ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
( รู้เท่าทันความคิด เปลี่ยนชีวิตให้มีสุข )
ผู้จัดทา
นางสาวพชรธรษ์ จาปีพรหม 553050086-5
นางสาวพชรพร บุญพรม 553050087-3
นางสาวภัทรสุดา ประสานพันธ์ 553050090-4
นางสาวภาสิตา หาสุข 553050091-2
นางสาวเยาวลักษณ์ นครภักดี 553050092-0
นางสาวรชยา ราศรี 553050093-8
นางสาวลภัสรดา ภาราสิริสกุล 553050095-4
นายวิวัฒน์ งามเสน่ห์ 553050100-7
นายศุภวัฒน์ วงษ์โก 553050104-9
นางสาวสริตา มติกรกุล 553050105-7
นางสาวสุดารัตน์ คาภิภาค 553050107-3
อาจารย์ที่ปรึกษา
ผศ.ประภาพร ตั้งธนธานิช
รศ. ทัศนีย์ แจ่มจรรยา
ในปัจจุบันปัญหาการขาดคุณธรรมจริยธรรมในสังคมไทยได้ทวีความ
รุนแรง และมีความหลากหลายมากกว่าในอดีต สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก
สภาพแวดล้อม กระแสการพัฒนาทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ไร้พรมแดน ซึ่งปัญหาการขาดคุณธรรมจริยธรรม ส่งผลถึงเด็ก เยาวชน และ
ประชาชนในสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น การหลงผิด มีพฤติกรรม
เบี่ยงเบน และขาดระเบียบวินัย ซึ่งทาให้ภูมิคุ้มกันที่จะต้านทานกับปัญหาของ
เยาวชน ต้องขาดความมั่นคงจนเกิดปัญหาต่างๆตามมา ได้แก่ ปัญหาการก่อ
เหตุทะเลาะวิวาท ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์
ในวัยเรียน การติดเกมส์ และปัญหาสาหรับประชาชนทั่วไป ได้แก่ปัญหา
การทางานที่ไม่มีความสุข ปัญหาความสามัคคีในองค์กร เป็นต้น
คณะผู้จัดทา ได้เห็นความสาคัญของปัญหาดังกล่าว และ
ตระหนักว่าจาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างเสริมคุณธรรมและจริยธรรมให้เกิดขึ้น
แก่เด็กและเยาวชนตั้งแต่เนิ่นๆ จึงได้จัดทาโครงการรู้เท่าทันความคิด เปลี่ยน
ชีวิตให้มีสุข โดยสอดแทรกหลักธรรมอันจะนาไปสู่ความเจริญนั่นก็คือพรหม
วิหาร4 และการรู้เท่าทันความคิดของตนเอง เพื่อให้เยาวชนยึอถือเป็นธรรม
ประจาใจไว้คอยกากับความประพฤติให้ดาเนินไปในทางที่ควร ซึ่งจะช่วยให้
เป็นผู้ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี ประพฤติปฏิบัติเกื้อกูลแก่ผู้อื่น มีเมตตากรุณา และ
รู้จักยับยั้งชั่งใจ
1. เพื่อให้นักเรียนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จานวนทั้งหมด 79 คน ได้เรียนรู้ เข้าใจเกี่ยวกับ
หลักธรรมพรหมวิหาร 4 และ การรู้เท่าทันความคิดของตนเอง และสามารถนาหลักธรรมไปปรับ
ใช้ในชีวิตประจาวันได้จริง
2. เพื่อให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จานวนทั้งหมด 79 คน นาหลักธรรมพรหมวิหาร 4 และ
การรู้เท่าทันความคิดของตนเอง มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม จานวนทั้งหมด 79 คน
นักเรียนชาย 46 คน นักเรียนหญิง 33 คน
 หลักธรรมเรื่องพรหมวิหาร 4
เมตตา : ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข
กรุณา : ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
มุทิตา : ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี
อุเบกขา : การวางจิตเป็นกลาง
การรู้เท่าทันความคิดของตนเอง
พื้นที่เป้าหมาย
โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม
กลุ่มเป้าหมาย
นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
จานวน 79 คน
ระยะเวลาดาเนินการโครงการ
