ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
กฎหมายลักษณะมรดก 
อ.สุกิจ อยู่ในธรรม 
14/11/2551 1
ข้อจำกัดของกฎหมำยมรดก 
1.ใช้เฉพำะบุคคลธรรมดำเท่ำนัน้ 
2.ไม่ใช้กับ 4 จังหวัด ยะลำ นรำธิวำส 
สตูล ปัตตำนี 
14/11/2551 2
สำเหตุของกำรทำให้มรดกตกทอด 
เจ้ำมรดกตำย 
ตำยธรรมชำติ สำบสูญ 
14/11/2551 3
เวลำกำรตกทอดมรดก ม.1599 
เจ้ำมรดกถึงแก่ควำมตำย 
14/11/2551 4
จะต้องมีกำรแสดงเจตนำรับมรดกหรือไม่ 
ไม่ ม.1601 
มรดกตกทอดทันที 
ทำยำทอำจสละมรดกได้ 
ม.1612 
14/11/2551 5
คำพิพำกษำฎีกำที่ 2786/2523 ทำยำทจะต้องสละ 
มรดกเสียตัง้แต่ก่อนที่เจ้ำหนีจ้ะฟ้องคดี ถ้ำเจ้ำหนีฟ้้อง 
คดีแล้ว และคดีอยู่ระหว่ำงกำรพิจำรณำของศำล 
ทำยำทจะสละมรดกไม่ได้ ดังนัน้ ทำยำทจะต้องปล่อย 
ให้มีกำรดำเนินคดีต่อไปจนศำลมีคำพิพำกษำคดี และ 
ถ้ำศำลมีคำพิพำกษำให้ทำยำทรับผิดชำระหนีข้องผู้ตำย 
แทนผู้ตำยให้แก่เจ้ำหนี้ ทำยำทจึงยกบทบัญญัติมำตรำ 
1601 ขึน้เป็นข้อต่อสู้ในชัน้บังคับคดี 
14/11/2551 6
คำพิพำกษำฎีกำที่919/2495 โจทก์ฟ้องว่ำมำรดำโจทก์ขำย 
ฝำกที่ดินไว้กับจำเลย บัดนีม้ำรดำโจทก์ตำย โจทก์ขอไถ่ที่ดิน 
คืน จำเลยไม่ยอมให้ไถ่ จึงขอให้ศำลบังคับให้จำเลยยอมไถ่ 
ที่ดินคืน จำเลยให้กำรต่อสู้ว่ำโจทก์ยังไม่ได้รับโอนมรดกโจทก์ 
ไม่มีสิทธิไถ่ ศำลฎีกำพิพำกษำว่ำ โจทก์เป็นผู้รับมรดก เมื่อ 
มำรดำตำย สิทธิในทำงทรัพย์สินของมำรดำก็ตกทอดไปยัง 
โจทก์ทันที ซงึ่รวมตลอดทัง้สิทธิไถ่ถอนทรัพย์ที่ขำยฝำกด้วย 
ฉะนัน้ โจทก์มีสิทธิไถ่ถอนทรัพย์สินที่มำรดำขำยฝำกไว้ได้ โดย 
ไม่จำต้องรอให้รับมรดกก่อน 
14/11/2551 7
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1619/2506 ตำม ป.พ.พ. มำตรำ 1599 
ทำยำทย่อมได้สิทธิในมรดกตัง้แต่เจ้ำมรดกตำย แม้ยังไม่ได้จด 
ทะเบียนสิทธิตำม ม.1299 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 310/2510 (ประชุมใหญ่) เจ้ำมรดกมีหุ้น 
ในบริษัทจำเลยเมื่อเจ้ำมรดกตำย หุ้นของเจ้ำมรดกย่อมตก 
ทอดไปยังทำยำททันที ตำม ม.1599 และ ม.1600 ทำยำทจึงมี 
อำนำจขอให้เพิกถอนมติพิเศษที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น ตำม 
ม.1195 ได้ แม้ว่ำบริษัทจำเลยจะยังไม่ได้จดทะเบียนให้ทำยำท 
เป็นผู้ถือหุ้นก็ตำม 
14/11/2551 8
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1054/2534 โจทก์ได้ 
กรรมสิทธิ์ที่ดินมำโดยทำงมรดก แม้ยังไม่ได้ 
เปลี่ยนชื่อในโฉนดที่ดินดังกล่ำวมำเป็นของตน 
ก็ถือว่ำโจทก์อยู่ในฐำนะที่เป็นเจ้ำของ 
สำมยทรัพย์ มีอำนำจฟ้องจำเลยที่เป็น 
เจ้ำของภำรยทรัพย์ให้เปิดทำงภำรจำยอมได้ 
14/11/2551 9
องค์ประกอบของมรดก 
1.ต้องเป็นทรัพย์สิน สิทธิ หน้ำที่และควำมรับผิดต่ำง ๆ ของ 
ผู้ตำยหรือผู้ที่กฎหมำยให้ถือว่ำถึงแก่ควำมตำย 
2.ไม่ใช่สิทธิเฉพำะตัว 
3.มีอยู่ในเวลำถึงแก่ควำมตำย 
4.กฎหมำยนีห้รือกฎหมำยอื่นไม่ได้บัญญัติให้ตกทอดโดย 
ประกำรอื่น 
14/11/2551 10
1.ต้องเป็นทรัพย์สิน สิทธิ หน้ำที่และควำมรับผิดต่ำง ๆ ของ 
ผู้ตำยหรือผู้ที่กฎหมำยให้ถือว่ำถึงแก่ควำมตำย 
ทรัพย์สิน ม. 138 อสังหำริมทรัพย์ ม. 139 
สังหำริมทรัพย์ 140 
14/11/2551 11
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1174/2508 ป.พ.พ.(สรุป) มำตรำ 1646 
นอกจำกผู้ตำยจะแสดงเจตนำเผื่อตำยในเรื่องของทรัพย์สิน 
ของตนเองแล้ว กำหนดกำรเผื่อตำยในเรื่องต่ำง ๆ อันจะให้ 
เกิดผลบังคับตำมกฎหมำยเมื่อตนตำยแล้ว แม้ไม่เกี่ยวกับ 
ทรัพย์สินก็มีผลบังคับได้ตำมพินัยกรรม(พินัยกรรม ม. 1656) 
อ.วรพจน์ วิศรุตพิชญ์ หน้ำ 40 
14/11/2551 12
สิทธิ ม.1600 น่ำจะคือ สิทธิทำงหนี้ 
หรือบุคคลสิทธิ 
มำจำกนิติกรรมสัญญำ ละเมิด จัดกำรงำนนอกสงั่ ลำภมิควรได้ 
14/11/2551 13
