ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
อุปกรณพื้นฐานคอมพิวเตอร
เสนอ
มิสเขมจิรา ปลงไสว
จัดทําโดย
น.ส.พรนภัส ประดิษฐวงศสิน
ม.6/4 เลขที่ 18
แรม (Ram)
RAM ยอมาจาก (Random Access Memory) เปนหนวยความจําหลักที่จําเปน หนวยความจํา ชนิดนี้จะสามารถเก็บขอมูลได
เฉพาะเวลาที่มีกระแสไฟฟาหลอเลี้ยงเทานั้นเมื่อใดก็ตามที่ไมมีกระแสไฟฟา มาเลี้ยง ขอมูลที่อยูภายในหนวยความจําชนิดจะหายไป
ทันที หนวยความจําแรม ทําหนาที่เก็บชุดคําสั่งและขอมูลที่ระบบคอมพิวเตอรกําลังทํางานอยูดวย ไมวาจะเปนการนําเขาขอมูล
(Input) หรือ การนําออกขอมูล (Output) โดยที่เนื้อที่ของหนวยความจําหลักแบบแรมนี้ถูกแบงออกเปน 4 สวน คือ
1. Input Storage Area เปนสวนที่เก็บขอมูลนําเขาที่ไดรับมาจากหนวยรับขอมูลเขาโดย ขอมูลนี้จะถูกนําไปใชในการ
ประมวลผลตอไป
2. Working Storage Area เปนสวนที่เก็บขอมูลที่อยูในระหวางการประมวลผล
3. Output Storage Area เปนสวนที่เก็บผลลัพธที่ไดจากการประมวลผล ตามความตองการของผูใช เพื่อรอที่จะถูก
สงไปแสดงออก ยังหนวยแสดงผลอื่นที่ผูใชตองการ
4. Program Storage Area เปนสวนที่ใชเก็บชุดคําสั่ง หรือโปรแกรมที่ผูใชตองการจะสงเขามา เพื่อใช
คอมพิวเตอรปฏิบัติตามคําสั่ง ชุดดังกลาว หนวยควบคุมจะทําหนาที่ดึงคําสั่งจากสวน นี้ไปที่ละคําสั่ง
เพื่อทําการแปลความหมาย วาคําสั่งนั้นสั่งใหทําอะไร จากนั้นหนวยควบคุม จะไปควบคุมฮารดแวรที่
ตองการทํางานดังกลาวใหทํางานตามคําสั่งนั้นๆ
Module ของ RAM
RAM ที่เรานํามาใชงานนั้นจะเปน chip เปน ic ตัวเล็กๆ ซึ่งสวนที่เรานํามาใชเปนหนวยความจําหลัก
จะถูกบัดกรีติดอยูบนแผงวงจร หรือ Printed Circuit Board เปน Module ซึ่งมีหลัก ๆ อยู 2
Module คือ SIMM กับ DIMM
เมนบอรด (Mainboard)
เมนบอรดเปนอุปกรณที่สําคัญรองมาจากซีพียู เมนบอรดทําหนาที่ควบคุม ดูแลและจัดการๆ
ทํางานของ อุปกรณชนิดตางๆ แทบทั้งหมดในเครื่องคอมพิวเตอร ตั้งแตซีพียู ไปจนถึง
หนวยความจําแคช หนวยความจําหลัก ฮารดดิกส ระบบบัส บนเมนบอรดประกอบดวยชิ้นสวน
ตางๆ มากมาย เมนบอรดที่ใชงานในปจจุบันนั้นสวนใหญเปนแบบ ATX เกือบทั้งหมดแลว
เทคโนโลยีของเมนบอรดเองก็ไดมีการพัฒนาไปมากเชนกัน ซึ่งมีเทคโนโลยีเขามาในการเพิม
ประสิทธิภาพใหดียิ่งขึ้น มีสีสันที่สวยงามโดยเฉพาะคนที่ชอบแตงเครื่องของตัวเองจะเลือกสีสันที่
