ݺߣ
Submit Search
ความรู้เกี่ยวกับสภาปฏิรูปแห่งชาติ
•
0 likes
•
601 views
Palida Sookjai
Follow
1 of 5
Download now
Download to read offline
More Related Content
ความรู้เกี่ยวกับสภาปฏิรูปแห่งชาติ
1.
สภาปฏิรูปแห่งชาติ องค์ประกอบของสภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติประกอบด้วยสมาชิกจานวนไม่เกิน
๒๕๐ คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ ทรงแต่งตั้งตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติถวายคาแนะนา ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติและรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ๑ คน และรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติไม่เกิน ๒ คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามมติของสภาปฏิรูปแห่งชาติ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้ง ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติและรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่มาของสภาปฏิรูปแห่งชาติ คณะรักษาความสงบแห่งชาติดาเนินการคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิก สภาปฏิรูปแห่งชาติตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๗ ออกโดยอาศัยอานาจตามมาตรา ๒๒ มาตรา ๓๐ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ สรุปได้ดังนี้ (๑) จัดให้มีคณะกรรมการสรรหาบุคคลด้านต่าง ๆ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๗ ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ด้านละ ๑ คณะ และให้มีคณะกรรมการสรรหาประจา จังหวัด แต่ละจังหวัดเพื่อสรรหาจากบุคคลซึ่งมีภูมิลาเนาในจังหวัดนั้น ๆ (๒) ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาแต่ละด้านจากผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ยอมรับของบุคคลในด้านนั้น ๆ (๓) ให้คณะกรรมการสรรหาดาเนินการสรรหาบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา ๒๘ ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และมีความรู้ความสามารถเป็น ที่ประจักษ์ในแต่ละด้านแล้วจัดทาบัญชีรายชื่อเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการนี้ คณะกรรมการ สรรหาจะเสนอชื่อตนเองมิได้ (๔) การสรรหาบุคคลตาม (๓) ให้คานึงถึงความหลากหลายของบุคคลจากกลุ่มต่าง ๆ ในภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคม ภาควิชาการ ภาควิชาชีพ และภาคอื่นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ การกระจายตามจังหวัด โอกาสและความเท่าเทียมกันทางเพศ รวมทั้งผู้ด้อยโอกาส (๕) คณะกรรมการสรรหาแต่ละด้านจะต้องเสนอชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้ง เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติจานวนไม่เกิน ๕๐ คน แต่ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของรายชื่อที่ได้รับในด้านนั้น ๆ ไปให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ส่วนคณะกรรมการสรรหาประจาจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงกรุงเทพมหานครจะต้องเสนอชื่อบุคคลที่ สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติจานวนไม่เกิน ๕ คน ไปให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (๖) ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติคัดเลือกบุคคลที่เห็นสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิก สภาปฏิรูปแห่งชาติจากบัญชีรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาตาม (๑) เสนอได้ไม่เกิน ๒๕๐ คน โดยในจานวนนี้
2.
๒ ให้คัดเลือกจากบุคคลที่คณะกรรมการสรรหาประจาจังหวัดเสนอ จังหวัดละ
๑ คน จานวน ๗๗ คน นอกจากนั้น ให้พิจารณาคัดเลือกจากที่คณะกรรมการสรรหาด้านต่าง ๆ จานวน ๑๑ ด้าน จานวนไม่เกิน ๑๗๓ คน คุณสมบัติของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติแต่งตั้งจากผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดและมีอายุไม่ต่ากว่า ๓๕ ปี ทั้งนี้ ไม่ห้ามผู้ดารงตาแหน่งหรือเคยดารงตาแหน่งในพรรคการเมืองภายในระยะเวลา ๓ ปี ก่อนวันที่ได้รับ การแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ ๑. เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช ๒. เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต ๓. เคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๔. เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทาการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ๕. เคยต้องคาพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ารวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สิน เพิ่มขึ้นผิดปกติ ๖. อยู่ระหว่างต้องห้ามมิให้ดารงตาแหน่งทางการเมือง หรือเคยถูกถอดถอนจากตาแหน่ง ๗. เคยต้องคาพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิด ต่อตาแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทาผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด หรือกฎหมายเกี่ยวกับการพนัน ในฐานความผิดเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสานัก ๘. เคยต้องคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทาโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ ๙. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะดารงตาแหน่งสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติหรือรัฐมนตรี ในขณะเดียวกันมิได้ การสิ้นสุดสมาชิกภาพของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ๑. ตาย ๒. ลาออก ๓. ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ๔. สภาปฏิรูปแห่งชาติมีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพ ๕. ไม่แสดงตนเพื่อลงมติในที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติเกินจานวนที่กาหนดไว้ในข้อบังคับ การประชุม ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ให้สภาปฏิรูป แห่งชาติเป็นผู้วินิจฉัย
3.