สิทธิตำมสัญญำต่ำงๆ 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 919/2495 ผู้ขำยฝำกตำย ทำยำทของผู้ขำยฝำก ใช้สิทธิไถ่ 
ถอนได้ โดยไม่ต้องรอโอนมรดกก่อน 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1236/2501 ข้อเท็จจริง คือ นำยอ้อน กับโจทก์เป็นสำมี 
ภรรยำกันโดยชอบด้วยกฎหมำย เมื่อนำยอ้อนสำมีโจทก์ตำย ทรัพย์สินของ 
นำยอ้อนตลอดจนสิทธิหน้ำที่ต่ำง ๆ ซงึ่รวมสิทธิหนีจ้ำนองรำยนีย้่อมเป็น 
มรดกตกทอดได้แก่โจทก์ทำยำทตำมกฎหมำย กรณียังไม่อยู่ในบังคับของกำร 
โอนสิทธิเรียกร้อง มำตรำ 306 
14/11/2551 14
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1236/2501 ร.ผู้ตำยได้เข้ำทำสัญญำ 
คำ้ประกันต่อศำลย่อมผูกพันคำ้ประกันหนีข้องจำเลย 
จนกว่ำคดีถึงที่สุด แม้ ร.ถึงแก่กรรมก่อนศำลฎีกำมีคำ 
พิพำกษำให้จำเลยใช้หนีแ้ก่โจทก์ก็ตำม แต่เมื่อจำเลยไม่ 
ชำระหนีนั้น้ โจทก์ก็มีสิทธิบังคับเอำกับที่ดินอันเป็นมรดก 
ของ ร. ได้ ม.699 ม.1599 ม.1600 ม.1734 ป.วิแพ่ง 231 
271 และ 274 (คำพิพำกษำฎีกำที่ 
144/2491,1179/2509) 
14/11/2551 15
คำพิพำกษำฎีกำที่ 2274/2521 ผู้ทรงเช็คที่ธนำคำร 
ปฏิเสธกำรจ่ำยเงินตำย สิทธิเรียกร้องตำมเช็คตกแก่ 
ทำยำท แม้วันที่ลงในเช็คจะไม่ถึงกำหนด (คำพิพำกษำ 
ฎีกำที่1416/2522) 
หรือเป็นเช็คที่ไม่ลงวันที่ ซงึ่ผู้ทรงอำจลงวันที่ที่แท้จริงได้ 
(คำพิพำกษำฎีกำที่1416/2522) เมื่อผู้สงั่จ่ำยตำย 
ทำยำทก็ต้องรับผิด 
14/11/2551 16
หนีล้ะเมิดที่ผู้ตำยก่อไว้เป็นมรดก 
สิทธิเรียกร้องค่ำสินไหมทดแทนเพื่อกำรละเมิด 1314/2505 
14/11/2551 17
คำพิพำกษำฎีกำที่ 383/2530 บ.ลูกจ้ำงของโจทก์ขับรถ 
ด้วยควำมประมำทชนขบวนรถไฟ เป็นเหตุให้รถโจทก์ 
และรถไฟเสียหำย ต่อมำ บ. ถึงแก่กรรม โจทก์ย่อมฟ้อง 
ให้จำเลยซึ่งเป็นทำยำทโดยชอบด้วยกฎหมำยของ บ. ใน 
ฐำนะทำยำทโดยธรรมรับผิดชดใช้ค่ำเสียหำยดังกล่ำวได้ 
ตำม มำตรำ 1599 1600 และ ม .1629 วรรค 2 
14/11/2551 18
คำพิพำกษำฎีกำที่ 3240/2537 มำรดำจำเลยปักเสำไฟฟ้ำและเดิน 
สำยไฟฟ้ำผ่ำนที่ดินของโจทก์ โดยโจทก์ไม่ยินยอมเป็นละเมิด เมื่อ 
มำรดำจำเลยตำย จำเลยเป็นทำยำทต้องรับผิดรือ้ถอนเสำไฟฟ้ำ และ 
ทำที่ดินให้เป็นดังเดิม 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1936/2517 ค่ำเสื่อมสุขภำพอนำมัย โจทก์ 
เรียกร้องให้จำเลยชดใช้ฐำนละเมิด ทำให้โจทก์เสียหำยแก่ 
ร่ำงกำยอนำมัย เป็นค่ำทดแทนควำมเสียหำยอันไม่ใช่ตัวเงิน 
ม.446 ซึ่งศำลกำหนดให้ตำมพฤติกำรณ์ควำมร้ำยแรงแห่ง 
ละเมิด 
14/11/2551 19
คำพิพำกษำฎีกำที่ 2501/2517 ค่ำเสียหำยที่โจทก์ต้องให้แพทย์ทำศัลยกรรม 
ตกแต่งเพื่อลบลอยแผลเป็นบนใบหน้ำ 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 3344/2533,3807/2535 ค่ำป่วยเจ็บทนทุกข์ทรมำนเสียขำ 
ไปข้ำงหนึ่ง 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 427/2538,5220/2539 ค่ำขำดควำมสุขสำรำญ เพรำะ 
ร่ำงกำยพิกำรทำให้สังคมรังเกียจ อับอำยขำยหน้ำ ไม่ได้เล่นกีฬำ เป็น 
ค่ำเสียหำยเกี่ยวกับควำมรู้สึกทำงด้ำนจิตใจ 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 9221/2538,5220/2539 ค่ำที่โจทก์สูญเสียควำมสำมำรถใน 
กำรสืบพันธ์ุ (เสียบุคลิกภำพทำงร่ำงกำย) 
14/11/2551 20
คำพิพำกษำฎีกำที่ 3208/2538 สิทธิในกำรเรียกค่ำสินไหม 
ทดแทนกำรปลงศพ เป็นสิทธิของทำยำทที่จะเรียกเอำกับผู้ทำ 
ละเมิด ทำให้เจ้ำมรดกตำย ส่วนสิทธิในกำรเรียกค่ำสินไหม 
ทดแทนอันเกิดแก่ทรัพย์สินของเจ้ำมรดกเนื่องจำกกำรกระทำ 
ละเมิดก็เป็นสิทธิของเจ้ำมรดกที่ตกทอดแก่ทำยำทเช่นกัน 
ฉะนัน้ เมื่อ ส.ได้รับรองโจทก์ที่ 2 และที่ 3 ว่ำเป็นบุตรแล้ว และ 
ตำม ม.1627 ถือว่ำเป็นผู้สืบสันดำนมีสิทธิรับมรดกของ ส. 
