ݺߣ
Submit Search
อารยธรรมอียิปต์
Nov 22, 2014
Download as PPTX, PDF
11 likes
19,814 views
Tha WaiHei
อารยธรรมอียิปต์-ระึϸบชั้Ȩ.5
Read less
Read more
1 of 37
Download now
Downloaded 251 times
Recommended
อารายธรรมอียิปต์โบราญ
อารายธรรมอียิปต์โบราญ
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
ระบบศรษฐกิจแบบแมȨȨร์
ระบบศรษฐกิจแบบแมȨȨร์
Srinthip Chaiya
ระบบแมนเนอร์เป็นระบบการปกครองที่พึ่งพาตนเองเกิดในยุโรป ระบบนี้เป็นระบบที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นระบบที่เป็นต้นแบบของการปกครองแบบย่อย คือในแมนเนอร์คอยควบคุมดูแลซึ่งกันและกัน
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
พัน พัน
สังคม
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
Kran Sirikran
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
timtubtimmm
Mesopotamia History
อารยธรรมอิȨึϸย
อารยธรรมอิȨึϸย
Gain Gpk
อารยธรรมอิȨึϸย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6.1 โรงเรียนสตรีวิทยา ปีการศึกษา2557
3.4 อารยธรรมกรีก
3.4 อารยธรรมกรีก
Jitjaree Lertwilaiwittaya
อารยธรรมกรีก
อารยธรรมกรีก
พัน พัน
สังคม
มโสโปเตเมีย
มโสโปเตเมีย
bew lertwassana
อารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมกรีก-โรมัน
Jungko
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ไพบููลย์ หัดรัดชัย
ศาสนาชินโต
ศาสนาชินโต
Padvee Academy
ดาวน์โหลดไฟล์นี้ได้ที่ www.philosophychicchic.com ศาสนาชินโต เกิดที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อประมาณ 117 ปี ก่อนพุทธศักราช คำว่า ชินโต แม้จะออกเสียงเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่คำเดิมมาจากภาษาจีนว่า เชนเต๋า แปลว่า ทางแห่งเทพเจ้า เมื่อศาสนาพุทธและศาสนาขงจื๊อแผ่ขยายเข้ามาในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นจึงได้เรียกการนับถือเทพเจ้าว่า ศาสนาชินโต เพื่อให้เกิดความแตกต่างจากศาสนาพุทธและศาสนาขงจื๊อ
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
Kran Sirikran
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
อารยธรรมมโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรมมโสโปเตเมียและอียิปต์
6091429
History
อารยธรรมอิȨึϸย
อารยธรรมอิȨึϸย
Hercule Poirot
อารยธรรมอิȨึϸย
อารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมกรีก-โรมัน
Jungko
อารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมโรมัน
อารยธรรมโรมัน
Pannaray Kaewmarueang
อารยธรรมโรมัน
ทวีปอเมริกาเหนือ
ทวีปอเมริกาเหนือ
พัน พัน
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
Infinity FonFn
สื่อการเรียนรู้เรื่อง อารยธรรมจีน จัดทำโดย น.ส.น้ำฝน คำแก้ว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6.12 เลขที่ 38 คุณครูที่ปรึกษา คุณครู เตือนใจ ไชยศิลป์ งานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาประวัติศาสตร์สากล ภาคเรียนที่1/2558 โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม
อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
pnmn2122
อเชียไมเȨร์และกรีก เสนอ อ.ปรางค์สุวรรณ ศักดิ์โสภณกุล จัดทำโดย นางสาวณัฐนิชา วิทิตยานนท์ ม.6.7 เลขที่ 21 นางสาวณิชาพร จันทร์วีระธรรม ม.6.7 เลขที่ 22