1 สิงหาคม – 2 กันยายน พ.ศ. 2556
1. โปรเจคเตอร์
2. กล้องถ่ายรูป
3. โน้ตบุ๊ก
4. ปากกา / ดินสอ
5. กระดาษ
6. เครื่องปริ้นเตอร์
1. การประเมินความเข้าใจในเนื้อหา จากแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
ประเมินโดยใช้เกณฑ์ขั้นต่า 60% ของคะแนนเต็ม
• จากเกณฑ์ขั้นต่าที่กาหนด คือ 6 คะแนน จาก 10 คะแนน
• หากได้มากกว่าหรือเท่ากับ 6 คะแนน ถือว่าผ่าน หากต่ากว่า 6 คะแนนถือว่าไม่ผ่าน
การประเมินโดยใช้เกณฑ์พัฒนาการ
โดยเปรียบเทียบคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
• ถ้านักเรียนได้คะแนนเพิ่มขึ้นจากเดิม 2 คะแนนขึ้นไปจะถือว่าผ่านเกณฑ์พัฒนาการ
• ถ้านักเรียนได้คะแนนเพิ่มขึ้นแต่ไม่ถึง 2 คะแนน จะถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์แต่มีพัฒนาการ
• ถ้านักเรียนได้คะแนนลดลง จะถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์และไม่มีพัฒนาการ
2. การประเมินการนาหลักพรหมวิหาร4และการรู้เท่าทันความคิดของตนเอง
ไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น จากสมุดบันทึก
• เกณฑ์เฉพาะบุคคล หากนักเรียนสามารถทาเครื่องหมายถูกในช่องหลักพรหมวิหาร4
ที่สอดคล้องกับวิธีแก้ไขปัญหา จะนับคะแนนเหตุการณ์ละ 1 คะแนน ซึ่งถ้านักเรียน
สามารถทาถูก 40 % ของเหตุการณ์ที่เขียนมาทั้งหมดจะถือว่าผ่านเกณฑ์
• เกณฑ์กลุ่มตัวอย่าง หากมีจานวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์เฉพาะบุคคล 60% ขึ้นไป
ถือว่าการทาโครงการครั้งนี้ประสบผลสาเร็จ
 ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทาโครงการในครั้งนี้
รวมทั้งไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่กลุ่มตัวอย่างเองด้วย
 จะต้องช่วยกันรับผิดชอบต่อสถานที่ที่ไปใช้ คือไม่ทาลายทรัพย์สินของส่วนรวม
รวมทั้งช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่
 ไม่ก้าวก่ายหน้าที่ของครูที่อยู่ ณ โรงเรียนที่เข้าไปทาโครงการ
 เวลาที่ใช้ในการทาโครงการของเราจะต้องไม่รบกวนเวลาเรียนของนักเรียนที่เป็น
กลุ่มตัวอย่าง
 ให้อิสระแก่กลุ่มตัวอย่างในการให้ข้อมูลแก่ทางผู้จัดทา
วัน/เดือน/ปี กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ หมายเหตุ
2 ก.ค. 56 ประชุมเลือกหัวข้อโครงงานและออกแบบกิจกรรม สมาชิกทุกคน
12 ก.ค. 56 สารวจพื้นที่เป้าหมาย (โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม ) สมาชิกทุกคน
18 ก.ค. 56 ไปติดต่อทาบทามทางโรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม สมาชิกทุกคน
19 ก.ค. 56 นาเสนอการปรับปรุงโครงร่างโครงงาน สมาชิกทุกคน
25 ก.ค. 56
นาเสนอรูปแบบการจัดโครงการกับผู้อานวยการโรงเรียน
เทศบาลบ้านสามเหลี่ยม
สมาชิกทุกคน
7 ส.ค. 56 ติดต่อยืนยันเรื่องสถานที่ก่อนลงพื้นที่ทากิจกรรม
น.ส. รชยา
น.ส. ลภัสรดา
วัน/เดือน/ปี กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ หมายเหตุ
8 ส.ค. 56 ลงพื้นที่ทากิจกรรมครั้งที่ 1 สมาชิกทุกคน
16 ส.ค. 56 ติดตามความคืบหน้าครั้งที่ 1
น.ส. รชยา
น.ส. ลภัสรดา
น.ส.พชรพร
น.ส.ภัทรสุดา
น.ส.เยาวลักษณ์
23 ส.ค. 56 ติดตามความก้าวหน้า ครั้งที่ 2 น.ส.สริตา
29 ส.ค. 56 ลงพื้นที่ทากิจกรรมครั้งที่ 2 และปิดกิจกรรม สมาชิกทุกคน
ตารางการดาเนินกิจกรรม
วันพฤหัสบดี ที่ 8 สิงหาคม 2556 เวลา 14.40 - 15.30 น.
