ݺߣ
Submit Search
โครงงาȨมพิวตอร์
•
0 likes
•
487 views
Nutthakorn Chaiya
Follow
1 of 33
Download now
Download to read offline
More Related Content
โครงงาȨมพิวตอร์
1.
ใบงานที่ 2 เรื่อง
ความหมายและ ความสาคัญของโครงงาน
2.
ความหมาย โครงงาน หมายถึง
กิจกรรมการศึกษาวิชาการงานที่ส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนได้เลือกขึ้นมาศึกษา ค้นคว้า ริเริ่ม สร้างสรรค์ ผลงานตามที่ตนเองมีความถนัด มีความพร้อมและ สนใจ แล้วลงมือปฏิบัติให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายที่กาหนดไว้ โดย มีรายละเอียดของงานที่จะทาไว้ล่วงหน้า เป็นขั้นตอน พร้อมทั้ง คาดการณ์ผลที่จะเกิดขึ้นทั้งนี้โดยได้รับคาแนะนาปรึกษาจากครู ในโรงเรียนของตน
3.
ความสาคัญของโครงงาน ความสาคัญของโครงงานในแง่ของการเรียนการสอน และ
การจัดกิจกรรเสริมตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2533 มีดังนี้คือ
4.
1. ด้านนักเรียน ก่อให้เกิดคุณค่าต่าง
ๆ ดังนี้คือ 1.1 ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงานที่จะนาไปสู่งานอาชีพ และการศึกษา ต่อที่ตนเองมีความถนัด และสนใจ 1.2 สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง ด้วยชีวิตจริง ส่งผลให้เกิดความ เข้าใจอย่างซาบซึ้งในโครงงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมา 1.3 ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง และการแก้ปัญหาในงานที่ตนเอง สนใจและมีความพร้อม ส่งผลให้เกิดความมั่นใจในการดาเนินงานต่อไป 1.4 ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้สร้างเกียรติประวัติในโครงงานที่ได้ริเริ่ม สร้างสรรค์ 1.5 ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีงามต่อกันในระหว่าง เพื่อนนักเรียนที่ปฏิบัติงานเป็นกลุ่ม 1.6 ก่อให้เกิดความรู้ทางวิชาการที่กว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับ ความสาเร็จในการศึกษาตามหลักสูตรและตรงกับจุดหมายที่กาหนดไว้
5.
2. ด้านโรงเรียนและครูอาจารย์ ก่อให้เกิดคุณค่าต่าง
ๆ ดังนี้คือ 2.1 เกิดการประสานงานทางวิชาการที่ผสมผสานหรือบูรณาการเกิดขึ้นใน โรงเรียน ตรงกับหลักสูตรมัธยมศึกษา และแนวทางการพัฒนาการศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการ 2.2 เกิดความเข้าใจที่ตรงกันว่า การเรียนการสอนในปัจจุบันขึ้นอยู่กับการฝึก ปฏิบัติจริงในโครงงานของนักเรียนมากกว่าที่จะเรียนอยู่แต่ในห้องเรียน เท่านั้น 2.3 เกิดศูนย์รวมสื่อการเรียนการสอน หรือศูนย์วัสดุอุปกรณ์การสอน สาหรับ ให้หมวดวิชาต่าง ๆ ในโรงเรียนได้ใช้ร่วมกัน ส่งผลให้นักเรียนได้มีโอกาสฝึก ใช้สื่อการสอนอย่างแท้จริงและหลากหลาย 2.4 เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างของนักเรียน โรงเรียน และครูอาจารย์ที่มี โอกาสปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด และเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะ ช่องว่างที่ต่างกัน
6.
3. ด้านท้องถิ่น ก่อให้เกิดคุณค่าต่าง
ๆ ดังนี้คือ 3.1 การเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ความรู้ ผลงานในเชิงปฏิบัติของ โครงงานที่ประสบความสาเร็จไปสู่ท้องถิ่น ทาให้ท้องถิ่นกับโรงเรียนมี ความเข้าใจและประสานสัมพันธ์กันดียิ่ง 3.2 ช่วยลดปัญหาวัยรุ่นในท้องถิ่นเกี่ยวกับความประพฤติ จรรยามารยาท และศีลธรรม เพราะนักเรียนที่มีโครงงานมักจะเป็นนักเรียนที่มีความ ประพฤติดี มุ่งมั่นและสนใจการศึกษาเล่าเรียนเท่านั้น 3.3 ทาให้ประชาชนในท้องถิ่นมีพื้นฐานทางการศึกษาดี โดยเฉพาะงาน อาชีพที่หลากหลายและการพัฒนาการศึกษาที่มุ่งเน้นให้เยาวชนของ ชาติมีนิสัยรักการทางาน ไม่เป็นคนหยิบโหย่งและช่วยเหลือพ่อแม่ ผู้ปกครองด้วยดี
7.
ที่มา : http://www.slideshare.net/krunangrong/ss-
3611147
8.
ใบงานที่ 3 เรื่อง
ขอบเขตและประเภท ของโครงงานคอมพิวเตอร์
9.
