ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
กลองสะบัึϸัย
กลองสะบัึϸัย เป็ นกลองพืนเมืองภาคเหนือ สั นนิษฐานว่ าเป็ นกลองที่
้
ย่ อส่ วนดัดแปลงมาจากกลองปูจา หรือกลองบูชา โดยมีลูกตุบเป็ นกลองขนาด
เล็กอยู่ 3 ลูก ติดกับตัวกลองใบใหญ่ ถือว่ าเป็ นกลองศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ใช้ ใน
การออกศึกสงคราม และประกอบพิธีกรรมต่ างๆ มีวธีการตีอยู่หลายทานอง ส่ วน
ิ
ใหญ่ ใช้ ตีในทางการศึก แต่ ในการตีทานองชนะศึกนั้นไม่ ต้องมีลูกตุบ ภายหลังจึง
ได้ เอาลูกตุบออกกลายมาเป็ น กลองสะบัึϸัยแบบไม่ มลูกตุบ ครั้นหลังจากหมด
ี
ศึกสงคราม กลองส่ วนใหญ่ จะถูกเก็บรักษาไว้ ทวด ในสมัยต่ อมามีคนนามาใช้ ตี
ี่ ั
ในโอกาสต่ างๆ เพือเป็ นพุทธบูชาด้ วย
่
เนื่องจากตัวกลองมีขนาดใหญ่ และมีนาหนักมาก ภายหลังเมือมีการนาไปเข้ า
้
่
ในขบวนแห่ จึงได้ ลดขนาดให้ สามารถใช้ คนหามได้ 2 คน โดยย่ อขนาดให้ ลดลง
ประมาณ 1 ใน 3 ส่ วน อย่ างทีเ่ ห็นใช้ ในปัจจุบน หน้ ากลองสะบัึϸัย โดยทัวไปมีเส้ น
ั
่
ผ่ านศูนย์ กลางประมาณ 60 ซม. ความกว้ างของตัวกลองประมาณ 30 ซม. ขึงหนังสอง
หน้ า รั้งด้ วยเส้ นเชือกหรือเส้ นหนัง ไม้ ที่ใช้ ตีมี 2 ข้ าง
สาหรับลูกตุบปัจจุบนยังมีการใช้ งานอยู่ ซึ่งทั้ง 3 ใบ มีขนาดแตกต่ างกันไป ลูกใหญ่ สุดหน้ า
ั
กลองมีเส้ นผ่ านศูนย์ กลางประมาณ 25 ซม. ลูกรองลงมาประมาณ 22 ซม. และลูกเล็กประมาณ
20 ซม. ความยาวของหุ่นลูกตุบประมาณ 26 ซม. ขึนหนังหน้ าเดียว โดยการตอกหมุดซึ่งทาด้ วย
้
ไม้ เป็ นลิมเล็กๆ ตอกยึดไว้ ให้ เหลือปลายหมุดยืนออกมาในลักษณะสลับฟันปลา ตั้งแต่ อดีตจนถึง
่
่
ปัจจุบนพัฒนาการของกลองสะบัึϸัยพอสรุ ปได้ เป็ น 3 ยุค คือ
ั
•

ยุคแรก เป็ นกลองสองหน้ าขนาดใหญ่ มีลูกตุบ ทีมกเรียกว่ า กลองปูจาหรือกลองบูชา
่ ั
แขวนอยู่ในหอกลองของวัดต่ างๆ ลักษณะการตีมจังหวะหรือทานองทั้งช้ าและเร็ว ใช้ ประกอบ
ี
ศาสนกิจของสงฆ์