โจทก์ที่ 2 และ 3 จึงมีสิทธิฟ้องเรียกค่ำปลงศพ ส. และค่ำ 
รถจักรยำนยนต์ของ ส. ที่เสียหำยได้ 
14/11/2551 21
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1202/2549 สิทธิในกำรเรียกค่ำสินไหม 
ทดแทนเกี่ยวค่ำปลงศพ ม. 443 วรรคแรก เป็นสิทธิของทำยำท 
จะเรียกเอำกับผู้ที่กระทำละเมิดทำให้เจ้ำมรดกถึงตำยภำยใต้ 
ม.1649 และเมื่อโจทก์ที่ 2 และที่ 4 เป็นบุตรนอกกฎหมำยที่ 
บิดำรับรองแล้ว จึงเป็นผู้สืบสันดำนเหมือนบุตรชอบด้วย 
กฎหมำย ตำม ม.1627 มีสิทธิเรียกค่ำปลงศพของเจ้ำมรดก 
และเมื่อโจทก์ทัง้สี่ร่วมกันฟ้องเรียกค่ำสินไหมทดแทนในกำร 
ปลงศพดังกล่ำว จึงไม่ต้องระบุว่ำโจทก์คนใดเป็นผู้ออก 
ค่ำใช้จ่ำยในส่วนนี้ จึงมีอำนำจฟ้องได้ โจทก์ที่2 ถึง 4 จึงมี 
อำนำจฟ้องเรียกค่ำสินไหมทดแทนในกำรปลงศพได้ 
14/11/2551 22
คำพิพำกษำฎีกำที่ 2604/2516 บิดำเปิดบัญชีเงินฝำกประจำที่ 
ธนำคำรให้บุตรผู้เยำว์ โดยมอบหมำยให้มำรดำเป็นผู้ทีอำนำจในกำร 
ถอนเงินจำกบัญชีมำใช้เพื่อกำรศึกษำของบุตร แล้วบิดำมำรดำได้นำ 
เงินเข้ำฝำกในบัญชีดังกล่ำวระคนปนไปกับเงินได้ของบุตร โดยมี 
เจตนำยกเงินที่นำฝำกให้แก่บุตร ดังนัน้ เงินในบัญชีหำใช่เงินที่บิดำ 
มำรดำฝำกไว้เป็นของตนโดยฝำกไว้ในนำมบุตรหรือนำมแฝงไม่ แม้มี 
ข้อตกลงกับธนำคำรผู้ใดจะเป็นผู้ถอนเงินจำกบัญชีดังกล่ำวจำก 
ธนำคำรนัน้ได้ ก็เป็นเรื่องระเบียบและวิธีกำรตำมธรรมดำของธนำคำร 
ซงึ่เป็นอีกเรื่องหนงึ่ต่ำงหำก บุตรมีอำนำจในกำรติดตำมเงินจำกผู้ที่ไม่ 
มีสิทธิได้ 
14/11/2551 23
คำพิพำกษำฎีกำที่ 7487/2538 จ. ครอบครองที่ดิน 
โดยสงบเปิดเผยเปิดเจตนำเป็นเจ้ำของมำตลอดจนถึงแก่ 
ควำมตำย เป็นเวลำเกิน 10 ปี แล้ว จ. จึงได้กรรมสิทธิ์ 
โดยกำรครอบครองปรปักษ์ ตำม ม.1382 ซึ่งกำรได้ 
กรรมสิทธิ์เป็นทรัพยสิทธิอย่ำงหนึ่ง ซึ่งเป็นมรดกตกทอด 
ไปยังทำยำท ตำม ม.1599 1600 จึงตกทอดแก่โจทก์ซึ่ง 
เป็นบุตรของ จ. แม้โจทก์ไม่ได้ครอบครองที่ดินต่อเนื่องมำ 
โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่ำวทำงมรดก(คำพิพำกษำ 
ฎีกำที่ 729/2525) 
14/11/2551 24
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1016/2513 จำเลยจด 
ทะเบียนยกที่ดินให้ ส. โดยมิได้ตัง้ใจให้โดยเสน่หำ 
แต่เพื่อให้ ส. สมัครเป็นสมำชิกสหกรณ์ เอำที่ดิน 
จำนองสหกรณ์ได้เท่ำนัน้ นิติกรรมดังกล่ำวจึงตก 
เป็นโมฆะ ผลคือ ที่ดินไม่เคยตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ 
ส. ส.ตำยเสียก่อนจะนำที่ดินไปจำนอง ที่ดิน 
ดังกล่ำวไม่ใช่มรดกของ ส. 
