ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
กล้วย (Banana)
กล้วย
กล้วย (Banana) ที่นิยมรับประทานกันในบ้านเรานั้นมีอยู่
หลากหลายสานพันธุ์ เช่น กล้วยหอมกล้วยน้้าว้า กล้วยไข่ กล้วยหักมุม
เป็นต้น แต่ส้าหรับต่างชาติแล้วกล้วยที่นิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกล้วย
หอม เนื่องจากกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าพูดถึงเรื่องประโยชน์แล้วมี
งานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุชัดเจนว่าการรับประทานกล้วยแค่ 2 ลูกจะช่วยเพิ่ม
พลังงานในร่างกายได้เทียบเท่ากับการออกก้าลังกายถึง 90 นาทีเลย
ทีเดียว! เพราะกล้วยอุดมไปด้วยน้้าตาลจากธรรมชาติรวมถึง 3 ชนิดเลย
ทีเดียวนั่นก็คือ ซูโครส กลูโคส และฟรุคโทส ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่
ร่างกายนั่นเอง
กล้วย
นอกจากนี้แล้วในกล้วยยังอุดมไปด้วยเส้นใยและกากอาหาร และยัง
วิตามินและแร่ธาตุนาๆชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็กธาตุ
ฟอสฟอรัส ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน
เอ วิตามินบี6 วิตามินบี12 และ วิตามินซี เป็นต้น
คุณรู้หรือไม่ผลไม้อย่าง แอปเปิ้ลที่ขึ้นชื่อเรื่องความมีประโยชน์ก็ยังแพ้
กล้วยเพราะว่าในกล้วยนั้นมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆมากกว่าแอปเปิ้ลถึง 2
เท่า โดยมีคาร์โบไฮเดรตมากกว่า 2 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่า 3 เท่า มีโปรตีน
มากกว่า 4 เท่า วิตามินเอและธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่าด้วยกัน!! โดยการกิน
กล้วยจะให้ดีที่สุดคือกินตอนเช้าเพื่อจะช่วยให้ระบบต่างๆในร่างกายท้างาน
ได้ดี และการกินกล้วยทุกวันวันละ 2 ผลถือเป็นสิ่งที่ดีและวิเศษมากๆ จะ
กล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วยน้้าว้าก็ได้ทั้งนั้น
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วย ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 89 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 22.84 กรัม
น้้าตาล12.23 กรัม
เส้นใย 2.6 กรัม
ไขมัน 0.33 กรัม
โปรตีน 1.09 กรัม
วิตามินบี1 0.031 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี2 0.073 มิลลิกรัม 6%
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วย ต่อ 100 กรัม
วิตามินบี3 0.665 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี5 0.334 มิลลิกรัม 7%
วิตามินบี6 0.4 มิลลิกรัม 31%
วิตามินบี9 20 ไมโครกรัม 5%
โคลีน 9.8 มิลลิกรัม 2%
วิตามินซี 8.7 มิลลิกรัม 10%
ธาตุเหล็ก 0.26 มิลลิกรัม 2%
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วย ต่อ 100 กรัม
ธาตุแมกนีเซียม 27 มิลลิกรัม 8%
ธาตุแมงกานีส 0.27 มิลลิกรัม 13%
ธาตุฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม 3%
โพแทสเซียม 358 มิลลิกรัม 8%
ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
ธาตุสังกะสี 0.15 มิลลิกรัม 2%
ธาตุฟลูออไรด์ 2.2 ไมโครกรัม
ประโยชน์ของการกินกล้วย
ช่วยลดกลิ่นปากได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ควรทานหลังตื่นนอนตอนเช้าทันที
แล้วค่อยแปรงฟัน และถ้าเป็นกล้วยน้้าว้าจะยิ่งช่วยลดกลิ่นปากได้ดีขึ้น
กล้วย ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ
กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่ส้าคัญและจ้าเป็นต่อร่างกาย
เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม คาโบไฮเดรต โปรตีน
วิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามินบี12 และวิตามินซี
ช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมองของคุณ เพราะมีสารที่ช่วยท้าให้มีเกิดสมาธิและมี
การตื่นตัวตลอดเวลา
กล้วยก็มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเหมือนกันนะ ที่ช่วยในการชะลอความแก่ตัว
ของร่างกายนั่นเอง