•

ยุคหลังสงคราม ระหว่ างไทยกับพม่ า เป็ นกลองสองหน้ า มีลูกตุบ แต่ มการย่ อส่ วนตัวกลอง
ี
ใหญ่ ให้ เล็กลง มีคานหามเพือสะดวกในการเคลือนย้ ายเรียกว่ า กลองสะบัึϸัยลูกตุบ เวลาตีมอ
่
่
ื
ข้ างหนึ่งจะถือ ไม้ แสะ ซึ่งทาจากหวายขนาดเล็กคล้ ายไม้ เรียวยาวประมาณ 40 ซม. อีกข้ างหนึ่ง
จะถือไม้ ตีกลอง อาจมีฉาบและฆ้ องประกอบด้ วยหรือไม่ กได้ ปัจจุบนเกือบสู ญหายไปแล้ ว มีผู้ทตี
็
ั
ี่
ได้ อยู่เพียงไม่ มากนัก
ยุคปัจจุบน เป็ นกลองสองหน้ า ไม่ มลูกตุบ ใช้ คนหาม 2 คน มีฉาบและฆ้ องตีประกอบ
ั
ี
จังหวะ และมักจะใช้ ไม้ แกะเป็ นรูปพญานาคทาสี สวยงามประดับไว้ ทตัวกลองด้ วย ส่ วนลีลาใน
ี่
การตีมลกษณะโลดโผน เร้ าใจ มีการใช้ อวัยวะหรือส่ วนต่ างๆของร่ างกาย เช่ น ศอก เข่ า ศีรษะ
ีั
ประกอบในการตีด้วย ซึ่งเป็ นทีนิยมแพร่ หลายมากในปัจจุบน
่
ั
โอกาสในการใช้ กลองสะบัึϸัย ยังมีปรากฏให้ เห็นในวรรณกรรมต่ างๆ
มากมาย เช่ น ใช้ ตีบอกสั ญญาณ, ใช้ แสดงเป็ นมหรสพ, ใช้ เป็ นเครื่องประโคมฉลองชัยชนะ และใช้
เป็ นเครื่องประโคมเพือความสนุกสนาน ในปัจจุบนศิลปะการตีกลองสะบัึϸัย ได้ นาชื่อเสี ยงมาสู่
่
ั
วัฒนธรรมพืนบ้ านล้ านนา อยู่ในฐานะตัวแทนทางวัฒนธรรม ซึ่งสามารถพบเห็นได้ ในโอกาส
้
ต่ างๆ เช่ น งานขันโตก งานพิธีต้อนรับแขกเมือง ขบวนแห่ เป็ นต้ น
กลองสะบัึϸัย
กลองสะบัึϸัย
กลองสะบัึϸัย
กลองสะบัึϸัย
กลองสะบัึϸัย
กลองสะบัึϸัย
จัดทำโดย ม.6/14
• นางสาวปริญญาพร วรินทร์ เลขที่ 12
• นางสาวรัมภา สัจจาธรรม เลขที่ 42
• นายภาณุพงศ์ กังตระกูล เลขที่ 43

More Related Content

Similar to กลองสะบัึϸัย (15)

PPT
คีตะการ ึϸตรีล้าȨา
บ่าวเมือง เจียงฮาย
PPT
คีตะการ ึϸตรีล้าȨา
บ่าวเมือง เจียงฮาย
PPT
คีตะการ ึϸตรีล้าȨา
บ่าวเมือง เจียงฮาย
PDF
๶ครื่องึϸตรีไทย ม.2ปี 56
อำนาจ ศรีทิม
PPT
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guestec5984
PPT
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guestec5984
PPTX
๶ครื่องึϸตรีไทย
love5710
PPT
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guest03bcafe
PPT
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guest98f4132
PPT
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guestec5984
PPT
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guestec5984
PPT
คีตะการ ึϸตรีล้าȨา
บ่าวเมือง เจียงฮาย
PPT
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guestec5984
PDF
เนื้อหาวิชา ดนตรีพื้นเมืองอีสาน แคน โดย นายชาติชาย พลจารย์
nongklongdondaeng school khonkaen 3
PDF
ึϸตรีพื้Ȩ้าน
Jakkrit Supokam
คีตะการ ึϸตรีล้าȨา
บ่าวเมือง เจียงฮาย
คีตะการ ึϸตรีล้าȨา
บ่าวเมือง เจียงฮาย
คีตะการ ึϸตรีล้าȨา
บ่าวเมือง เจียงฮาย
๶ครื่องึϸตรีไทย ม.2ปี 56
อำนาจ ศรีทิม
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guestec5984
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guestec5984
๶ครื่องึϸตรีไทย
love5710
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guest03bcafe
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guest98f4132
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guestec5984
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guestec5984
คีตะการ ึϸตรีล้าȨา
บ่าวเมือง เจียงฮาย
เครื่องึϸตรีพื้Ȩ้านไทย 4 ภาค
guestec5984
เนื้อหาวิชา ดนตรีพื้นเมืองอีสาน แคน โดย นายชาติชาย พลจารย์
nongklongdondaeng school khonkaen 3
ึϸตรีพื้Ȩ้าน
Jakkrit Supokam

More from puisunisa (20)