14/11/2551 25
คำพิพำกษำฎีกำที่ 17/2524 อำวุธปืนที่ใช้ในกำรกระทำควำมผิด เมื่อปรำกฎ 
ว่ำศำลยังไม่มีคำพิพำกษำว่ำให้ยึด อำวุธปืนกระบอกดังกล่ำวจึงยังคงเป็น 
กรรมสิทธิ์ของเจ้ำของอยู่และตกทอดไปยังทำยำท 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1953/2515 เงินสะสมที่ทำงรำชกำรหักเก็บไว้จำกเงินเดือน 
ของข้ำรำชกำรทุกคน ซึ่งจะจ่ำยคืนเมื่อออกจำกรำชกำร เงินสะสมจึงเป็น 
มรดกของข้ำรำชกำรที่ถึงแก่ควำมตำย 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1131/2506 เมื่อปรำกฏว่ำเงินกองทุนสงเครำะห์(ท.ส.ค.) 
ของผู้ปฎิบัติงำนในกำรรถไฟเป็นเงินที่เก็บจำกผู้ปฎิบัติงำนร้อยละ 5 ของ 
เงินเดือนทุกเดือน กำรรถไฟจ่ำยสมทบอีกร้อยละ 10 ถ้ำผู้ปฎิบัตงิำนรวมทัง้ 
ดอกเบยี้และกองทุนจ่ำยเงินเพิ่มให้อีกเป็นจำนวนเท่ำกัน ถือว่ำเงินสงเครำะห์ 
นีเ้ป็นเงินที่ผู้ปฎิบัติมีสิทธิได้รับอยู่ก่อนแล้ว หำกผู้นัน้ตำยลงย่อมตกเป็นมรดก 
14/11/2551 26
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1288/2535 เงินตำมโครงกำร 
ผลประโยชน์เมื่อออกจำกงำนบริษัท ช.คิดให้ผู้ตำย 2.25 
เท่ำ ของเงินเดือนเดือนสุดท้ำยต่ออำยุงำน 1ปี นัน้ถือว่ำ 
เป็นเงินของตำย หำกผู้ตำยยังไม่ตำยและออกจำกบริษัท 
ไป บริษัทฯ ก็ต้องจ่ำยเงินจำนวนนีใ้ห้แก่ผู้ตำย ดังนัน้ 
เงินตำมโครงกำรผลประโยชน์เมื่อออกงำนจึงเป็นมรดก 
ของผู้ตำย มิใช่สินสมรส 
14/11/2551 27
คำพิพำกษำฎีกำที่ 2074/2541 ผู้ตำยทำสัญญำเบิกเงินเกิน 
บัญชีไว้แก่ธนำคำร โดยมอบให้จำเลยสงั่จ่ำยเบิกเงินจำกบัญชี 
ได้ หลังจำกผู้ตำยถึงแก่ควำมตำยจำเลยได้สงั่จ่ำยเช็คเบิกเงิน 
จำกบัญชีของจำเลย โดยโจทก์และทำยำทอื่นไม่ทรำบ แม้จะ 
เป็นเหตุให้กองมรดกเสียหำยก็ตำม แต่เงินตำมจำนวนที่จำเลย 
สงั่จ่ำยเช็คเบิกเงินไปจำกบัญชีกระแสรำยวันที่ผู้ตำยมีแก่ 
ธนำคำรเจ้ำหนีไ้ม่ใช่ทรัพย์สินของผู้ตำย ที่ผู้ตำยมีอยู่ก่อนถึงแก่ 
ควำมตำย แต่เป็นเงินของธนำคำรเจ้ำหนีที้่ตกลงให้ผู้ตำยทำ 
สัญญำเบิกเงินเกินบัญชีไว้เท่ำนัน้ กำรกระทำของจำเลยจึงไม่ 
มีควำมผิดฐำนยักยอกทรัพย์มรดกของผู้ตำย ตำม ป.อ. 352 
14/11/2551 28
ดอกผลเป็นมรดกหรือไม่ 
ดอกผลของกองมรดกที่ยังไม่ได้มีกำรแบ่งปันกันระหว่ำงทำยำท จะ 
ถือเป็นมรดกหรือไม่ เพรำะผลทำงกฎหมำยต่ำงกัน 
1.เจ้ำหนีบั้งคับเอำได้ 
3.เจ้ำหนีต้้องฟ้องภำยใน 1754 ว.1 
2.ทำยำทยักย้ำยปิดบัง ย่อมถูกกำจัด 1605 
14/11/2551 29
ไม่ถือว่ำเป็นมรดก 
1.ทำยำทเป็นเจ้ำของรวมตำมหลักของกรรมสิทธิ์ 
2.ทำยำทซึ่งปิดบังยักย้ำยดอกผลไม่ถูกกำจัดไม่ให้รับมรดก 
14/11/2551 30
คำพิพำกษำฎีกำที่ 370/2506 ลูกสุกรอันเกิดจำกพ่อแม่สุกร ซงึ่เลีย้ง 
ไว้ระหว่ำงนำยสนนั่เจ้ำมรดกยังมีชีวิตอยู่ แต่เกิดเมื่อนำยสนนั่ตำย 
แล้ว ลูกสุกรและเงินที่ขำยสุกรได้ ย่อมเป็นสินสมรสระหว่ำงนำยสนั่น 
เจ้ำมรดกกับจำเลย ส่วนของนำยสนั่นย่อมตกทอดไปยังทำยำท 
ทำยำทมีส่วนแบ่งสุกรพ่อและแม่อย่ำงไร ก็มีส่วนแบ่งในลูกสุกรหรือ 
เงินที่ขำยได้อย่ำงนัน้ 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 678-680/2535 เงินรำยได้จำกกิจกำรของโรงแรมรวมทัง้ 
ร้ำนตัดผม ที่ได้มำหลังจำกผู้ตำยถึงแก่กรรม มิใช่ทรัพย์มรดก เพรำะไม่เป็น 
ทรัพย์ที่มีอยู่ก่อนหรือขณะถึงแก่ควำมตำย แต่เป็นของโรงแรม ได้แก่ผู้ที่เป็น 
ทำยำทตำมสิทธิตำมหลักทวั่ไปในมำตรำ 148 และ ม.1360 เพรำะทำยำทเป็น 
เจ้ำของร่วมกันตำม ม.1745 
14/11/2551 31
คำพิพำกษำฎีกำที่ 8485/2544 รำยได้จำกกำรกรีดยำงของสวนยำง 
มรดกที่ได้มำจำกหลังเจ้ำมรดกตำย มิใช่ทรัพย์มรดกที่มีอยู่ก่อนหรือ 
ขณะเจ้ำมรดกตำย จึงไม่ใช่มรดก แต่เป็นดอกผลของที่ดินทรัพย์มรดก 
ได้แก่เจ้ำของที่ดิน ตำมสัดส่วนแห่งควำมเป็นเจ้ำของที่ดิน ตำม ป.พ.พ. 