มีความสวยงาม
Keyboard
Keyboard เปนอุปกรณหลักที่ใชในการนําขอมูลลงในเครื่องคอมพิวเตอร มีลักษณะเปนปุม
ตัวอักษรเหมือนปุมเครื่องพิมพดีด เปนอุปกรณรับเขาพื้นฐานที่ตองมีในคอมพิวเตอรทุกเครื่อง จะรับขอมูลจาก
การกดแปนแลวทําการเปลี่ยน เปนรหัสเพื่อสงตอไปใหกับคอมพิวเตอร แปนพิมพที่ใชในการปอนขอมูลจะมี
จํานวนตั้งแต 50 แปนขึ้นไป แผงแปนอักขระสวนใหญมีแปนตัวเลขแยกไวตางหาก เพื่อทําใหการปอนขอมูล
ตัวเลขทําไดงายและสะดวกขึ้น การวางตําแหนงแปนอักขระ จะเปนไปตามมาตรฐานของระบบพิมพสัมผัสของ
เครื่องพิมพดีด ที่มีการใชแปนยกแคร (shift) เพื่อทําใหสามารถใชพิมพไดทั้งตัวอักษร ตัวพิมพใหญและตัวพิมพ
เล็ก ซึ่งระบบรับรหัสตัวอักษรที่ใชในทางคอมพิวเตอรสวนใหญจะเปนรหัส 7 หรือ 8 บิต กลาวคือ เมื่อมี
การกดแปนพิมพ แผงแปนอักขระจะสงรหัสขนาด 7 หรือ 8 บิต นี้เขาไปในระบบคอมพิวเตอร
ประเภทของ Keyboard ดูไดจากจํานวนปุม และรูปแบบการใชงาน Key board
ที่มีอยูปจจุบันจะมีอยู 5 แบบ
1. Desktop Keyboard
ซึ่ง Keyboard มาตรฐาน จะเปนชนิด 101 คีย
2. Desktop Keyboard with hot keys
เปน Keyboard ที่มีจํานวนคียมากกวา 101 คีย ขึ้นไปแลวแต
วัตถุประสงคใชงาน ซึ่งจะมีปุมพิเศษ สําหรับระบบปฏิบัติการ Windows ตั้งแตเวอรชัน
95 เปนตนไป
3. Wireless Keyboard
Keyboard ไรสายเปน Keyboard ที่ทํางานโดยไมตองตอสายเขากับ
ตัวเครื่องคอมพิวเตอรแตจะมีอุปกรณ ที่รับสัญญาณจากตัว Keyboard อีกทีหนึ่ง การ
ทํางานจะใชความถี่วิทยุในการสื่อสาร ซึ่งความถี่ที่ใชจะอยูที่ 27 MHz อุปกรณชนิด นี้
มักจะมาคูกับอุปกรณ Mouse ดวย
4. Security Keyboard
รูปรางและรูปแบบการทํางานจะเหมือนกับ Keyboard แบบ Desktop แตจะมีชองสําหรับเสียบ Smart Card
เพื่อปองกันการใชงานจากผูที่ไมไดเปนเจาของ Keyboard ชนิดนี้เหมาะกับการใชงานที่ตองการ ปลอดภัยสูง หรือใชควบคุม
เครื่อง Server ที่ยอมใหเฉพาะ Admin เทานั้นเปนคนเปลี่ยนแปลงขอมูล
5. Notebook Keyboard
เปน Keyboard ที่ถูกออกแบบมาใหมีขนาดบางเบา ขนาดความกวาง และยาวจะขึ้นอยูกับเครื่อง Notebook ที่
ใชปุมบนแปนพิมพจะอยูติดกันและบางมาก คียพิเศษตางจะถูกลด และเพิ่มเฉพาะปุมที่จํา เปนในการ Present งาน หรือ การ
พักเครื่องเพื่อประหยัดพลังงาน

More Related Content

อุปกรณ์พื้Ȩานคอม...