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
Padvee Academy
ดาวน์โหลดไฟล์นี้ได้ที่ www.philosophychicchic.com ศาสนาโบราณ ศาสนาอียิปต์โบราณ M.Marittite นักปราชญ์ชาวฝรั่งเศส อ้างผลการสำรวจของ Herodotus ผู้เป็นปราชญ์ในสมัยกรีกโบราณ ไว้ในบันทึกของตนว่า...การนับถือศาสนาของอียิปต์โบราณนั้นสามารถแบ่งประเภท แห่งศรัทธาให้ศึกษาได้ดังนี้... 1. การนับถือสัตว์เป็นพระเจ้า 2. การนับถือดวงวิญญาณ 3. ศพอาบยา และ มรณะคัมภีร์ 4. พิธีกรรมและนักบวช 5. หมวดหมู่ ของเทพเจ้า 6. อิทธิพลของศาสนา
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
Padvee Academy
ดาวน์โหลดไฟล์นี้ได้ที่ www.philosophychicchic.com ศาสนาซิกข์ ก่อขึ้นตั้งโดย “คุรุนานัก เทวะ” ปฐมพระศาสดา เป็นศาสนาเอกเทวนิยมที่มีอายุน้อยที่สุด จุดเริ่มต้นของศาสนาซิกข์นั้น นับตั้งแต่ปีเกิดของศาสดาองค์แรก คือปี พ.ศ. ๒๐๑๒ ศาสนาซิกข์ เกิดที่ประเทศอินเดียตอนเหนือในรัฐปัญจาบ คำว่า “ซิกข์” เป็นภาษาปัญจาบ แปลว่า ผู้ศึกษา หรือศิษย์ คือ ชาวซิกข์ทุกคนเป็นศิษย์ของคุรุหรือครู มีด้วยกันทั้งสิ้น ๑๐ องค์
อเชียไมเȨร์
อเชียไมเȨร์
Pannaray Kaewmarueang
วัȨำคัญทางพระพุทธศาสนา
วัȨำคัญทางพระพุทธศาสนา
Thongsawan Seeha
อารยธรรมกรีก โรมัน
อารยธรรมกรีก โรมัน
Jungko
อารยธรรมกรีก โรมัน
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
Supicha Ploy
โดย คุณครูกิตติยา วิริยะวีรวัฒน์
อารยธรรมอิȨึϸย
อารยธรรมอิȨึϸย
Toey Songwatcharachai
อ.ปรางค์สุวรรณ ศักดิ์โสภณกุล
คำȨ
คำȨ
A'ye Oranee
More Related Content
What's hot
(20)
มโสโปเตเมีย
มโสโปเตเมีย
bew lertwassana
อารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมกรีก-โรมัน
Jungko
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ไพบููลย์ หัดรัดชัย
ศาสนาชินโต
ศาสนาชินโต
Padvee Academy
ดาวน์โหลดไฟล์นี้ได้ที่ www.philosophychicchic.com ศาสนาชินโต เกิดที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อประมาณ 117 ปี ก่อนพุทธศักราช คำว่า ชินโต แม้จะออกเสียงเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่คำเดิมมาจากภาษาจีนว่า เชนเต๋า แปลว่า ทางแห่งเทพเจ้า เมื่อศาสนาพุทธและศาสนาขงจื๊อแผ่ขยายเข้ามาในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นจึงได้เรียกการนับถือเทพเจ้าว่า ศาสนาชินโต เพื่อให้เกิดความแตกต่างจากศาสนาพุทธและศาสนาขงจื๊อ
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
Kran Sirikran
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
อารยธรรมมโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรมมโสโปเตเมียและอียิปต์
6091429
History
อารยธรรมอิȨึϸย
อารยธรรมอิȨึϸย
Hercule Poirot
อารยธรรมอิȨึϸย
อารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมกรีก-โรมัน
Jungko
อารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมโรมัน
อารยธรรมโรมัน
Pannaray Kaewmarueang
อารยธรรมโรมัน
ทวีปอเมริกาเหนือ
ทวีปอเมริกาเหนือ
พัน พัน
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
Infinity FonFn
สื่อการเรียนรู้เรื่อง อารยธรรมจีน จัดทำโดย น.ส.น้ำฝน คำแก้ว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6.12 เลขที่ 38 คุณครูที่ปรึกษา คุณครู เตือนใจ ไชยศิลป์ งานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาประวัติศาสตร์สากล ภาคเรียนที่1/2558 โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม
อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
pnmn2122
อเชียไมเȨร์และกรีก เสนอ อ.ปรางค์สุวรรณ ศักดิ์โสภณกุล จัดทำโดย นางสาวณัฐนิชา วิทิตยานนท์ ม.6.7 เลขที่ 21 นางสาวณิชาพร จันทร์วีระธรรม ม.6.7 เลขที่ 22
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
Padvee Academy
ดาวน์โหลดไฟล์นี้ได้ที่ www.philosophychicchic.com ศาสนาโบราณ ศาสนาอียิปต์โบราณ M.Marittite นักปราชญ์ชาวฝรั่งเศส อ้างผลการสำรวจของ Herodotus ผู้เป็นปราชญ์ในสมัยกรีกโบราณ ไว้ในบันทึกของตนว่า...การนับถือศาสนาของอียิปต์โบราณนั้นสามารถแบ่งประเภท แห่งศรัทธาให้ศึกษาได้ดังนี้... 1. การนับถือสัตว์เป็นพระเจ้า 2. การนับถือดวงวิญญาณ 3. ศพอาบยา และ มรณะคัมภีร์ 4. พิธีกรรมและนักบวช 5. หมวดหมู่ ของเทพเจ้า 6. อิทธิพลของศาสนา
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
Padvee Academy
ดาวน์โหลดไฟล์นี้ได้ที่ www.philosophychicchic.com ศาสนาซิกข์ ก่อขึ้นตั้งโดย “คุรุนานัก เทวะ” ปฐมพระศาสดา เป็นศาสนาเอกเทวนิยมที่มีอายุน้อยที่สุด จุดเริ่มต้นของศาสนาซิกข์นั้น นับตั้งแต่ปีเกิดของศาสดาองค์แรก คือปี พ.ศ. ๒๐๑๒ ศาสนาซิกข์ เกิดที่ประเทศอินเดียตอนเหนือในรัฐปัญจาบ คำว่า “ซิกข์” เป็นภาษาปัญจาบ แปลว่า ผู้ศึกษา หรือศิษย์ คือ ชาวซิกข์ทุกคนเป็นศิษย์ของคุรุหรือครู มีด้วยกันทั้งสิ้น ๑๐ องค์
อเชียไมเȨร์
อเชียไมเȨร์
Pannaray Kaewmarueang
วัȨำคัญทางพระพุทธศาสนา
วัȨำคัญทางพระพุทธศาสนา
Thongsawan Seeha
อารยธรรมกรีก โรมัน
อารยธรรมกรีก โรมัน
Jungko
อารยธรรมกรีก โรมัน
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
Supicha Ploy
โดย คุณครูกิตติยา วิริยะวีรวัฒน์
อารยธรรมอิȨึϸย
อารยธรรมอิȨึϸย
Toey Songwatcharachai
อ.ปรางค์สุวรรณ ศักดิ์โสภณกุล
คำȨ
คำȨ
A'ye Oranee
มโสโปเตเมีย
มโสโปเตเมีย
bew lertwassana
อารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมกรีก-โรมัน
Jungko
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ไพบููลย์ หัดรัดชัย
ศาสนาชินโต
ศาสนาชินโต
Padvee Academy
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
อารยธรรมมโสโปเตเมีย
Kran Sirikran
อารยธรรมมโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรมมโสโปเตเมียและอียิปต์
6091429
อารยธรรมอิȨึϸย
อารยธรรมอิȨึϸย
Hercule Poirot
อารยธรรมกรีก-โรมัน
อารยธรรมกรีก-โรมัน
Jungko
อารยธรรมโรมัน
อารยธรรมโรมัน
Pannaray Kaewmarueang
ทวีปอเมริกาเหนือ
ทวีปอเมริกาเหนือ
พัน พัน
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
Infinity FonFn
อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
pnmn2122
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
Padvee Academy
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
Padvee Academy
อเชียไมเȨร์
อเชียไมเȨร์
Pannaray Kaewmarueang
วัȨำคัญทางพระพุทธศาสนา
วัȨำคัญทางพระพุทธศาสนา
Thongsawan Seeha
อารยธรรมกรีก โรมัน
อารยธรรมกรีก โรมัน
Jungko
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
Supicha Ploy
อารยธรรมอิȨึϸย
อารยธรรมอิȨึϸย
Toey Songwatcharachai
คำȨ
คำȨ
A'ye Oranee
อารยธรรมอียิปต์
2.