ม .1336 และม.1360 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 4/2502 บำนำญตกทอดเป็นกำรใช้สิทธิที่จะได้รับ 
เงินช่วยเหลือทำยำทหรือผู้อุปกำระ หรือผู้อยู่ในอุปกำระโดยตรง 
ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ผู้ตำยมีอยู่ในขณะที่ตำยจึงไม่ใช่มรดกตำมกฎหมำย 
(คำพิพำกษำฎีกำที่ 1056/2525,2114/2524,139/2530,132/2507) 
14/11/2551 32
คำพิพำกษำฎีกำที่1602/2548 โจทก์เป็นเจ้ำของตึกพิพำทโดยได้รับมรดกจำก 
ป. ซึ่ง ป. ได้ทำสัญญำเช่ำให้จำเลยเช่ำตึกพิพำท กำหนดอำยุกำรเช่ำ 15 ปี 
โดยมีข้อตกลงในสัญญำเช่ำ ข้อ 11. ระบุว่ำ เมื่อครบกำหนดอำยุสัญญำเช่ำ 
แล้ว ผู้ให้เช่ำจะต่ออำยุสัญญำเช่ำให้ทุก ๆ 3 ปี ซงึ่ข้อตกลงดังกล่ำวเป็นเพียง 
คำมนั่ของ ป. ว่ำจะให้ผู้เช่ำต่ออำยุสัญญำในครัง้ต่อไป ยังไม่ก่อให้เกิดสัญญำ 
แต่คำมนั่ยังไม่มีผลผูกพัน ป. เพรำะยังไม่ได้ควำมว่ำจำเลยสนองรับก่อน ป. 
ตำย ทัง้เมื่อจำเลยได้รู้ว่ำ ป. ผู้เสนอตำยในวันที่ 5 กรกฎำคม 2537 ก่อน 
สัญญำเช่ำครบกำหนด คือวันที่ 31 ธันวำคม 2538 กรณีต้องบังคับตำม ม.360 
ซงึ่ห้ำมมิให้นำบทบัญญัติแห่ง ม. 169 วรรค 2 มำใช้บังคับ ดังนัน้ คำมนั่ของ ป. 
ดังกล่ำวย่อมตกไปไม่มีผลใช้บังคับและไม่เป็นมรดกตกทอดอันจะผูกพันโจทก์ 
ซึ่งเป็นทำยำทที่จะต้องปฏิบัติตำม บทบัญญัติแห่ง ม.1599 และ 1600 หนังสือ 
ต่อสัญญำของจำเลยจึงไร้ผลไม่ก่อให้เกิดสัญญำเช่ำใหม่ โจทก์บอกเลิกสัญญำ 
เช่ำและฟ้องจำเลยและบริวำรให้ออกจำกตึกแถวพิพำทได้ 
14/11/2551 33
หน้ำที่และควำมรับผิด 
มำตรำ 1734 เจ้ำหนีก้องมรดกชอบแต่จะได้รับชำระหนีจ้ำกทรัพย์สิน 
ในกองมรดกเท่ำนัน้ 
มำตรำ 1737 เจ้ำหนีก้องมรดกจะบังคับสิทธิเรียกร้องต่อทำยำทคน 
ใดก็ได้ แต่ถ้ำมีผู้จัดกำรมรดก ให้เจ้ำหนีเ้รียกเข้ำมำในคดีด้วย 
14/11/2551 34
นำย ก. กู้เงิน นำย ข . จำนวน 10,000,000 บำท นำย ก ตำย 
ควำมรับผิดของนำย ก ย่อมตกทอดไปยังทำยำทของนำย ก 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1416/2522 ผู้ออกเช็คตำยก่อนวันที่ลงวันที่ 
ในเช็คกองมรดกต้องรับผิดตำมลำยมือชื่อผู้สงั่จ่ำยในเช็คนัน้ ผู้ 
ทรงฟ้องเรียกเงินตำมเช็คได้ สิทธิหน้ำที่และควำมรับผิดต่ำง ๆ 
ซงึ่โดยสภำพแล้ว เป็นกำรเฉพำะตัวของผู้ตำยโดยแท้ กรณี 
เช่นนีไ้ม่เป็นมรดก เรื่องใดเป็นกำรเฉพำะตัวหรือไม่แล้วแต่ 
กรณีเรื่อง ๆ ไป 
14/11/2551 35
สิทธิหน้ำที่ตำมกฎหมำยหรือโดยสภำพเป็นกำร 
เฉพำะตัวของผู้ตำยโดยแท้ 
กำรเฉพำะตัวตำมกฎหมำย คือ สิทธิและหน้ำที่ที่กฎหมำย 
เป็นกำรเฉพำะ 
กำรเฉพำะโดยสภำพ คือ สิทธิและหน้ำที่ซึ่งโดยสภำพแล้ว 
ผู้ตำยจะเป็นผู้ใช้หรือกระทำด้วยตนเองเท่ำนัน้ 
14/11/2551 36
สิทธิที่เป็นกำรเฉพำะตัวของผู้ตำยโดยแท้ 
1.กรณีที่ไม่เกี่ยวกับทรัพย์ คือ ปริญญำ คุณสมบัติอันมีสิทธิสอบแข่งขันเข้ำรับ 
รำชกำร 
2.เกี่ยวข้องกับกฎหมำย เช่น พ.ร.บ.อำวุธปืน(กำรอนุญำตให้มีอำวุธปืน) 
พ.ร.บ.จรำจรทำงบก(ใบอนุญำตขับขี่) 
3.เกี่ยวกับนิติกรรมสัญญำ เช่น ตัวแทน สัญญำเช่ำ 
