ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
การตั้งชื่อให้๶ป็Ȩิริมงคลแบบไทย
ในความเชื่อของคนไทยในสมัยก่อนการตั้งชื่อที่มี
ความหมายที่ดีแฝงอยู่จะทาให้เป็นสิริมงคลแก่บุคคล
นั้นคนไทยจึงนิยมให้พระสงฆ์ตั้งชื่อแก่บุตรเพื่อที่จะ
ได้ความหมายที่ดีและได้รับความเป็นสิริมงคลแก่บุตร
แต่ในปัจจุบันการตั้งชื่อของคนไทยเริ่มหันมาเป็นตั้ง
ชื่อแบบชาวต่างชาติซึ่งทาให้ชื่อของคนไทยใน
ปัจจุบันอาจจะมีความหมายที่แปลกหรือผิดเพี้ยนไป
จากเดิม
คือสิ่งที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นเป็นคาต่างๆ เพื่อใช้
แทนคน สัตว์ สิ่งของ หรือสิ่งที่เป็นนามธรรมที่
สามารถสัมผัสหรือรู้สึกได้ เพื่อนามาเรียกหรือ
อ้างถึง การใช้ชื่อเรียกแทนบุคคลเป็นสิ่งที่ควรที่
ตั้งแต่เกิดหากไม่ได้เป็นคนเร่ร่อนตามกฎหมาย
แล้วบังคับให้ประชาชนทุกคนต้องมีชื่อตั้งแต่
เกิด ซึ่งชื่ออาจจะซ้ากันได้อารยชนมักจะตั้งชื่อ
คน สัตว์ สิ่งของ ด้วยความประสงค์ที่ว่า ต้องการ
ให้มันแทนสิ่งนั้นจริง ๆ หรืออาจกล่าวได้ว่าชื่อ
นั้นเป็นตัวตนที่แท้จริงของวัตถุที่บอกเล่า
เอกลักษณ์ต่าง ๆ ไว้เช่น ผม ขน เล็บ ฯลฯ
ในสมัยรัชกาลที่ ๖ และ ๗ ชื่อคนไทย
เริ่มยาวขึ้นเป็นสองพยางค์ ถือว่าเก๋
ทันสมัยกว่าคนรุ่นพ่อแม่ อย่างชื่อของ
ลูกๆแม่พลอยคือ ประพนธ์ ประพันธ์
ประพัทธ์ และประไพ นอกจากนี้ก็มีชื่อ
อย่างสมใจ วิมล ยุพา
ชื่อคนไทยวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ ชื่อที่ทันสมัยในยุคหนึ่งก็
กลายเป็นล้าสมัยในอีกยุคหนึ่ง คงยากที่จะพบว่าหนูน้อย
ในปี ๒๐๐๐ (โดยเฉพาะคนกรุงเทพ) คนไหนคลอดออก
มาแล้วพ่อแม่จะให้ชื่อว่า ประพนธ์ หรือ สมใจ แต่ที่นิยม
กันมากการตั้งชื่อให้ถูกต้องตามหลัก หลักที่ว่านี้มีอยู่ ๒
หลัก คือตาม ตาราทักษาปกรณ์ และหลักตัวเลข แต่ใน
บทความนี้จะพูดถึงหลักทักษาปกรณ์เท่านั้น เพราะเป็น
หลักที่นิยมกันแพร่หลายมากที่สุด
ตาราทักษาปกรณ์ เรียกอีกอย่างว่า อัฏฐเคราะห์ มาจาก
อินเดีย เข้ามากับพุทธศาสนา เดิมนิยมใช้ตั้งฉายา
พระสงฆ์เมื่อบวช ตารานี้มีหลักอยู่ว่าการตั้งชื่อคนควรให้
สอดคล้องกับสิริมงคล ๗ อย่าง คือ อายุ เดช ศรี มูละ
อุตสาหะ มนตรี บริวาร และหลีกเลี่ยงข้อไม่ดี ๑ อย่างคือ
กาลกิณี โดยเอาตัวอักษรและวันเกิดเป็นหลักในการตั้ง
ชื่อ
สันนิษฐานว่าปรากฏครั้งแรกในสมัยกรุงศรีอยุธยาดังที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรม
พระยาดารงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์ไว้ว่าเมื่อสมเด็จพระนเรศวรสมภพยศเจ้าฟ้ายังไม่
มีในประเพณีกรุงศรีอยุธยาพระองค์เป็นราชนัดดาคงทรงพระยศเป็นพระองค์เจ้า ฝรั่งจึง
เรียกในจดหมายเหตุแห่งในสมัยนั้นว่า "The Black Prince" ตรงกับ "พระองค์ชายดา"
และเรียกพระอนุชาเอกาทศรถว่า "The White Prince" ตรงกับ "พระองค์ชายขาว"การ
ตั้งชื่อเล่นปรากฏเป็นที่นิยมกันมากขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในสมัยนั้นพระนามของพระมหากษัตริย์ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์มักเป็นคามาก
พยางค์ ทาให้พระนามยาว และเรียกไม่สะดวก จึงต้องมีวิธีเรียกให้สั้นจนกลายเป็น "ชื่อ
เล่น"แต่กระนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับกาลเทศะของผู้พูดเป็นสาคัญจะเห็นได้ว่าวิวัฒนาการของ
ชื่อเล่นมีความเกี่ยวข้องกับชื่อจริง เมื่อสภาพสังคมค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป คือเน้นความ
เสมอภาคมากขึ้น สามัญชนจึงตั้งชื่อจริงยาวขึ้นและเรียกยากขึ้นเช่นเดียวกับพระนาม
ของเจ้านาย ด้วยเหตุนี้ชื่อเล่นจึงปรากฏใช้ในทานองเดียวกัน อย่างไรก็ตามการเรียกชื่อ
เล่นที่ย่อมาจากชื่อจริงอาจก่อให้เกิดความสับสนได้ เพราะชื่อเล่นเดียวกันอาจมาจากชื่อ
จริงที่ต่างกันได้หลายชื่อ
การตั้งชื่อให้๶ป็Ȩิริมงคลแบบไทย

More Related Content

การตั้งชื่อให้๶ป็Ȩิริมงคลแบบไทย