เวลา กิจกรรม หมายเหตุ
14.40 น. - 14.45 น.
1. ทักทายและแนะนากิจกรรม
2. แจกแบบทดสอบก่อนเรียน
5 นาที
14.45 น. - 15.00 น. 1. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 15 นาที
15.00 น. - 15.20 น.
1. เก็บแบบทดสอบ
2. ให้ความรู้เกี่ยวกับพรหมวิหาร 4 และการรู้เท่าทันความคิดขอตนเองโดยใช้เพาเวอร์พอยท์
เป็นสื่อการนาเสนอ
3. ยกตัวอย่างการกระทาที่เกี่ยวข้องกับพรหมวิหาร 4 และการรู้เท่าทันความคิดของตนเอง โดย
ใช้คลิปจากซีรีย์ฮอร์โมนเป็นสื่อและให้น้องๆร่วมกิจกรรมตอบคาถาม
20 นาที
15.20 น. - 15.30 น.
1. ชี้แจงจุดประสงค์และวิธีการทาสมุดบันทึก
2. ยกตัวอย่างการบันทึก
3. นัดวันเวลาในการเก็บสมุดบันทึกและการทากิจกรรมครั้งต่อไป
10 นาที
เวลา กิจกรรม หมายเหตุ
14.40 น. - 14.50 น.
1. เปิดกิจกรรมครั้งที่ 2
2. ทบทวนเนื้อหา
15 นาที
14.50 น. – 15.00 น. ทาแบบทดสอบหลังเรียน 10 นาที
14.55 น. - 15.05น.
1. สัมภาษณ์น้องๆว่าได้อะไรจากการทากิจกรรมและรู้สึกว่าตนเอง
มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร
10 นาที
15.05 น. - 15.11น. สรุปผล + ประมวลภาพกิจกรรม 6 นาที
15.11 น. - 15.30 น.
1. มอบของรางวัล
2. กล่าวขอบคุณคณะครูและน้องๆโรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม
3. เชิญคุณครูกล่าวให้โอวาท
4. ปิดกิจกรรม
5. ถ่ายภาพรวม
20 นาที
วันพฤหัสบดี ที่ 29 สิงหาคม 2556 เวลา 14.40 - 15.30 น.