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้ใน งานวิจัยในทุก
ๆ สาขาวิชา ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงมีความ หลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรมและ ลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้ ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media) 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory Experiment) 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) 5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
10.
ขอบข่ายของโครงงานดาเนินงานโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครูอาจารย์
เป็นผู้ให้คาแนะนาปรึกษามีองค์ประกอบดังนี้ 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัย หลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและ การแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุ ตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและ สติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
11.
ที่มา : http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e-
learning/project/unit1/01_2.html
12.
ใบงานที่ 4 เรื่อง
โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อ การศึกษา”
13.
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วย การเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคา ตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วย ตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการ สอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็น หัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การ เคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยะจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อ การชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็นต้น
14.
ตัวอย่างหัวข้อโครงงานประเภทการ พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 1.โปรแกรม
ดนตรีไทยแสนสนุก 2.โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต 3.โปรแกรมสนุกไปกับตารางธาตุ 4.โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ 5. โปรแกรมการจัดตารางการเรียนการสอน
15.
ที่มา : http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit1/unit1-2.html
http://www.acr.ac.th/acr/ACR_ELearning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content1.html
16.
ใบงานที่ 5 เรื่อง
โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
17.
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วยสร้างงาน ประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาด รูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็น ต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรม ประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆ บนเครื่อง คอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความ สะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย สาหรับ ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบ สิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบน และด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะ เป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่าง สะดวก เป็นต้น
18.
ตัวอย่างหัวข้อโครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ 1. โปรแกรมช่วยอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์อย่างชาญฉลาด
2. โปรแกรมไบรท์ไซต์ (Bright Sight) 3.โปรแกรมวาดภาพสามมิติ 4.โปรแกรมบีบอัดข้อมูล 5.โปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์
19.
ที่มา : http://www.vcharkarn.com/project/
article/56801
20.
ใบงานที่ 6 เรื่อง
โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
21.
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory Experiment)
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่ง เป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้ว เสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งการจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมา เป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลอง ทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่อง พฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบ สามมิติ เป็นต้น
22.
ตัวอย่างโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี 1. การทดลองปัจจัยต่างๆ
ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์ 2. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์ 3. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ 4. ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน 5. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
23.
ที่มา: http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 http://computer607.blogspot.com/2012/08/6.html
24.
ใบงานที่ 7 เรื่อง
โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
25.
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิต
ประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์ สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงาน ประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความ ต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนา สิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพ ของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และ เครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และ ซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
26.
ตัวอย่างโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 1.โครงงานคอมพิวเตอร์โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี 2.โครงงานซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร
3.โครงงานระบบสุริยจักรวาล 4.โครงงานซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี 5.โครงงานการออกแบบรถยนต์
27.
ที่มา:ٳٱ://ɷɷ...ٳ//巡ԾԲ/䴡鷡䰿ѱʱշ/䰿ѱʱշ/4/dzܳٱʰ/DzԳٱԳ1.ٳ
28.
ใบงานที่ 8 เรื่อง
โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรม ประยุกต์”
29.
โปรแกรมประยุกต์ หรือ ซอฟต์แวร์ประยุกต์คือ
แบ่งออกเป็น 1.ซอฟต์แวร์สาเร็จ เป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทพัฒนาขึ้น แล้วนาออกมาจา หน่าย เพื่อให้ผู้ใช้งานซื้อไปใช้ได้โดยตรง ไม่ต้องเสียเวลาในการพัฒนา ซอฟต์แวร์อีก 2.ซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะ มักเป็นซอฟต์แวร์ที่ผู้พัฒนาต้องเข้าไปศึกษา รูปแบบการทางานหรือความต้องการของธุรกิจนั้น ๆ แล้วจัดทาขึ้น โดยทั่วไปจะเป็นซอฟต์แวร์ที่มีหลายส่วนรวมกันเพื่อร่วมกันทางาน ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะที่ใช้กันในทางธุรกิจ เช่น ระบบงาน ทางด้านบัญชี ระบบงานจัดจาหน่าย ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม บริหารการเงิน และการเช่าซื้อ เป็นต้น
30.
ตัวอย่างโครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ 1. โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี
2. การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บนแอนดรอยด์ 3. การพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ 3 มิติ 4. การพัฒนาโปรแกรมของการ์ดET-PCI8255 V3ด้วย Delphi 5 5. การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นด้วย PHP และ Dreamweaver MX
31.
ที่มา : http://www.vcharkarn.com/project/view/689
http://ict.moph.go.th/elearning/phpdwmx/index.php http://www.ce.kmitl.ac.th/project. php?action=view&PJ_ID=137
32.
จบการนาเสนอ
33.
จัดทาโดย นางสาว จุฑามาศ
เก๊างิ้ว เลขที่ 1 ชั้น ม.6/11 นาย ณัฐกร ชัยยะ เลขที่ 16 ชั้น ม.6/11
Download