  • 2. แรม (Ram) RAM ยอมาจาก (Random Access Memory) เปนหนวยความจําหลักที่จําเปน หนวยความจํา ชนิดนี้จะสามารถเก็บขอมูลได เฉพาะเวลาที่มีกระแสไฟฟาหลอเลี้ยงเทานั้นเมื่อใดก็ตามที่ไมมีกระแสไฟฟา มาเลี้ยง ขอมูลที่อยูภายในหนวยความจําชนิดจะหายไป ทันที หนวยความจําแรม ทําหนาที่เก็บชุดคําสั่งและขอมูลที่ระบบคอมพิวเตอรกําลังทํางานอยูดวย ไมวาจะเปนการนําเขาขอมูล (Input) หรือ การนําออกขอมูล (Output) โดยที่เนื้อที่ของหนวยความจําหลักแบบแรมนี้ถูกแบงออกเปน 4 สวน คือ 1. Input Storage Area เปนสวนที่เก็บขอมูลนําเขาที่ไดรับมาจากหนวยรับขอมูลเขาโดย ขอมูลนี้จะถูกนําไปใชในการ ประมวลผลตอไป 2. Working Storage Area เปนสวนที่เก็บขอมูลที่อยูในระหวางการประมวลผล 3. Output Storage Area เปนสวนที่เก็บผลลัพธที่ไดจากการประมวลผล ตามความตองการของผูใช เพื่อรอที่จะถูก สงไปแสดงออก ยังหนวยแสดงผลอื่นที่ผูใชตองการ
  • 3. 4. Program Storage Area เปนสวนที่ใชเก็บชุดคําสั่ง หรือโปรแกรมที่ผูใชตองการจะสงเขามา เพื่อใช คอมพิวเตอรปฏิบัติตามคําสั่ง ชุดดังกลาว หนวยควบคุมจะทําหนาที่ดึงคําสั่งจากสวน นี้ไปที่ละคําสั่ง เพื่อทําการแปลความหมาย วาคําสั่งนั้นสั่งใหทําอะไร จากนั้นหนวยควบคุม จะไปควบคุมฮารดแวรที่ ตองการทํางานดังกลาวใหทํางานตามคําสั่งนั้นๆ Module ของ RAM RAM ที่เรานํามาใชงานนั้นจะเปน chip เปน ic ตัวเล็กๆ ซึ่งสวนที่เรานํามาใชเปนหนวยความจําหลัก จะถูกบัดกรีติดอยูบนแผงวงจร หรือ Printed Circuit Board เปน Module ซึ่งมีหลัก ๆ อยู 2 Module คือ SIMM กับ DIMM
  • 4. เมนบอรด (Mainboard) เมนบอรดเปนอุปกรณที่สําคัญรองมาจากซีพียู เมนบอรดทําหนาที่ควบคุม ดูแลและจัดการๆ ทํางานของ อุปกรณชนิดตางๆ แทบทั้งหมดในเครื่องคอมพิวเตอร ตั้งแตซีพียู ไปจนถึง หนวยความจําแคช หนวยความจําหลัก ฮารดดิกส ระบบบัส บนเมนบอรดประกอบดวยชิ้นสวน ตางๆ มากมาย เมนบอรดที่ใชงานในปจจุบันนั้นสวนใหญเปนแบบ ATX เกือบทั้งหมดแลว เทคโนโลยีของเมนบอรดเองก็ไดมีการพัฒนาไปมากเชนกัน ซึ่งมีเทคโนโลยีเขามาในการเพิม ประสิทธิภาพใหดียิ่งขึ้น มีสีสันที่สวยงามโดยเฉพาะคนที่ชอบแตงเครื่องของตัวเองจะเลือกสีสันที่ มีความสวยงาม