ที่ตั้งและสภาพภูมิปัจจัย • ที่ตั้งในอดีต
บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้้าไนล์ ประเทศอียิปต์ อยู่บนสองฟากฝั่งแม่น้้าไนล์ มีพรมแดนธรรมชาติ ทิศเหนือคือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทิศตะวันออกคือทะเลแดง ทิศใต้คือประเทศนูเบียหรือซูดานในปัจจุบัน ทิศตะวันตกคือทะเลทรายซะฮาราอียิปต์โบราณประกอบด้วยบริเวณ สองแห่งคืออียิปต์บน (Upper Egypt) และอียิปต์ล่าง (Lower Egypt)
3.
• อียิปต์บน(Upper Egypt)
อยู่ทางทิศใต้บริเวณที่แม่น้้าไหลผ่านภูเขา หุบเขา เนินเขาที่แห้งแล้งมีเนินทรายสีแดงและสีเหลืองเป็นตอนๆ • อียิปต์ล่าง (Lower Egypt) อยู่บริเวณที่แม่น้้าแตกสาขาเป็นรูปพัด ไหล ลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บริเวณนี้ชาวกรีกโบราณเรียกว่า เดลต้า
4.
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดอารยธรรมลุ่มน้าไนล์ 2.1
ที่ตั้ง 2.1.1 เนื่องจากหิมะละลายในเขตที่ราบสูงเอธิโอเปีย ท้าให้ บริเวณแม่น้้าไนล์มีดินตะกอนมาทับถมจึงเป็นพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ 2.1.2 มีความได้เปรียบทางธรรมชาติ เนื่องจากประเทศอียิปต์ เป็นดินแดนที่ล้อมรอบด้วยทะเลทรายท้าให้มีปราการธรรมชาติในการ ป้องกันศัตรูภายนอก
5.
2.2 ทรัพยากรธรรมชาติ
แม้อียิปต์จะแห้งแล้ง แต่สองฝั่งแม่น้้าไนล์ก็ประกอบด้วย หินแกรนิตและหินทราย ใช้ก่อสร้างและพัฒนาความเจริญรุ่งเรือง ด้านสถาปัตยกรรม วัสดุเหล่านี้มีความแข็งแรงคงทนแข็งแรงและ ช่วยรักษามรดกทางด้านอารยธรรมของอียิปต์ให้ปรากฏแก่ชาวโลกมา จนกระทั่งปัจจุบัน
6.
2.3 ระบบการปกครอง
เคารพนับถือกษัตริย์ฟาโรห์ดุจเทพเจ้าองค์หนึ่ง จึงมีอ้านาจในการ ปกครองและบริหารอย่างเต็มที่ทั้งด้านการเมืองและศาสนา ขุนนางเป็นผู้ช่วยในการปกครอง พระเป็นผู้ช่วยด้านศาสนา ซึ่งการที่พาโรห์มีอ้านาจเด็ดขาดท้าให้อียิปต์สามารถพัฒนาอารย ธรรมของตนได้อย่างเต็มที่
7.
