ๅๅๅ
- 2. ความหมายของการฝึกอบรม
การฝึกอบรม ( Training) และการพัฒนา
(Development) ทั้งสองคำานี้มีความหมายคล้ายคลึงกัน
และเป็นกระบวนการที่เกี่ยวเนื่องกัน ดังมีผู้ให้ความหมายไว้
ดังนี้
การฝึกอบรม หมายถึงกระบวนการที่มีระเบียบ
แบบแผนซึ่งมุ่งหมายที่จะพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้
(Knowledge) และความชำานาญ (skills) เพื่อ
วัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะของ
องค์การหรือหน่วยงานต่าง ๆ
ส่วนคำาว่าการพัฒนา (development) มี
ความหมายใกล้เคียงกันกับการฝึกอบรม ต่างกันเพียง
เล็กน้อยตรงที่ การฝึกอบรมนั้นเป็นการเตรียมคนเพื่อ
ทำางานในปัจจุบัน ส่วนการพัฒนานั้นเป็นการเตรียม
คนเพื่อให้ทำางานในอนาคต ( Training is for
- 8. 3.วางโครงการในการฝึกกอบรม
(Design training program) จัดการวางโครงการ
ในการฝึกอบรมขึ้นมา ซึ่งเป็นการวางแผนว่า จะทำา
อะไร อย่างไร เมื่อไร ที่ไหน ใช้งบประมาณเท่าไร
ฯลฯ เป็นการกำาหนดรายละเอียดของการฝึกอบรมที่จะ
จัดขึ้น
4.เสนอโครงการเพื่อรับความเห็นชอบ
(Propose program to top management)
เมื่อเขียนโครงการเสร็จแล้วก็เสนอต่อผู้บังคับบัญชาที่
มีอำานาจหน้าที่อนุมัติให้มีการฝึกอบรม เพราะการฝึก
อบรมย่อมเกี่ยวพันกับเรื่องอื่น ๆ ด้วย เช่น งบ
ประมาณที่จะใช้ในการฝึกอบรม วันเวลาทำางานของ
ผู้รับการฝึกอบรม เป็นต้น
- 9. 5.จัดวางระเบียบปฏิบัติในการดำาเนิน
การ(Issue regulations on training) จัดวางระเบียบต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องในการดำาเนินให้เหมาะสมและถูกต้อง
6.การประเมิน (Evaluation) เมื่อเสร็จสิ้นการฝึก
อบรมแล้วก็มีการประเมินผลว่าผู้เข้ารับการฝึก
อบรมมีความรึความเข้าใจหรือความชำานาญงาน
หรือไม่เพียงใด เพื่อจะได้ทราบและนำาไปปรับปรุง
แก้ไขต่อไป
7.การติดตามผล (Follow-up) เมื่อผู้รับการ
ฝึกอบรมกลับมาปฏิบัติงานแล้วก็ติดตามผลดูว่า
ปฏิบัติงานดีขึ้นหรือไม่ มีการเปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะเป็นเรื่องชี้ให้
เห็นว่าการฝึกอบรมที่ผ่านมานั้นได้ดีหรือไม่เพียง
- 10. ประเภทของการฝึกประเภทของการฝึก
อบรมอบรม
1. การปฐมนิเทศ ( Orientation ) ใช้
สำาหรับผู้เข้าทำางานใหม่ จุดมุ่งหมายของการ
ปฐมนิเทศก็คือ แนะนำาให้พนักงานใหม่ได้รู้จักกับ
สภาพแวดล้อมต่างๆ ภายในองค์การทั้งเป็นวัตถุ
สิ่งของและคน เช่น แนะนำาให้รู้จักกับสถานที่ทำางาน
สภาพงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระเบียบปฏิบัติต่างๆ
ที่ควรทราบ และแนะนำาให้รู้จักกับบุคคลที่ทำางาน
เกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้เพื่อให้พนักงานใหม่ได้ปรับตัวให้
เข้ากับสังคม ( Socializations ) ขององค์กรนั้นได้
อย่างรวดเร็ว และลดความเครียดต่างๆอันจะเกิดขึ้น
- 11. 2. การฝึกอบรมโดยการให้ทำางานใน
สภาพจริง (on – the job training)
วิธีนี้ก็คือให้คนที่จะรับการฝึกอบรมนั้นจะได้
ทำางานในสภาพจริงของตน โดยมอบให้ผู้บังคับ
บัญชาหรือพนักงานอาวุโส(พี่เลี้ยง)ที่มีความรู้ความ
เชี่ยวชาญในงานนั้นเป็นผู้ให้การแนะนำาสั่งสอ น ผู้
เข้ารับการอบรมอาจจะเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม
ก็ได้ ลำาดับขั้นของการฝึกอบรมอาจทำาได้ดังนี้
ก. อธิบายให้ทราบถึงหลักและวิธีโดยทั่วไป
ข. สาธิตให้ดูจากของจริง
ค. ให้ผู้เข้ารับการฝึกทดลองปฏิบัติจริง
ง. แก้ไขข้อบกพร่องและชี้แจงให้ผู้เข้ารับการฝึก
อบรมทราบ
จ. ติดตามดูการทดลองการปฏิบัติงานและให้
- 13. 4.การฝึกงาน ( Internship )
คือ การฝึกอบรมที่เกิดขึ้นจากการที่สถาน
ศึกษาได้ให้การศึกษาในภาคทฤษฏีแก่
นักศึกษาไปจนจบภาคทฤษฏี เสร็จแล้วก็จัด
ให้นักศึกษาเล่านี้ออกไปฝึกงานในองค์การ
ของเอกชนหรือของรัฐบาลเพื่อจะให้เกิด
ความชำานาญในวิชาชีพที่ได้เล่าเรียนมา
การฝึกอบรมประเภทนี้มักจะใช้กับอาชีพที่
ใช้ความรู้ความชำานาญ เช่น หมอ
ทนายความ นักบัญชี นักธุรกิจ ครู เป็นต้น
- 14. 5. การฝึกอบรมในห้องทดลอง
ปฏิบัติงาน ( Vestibule Training)
การฝึกอบรมประเภทนี้จัดขั้นใน
ห้องเรียน หรือห้องฝึกอบรม มีลักษณะคล้าย
กับสถานที่ทำางานจริงทั้งเครื่องมือและสภาพ
การทำางาน สำาหรับการฝึกอบรมประเภทง่าย ๆ
และใช้ระยะเวลาสั้นใช้เพื่อฝึกหัดคนจำานว
นมากๆ
6. การจัดประชุมหรือถูกปัญหา
(Conference or Discussion)
การอบรมวิธีนี้ผู้เข้าอบรมส่วนมาก
ต้องมีพื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาโดยตรงก่อน
- 15. 7. การอบรมในห้องบรรยาย (Classroom
Training Method) มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้
สามารถทำาการอบรมแก่ผู้เข้าอบรมเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ
โดยอาศัยครูผู้สอนวิธีนี้มักจะเหมาะสมกับเรื่องที่จะ
ต้องทำาการอบรม
8. การจัดการเรียนแบบโปรแกรม
( ProgramInstruction)
เป็นวิธีการจัดเรื่องรางที่ต้องการให้เรียนรู้ในรูป
ของคู่มือหรือเรียกว่า โปรแกรมการเรียนให้ผู้เรียน
เรียนรู้ด้วนตนเอง โดยเรียนรู้เป็นขั้นตอนแต่ละขั้นมี
การประเมินผลด้วยตนเองได้
- 21. การให้มีประสบการณ์จากการการให้มีประสบการณ์จากการ
ปฏิบัติงานปฏิบัติงาน
วิธีนี้เป็นการฝึกอบรมจากการให้วิธีนี้เป็นการฝึกอบรมจากการให้
ทำางานแยกเป็นทำางานแยกเป็น 44 วิธีก็คือวิธีก็คือ
1. การทดลองเรียนงาน (Understudies)
คือผู้ที่จะได้รับการฝึกอบรมจะถูกสมมติให้ได้รับตำาแหน่ง โดย
มีหน้าที่และความรับผิดชอบในตำาแหน่งทุกอย่าง สามารถทำาได้หลาย
วิธี เช่น หัวหน้าอาจเลือกลูกน้องคนหนึ่งให้เป็นผู้ทดลองงานโดยสอน
ให้รู้วิธีและปัญหาในการปฏิบัติงานประจำาวันหรือหัวหน้าอาจจะลาหยุด
งานชั่วคราวเพื่อพักผ่อนหรือไปตรวจงานหรือเจ็บป่วยแล้วเลือกผู้ใต้
บังคับบัญชามาปฏิบัติแทน อีกวิธีหนึ่งโดยการแต่งตั้งให้ลูกน้องคนใด
คนหนึ่งมาทำาหน้าที่ผู้ช่วยโดยมอบงานหลาย ๆ อย่างให้ผู้ช่วยทำา ซึ้ง
อาจมอบงานให้ทำาเป็นอย่าง ๆ ไป
2. การหมุนเวียนงาน (Job Rotation)
คือ การแต่งตั้งให้ดำารงตำาแหน่งงานโดย
หมุนเวียนเปลี่ยนกันไปให้ทุกคนมีโอกาสทำางานทุก
ตำาแหน่งชั่วระยะเวลาหนึ่ง โดยปกติระหว่าง 6
เดือนถึง 2 ปี ผู้ที่ควรจะได้รับการอบรมโดยวิธีนี้
ควรจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงพอสมควร เช่น ระดับ
first-line ,supervisor ไม่ใช่ตำาแหน่งที่ตำาเกินไป