4.ทรัพยสิทธิบำงประเภท เช่น สิทธิอำศัย 1404 สิทธิเรียกค่ำทดแทนบำง 
ประกำร ม.1447 
14/11/2551 37
สิทธิในกำรถอนคำร้องทุกข์ในคดีอำญำ 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 206/2488 สิทธิเกี่ยวกับกำรถอนคำร้องทุกข์ในควำมผิดฐำน 
ยักยอก เป็นสิทธิเกี่ยวแก่ทรัพย์สิน ย่อมตกทอดไปยังทำยำท ในควำมผิดฐำน 
ยักยอก เมื่อผู้เสียหำยตำย ภริยำที่เป็นทำยำทย่อมมีสิทธิแถลงต่อศำลขอถอน 
คำร้องทุกข์ได้ตำมลำพัง 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 11/2518 กำรถอนคำร้องทุกข์เป็นสิทธิซึ่ง ป.วิอำญำ ม.126 
บัญญัติให้แก่ผู้ร้องทุกข์จะถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อไรก็ได้และสิทธิถอนคำร้อง 
ทุกข์ในควำมผิดฐำนทำให้เสียทรัพย์เป็นควำมผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน เมื่อผู้ร้อง 
ทุกข์ตำยย่อมตกทอดไปยังทำยำท มำรดำจึงมีสิทธิถอนคำร้องทุกข์ได้แม้คดีอยู่ 
ในระหว่ำงกำรพิจำรณำของศำลฎีกำ 
14/11/2551 38
สิทธิตำมสัญญำเช่ำ ม.537 
คุณสมบัติของผู้เช่ำเป็นสำคัญ 
สิทธิเฉพำะตัว 
สัญญำเช่ำระงับ 
14/11/2551 39
กรณีที่ผู้เช่ำตำยสัญญำเช่ำย่อมระงับสิน้สุดลง ทำยำทของผู้เช่ำไม่มี 
สิทธิบังคับให้ผู้ให้เช่ำยอมให้ทำยำทของผู้เช่ำเช่ำทรัพย์สินนัน้ต่อไป 
สืบจำกผู้เช่ำเดิมได้ (คำพิพำกษำฎีกำที่ 
568/2498,100/2531,1008/2537,4985/2537,6048/2539(ประชุม 
ใหญ่),383/2540) 
ผู้ให้เช่ำตำยสัญญำเช่ำระงับหรือไม่ 
ไม่เพรำะไม่ใช่สิทธิเฉพำะตัว 
14/11/2551 40
สัญญำต่ำงตอบแทนพิเศษยิ่งกว่ำกำรเช่ำธรรมดำ 
คำพิพำกษำฎีกำที่1236/2501 สัญญำเช่ำให้ปลูกห้องแถวในที่ดินโดยจะให้ 
เช่ำต่อไปอีก 8 ปี ผู้ปลูกยกกรรมสิทธิ์ห้องแถวให้ มิใช่สัญญำเช่ำธรรมดำ 
บังคับกันได้แม้ไม่จดทะเบียนและตกทอดไปยังทำยำทผู้ให้เช่ำ 
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1236/2501 ผู้ให้เช่ำทำสัญญำเช่ำกับผู้เช่ำ ยอมให้ผู้เช่ำรือ้ 
ตึกแล้วทำใหม่ด้วยทุนทรัพย์ของผู้เช่ำและว่ำเมื่อทำเสร็จแล้ว ผู้ให้เช่ำยอมให้ผู้ 
เช่ำเช่ำต่อไปอีก 15 ปี ในอัตรำค่ำเช่ำเดิม ต่อมำผู้เช่ำตำย สิทธิตำมสัญญำเช่ำ 
ย่อมตกทอดไปยังทำยำท 
14/11/2551 41
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1224/2511(ประชุมใหญ่) มำรดำ 
โจทก์เช่ำที่ดินมำ และให้จำเลยปลูกบ้ำนอยู่ในที่ดินที่เช่ำ 
บำงส่วน ต่อมำมำรดำโจทก์ตำยและสัญญำเช่ำระงับก็ 
ตำม โจทก์ยังคงมีสิทธิและหน้ำที่ และควำมรับผิดตำม 
สัญญำเช่ำ ตกทอดมำจำกมำรดำ เมื่อโจทก์เป็นผู้ 
ครอบครองที่ดินอยู่ และได้ทำสัญญำเช่ำต่อจำกผู้ให้เช่ำ 
เดิมแล้ว จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ โดยผู้ให้เช่ำเดิมไม่ 
จำเป็นต้องส่งมอบที่ดินให้แก่โจทก์อีก 
14/11/2551 42
คำพิพำกษำฎีกำที่ 1695/2531(ประชุมใหญ่) กองมรดกที่ไม่มี 
ทำยำทแม้จะตกทอดแก่แผ่นดิน แผนดินก็ไม่ใช่ทำยำท เจ้ำหนี้ 
ไม่อำจรับชำระหนีไ้ด้จนกว่ำจะได้ตัง้ผู้จัดกำรมรดกขึน้ และ 