2.4 ภูมิปัญญาของชาวอียิปต์
ชาวอียิปต์สามารถคิดค้นเทคโนโลยีและวิทยาการความเจริญด้าน ต่างๆเพื่อตอบสนองการด้าเนินชีวิต ความเชื่อทางศาสนาและการสร้าง ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่อียิปต์ได้ส่งเสริมความเจริญในด้านการก่อสร้าง และสถาปัตยกรรม เป็นต้น เช่น ความร้ทู างคณิตศาสตร์ เรขาคณิต ฟิสิกส์
8.
อียิปต์บทปฐมกาล ( จุดเริ่มต้นของอารยธรรมอียิปต์
)
9.
สมัยก่อนราชวงศ์ เผ่าชนที่มาอาศัย รวมกันตามริมฝั่งแม่น้้าไนล์
แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ เรียกว่า โนมส์ ในแต่ละโนมส์จะปกครองโดยกลุ่มนักบวชซึ่งพัฒนามาจากหมอผีในสมัย หินใหม่ ต่อมาความจ้าเป็นในการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ท้าให้ต้องมีการจัดระบบ ชลประทานขึ้น หัวหน้ากรรมกรผู้ควบคุมการ ชลประทานเหล่านี้ได้ถูกยกย่องให้ เป็นหัวหน้านักรบของโนมส์ เมื่อขนาดของชุมชนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆก็มีการพัฒนาเป็น นครรัฐขนาดเล็กกระจัดกระจายตาม ริมฝั่งแม่น้้าดินแดนของแม่น้้าไนล์ถูกแบ่ง ตามสภาพภูมิศาสตร์เป็น อียิปต์บนและอียิปต์ล่าง ในราวสี่พันปีก่อนคริสตกาลชาวอียิปต์เริ่มพัฒนารูปแบบอักษรจากรูปภาพ และกลายเป็นอักษรเฮียโรกลิฟฟิคในเวลาต่อมา
10.
กำเนิดแห่งอำณำจักร • ในราว
3200ปีก่อนคริสตกาล ราชาแมงป่อง (Scorpion king) ผู้ครอง นครธีส (This) ได้เข้ายึดครองนครรัฐต่างๆในอียิปต์บนและตั้งตนเป็นฟาโรห์ แห่งอาณาจักรบน ปรารถนาจะรวมอียิปต์เข้าด้วยกันแต่พระองค์สิ้นพระชนม์ เสียก่อน • สมัยของ ฟาโรห์เมเนส(Menese)พระองค์สามารถผนวกทั้งสองอาณาจักรเข้า ด้วยกันได้ส้าเร็จและสถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นฟาโรห์พระองค์แรกของอียิปต์ โดยตั้งเมืองหลวงที่ เมมฟิส (Memphis) ซึ่งอยู่ตอนกลางของลุ่มน้้าไนล์ ฟาโรห์เมเนสเป็นฟาโรห์องค์แรกแห่งราชวงศ์ที่หนึ่งของอียิปต์โบราณ
11.
สมัยราชวงศ์ต้น (Early Dynasty
or Archaic Period) ราชวงศ์ที่ 1-2 (3100-2686 B.C.) เมเนส ประมุขแห่งอียิปต์บนได้รวมดินแดนทั้งสองเข้าด้วยกัน และ สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 1 และตั้งเมืองหลวงอยู่ที่ เมืองเมมฟิส(Memphis) ได้มีการจัดตั้งระบบชลประทาน อียิปต์ได้พัฒนาระบบตัวเขียนที่ เรียกว่า อักษรฮีโรกลิฟิก (Hieroglypjic) หรือสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีลักษณะเป็นอักษรภาพที่จารึก บนแผ่นศิลาหรือฝาผนังขนาดใหญ่ ต่อมาได้พัฒนาให้เขียนง่ายขึ้นแต่ก็ยังคง เป็นอักษรภาพอยู่ เรียกว่า อักษรเฮียราติก (hieratic) โดยเขียนลงบน กระดาษปาปิรุส (papyrus )
12.