เครื่องมือที่ใช้ในการทาโครงการ
1. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
2. สมุดบันทึกความดี
3. พาวเวอร์พอยท์นาเสนอเȨ้อหา
ตัวอย่างสมุดบัȨึกความึϸ
( รู้เท่าทันความคิด เปลี่ยนชีวิตให้มีสุข )
( รู้เท่าทันความคิด เปลี่ยนชีวิตให้มีสุข )
( รู้เท่าทันความคิด เปลี่ยนชีวิตให้มีสุข )
สื่อที่ใช้ในการนาเสนอเนื้อหา
เมตตา
ดินไปติวหนังสือให้ดาวที่บ้าน
เป็นการปรารถนาให้ผู้อื่น มีความสุข และ
มีความรู้
กรุณา
ครูอ้อปลอบใจเต้ยหลังจากที่โดนทาร้าย ด้วยการให้กาลังใจ
และให้คาแนะนา เป็นการปรารถนาให้ลูกศิษย์พ้นทุกข์
มุทิตา
ต้าได้รับการคัดเลือกให้เข้า
ร่วมวงคนตรี See Scape แล้ว
พ่อแม่และเพื่อนๆ ก็ร่วมแสดงความ
ยินดีกับต้า เป็นการยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี
อุเบกขา
นุ้ย สุจิรา นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง ถูกขโมยเข้ามาลักขโมยทรัพย์สินภายใน
บ้าน เมื่อจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว พบว่า ผู้ต้องหายังเป็นเยาวชนอยู่ นุ้ยจึงให้อภัย วางเฉย
และไม่ได้ถือโทษโกรธผู้ต้องหา และให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
วิดีโอเรื่องนี้เป็นการสอนเรื่องอุเบกขา
การรู้เท่าทันตนเอง
ต่อ นักแสดงฮอร์โมน เล่าประสบการณ์ของตัวเองในรายการ วู้ดดี้เกิดมา
คุย ว่า เมื่อตอนที่ตัวเองยังเป็นวัยรุ่น ตัวเองเป็นคนใจร้อนและเกเร มีเรื่องกับเด็ก
วัยรุ่นกลุ่มอื่นไปทั่ว จนกระทั่งวันหนึ่งตัวเองคิดได้ว่า สิ่งที่ทาไปเป็นสิ่งที่ไม่ดี
สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเอง และสร้างความกังวลใจให้แก่ครอบครัว จึง
ตัดสินใจหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการมีเรื่องท้าตีท้าต่อย หรือการยก
พวกตีกัน แล้วตัดสินใจบวช เพื่อที่จะได้มีช่วงเวลาที่นิ่งและสงบเพื่อให้ได้ทบทวน
ตัวเอง ซึ่งในวิดีโอเป็นการสอนให้เห็นเรื่องการรู้เท่าทันตนเอง
ผลการดาเนินงาน
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม ม.1/1 และ ม.1/2
จานวน 79 คน ประกอบด้วย ประกอบด้วยนักเรียนชาย 46 คน ชาย หญิง 33คน
การเข้ากิจกรรม
จานวน
นักเรียนชาย
จานวน
นักเรียนหญิง
รวม
ครั้งที่ 1
8 สิงหาคม 2556
46 23 69
ครั้งที่ 2
29 สิงหาคม 2556
39 22 61
การเข้าร่วมกิจกรรม
จานวน
นักเรียนชาย
จานวน
นักเรียนหญิง
รวม
เข้าร่วมทั้งสองครั้ง 31 20 51
เข้าร่วมเฉพาะครั้งที่ 1 15 3 18
เข้าร่วมเฉพาะครั้งที่ 2 8 2 10
การเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม
คะแนน ผ่าน ไม่ผ่าน รวม
ก่อนเรียน 25 26 51
หลังเรียน 35 16 51
ผลการประเมินคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
พัฒนาการ จานวนนักเรียน
ผ่านเกณฑ์และมีพัฒนาการ 26
ไม่ผ่านเกณฑ์แต่มีพัฒนาการ 18
ไม่ผ่านเกณฑ์และไม่มี
พัฒนาการ
7
เกณฑ์ขั้นต่า 60 % เกณฑ์พัฒนาการ
ผลการประเมินคะแนนสมุดบันทึก
คะแนน
จานวน
นักเรียน
0-25% 7
26-50% 13
51-60% 13
61-100% 18
มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์คะแนน 40 % จานวน 40 คน
กรณีที่ 1 :นักเรียนที่มาทั้งสองครั้ง จานวน 51 คน นักเรียนชาย 31 คน นักเรียนหญิง 20 คน
กรณีที่ 2: นักเรียนที่มาเฉพาะครั้งที่ 1 จานวน 18 คน นักเรียนชาย 15 คน นักเรียนหญิง 3 คน
กรณีที่ 3: นักเรียนที่มาเฉพาะครั้งที่ 2 จานวน 20 คน นักเรียนชาย 8 คน นักเรียนหญิง 2 คน
