล้ว จะทาให้ได้ข้อมูลเพียงพอในการใช้เป็น แนวทางแก้ปัญหาและพัฒนางานในโอกาสต่อไป รวมทั้งผลสาเร็จที่ได้รับจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดความภูมิใจ และประทับอยู่ในความทรงจาของผู้บริหาร ผู้รับผิดชอบโครงการและผู้เกี่ยวข้องตลอดไป
Download