ݺߣ
Submit Search
ประวัติความเป็Ȩาประพณีลอยกระทง
•
0 likes
•
1,197 views
Ploy Wanida
1 of 4
Download now
Download to read offline
More Related Content
ประวัติความเป็Ȩาประพณีลอยกระทง
1.
ประว ัติความเปนมาประเพณีลอยกระทง ็ ลอยกระทง (Loi
Krathong Day) เป็ นประเพณี ของไทยที่ปฏิบติสืบต่อกันมาแต่โบราณ งานลอยกระทง ั เริ่ มทาตั้งแต่ กลางเดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 ซึ่ งเป็ นฤดูน้ าหลาก น้ าจะเต็มสองฝั่งแม่น้ า ที่นิยมมากคือ ช่วง วันเพ็ญเดือน 12 เพราะพระจันทร์ เต็มดวง ทาให้แม่น้ าใสสะอาด แสงจันทร์ ส่องเวลากลางคืน เป็ น บรรยากาศที่สวยงาม เหมาะแก่การลอยกระทง เดิมพิธีลอยกระทงเรี ยกว่า พระราชพิธีจองเปรี ยงชักโคม ลอยโคม ซึ่งเป็ นพิธีของพราหมณ์ เพื่อบูชาพระเป็ นเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ครั้นคนไทยรับนับถือพระพุทธศาสนา ก็ทาพิธียกโคมเพือบูชาพระบรมสารี ริกธาตุ พระจุฬามณี ณ สวรรค์ ่ ชั้นดาวดึงส์ ลอยโคมบูชาพระพุทธบาท ณ หาดทรายแม่น้ านัมมทานที ประเทศอินเดีย การลอยกระทง ตามสายน้ านี้ นางนพมาศ สนมเอกของพระร่ วงเจ้ากรุ งสุ โขทัย คิดทากระทงรู ปดอกบัว และรู ปต่างๆถวาย พระร่ วงทรงให้ลอยกระทงตามสายน้ าไหล ในหนังสื อ ตารับท้าวศรี จุฬาลักษณ์ พระร่ วง ตรัสว่า "แต่นี่สืบไปเบื้องหน้า โดยลาดับกษัตริ ยในสยามประเทศ ถึงกาลกาหนดนักขัตฤกษ์วนเพ็ญเดือน 12 ์ ั ให้ทาโคมลอย เป็ นรู ปดอกบัวอุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมฆทานที ตราบเท่ากัลปาวสาน" ครั้นถึงสมัยรัตนโกสิ นทร์ มีการทากระทงขนาดใหญ่และสวยงาม ดังพระราชพงศาวดารกรุ งรัตนโกสิ นทร์ ่ ของเจ้าพระยาทิพาราชวงศ์ กล่าวไว้วา
2.