DOC
แบบร างนำเสนอโครงงาน
puisunisa
PPTX
กลองสะบัึϸัย
puisunisa
PDF
เฉลยข้อสอบปี 54
puisunisa
PDF
ข้อสอบปี 54
puisunisa
PDF
เฉลยข้อสอบปี 53.jpg
puisunisa
PDF
ข้อสอบปี 53
puisunisa
PDF
เฉลยข้อสอบปี 52
puisunisa
PDF
ข้อสอบ ปี 52
puisunisa
PDF
เฉลยข้อสอบปี 51
puisunisa
PDF
ข้อสอบ ปี 51
puisunisa
PDF
เฉลยข้อสอบปี 50
puisunisa
PDF
ข้อสอบ ปี 50
puisunisa
PDF
เฉลยข้อสอบปี 53.jpg
puisunisa
PDF
ข้อสอบปี 53
puisunisa
PDF
เฉลยข้อสอบปี 54
puisunisa
PDF
ข้อสอบปี 54
puisunisa
PDF
เฉลยข้อสอบปี 52
puisunisa
PDF
ข้อสอบ ปี 52
puisunisa
PDF
เฉลยข้อสอบปี 51
puisunisa
PDF
ข้อสอบ ปี 51
puisunisa
แบบร างนำเสนอโครงงาน
puisunisa
กลองสะบัึϸัย
puisunisa
เฉลยข้อสอบปี 54
puisunisa
ข้อสอบปี 54
puisunisa
เฉลยข้อสอบปี 53.jpg
puisunisa
ข้อสอบปี 53
puisunisa
เฉลยข้อสอบปี 52
puisunisa
ข้อสอบ ปี 52
puisunisa
เฉลยข้อสอบปี 51
puisunisa
ข้อสอบ ปี 51
puisunisa
เฉลยข้อสอบปี 50
puisunisa
ข้อสอบ ปี 50
puisunisa
เฉลยข้อสอบปี 53.jpg
puisunisa
ข้อสอบปี 53
puisunisa
เฉลยข้อสอบปี 54
puisunisa
ข้อสอบปี 54
puisunisa
เฉลยข้อสอบปี 52
puisunisa
ข้อสอบ ปี 52
puisunisa
เฉลยข้อสอบปี 51
puisunisa
ข้อสอบ ปี 51
puisunisa
Ad