สมัยราชอาณาจักรเก่า (The Old
Kingdom) ราชวงศ์ที่ 3-6 (2686-2155 B.C.) สมัยนี้บางครั้งก็ถูกเรียกว่า สมัยพีระมิด (The Pyramid Age) ความ เชื่อว่าฟาโรห์คือเทวะหรือพระเจ้า จึงท้าให้เกิดวัฒนธรรมการเชิดชูฟาโรห์และ พระราชวงศ์ โดยการสร้างพีระมิด เพื่อเก็บพระศพ หรือ มัมมี่ และเกิดการ สร้างพีระมิดขึ้นเป็นครั้งแรก พีระมิดแห่งแรกสร้างขึ้นในสมัยกษัตริย์โจเซอร์แห่งราชวงศ์ที่ 3 มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ศิลปกรรม และสถาปัตยกรรม ใน ราชวงศ์ที่ 4 ประจวบกับกษัตริย์มีอ้านาจในการปกครองเป็นผลให้เกิดพีระมิด ใหญ่ที่สุดขึ้น พีระมิดนี้เป็นของพีระมิดกษัตริย์คูฟุ (Khufu) หรือ คีออปส์ (Cheops) อยู่ที่เมือง กีซา (Giza)
13.
สมัยอาณาจักรกลาง (The Middle
Kingdom 2052-1786 B.C.) หลังจากอาณาจักรเก่าสิ้นสุดลงเกิดความระส่้าระสาย กษัตริย์ราชวงศ์ที่ 12 รวมอียิปต์เป็นปึกแผ่นย้ายราชธานีมาอยู่ที่เมือง ธิบส์ ทางอียิปต์บน ในสมัยราชวงศ์ที่ 12 อียิปต์เริ่มกลายเป็นชาติมหาอ้านาจ และสามารถตี อาณาจักรนูเบียได้ มีความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมและท้าค้าขายกับเมืองอาบิ ดอส (Abydos) เกาะครีต (Crete) นูเบีย (Nubia) อาระเบีย (Arabia) และ บาบิโลเนีย(Babylonia) วรรณคดีและศิลปกรรมก็เจริญขึ้นมาก มีการท้าเหมืองแร่และอู่ต่อเรือ นอกจากนี้มีการสร้างพีระมิดขนาดใหญ่ ขึ้นหลายแห่งการเพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ อ้านาจของฟาโรห์กลับมายิ่งใหญ่และ มั่งคั่งอีกครั้งหนึ่ง
14.
สมัยอาณาจักรใหม่หรือสมัยจักรวรรดิ (The New
Kingdom or the Empire Age 1554-1090 B.C.) ยุคนี้เป็นยุคที่อียิปต์รุ่งเรืองที่สุด ยุคของฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 (Thutmosis) แห่งราชวงศ์ที่ 18 ในยุคนี้ เมืองหลวงของอียิปต์คือนครธีบส์(Thebes) และฝั่งตรงข้ามของเมือง หลวงคือ หุบเขาแห่งกษัตริย์อันเป็นสถานที่ฝังพระศพฟาโรห์ ชาวอียิปต์ได้ยกเลิกประเพณีการสร้างพีระมิดไปตั้งแต่ตอนปลาย ของ อาณาจักรเก่าเนื่องจากสิ้น เปลืองวัตถุดิบและหันมาใช้วิธีเจาะหน้าผาเป็น สุสานแทน
15.
ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของรามซีสที่ 2
แห่งราชวงศ์ที่ 21 ปรากฎว่า จักรวรรดิโบราณก็เริ่มเสื่อมลงเป็นล้าดับเพราะกษัตริย์ไร้ความสามารถในการ ปกครองและการรบ ขุนนางก่อความวุ่นวายแย่งชิงอ้านาจกันพระขึ้นปกครอง อียิปต์
16.