หำกไม่มีผู้จัดกำรมรดกอยู่ตรำบใด เจ้ำหนีก้็ไม่มีทำงได้รับ 
ชำระหนีไ้ด้เลย กำรที่เจ้ำหนีจ้ะได้รับชำระหนีขึ้น้อยู่กับกำรที่ 
กองมรดกมีผู้จัดกำรมรดก ในกรณีเช่นนีจึ้งถือว่ำเจ้ำหนีเ้ป็นผู้มี 
ส่วนได้เสียและมีสิทธิร้องขอต่อศำลขอให้ตัง้ผู้จัดกำรมรดกได้ 
ตำม ม. 1713 
14/11/2551 43
คำพิพำกษำฎีกำที่ 2716/2530 สิทธิของเจ้ำหนีที้่จะ 
ได้รับชำระหนีต้ำมคำพิพำกษำมีอยู่ก่อนโจทก์ถึงแก่กรรม 
ย่อมตกทอดแก่ทำยำท ผู้ร้องเป็นทำยำทโดยธรรมย่อมมี 
สิทธิที่จะขอเป็นเจ้ำหนีต้ำมคำพิพำกษำ เพื่อรับชำระหนี้ 
แทนโจทก์ ตำม ม. 1599 และกำรยื่นคำร้องดังกล่ำวไม่ 
จำเป็นต้องยื่นภำยในเวลำ 1 ปี นับแต่โจทก์มรณะ ตำม 
ม. 42 วรรคแรก แห่ง ป.วิแพ่ง 
14/11/2551 44
คำพิพำกษำฎีกำที่ 7706/2548 ม. เจ้ำมรดกผู้มีชื่อในหนังสือ 
รับรองกำรทำประโยชน์(น.ส.3 ก) จึงมีเพียงสิทธิครอบครอง 
กำรที่เจ้ำมรดกยกที่ดินให้แก่โจทก์และจำเลยที่ 1 คนละกึ่งหนึ่ง 
และต่ำงฝ่ำยต่ำงเข้ำครอบครองคนละส่วนตำมที่ได้รับกำรยกให้ 
เป็นกำรที่เจ้ำมรดกโอนไปซึ่งสิทธิกำรครอบครองที่ดินที่พิพำท 
ให้แก่โจทก์และจำเลยที่ 1 โจทก์และจำเลยที่ 1 ได้สิทธิ 
ครอบครองในที่ดินที่พิพำทตำมที่ได้รับกำรโอนกำรครอบครอง 
มำจำกเจ้ำมรดก เจ้ำมรดกไม่มีสิทธิครอบครองในที่ดินที่พิพำท 
ต่อไปอีก เมื่อ ม. ถึงแก่ควำมตำย ที่ดินที่พิพำทจึงไม่ใช่ทรัพย์ 
มรดกของ ม. 
14/11/2551 45
ข้อจำกัดของกฎหมำยมรดก 
1.ใช้เฉพำะบุคคลธรรมดำเท่ำนัน้ 
2.ไม่ใช้กับ 4 จังหวัด ยะลำ นรำธิวำส 
สตูล ปัตตำนี 
14/11/2551 46

More Related Content

กฎหมายลักษณะมรึϸครั้งที่๑

  • 5. จะต้องมีกำรแสดงเจตนำรับมรดกหรือไม่ ไม่ ม.1601 มรดกตกทอดทันที ทำยำทอำจสละมรดกได้ ม.1612 14/11/2551 5
  • 6. คำพิพำกษำฎีกำที่ 2786/2523 ทำยำทจะต้องสละ มรดกเสียตัง้แต่ก่อนที่เจ้ำหนีจ้ะฟ้องคดี ถ้ำเจ้ำหนีฟ้้อง คดีแล้ว และคดีอยู่ระหว่ำงกำรพิจำรณำของศำล ทำยำทจะสละมรดกไม่ได้ ดังนัน้ ทำยำทจะต้องปล่อย ให้มีกำรดำเนินคดีต่อไปจนศำลมีคำพิพำกษำคดี และ ถ้ำศำลมีคำพิพำกษำให้ทำยำทรับผิดชำระหนีข้องผู้ตำย แทนผู้ตำยให้แก่เจ้ำหนี้ ทำยำทจึงยกบทบัญญัติมำตรำ 1601 ขึน้เป็นข้อต่อสู้ในชัน้บังคับคดี 14/11/2551 6
  • 7. คำพิพำกษำฎีกำที่919/2495 โจทก์ฟ้องว่ำมำรดำโจทก์ขำย ฝำกที่ดินไว้กับจำเลย บัดนีม้ำรดำโจทก์ตำย โจทก์ขอไถ่ที่ดิน คืน จำเลยไม่ยอมให้ไถ่ จึงขอให้ศำลบังคับให้จำเลยยอมไถ่ ที่ดินคืน จำเลยให้กำรต่อสู้ว่ำโจทก์ยังไม่ได้รับโอนมรดกโจทก์ ไม่มีสิทธิไถ่ ศำลฎีกำพิพำกษำว่ำ โจทก์เป็นผู้รับมรดก เมื่อ มำรดำตำย สิทธิในทำงทรัพย์สินของมำรดำก็ตกทอดไปยัง โจทก์ทันที ซงึ่รวมตลอดทัง้สิทธิไถ่ถอนทรัพย์ที่ขำยฝำกด้วย ฉะนัน้ โจทก์มีสิทธิไถ่ถอนทรัพย์สินที่มำรดำขำยฝำกไว้ได้ โดย ไม่จำต้องรอให้รับมรดกก่อน 14/11/2551 7