๓ องค์ประชุม การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจานวนสมาชิก
ทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม การตราข้อบังคับการประชุม สภาปฏิรูปแห่งชาติมีอานาจตราข้อบังคับเกี่ยวกับการเลือกและการปฏิบัติหน้าที่ของประธาน สภาปฎิรูปแห่งชาติ รองประธานสภาปฎิรูปแห่งชาติ และกรรมาธิการ วิธีการประชุม การเสนอญัตติ การอภิปราย การลงมติ การรักษาระเบียบและความเรียบร้อย และกิจการอื่นเพื่อดาเนินการตามอานาจหน้าที่ หน้าที่ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติมีหน้าที่ศึกษาและเสนอแนะเพื่อให้เกิดการปฏิรูปด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ (๑) การเมือง (๒) การบริหารราชการแผ่นดิน (๓) กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (๔) การปกครองท้องถิ่น (๕) การศึกษา (๖) เศรษฐกิจ (๗) พลังงาน (๘) สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม (๙) สื่อสารมวลชน (๑๐) สังคม (๑๑) อื่น ๆ การปฏิรูปด้านต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีความเหมาะสมกับสภาพสังคมไทย มีระบบการเลือกตั้งที่สุจริตและ เที่ยงธรรม มีกลไกป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบที่มีประสิทธิภาพ ขจัดความเหลื่อมล้า และสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทาให้กลไกของรัฐสามารถ ให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเป็นธรรม อานาจหน้าที่ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ๑. เสนอรายชื่อกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จานวน ๒๐ คน โดยต้องดาเนินการให้ แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่มีการเรียกประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติเป็นครั้งแรก ๒. ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติมีหน้าที่แต่งตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จานวน ๓๖ คน ประกอบด้วย ๒.๑ ประธานคณะกรรมาธิการตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เสนอ จานวน ๑ คน ๒.๒ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอจานวน ๒๐ คน ๒.๓ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอจานวน ๕ คน ๒.๔ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอจานวน ๕ คน ๒.๕ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เสนอจานวน ๕ คน
4.
๔ ทั้งนี้ ต้องดาเนินการให้แล้วเสร็จภายใน
๑๕ วันนับแต่เรียกประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ ครั้งแรก ๓. เสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ ในการจัดทาร่างรัฐธรรมนูญภายใน ๖๐ วันนับแต่วันที่มีการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติครั้งแรก ๔. ศึกษา วิเคราะห์และจัดทาแนวทางและข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ ตามมาตรา ๒๗ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐) และ (๑๑) เพื่อเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ในการดาเนินการข้างต้น หากเห็นว่ากรณีใดจาเป็นต้องตราพระราชบัญญัติหรือพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญขึ้นใช้บังคับ ให้สภาปฏิรูปแห่งชาติจัดทาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเสนอต่อ สภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาต่อไป แต่กรณีที่เป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินหรือร่าง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ให้จัดทาเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อดาเนินการต่อไป ๕. พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจัดทาขึ้น ๕.๑ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเสนอร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทาเสร็จต่อประธาน สภาปฏิรูปแห่งชาติ และให้ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติจัดให้สภาปฏิรูปแห่งชาติประชุมกันเพื่อพิจารณา เสนอแนะหรือให้ความเห็นให้แล้วเสร็จภายใน ๑๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญ ๕.๒ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติอาจขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญได้ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่สภาปฏิรูปแห่งชาติเสร็จสิ้นการพิจารณา คาขอแก้ไขเพิ่มเติมของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติต้องมี สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติลงชื่อรับรองไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๑๐ ของจานวนสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติที่ยื่นคาขอหรือที่ให้คารับรอง คาขอของสมาชิกอื่นแล้ว จะยื่นคาขอหรือรับรอง คาขอของสมาชิกอื่นอีกมิได้ ๕.