"ครั้ นมาถึงเดือน 12
ขึ้น 14 ค่า 15 ค่า แรมค่าหนึ่งพิธีจองเปรี ยงนั้น เดิมได้โปรดให้ขอแรง พระบรมวงศานุ วงศ์ฝ่ายหน้า ฝ่ ายใน และข้าราชการที่มีกาลังพาหนะมาทากระทงใหญ่ ผูถูกเกณฑ์ต่อเป็ นถังบ้าง ทาเป็ นแพ ้ หยวกบ้าง กว้าง 8 ศอกบ้าง 9 ศอกบ้าง กระทงสู งตลอดยอด 10 ศอก 11 ศอก ทาประกวดประขันกันต่างๆ ทา อย่างเขาพระสุ เมรุ ทวีปทั้ง 4 บ้าง และทาเป็ นกระจาดชั้นๆบ้าง วิจิตรไปด้วยเครื่ องสด คนทาก็นบร้อย คิดใน ั การลงทุนทากระทงทั้งค่าเลี้ยงคนและพระช่าง เบ็ดเสร็ จก็ถึง 20 ชังบ้าง ย่อมกว่า 20 ชังบ้าง" ่ ่ ปัจจุบนประเพณี ลอยกระทง มีการจัดงานกันแทบทุกจังหวัด ถือเป็ นงานประจาปี ที่สาคัญ โดยเฉพาะ ที่ ั จังหวัดเชียงใหม่ มีการจัดขบวนแห่กระทงใหญ่ กระทงเล็ก มีการประกวดกระทง และประกวดธิ ดางาม ประจากระทงด้วย ส่ วนการลอยโคม ชาวบ้านทางภาคเหนือและภาคอีสานยังนิยมทากัน ชาวบ้านจะนากระดาษ มาทาเป็ น โคมขนาดใหญ่สีต่างๆ ถ้าลอยตอนกลางวัน จะทาให้โคมลอยโดยใช้ควันไฟ ถ้าเป็ นเวลากลางคืน ก็จะใช้คบ ่ จุด ที่ปากโคม ให้ควันพุงเข้าในโคม ทาให้ลอยไปตามกระแสลมหนาว เวลากลางคืนแลเห็นแสงไฟโคม บน ท้องฟ้ า พร้อมกับแสงจันทร์ และดวงดาวสวยงามมากทีเดียว เรื่องน่ ารู้ ใน วันลอยกระทง คติทมาเกียวกับวันลอยกระทง ี่ ่ ่ คติที่มาเกี่ยวกับวันลอยกระทงมีอยูหลายตานาน ดังนี้ 1. การลอยกระทง เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา ่ 2. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระผูเ้ ป็ นเจ้าตามคติพราหมณ์ คือบูชาพระนารายณ์ซ่ ึ งบรรทมสิ นธุ์อยูใน มหาสมุทร 3. การลอยกระทง เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งเสด็จไปจาพรรษาอยู่ บนสวรรค์ช้ นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา ั 4. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า ที่หาดทรายริ มแม่น้ านัมมทานที เมื่อคราว เสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ 5. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระจุฬามณี บนสวรรค์ ซึ่งเป็ นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า 6. การลอยกระทง เพื่อบูชาท้าวพกาพรหม บนสวรรค์ช้ นพรหมโลก ั
3.
่ 7. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระอุปคุตตะเถระ
ซึ่ งบาเพ็ญเพียรบริ กรรมคาถาอยูในท้องทะเลลึกหรื อ สะดือทะเล ประวัติการลอยกระทงในเมืองไทย การลอยกระทงในเมืองไทย มีมาตั้งแต่ครั้งสุ โขทัย เรี ยกว่า การลอยพระประทีปหรื อลอยโคม เป็ นงาน นักขัตฤกษ์รื่นเริ งของประชาชนทัวไป ต่อมานางนพมาศหรื อท้าวศรี จุฬาลักษณ์สนมเอกของพระร่ วง ได้คิด ่ ประดิษฐ์ดดแปลงเป็ นรู ปกระทงดอกบัวแทนการลอยโคม การลอยกระทงหรื อลอยโคมในสมัยนางนพมาศ ั ่ กระทาเพื่อเป็ นการสักการะรอยพระพุทธบาทที่แม่น้ านัมมทานที ซึ่ งเป็ นแม่น้ าสายหนึ่งอยูในแคว้น ทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปั จจุบนเรี ยกว่า แม่ นาเนรพุททา ั ้ การลอยกระทงในปัจจุบัน การลอยกระทงในปัจจุบน ยังคงรักษารู ปแบบเดิมเอาไว้ได้ตามสมควร เมื่อถึงวันเพ็ญพระจันทร์เต็ม ั ดวงในเดือน 12 ชาวบ้านจะจัดเตรี ยมทากระทงจากวัสดุที่หาง่ายตามธรรมชาติ เช่น หยวกกล้วยและดอกบัว นามาประดิษฐ์เป็ นกระทงสวยงาม ปักธูปเทียนและดอกไม้เครื่ องสักการบูชา ก่อนทาการลอยในแม่น้ าก็จะ อธิ ษฐานในสิ่ งที่มุ่งหวัง พร้อมขอขมาต่อพระแม่คงคา ตามคุมวัดหรื อสถานที่จดงานหลายแห่ง มีการประกวดกระทง ประกวดนางนพมาศ และมีมหรสพสมโภช ้ ั ในตอนกลางคืน นอกจากนั้นยังมีการจุดดอกไม้ไฟ พลุ ตะไล ซึ่ งในการเล่นต้องระมัดระวังเป็ นพิเศษ วัสดุที่ นามาใช้กระทง ควรเป็ นของที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ เหตุผลของการลอยกระทง สรุ ปเหตุผลของการลอยกระทงในประเทศไทยดังนี้ 1. เพื่อขอขมาแม่คงคา เพราะได้อาศัยนาท่านกินและใช้ และอีกประการหนึ่งมนุ ษย์มกจะทิ้งและถ่าย ั สิ่ งปฏิกลลงไปในนาด้วย ู 2. เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที ซึ่งประพุทธเจ้าทรงประทับรอยพระบาทประดิาฐานไว้ บนหาดทรายที่แม่น้ านัมมทานที ในประเทศอินเดีย 3. เพื่อลอยทุกข์โศกโรคภัย และสิ่ งไม่ดี คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์ 4. เพื่อบูชาพระอุปคุต ชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพแกพระอุปคุตอย่างสู ง ซึ่ งตามตานานเล่าว่า เป็ นพระมหาเถระรู ปหนึ่งที่มีอิทธิ ฤทธิ์ มากสามารถปราบพญามารได้ การลอยกระทงไม่มีพิธีรีตอง เพียงแต่ ขอให้มีกระทงจะทาด้วยอะไรก็ได้ เช่น ใบตอง การกล้วย กาบพลับพลึง เปลือกมะพร้าว กระดาษ จุดธูป เทียนปักที่กระทงแล้วอธิษฐานตามที่ตนปรารถนา เสร็ จแล้วจึงลอยไปที่แม่นาลาคลอง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเทศกาล "สี สันแห่ งสายนา มหกรรมลอยกระทง" เพื่อส่ งเสริ ม ้ การท่องเที่ยวทางน้ าตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน นอกจากจะมีกิจกรรมเด่น ในหลายพื้นที่ เช่น งานลอย
4.
กระทงกรุ งเทพมหานคร, ประเพณี
ลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุ โขทัย, ประเพณี ยเี่ ป็ ง จังหวัด เชียงใหม่, ประเพณี ลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวงฯ จังหวัดตาก และประเพณี ลอยกระทงตามประทีป จังหวัดพระนครศรี อยุธยา นอกจากนี้แล้วยังเป็ นการส่ งเสริ มประชาสัมพันธ์งานประเพณี ลอยกระทงให้เป็ น สิ นค้าทางการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ (World Events) เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเดินทางของ นักท่องเที่ยวตลอดเดือนต่อไป วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์และส่ งเสริ มให้เกิดการมีส่วนร่ วมในการอนุรักษ์และฟื้ นฟู ประเพณี อันดีงาม ของไทย(โดยเฉพาะประเพณี ลอยกระทงของแต่ละท้องถิ่น) ไว้สืบทอดต่อไป ๒. เพื่อส่ งเสริ มให้งานประเพณี ลอยกระทง เป็ นสิ นค้าทางการท่องเที่ยว โดยสามารถนาเสนอในรายการนา เที่ยวเป็ นประจาทุกปี ในอนาคตอย่างยังยืน ่ ๓. เพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวและรายได้ พร้อมทั้งขยายวันพักของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ๔. เพื่อกระตุนให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศในช่วง ้ เทศกาลประเพณี ลอยกระทง และการท่องเที่ยวทางน้ าตลอดเดือนพฤศจิกายน
Download