31
15
8
20
3
2
0
5
10
15
20
25
30
35
จานวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม
การอภิปรายผลการดาเนินโครงการ
การประเมินโดยใช้เกณฑ์ขั้นต่า 60% ของคะแนนเต็ม
จากแผนภูมิวงกลมข้างต้น พบว่า
มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่าทั้งหมด 25 คน จาก 51 คน คิดเป็น 49 %
และมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่าทั้งหมด 26 คน จาก 51 คน คิดเป็น 51 %
ผลการประเมินแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
จากแผนภูมิวงกลมข้างต้นพบว่า
มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่าทั้งหมด 35 คน จาก 51 คน คิดเป็น 68.63 %
และมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่าทั้งหมด 16 คน จาก 51 คน คิดเป็น 31.37 %
แผนภูมิแสดงการเปรียบเทียบจานวนนักเรียนที่ผ่านและไม่ผ่านเกณฑ์
ก่อนเรียนมีจานวนนักเรียนที่ผ่าน
เกณฑ์คิดเป็น 49 % และจานวนนักเรียนที่ไม่
ผ่านเกณฑ์คิดเป็น 51%
หลังเรียนมีจานวนนักเรียนที่ผ่าน
เกณฑ์ 68.63 % และนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์
คิดเป็น 31.37 %
แสดงให้เห็นว่า มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์เพิ่มขึ้น
19.63 % นั่นคือ นักเรียนมีความเข้าใจใน
เนื้อหาและสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ที่
เกี่ยวกับพรหมวิหาร4 และการรู้เท่าทัน
ความคิดของตนเอง จากการเข้าร่วมกิจกรรม
อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะสามารถ
นาไปใช้ได้ในชีวิตประจาวันได้เป็นอย่างดี
49%
68.63%
51%
31.37%
0
10
20
30
40
50
60
70
80
ก่อนเรียน หลังเรียน
ผ่าน ไม่ผ่าน
การประเมินโดยใช้เกณฑ์พัฒนาการ
มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การพัฒนา
จานวน 26 คน คิดเป็น 64%
มีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์แต่
มีพัฒนาการ จานวน 18 คน
คิดเป็น 25%
มีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์
(มีคะแนนพัฒนาการติดลบ)
จานวน 7 คน คิดเป็น 11%
ผ่านเกณฑ์การ
พัฒนา
64%
ไม่ผ่านเกณฑ์
(มีการพัฒนา)
25%
ไม่ผ่านเกณฑ์
(ไม่มีการพัฒนา)
11%
แสดงให้เห็นว่า นักเรียนส่วนใหญ่มีพัฒนาการที่ดี นั่นหมายถึงการทากิจกรรมใน
ครั้งนี้สามารถทาให้นักเรียนได้เข้าใจและนาไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ส่วนนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์แต่มีการพัฒนา ถือว่ามีความเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น
จากการเข้าร่วมกิจกรรมอย่างสม่าเสมอ และมีนักเรียนเพียงส่วนน้อยที่ไม่มีการ
พัฒนา อาจจะเป็นเพราะนักเรียนแต่ละคนมีลักษณะพื้นฐานที่แตกต่างกัน ประกอบ
กับการระยะเวลาในการจัดกิจกรรมมีน้อย ทาให้นักเรียนยังไม่ได้รับความเข้าใจ
เท่าที่ควร ซึ่งหากเด็กกลุ่มนี้ได้รับความรู้และการส่งเสริมคุณธรรมอย่างต่อเนื่องก็มี
โอกาสที่จะเข้าใจและนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ดีเช่นกัน
7
13 13
18
0
2
4
6
8
10
12
14
16
18
20
0-25 % 26-50% 51-75% 76-100%
จานวนนักเรียนที่ได้คะแนนในแต่ละช่วง
0-25 %
26-50%
51-75%
76-100%
ผลการประเมินสมุดบันทึกความดี
จากแผนภูมิ มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์จานวน 40 คนจากนักเรียนทั้งหมด 79 คน คิดเป็น 50.63%
มีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์จานวน 39 คนจากนักเรียนทั้งหมด 79 คน คิดเป็น 49.37%
50.63%49.37%
แผนภูมิแสดงการประเมินสมุดบันทึก
(คิดจากจานวนนักเรียนทั้งหมด 79คน)
นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ นักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์
จากแผนภูมิ มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์จานวน 40 คนจากนักเรียน 51 คน คิดเป็น 78.43%
มีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์จานวน 11 คนจากนักเรียน 51 คนคิดเป็น 21.57%
78.43%
21.57%
แผนภูมิแสดงการประเมินสมุดบันทึก
(คิดจากนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการทั้งสองครั้ง)
นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์
นักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์
แสดงให้เห็นว่า
นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมอย่างสม่าเสมอ สามารถรู้เท่าทันความคิดของตนเอง
เลือกใช้วิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม และสามารถจาแนกได้ว่าวิธีการแก้ไข
ปัญหาของตนสอดคล้องกับหลักธรรมพรหมวิหาร 4 ข้อใด ซึ่งหากนักเรียนได้รับ
การส่งเสริมคุณธรรมต่อยอดจากการทากิจกรรมในครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง ก็จะมีการ
พัฒนาตนเองและสามารถนาความรู้และวิธีการเหล่านี้ ไปบอกต่อกับคนรอบข้าง
เป็นการเปลี่ยนแปลงคุณธรรมในเชิงบวกของคนในสังคมอย่างค่อยเป็นค่อยไป
สรุปผลการศึกษา
1.การทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
การประเมินโดยใช้เกณฑ์ขั้นต่า 60% ของคะแนนเต็ม
นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ามีจานวนเพิ่มขึ้น 10 คนคิดเป็น 19.6 %
ของนักเรียนที่ทาแบบทดสอบทั้งสองครั้ง
การประเมินโดยใช้เกณฑ์พัฒนาการ
มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การพัฒนาจานวน 26 คน คิดเป็น 64% ซึ่งถือว่านักเรียน
ส่วนใหญ่มีการพัฒนาที่ดีขึ้น เป็นตามความคาดหวังของโครงการ
2. การทาสมุดบันทึก
กรณีที่ 1 คิดจากนักเรียนทั้งหมด 79 คน มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์จานวน 40 คน คิดเป็น
50.63 % และมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ จานวน 39 คน คิดเป็น 49.37 % สรุปได้ว่า มีนักเรียนที่
ผ่านเกณฑ์มากกว่านักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์อยู่จานวน 1 คน คิดเป็น1.26 %
กรณีที่ 2 คิดจากนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสองครั้งจานวน 51 คน มีนักเรียนที่ผ่าน
เกณฑ์จานวน 40 คน คิดเป็น 78.43 % และมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์จานวน 11 คน คิดเป็น
21.57% สรุปได้ว่า มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์มากกว่านักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ 29 คน คิดเป็น 56%
จากข้อมูลข้างต้น หากคิดจากจานวนผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 79 คน โครงการจะไม่
ประสบความสาเร็จ เนื่องจาก มีผู้ผ่านเกณฑ์ต่ากว่าเกณฑ์ที่ได้กาหนดไว้และ ไม่สามารถทาให้
กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการได้อย่างสม่าเสมอ แต่หากคิดจากจานวนผู้ที่เข้าร่วมโครงการอย่าง