๓ เมื่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้แก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ให้เสนอ ร่างรัฐธรรมนูญต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญนั้นทั้งฉบับ โดยสภาปฏิรูปแห่งชาติต้องมีมติภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญจากคณะกรรมาธิการยกร่าง รัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ สภาปฏิรูปแห่งชาติจะแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อความของร่างรัฐธรรมนูญนั้นมิได้ เว้นแต่ เป็นข้อผิดพลาดที่มิใช่สาระสาคัญ และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเห็นชอบด้วยกับการแก้ไขเพิ่มเติม นั้น หรือเป็นกรณีที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเห็นว่าจาเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้สมบูรณ์ขึ้น ๖. พิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กรณีสภาปฏิรูปแห่งชาติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ๑. เมื่อสภาปฏิรูปแห่งชาติมีมติเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ให้ประธานสภาปฏิรูป แห่งชาตินาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่สภาปฏิรูปแห่งชาติมีมติ ๒. เมื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและ ใช้บังคับได้ โดยให้ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ กรณีที่สภาปฏิรูปแห่งชาติพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จภายในเวลา ๑๕ วัน นับแต่วันที่ ได้รับร่างรัฐธรรมนูญหรือสภาปฏิรูปแห่งชาติไม่ให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ จะมีผลให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นอันสิ้นสุดลง
5.
๕ กรณีที่พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญพระราชทานคืนมาหรือเมื่อพ้น กาหนด
๙๐ วันแล้วมิได้พระราชทานคืนมา ให้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอันตกไป เมื่อสภาปฏิรูปแห่งชาติพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จภายในเวลาที่กาหนด หรือไม่ให้ความ เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ หรือร่างรัฐธรรมนูญนั้นตกไป จะมีผลให้สภาปฏิรูปแห่งชาติและคณะกรรมาธิการ ยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นอันสิ้นสุดลง และให้มีการดาเนินการแต่งตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติและคณะกรรมาธิการ ยกร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่ ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ มีบทบัญญัติห้ามประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ดารงตาแหน่งประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แล้วแต่กรณีชุดใหม่ เอกสิทธิ์ ในการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติสมาชิกผู้ใดจะกล่าวถ้อยคาใด ๆ ในทางแถลงข้อเท็จจริง หรือ แสดงความคิดเห็น หรือออกเสียงลงคะแนนจะนาไปเป็นเหตุฟ้องร้องว่ากล่าวผู้นั้นในทางใดมิได้ เอกสิทธิ์ให้คุ้มครองถึงกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณารายงาน การประชุมตามคาสั่งของสภาปฏิรูปแห่งชาติหรือคณะกรรมาธิการ บุคคลซึ่งประธานในที่ประชุมอนุญาต ให้แถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ ตลอดจนผู้ดาเนินการถ่ายทอดการประชุม สภาปฏิรูปแห่งชาติทางวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์หรือทางอื่นใดที่ได้รับอนุญาตจากประธานสภาปฏิรูป แห่งชาติด้วย แต่ไม่คุ้มครองสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ผู้กล่าวถ้อยคาในการประชุมที่มีการถ่ายทอด ทางวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์หรือทางอื่นใด หากถ้อยคาที่กล่าวในที่ประชุมไปปรากฏนอกบริเวณ สภาปฏิรูปแห่งชาติ และถ้อยคานั้นมีลักษณะเป็นความผิดอาญาหรือละเมิดสิทธิในทางแพ่งต่อบุคคลอื่น ซึ่งมิใช่รัฐมนตรีหรือสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กรณีที่สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติถูกควบคุมหรือขัง ให้สั่งปล่อยเมื่อประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ร้องขอ หรือในกรณีถูกฟ้องในคดีอาญา ให้ศาลพิจารณาคดีต่อไปได้ เว้นแต่ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ร้องขอให้งดการพิจารณาคดี เงินเดือนและเงินประจาตาแหน่ง เงินเดือน เงินประจาตาแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานสภาและรองประธาน สภาปฏิรูปแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และกรรมาธิการ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไป ตามที่กาหนดในพระราชกฤษฎีกา ----------------------------------------------------
Download