![ 5.จงยกตวัอย่างการอ้างอิงแหล่งทมี่าของข้อมูลจากเว็บไซต์มา1แบบ
ตอบ
Rawls,
John. [http://books.google.com/books?id=kvpby7
HtAe0C&pg=PA18 A Theory of Justice]. Harvard
University Press, 1971, p. 18.](https://image.slidesharecdn.com/random-140903012249-phpapp02/85/-23-320.jpg)
More Related Content
What's hot (20)
Similar to การค้นหาข้อมูลสารสȨทศ (20)
การค้นหาข้อมูลสารสȨทศ
- 2. จัดทำโดย นายชนิภกัดิ์สุวิมลธรรมคุณ ม.6/1เลขท4ี่2 นางสาวชญานีเครือวลัย์ ม.6/1 เลขที่7 นางสาวณชัฌา วนัสุดล ม.6/1 เลขที่37 เสนอ อาจารย์ ศริิรตัน์ นา ไทย โรงเรียตราดสรรเสริญวิทยาคม
- 3. 1.ทรัพยำกรสำรสนเทศบนอินเทอร์เน็ตและกำรสืบค้น ทรพัยากรบนอินเตอร์เนต็คือ สงิ่ทเี่ราสามารถนา มาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่งาน ของเราได้ทรพัยากรบนอินเตอร์เนต็
- 4. 2.เทคนิควิธีกำรสืบค้นผ่ำนอินเตอร์เน็ต 2.1การกา หนดหวัข้อทตี่้องการ เป็นเทคนคิทใี่ช้ในการกา หนดหรือระบุหวัเรอื่งของข้อมูลทตี่้องการ ซึ้นข้อมูลทไี่ด้ จะมเีน้อืหาอยู่ในขอบเขตของหวัข้อทเี่รากา หนด 2.2การกา หนดคา ค้นและคา ทเี่กยี่วข้องกบัหวัข้อ เป็นการกา หนดคา ข้นึแทนเน้อืหาหรือสาระทตี่้องการ
- 5. 2.3การใช้เทคนคิการค้น 2.3.1การใช้ตรรกบูลนี 2.3.2การตดัปลายคา และการแทนคา 2.3.4การใช้เครอื่งหมายวงเลบ็
- 6. 2.4กำรเลือกใช้เสิร์ช เอนจิน ปจัจุบนัเสริ์ชเอนจนิม3ีประเภท ซึ้งมคีวามหมายแตกต่างกนัดงันี้ 1.keyword search engine 2.meta search enging 3.Subject directory
- 7. 2.5 กำรสืบค้นและประเมินข้อมูลที่ได้รับ ในการสบืค้นข้อมูล ผุ้ใช้ต้องคา นงึถงึสงิ่ต่างๆ เหลา่นี้เพอื่การสบืค้นทมีี่ ประสทิธิภาพ
- 8. 3.กำรค้นหำข้อมูลผ่ำนเสิร์ชเอนจินที่เหมำะสม 3.1การใช้keyword search engine ค้นหาข้อมูลด้วยคา ค้นทเี่จาะจง keyword search engine ทไี่ด้รบัความนยิมสูงสุดในปจัจุบนั คือ google
- 9. 3.2 กำรใช้meta search engingค้นหำ ข้อมูล meta search enging เป็นเว็บไซต์ทไี่ม่มถีานข้อมูลเป็นของตนเอง แต่จะไปค้นหาชอื่จารเว็บเพจทเี่ราต้องการ
- 10. 3.3กำรใช้ Subject directory ค้นหำข้อมูล ตำมหมวดหมู่ Subject directoryเป็นเว็บไซต์ทมี่กีารรวบรวมข้อมูลเกยี่วกบั อินเตอร์เนต็
- 11. 4.เว็บไซต์ที่มีประโยชน์ต่อกำรทำโครงงำนหรือชนิ้งำน 4.1 เว็บไซต์ห้องสมุด เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการเพื่อให้ผู้ใช้สืบค้นหนังสือและชื่อผู้แต่งผ่านเว็บไซต์ และข้อมูลสารสนเทศต่างๆ รวมทั้งบริการสื่อมัลติมีเดีย และE-book 4.2 ฐานข้อมูลออนไลน์ เป็นแหล่งฐานข้อมูลผลงานวิจัย สถิติ และวิทยานิพนธ์ ที่ถูกเก็บในองค์กร ต่างๆซึ่งปัจจุบันมีการให้บริการออนไลน์ โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปสืบค้นได้ผ่าน อินเตอร์เน็ต 4.3 การเรียนรู้ผ่านเว็บไซต์ เป็นเว็บไซต์สา หรับการเรียนรู้ผ่านอินเตอร์เน็ต หรือ E-learningซึ่งจะช่วยให้ ผู้ที่มีความสนใจ นักเรียน นักศึกษา สามารถศึกษาเรียนรู้ได้ทุกสถานที่ทุกเวลา