สมัยเสื่อมอานาจ (The Decline)
จักรวรรดิอียิปต์เสื่อมอ้านาจตั้งแต่ประมาณปี 1100 ก่อนคริสต์ศักราช ในสมัยนี้ชาวต่างชาติ พวกแอลซีเรียน เปอร์เซียจากเอเชียรวมทั้งชนชาติในแอฟริกาได้เข้า รุกรานอียิปต์และปกครองบางส่วนของอียิปต์ ฟาโรห์ของอียิปต์ก็ยังคงปกครองดินแดนของตนต่อมาจนถึงประมาณปี 300 ก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อาณาจักรอียิปต์เสื่อมสลายและถูก ชาวต่างชาติยึดครอง กลางคริสต์ศตวรรษที่ 7 อียิปต์หันไปนับถือ ศาสนาอิสลาม
17.
ผลงาȨี่สาคัญྺองการสร้างสรรค์อารยธรรม
18.
ด้านอักษรศาสตร์ • อักษรภำพเฮียโรกลิฟฟิค
(Hieroglyphic)
19.
ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ • การทาปฏิทิน
20.
• คณิตศาสตร์ ค้นพบ
¶ ( Pie) มีค่ำเท่ำกับ 3.14 กระดาษปาปิรุส
21.
ด้านวรรณกรรม • 1.
วรรณกรรมเกี่ยวเนื่องกับศาสนา ได้แก่คัมภีร์ผู้ตาย คมัภีร์นีมุ้่ง แสดงต่อเทพเจ้ำโอซิริส เพื่อกำรเข้ำสู่โลกหน้ำที่อุดมสมบูรณ์และสุข สบำยเช่นอียิปต์โบรำณ นอกจำกนียั้งมีบทสรรเสริญของพระเจ้ำอเนโฮ เต็ปที่ 4 ต่อเทพเจ้ำอะตัน เป็นต้น
22.
• 2. วรรณกรรมไม่เกี่ยวเนื่องกับศาสนา
ได้แก่งำนสลักบันทึก เหตุกำรณ์ตำมเสำหินหรือผนังปิรำมิด เป็นต้น
23.
ด้านศิลปกรรม Step Pyramid
of Djoser พีระมิดโจเซอร์ (Djoser's Pyramid) หรือ พีระมิด แห่งซักการา (The Pyramid of Saqqara) * พีระมิดขั้นบันได
24.
The Red Pyramid
พีระมิดแดง (Red Pyramid) สร้างโดยฟาโรห์สนอฟรู
25.
The Bent Pyramid
พีระมิดหักงอ (Bent Pyramid) หรือบำงครัง้เรียกกัน สัน้ๆ ว่ำ พีระมิดเบีย้ว สร้ำงขึน้โดย ฟำโรห์สนอฟรู (Snofru)
26.
The Pyramids of
Giza
27.
สฟิงส์( Sphinx) or
( The Great sphinx of Giza )
28.
ด้านความเชื่อ และศาสนา •
คัมภีร์มรณะ (Book of the Dead) หรือ The Chapters of Coming - Forth - By - Day
29.
• ควำมเชื่อในเรื่องเทพเจ้ำ
31.
ด้านการแพทย์ • มัมมี่
32.
ขั้นตอนการทา มัมมี่ •
ขัน้ตอนที่1 ขัน้ตอนที่ 2
33.
• ขัน้ตอนที่ 3
• ขัน้ตอนที่ 4
34.
• ขัน้ตอนที่ 5
• ขัน้ตอนที่ 6
35.
• ขัน้ตอนที่7 •
ขัน้ตอนที่ 8
36.
• ขัน้ตอนที่ 9
ขัน้ตอนที่ 10
37.
• ขัน้ตอนที่ 11
ขัน้ตอนที่ 12 ขัน้ตอนที่ 13
Download