กล้วยมีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้ เพราะช่วยปรับระดับน้้าตาลในเลือก
ช่วยให้ลดอาการอยากกินของจุกจิกลงได้พอสมควร
ประโยชน์ของการกินกล้วย
ส้าหรับผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ กล้วยคือค้าตออบส้าหรับคุณ
อาการหงุดหงิดยามเช้า กล้วยก็ช่วยคุณได้เหมือนกัน
ช่วยลดอาการหงุดหงิดของผู้หญิงในช่วงประจ้าเดือนมา
ช่วยลดอาการเมาค้างได้ดีระดับหนึ่ง เพราะจะช่วยชดเชยน้้าตาลที่
ร่างกายขาดไปในขณะดื่มแอลกอฮอล์
เป็นตัวช่วยส้าหรับผู้ที่ต้องการอยากเลิกสูบบุหรี่ เพราะในกล้วยมี
วิตามินเอ ซี บี6 บี12 โพรแทสเซียม และแมกนีเซียมที่ช่วยให้ร่างกายฟื้น
ตัวได้เร็วขึ้นจากการเลิกนิโคติน
ประโยชน์ของการกินกล้วย
ช่วยรักษาอาการท้องผูก เพราะกล้วยมีเส้นใยและกากอาหารซึ่งจะช่วยให้
ขับถ่ายได้อย่างปกติ
ช่วยบรรเทาอาการของริดสีดวงทวาร หรือในขณะขับถ่ายจะมีเลือดออกมา
ช่วยลดอาการเสียดท้อง ลดกรดในกระเพาะ การกินกล้วยจะท้าให้คุณรู้สึก
ผ่อนคลายจากอาการนี้ได้
ช่วยรักษาโรคโลหิตจางได้ เพราะในกล้วยมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งจะช่วยในการ
ผลิตฮีโมโกลบินในเลือด เพื่อรักษาภาวะโลหิตจางหรือผู้ที่อยู่ในสภาวะขาด
ก้าลัง
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง หรือเส้นเลือดฝอยแตกได้
ประโยชน์ของการกินกล้วย
ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดเส้นโลหิตแตกได้
ส้าหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะหรือกระเพาะอักเสบ การรับประทานกล้วย
บ่อยๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะกล้วยมีสภาพเป็นกลาง มีความนิ่มและ
เส้นใยสูง
ช่วยรักษาแผลในล้าไส้เรื้อรัง เพราะกล้วยมีสภาพเป็นกลาง ท้าให้ไม่เกิด
การละคายเคืองในผนังล้าไส้และกระเพาะอาหารด้วย
ประโยชน์ของการกินกล้วย
ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า ภาวะความเครียด เพราะกล้วยมีโปรตีนชิดหนึ่งที่
เรียกว่า Tryptophan ซึ่งช่วยในการผลิตสาร Serotonin หรือ
ฮอร์โมนแห่งความสุข จึงส่วนช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น
ช่วยลดอัตราการเกิดตะคริวบริเวณมือ เท้า และน่องได้
ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องของมารดาลงได้
กล้วย สรรพคุณช่วยบรรเทาอาการนิ่วในไตได้ในระดับหนึ่ง
ประโยชน์ของกล้วย
กล้วยก็สามารถน้ามาท้าเป็นมาส์
กหน้าได้เหมือนกันนะ โดยจะช่วย
เพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ช่วยลด
ความหยาบกร้านบนผิว วิธีง่ายๆ
เพียงแค่ใช้กล้วยสุกหนึ่งผลมาบดให้
ละเอียด แล้วเติมน้้าผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
จากนั้นคลุกให้เข้ากัน แล้วน้ามา
พอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
แล้วล้างออก
ประโยชน์ของกล้วย
เปลือกกล้วยสามารถแก้ผื่นคันที่เกิดจากยุงกัดได้ ด้วยการลองใช้ด้านใน
ของเปลือกกล้วยทาบริเวณที่ถูกยุงกัด อาการคันจะลดลงไปได้ระดับ
หนึ่ง
ประโยชน์ของกล้วย
เปลือกด้านในของกล้วยช่วยในการรักษาโรคหูดบนผิวหนังได้ โดยใช้
เปลือกกล้วยวางปดลงบริเวณหูดแล้วใช้เทปแปะไว้
ประโยชน์ของกล้วย
เปลือกกล้วยด้านในช่วยฆ่าเชื้อ ที่เกิดจากบาดแผลได้เหมือนกัน แต่
ยังไงก็ตามเมื่อแปะที่บาดแผลแล้วก็ควรจะเปลี่ยนเปลือกใหม่ทุกๆ 2
ชั่วโมงด้วย
ประโยชน์ของกล้วย
สรรพคุณกล้วย ยางกล้วยสามารถใช้ในการห้ามเลือดได้
ประโยชน์ของกล้วย
ก้านใบตอง ช่วยลดอาการบวมของฝี แต่ก่อนใช้ต้องต้าให้แหลก
เสียก่อน
ประโยชน์ของกล้วย
ใบอ่อนของกล้วย หากน้าไปอังไฟให้นิ่ม ก็ใช้ประคบแก้อาหารเคล็ดขัด
ยอกได้
ประโยชน์ของกล้วย
หัวปลี น้ามารับประทานเพื่อช่วยลดระดับน้้าตาลในเลือด และบ้ารุงและ
ขับน้้านมส้าหรับมารดาหลังคลอดบุตร
ประโยชน์ของกล้วย
ผลดิบน้ามาบดให้ละเอียดทั้งลูกผสมกับน้้าสะอาด รับประทานเพื่อแก้
อาการท้องเสีย
ประโยชน์ของกล้วย
ใบตอง อีกส่วนที่น้ามาใช้ประโยชน์กันอย่างมาก เช่น กระทง ห่อ
ขนม ห่ออาหาร ท้าบายศรี บวงสรวงต่างๆ

More Related Content

โครงงาน