- 12. 4.4 เว็บไซต์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเว็บไซต์ที่นาเสนอข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์ตั้งแต่การศึกษา การวิจัย ผลงาน ความรู้ทางด้านฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ทางด้าน เทคโนโลยีใหม่ๆที่ล้า สมัย 4.5 เว็บไซต์พัฒนาเว็บเพจ เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับการพัฒนาเว็บเพจด้วยภาษาต่างๆเครื่องมือต่างๆและ ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ 4.6 เว็บไซต์สอนภาษา เป็นเว็บไซต์สอนภาษา Visual Basic ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงร้ะดับสูง
- 13. 5.รูปแบบกำรอ้ำงอิงแหล่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ได้แก่ 1.ชอื่ผู้เขยีน 2. ทอี่ยู่ของผู้เขยีนในอินเตอร์เนต็ 3. ชอื่ทชี่อบ 4. ชอื่เรอื่งหลกั 5. ทอี่ยูใช้สบืค้นในอินเทอร์เนต็ 6. วนั เดือน ปี ทเี่ผยแพร่
- 14. คำถำมท้ำยบท 1. การตงั้ค่าในการค้นหา การเรมิ่ต้นใช้คือ 1.yahoo 2.aol 3.google 4.msn
- 15. 2.E-Learningเป็นการเรียนรู้ผ่านอะไร 1)เป็นการเรียนรู้ผ่านหนงัสอื 2)เป็นการเรียนรู้ผ่านอินเตอร์เนต็ 3)เป็นการเรียนรู้ผ่านเว็บไซต์ 4)เป็นการเรียนรู้ผ่านเว็บเพจ
- 16. 3.www.Sanook.comจดัเป็นเว็บไซต์ประเภทใด 1)Subject gateway 2)web directory 3)web Search engine 4)web meta
- 17. 4.ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบหลกัของรายการ บรรณานุกรมแหล่งข้อมูล อินเตอร์เนต็ 1)ชอื่ผู้เขยีน 2)ชอื่ผู้ค้น 3)ชอื่บทความ 4)ชอื่เรอื่งหลกั
- 18. 5.ข้อใดเป็นเว็บไซต์ทไี่ม่มฐีานข้อมูลของตนเอง 1)Meta search engine 2)Web directory 3)www.sanook.com 4)www.Dmoz.org
- 19. เรื่อง กำรค้นหำข้อมูลสำรสนเทศ คา ถามท้ายบท 1.Search engine มีกี่ประเภท อะไรบ้างจงอธิบายแต่ร้ะประเภทพร้อมยกตัวอย่างมาพอ สังเขป ตอบ มี3 ประเภท 1. Crawler Based Search Engines มีระบบการทา งานโดยใช้โปรแกรมที่ เรียกว่า Spider หรือRobot ท่องไปในเว็บเพจต่าง ๆ เพื่ออ่านข้อมูล และจะเก็บไว้อย่าง เป็นระเบียบในSearch Engine Index Server 2. Meta Search Engine ไม่มฐีานข้อมูลของตนเอง แต่เป็นการค้นหาจากฐานข้อมูล ของ Search Engine หลาย ๆ แห่ง 3. Classified Directory ใช้คนทา หน้าทคี่ดัเลอืกและจดัเก็บข้อมูล มกีารแบ่งกลุ่มเป็น หมวดหมู่ โดยจา แนกตามหวัเรอื่ง
- 20. 2.ในการใช้ตรรกบูลนี(Boolean logic) มกีารใช้คา ใดเพอื่มาเชอื่ม เพอื่การสบืค้นข้อมูลต่างๆ ตอบ AND, OR, NOT
- 21. 3.เกณฑ์การประเมนิสารสนเทศว่ามคีวามน่าเชอื่ถอืได้หรือไม่ มอีะไรบ้าง จงเลอืก อธิบายมา 3 เกณฑ์ ตอบ พจิารณาว่าเป็นสารสนเทศทมี่คีวามน่าเชอื่ถอืหรือไม่ น่าเชอื่ถอืเพยีงไร ซงึ่ การประเมนิความน่าเชอื่ถอืมรีายละเอียดทคี่วรพจิารณา ได้แก่ 1. ประเมนิความน่าเชอื่ถอืของ แหล่งสารสนเทศ 2. ประเมนิความน่าเชอื่ถอืของ ทรพัยากรสารสนเทศ 3. ประเมนิความน่าเชอื่ถอืของ ผู้เขยีน ผู้จดัทา สา นกัพมิพ์
- 22. 4.Google มคีวามสามารถหลกัในการค้นหาข้อมูลประเภทใดบ้าง จง อธิบาย ตอบ ค้นหาข้อมูลด้วยคา ค้นทเี่จาะจง
- 23. 5.จงยกตวัอย่างการอ้างอิงแหล่งทมี่าของข้อมูลจากเว็บไซต์มา1แบบ ตอบ Rawls, John. [http://books.google.com/books?id=kvpby7 HtAe0C&pg=PA18 A Theory of Justice]. Harvard University Press, 1971, p. 18.