สม่าเสมอทั้งสองครั้งจานวน 51 คน จะสามารถสรุปได้ว่า โครงการประสบความสาเร็จ เนื่องจาก
ผู้ที่เข้าร่วมโครงการทั้งสองครั้งมีพัฒนาการเพิ่มจากเดิม และมีผู้ผ่านเกณฑ์มากกว่าเกณฑ์ที่ได้
กาหนดไว้
ปัญหาและอุปสรรคที่พบในการทาโครงการ
1. ปัญหาเรื่องสถานที่
- ลงพื้นที่ครั้งที่ 1 :ความไม่พร้อมในเรื่องห้องที่จะใช้จัดกิจกรรม เนื่องจากทาง
โรงเรียนมีประชุมด่วน จึงต้องเปลี่ยนสถานที่จากห้องประชุม ไปเป็นห้องวิทยาศาสตร์
- ลงพื้นที่ครั้งที่ 2 : ห้องประชุมไม่ค่อยเรียบร้อย จึงทาให้ต้องเก็บกวาด ทาความ
สะอาดก่อนทากิจกรรม
2. ปัญหาเรื่องเทคโนโลยี
- ลงพื้นที่ครั้งที่ 1: ความไม่พร้อมของเครื่องฉาย (โปรเจคเตอร์) และแสงสว่าง
ของห้องมากเกินไป ทาให้มองเห็นจอได้ไม่ชัดเจน
- ลงพื้นที่ครั้งที่ 2 : ระบบเครื่องเสียงมีปัญหา
3. ปัญหาเรื่องเวลาและการนัดหมาย
- น้องๆไม่ทราบสถานที่และเวลาที่แน่ชัด จึงทาให้เกิดการล่าช้าในการทากิจกรรม
- น้องมาช้า และมาไม่ครบ ทาให้เสียเวลา การเริ่มกิจกรรมจึงต้องเลื่อยนออกไป
4. ปัญหาในขณะดาเนินกิจกรรม
- ลงพื้นที่ครั้งที่ 1 น้องๆไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควรเพราะว่าเป็นช่วงบ่ายอากาศ
ค่อยข้างร้อน ประกอบกับเป็นคาบสุดท้ายของการเรียน
-น้องๆบางส่วนไม่เข้าใจในเนื้อหาทั้งเรื่องพรหมวิหาร 4 และการรู้เท่าทันความคิด
ของตน เมื่อให้ตอบคาถามจึงไม่กล้าตอบ หรือตอบแต่ไม่กล้าออกมาหน้าชั้น
- ลงพื้นที่ครั้งที่ 2 น้องมาไม่ครบเนื่องจากมีกิจกรรมค่ายวิชาการของระดับชั้น
ประถมศึกษา แล้วให้น้องในระดับมัธยมเป็นผู้ดูแล จึงทาให้น้องบางส่วนไม่สามารถมาได้
5. ปัญหาเรื่องของรางวัล
- ลงพื้นที่ครั้งที่ 1 รางวัลไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเตรียมไปมากเกินพอ
- ลงพื้นที่ครั้งที่ 2 รางวัลไม่ตรงกับความพอใจกับผู้เรียน เกือบทุกคนอยากได้
รางวัลเป็นพวงกุญแจ แต่พวงกุญแจมีจานวนจากัด
1. ควรจะไปดูสถานที่จริงก่อนวันลงพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมและยืนยันการทางาน
2. ควรตรวจสอบอุปกรณ์เทคโนโลยีก่อนใช้งานให้เรียบร้อย ควรเตรียมตัวแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
3. ควรไปก่อนเวลาเพื่อเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน และนัดเวลาน้องๆให้ชัดเจนพร้อมทั้งชี้แจง
รายละเอียด
4. เตรียมพร้อมกับการรับมือในขณะดาเนินกิจกรรม มีไหวพริบปฏิภาณ สามารถควบคุมชั้น
กิจกรรมทั้งหมดได้ให้ผ่านไปได้ด้วยดี
5. ควรเตรียมให้พร้อม เผื่อไว้ดีกว่าขาด
6. ในกรณีที่น้องน้องไม่เข้าร่วมกิจกรรม อาจเป็นเพราะเวลาที่ใช้ทากิจกรรมเป็นเวลาเรียนคาบ
สุดท้ายของวัน มีกิจกรรมอื่นๆที่ต้องเข้าร่วม มีงานที่ต้องทา หรืออาจเป็นเหตุผลส่วนตัวอื่นๆซึ่ง
ผู้ศึกษาไม่สามารถทราบได้
ข้อเสนอแนะในการทาโครงการ
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทาโครงการ
1. ได้เรียนรู้วิธีการควบคุมชั้นเรียนซึ่งไม่สามารถเรียนรู้ได้ในห้องเรียน
2. ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
3. ได้เรียนรู้การนากิจกรรมเข้ามาใช้ในการเรียนการสอนในชั้นเรียน
4. ได้เรียนรู้การเข้าพบ ติดต่อประสานงานร่วมกับทางโรงเรียน
5. ได้เรียนรู้การทางานร่วมกับผู้อื่น

More Related Content

( รู้เท่าทันความคิด เปลี่ยนชีวิตให้มีสุข )