  • 5. Keyboard Keyboard เปนอุปกรณหลักที่ใชในการนําขอมูลลงในเครื่องคอมพิวเตอร มีลักษณะเปนปุม ตัวอักษรเหมือนปุมเครื่องพิมพดีด เปนอุปกรณรับเขาพื้นฐานที่ตองมีในคอมพิวเตอรทุกเครื่อง จะรับขอมูลจาก การกดแปนแลวทําการเปลี่ยน เปนรหัสเพื่อสงตอไปใหกับคอมพิวเตอร แปนพิมพที่ใชในการปอนขอมูลจะมี จํานวนตั้งแต 50 แปนขึ้นไป แผงแปนอักขระสวนใหญมีแปนตัวเลขแยกไวตางหาก เพื่อทําใหการปอนขอมูล ตัวเลขทําไดงายและสะดวกขึ้น การวางตําแหนงแปนอักขระ จะเปนไปตามมาตรฐานของระบบพิมพสัมผัสของ เครื่องพิมพดีด ที่มีการใชแปนยกแคร (shift) เพื่อทําใหสามารถใชพิมพไดทั้งตัวอักษร ตัวพิมพใหญและตัวพิมพ เล็ก ซึ่งระบบรับรหัสตัวอักษรที่ใชในทางคอมพิวเตอรสวนใหญจะเปนรหัส 7 หรือ 8 บิต กลาวคือ เมื่อมี การกดแปนพิมพ แผงแปนอักขระจะสงรหัสขนาด 7 หรือ 8 บิต นี้เขาไปในระบบคอมพิวเตอร
  • 6. ประเภทของ Keyboard ดูไดจากจํานวนปุม และรูปแบบการใชงาน Key board ที่มีอยูปจจุบันจะมีอยู 5 แบบ 1. Desktop Keyboard ซึ่ง Keyboard มาตรฐาน จะเปนชนิด 101 คีย
  • 7. 2. Desktop Keyboard with hot keys เปน Keyboard ที่มีจํานวนคียมากกวา 101 คีย ขึ้นไปแลวแต วัตถุประสงคใชงาน ซึ่งจะมีปุมพิเศษ สําหรับระบบปฏิบัติการ Windows ตั้งแตเวอรชัน 95 เปนตนไป 3. Wireless Keyboard Keyboard ไรสายเปน Keyboard ที่ทํางานโดยไมตองตอสายเขากับ ตัวเครื่องคอมพิวเตอรแตจะมีอุปกรณ ที่รับสัญญาณจากตัว Keyboard อีกทีหนึ่ง การ ทํางานจะใชความถี่วิทยุในการสื่อสาร ซึ่งความถี่ที่ใชจะอยูที่ 27 MHz อุปกรณชนิด นี้ มักจะมาคูกับอุปกรณ Mouse ดวย
  • 8. 4. Security Keyboard รูปรางและรูปแบบการทํางานจะเหมือนกับ Keyboard แบบ Desktop แตจะมีชองสําหรับเสียบ Smart Card เพื่อปองกันการใชงานจากผูที่ไมไดเปนเจาของ Keyboard ชนิดนี้เหมาะกับการใชงานที่ตองการ ปลอดภัยสูง หรือใชควบคุม เครื่อง Server ที่ยอมใหเฉพาะ Admin เทานั้นเปนคนเปลี่ยนแปลงขอมูล 5. Notebook Keyboard เปน Keyboard ที่ถูกออกแบบมาใหมีขนาดบางเบา ขนาดความกวาง และยาวจะขึ้นอยูกับเครื่อง Notebook ที่ ใชปุมบนแปนพิมพจะอยูติดกันและบางมาก คียพิเศษตางจะถูกลด และเพิ่มเฉพาะปุมที่จํา เปนในการ Present งาน หรือ การ พักเครื่องเพื่อประหยัดพลังงาน