กลองสะบัึϸัย

  • 2. กลองสะบัึϸัย เป็ นกลองพืนเมืองภาคเหนือ สั นนิษฐานว่ าเป็ นกลองที่ ้ ย่ อส่ วนดัดแปลงมาจากกลองปูจา หรือกลองบูชา โดยมีลูกตุบเป็ นกลองขนาด เล็กอยู่ 3 ลูก ติดกับตัวกลองใบใหญ่ ถือว่ าเป็ นกลองศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ใช้ ใน การออกศึกสงคราม และประกอบพิธีกรรมต่ างๆ มีวธีการตีอยู่หลายทานอง ส่ วน ิ ใหญ่ ใช้ ตีในทางการศึก แต่ ในการตีทานองชนะศึกนั้นไม่ ต้องมีลูกตุบ ภายหลังจึง ได้ เอาลูกตุบออกกลายมาเป็ น กลองสะบัึϸัยแบบไม่ มลูกตุบ ครั้นหลังจากหมด ี ศึกสงคราม กลองส่ วนใหญ่ จะถูกเก็บรักษาไว้ ทวด ในสมัยต่ อมามีคนนามาใช้ ตี ี่ ั ในโอกาสต่ างๆ เพือเป็ นพุทธบูชาด้ วย ่
  • 3. เนื่องจากตัวกลองมีขนาดใหญ่ และมีนาหนักมาก ภายหลังเมือมีการนาไปเข้ า ้ ่ ในขบวนแห่ จึงได้ ลดขนาดให้ สามารถใช้ คนหามได้ 2 คน โดยย่ อขนาดให้ ลดลง ประมาณ 1 ใน 3 ส่ วน อย่ างทีเ่ ห็นใช้ ในปัจจุบน หน้ ากลองสะบัึϸัย โดยทัวไปมีเส้ น ั ่ ผ่ านศูนย์ กลางประมาณ 60 ซม. ความกว้ างของตัวกลองประมาณ 30 ซม. ขึงหนังสอง หน้ า รั้งด้ วยเส้ นเชือกหรือเส้ นหนัง ไม้ ที่ใช้ ตีมี 2 ข้ าง
  • 4. สาหรับลูกตุบปัจจุบนยังมีการใช้ งานอยู่ ซึ่งทั้ง 3 ใบ มีขนาดแตกต่ างกันไป ลูกใหญ่ สุดหน้ า ั กลองมีเส้ นผ่ านศูนย์ กลางประมาณ 25 ซม. ลูกรองลงมาประมาณ 22 ซม. และลูกเล็กประมาณ 20 ซม. ความยาวของหุ่นลูกตุบประมาณ 26 ซม. ขึนหนังหน้ าเดียว โดยการตอกหมุดซึ่งทาด้ วย ้ ไม้ เป็ นลิมเล็กๆ ตอกยึดไว้ ให้ เหลือปลายหมุดยืนออกมาในลักษณะสลับฟันปลา ตั้งแต่ อดีตจนถึง ่ ่ ปัจจุบนพัฒนาการของกลองสะบัึϸัยพอสรุ ปได้ เป็ น 3 ยุค คือ ั
  • 5. • ยุคแรก เป็ นกลองสองหน้ าขนาดใหญ่ มีลูกตุบ ทีมกเรียกว่ า กลองปูจาหรือกลองบูชา ่ ั แขวนอยู่ในหอกลองของวัดต่ างๆ ลักษณะการตีมจังหวะหรือทานองทั้งช้ าและเร็ว ใช้ ประกอบ ี ศาสนกิจของสงฆ์ • ยุคหลังสงคราม ระหว่ างไทยกับพม่ า เป็ นกลองสองหน้ า มีลูกตุบ แต่ มการย่ อส่ วนตัวกลอง ี ใหญ่ ให้ เล็กลง มีคานหามเพือสะดวกในการเคลือนย้ ายเรียกว่ า กลองสะบัึϸัยลูกตุบ เวลาตีมอ ่ ่ ื ข้ างหนึ่งจะถือ ไม้ แสะ ซึ่งทาจากหวายขนาดเล็กคล้ ายไม้ เรียวยาวประมาณ 40 ซม. อีกข้ างหนึ่ง จะถือไม้ ตีกลอง อาจมีฉาบและฆ้ องประกอบด้ วยหรือไม่ กได้ ปัจจุบนเกือบสู ญหายไปแล้ ว มีผู้ทตี ็ ั ี่ ได้ อยู่เพียงไม่ มากนัก
  • 6. ยุคปัจจุบน เป็ นกลองสองหน้ า ไม่ มลูกตุบ ใช้ คนหาม 2 คน มีฉาบและฆ้ องตีประกอบ ั ี จังหวะ และมักจะใช้ ไม้ แกะเป็ นรูปพญานาคทาสี สวยงามประดับไว้ ทตัวกลองด้ วย ส่ วนลีลาใน ี่ การตีมลกษณะโลดโผน เร้ าใจ มีการใช้ อวัยวะหรือส่ วนต่ างๆของร่ างกาย เช่ น ศอก เข่ า ศีรษะ ีั ประกอบในการตีด้วย ซึ่งเป็ นทีนิยมแพร่ หลายมากในปัจจุบน ่ ั
  • 7. โอกาสในการใช้ กลองสะบัึϸัย ยังมีปรากฏให้ เห็นในวรรณกรรมต่ างๆ มากมาย เช่ น ใช้ ตีบอกสั ญญาณ, ใช้ แสดงเป็ นมหรสพ, ใช้ เป็ นเครื่องประโคมฉลองชัยชนะ และใช้ เป็ นเครื่องประโคมเพือความสนุกสนาน ในปัจจุบนศิลปะการตีกลองสะบัึϸัย ได้ นาชื่อเสี ยงมาสู่ ่ ั วัฒนธรรมพืนบ้ านล้ านนา อยู่ในฐานะตัวแทนทางวัฒนธรรม ซึ่งสามารถพบเห็นได้ ในโอกาส ้ ต่ างๆ เช่ น งานขันโตก งานพิธีต้อนรับแขกเมือง ขบวนแห่ เป็ นต้ น
  • 14. จัดทำโดย ม.6/14 • นางสาวปริญญาพร วรินทร์ เลขที่ 12 • นางสาวรัมภา สัจจาธรรม เลขที่ 42 • นายภาณุพงศ์ กังตระกูล เลขที่ 43