  • 8. คำพิพำกษำฎีกำที่ 1619/2506 ตำม ป.พ.พ. มำตรำ 1599 ทำยำทย่อมได้สิทธิในมรดกตัง้แต่เจ้ำมรดกตำย แม้ยังไม่ได้จด ทะเบียนสิทธิตำม ม.1299 คำพิพำกษำฎีกำที่ 310/2510 (ประชุมใหญ่) เจ้ำมรดกมีหุ้น ในบริษัทจำเลยเมื่อเจ้ำมรดกตำย หุ้นของเจ้ำมรดกย่อมตก ทอดไปยังทำยำททันที ตำม ม.1599 และ ม.1600 ทำยำทจึงมี อำนำจขอให้เพิกถอนมติพิเศษที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น ตำม ม.1195 ได้ แม้ว่ำบริษัทจำเลยจะยังไม่ได้จดทะเบียนให้ทำยำท เป็นผู้ถือหุ้นก็ตำม 14/11/2551 8
  • 9. คำพิพำกษำฎีกำที่ 1054/2534 โจทก์ได้ กรรมสิทธิ์ที่ดินมำโดยทำงมรดก แม้ยังไม่ได้ เปลี่ยนชื่อในโฉนดที่ดินดังกล่ำวมำเป็นของตน ก็ถือว่ำโจทก์อยู่ในฐำนะที่เป็นเจ้ำของ สำมยทรัพย์ มีอำนำจฟ้องจำเลยที่เป็น เจ้ำของภำรยทรัพย์ให้เปิดทำงภำรจำยอมได้ 14/11/2551 9
  • 10. องค์ประกอบของมรดก 1.ต้องเป็นทรัพย์สิน สิทธิ หน้ำที่และควำมรับผิดต่ำง ๆ ของ ผู้ตำยหรือผู้ที่กฎหมำยให้ถือว่ำถึงแก่ควำมตำย 2.ไม่ใช่สิทธิเฉพำะตัว 3.มีอยู่ในเวลำถึงแก่ควำมตำย 4.กฎหมำยนีห้รือกฎหมำยอื่นไม่ได้บัญญัติให้ตกทอดโดย ประกำรอื่น 14/11/2551 10
  • 11. 1.ต้องเป็นทรัพย์สิน สิทธิ หน้ำที่และควำมรับผิดต่ำง ๆ ของ ผู้ตำยหรือผู้ที่กฎหมำยให้ถือว่ำถึงแก่ควำมตำย ทรัพย์สิน ม. 138 อสังหำริมทรัพย์ ม. 139 สังหำริมทรัพย์ 140 14/11/2551 11
  • 12. คำพิพำกษำฎีกำที่ 1174/2508 ป.พ.พ.(สรุป) มำตรำ 1646 นอกจำกผู้ตำยจะแสดงเจตนำเผื่อตำยในเรื่องของทรัพย์สิน ของตนเองแล้ว กำหนดกำรเผื่อตำยในเรื่องต่ำง ๆ อันจะให้ เกิดผลบังคับตำมกฎหมำยเมื่อตนตำยแล้ว แม้ไม่เกี่ยวกับ ทรัพย์สินก็มีผลบังคับได้ตำมพินัยกรรม(พินัยกรรม ม. 1656) อ.วรพจน์ วิศรุตพิชญ์ หน้ำ 40 14/11/2551 12
  • 13. สิทธิ ม.1600 น่ำจะคือ สิทธิทำงหนี้ หรือบุคคลสิทธิ มำจำกนิติกรรมสัญญำ ละเมิด จัดกำรงำนนอกสงั่ ลำภมิควรได้ 14/11/2551 13
  • 14. สิทธิตำมสัญญำต่ำงๆ คำพิพำกษำฎีกำที่ 919/2495 ผู้ขำยฝำกตำย ทำยำทของผู้ขำยฝำก ใช้สิทธิไถ่ ถอนได้ โดยไม่ต้องรอโอนมรดกก่อน คำพิพำกษำฎีกำที่ 1236/2501 ข้อเท็จจริง คือ นำยอ้อน กับโจทก์เป็นสำมี ภรรยำกันโดยชอบด้วยกฎหมำย เมื่อนำยอ้อนสำมีโจทก์ตำย ทรัพย์สินของ นำยอ้อนตลอดจนสิทธิหน้ำที่ต่ำง ๆ ซงึ่รวมสิทธิหนีจ้ำนองรำยนีย้่อมเป็น มรดกตกทอดได้แก่โจทก์ทำยำทตำมกฎหมำย กรณียังไม่อยู่ในบังคับของกำร โอนสิทธิเรียกร้อง มำตรำ 306 14/11/2551 14
  • 15. คำพิพำกษำฎีกำที่ 1236/2501 ร.ผู้ตำยได้เข้ำทำสัญญำ คำ้ประกันต่อศำลย่อมผูกพันคำ้ประกันหนีข้องจำเลย จนกว่ำคดีถึงที่สุด แม้ ร.ถึงแก่กรรมก่อนศำลฎีกำมีคำ พิพำกษำให้จำเลยใช้หนีแ้ก่โจทก์ก็ตำม แต่เมื่อจำเลยไม่ ชำระหนีนั้น้ โจทก์ก็มีสิทธิบังคับเอำกับที่ดินอันเป็นมรดก ของ ร. ได้ ม.699 ม.1599 ม.1600 ม.1734 ป.วิแพ่ง 231 271 และ 274 (คำพิพำกษำฎีกำที่ 144/2491,1179/2509) 14/11/2551 15
  • 16. คำพิพำกษำฎีกำที่ 2274/2521 ผู้ทรงเช็คที่ธนำคำร ปฏิเสธกำรจ่ำยเงินตำย สิทธิเรียกร้องตำมเช็คตกแก่ ทำยำท แม้วันที่ลงในเช็คจะไม่ถึงกำหนด (คำพิพำกษำ ฎีกำที่1416/2522) หรือเป็นเช็คที่ไม่ลงวันที่ ซงึ่ผู้ทรงอำจลงวันที่ที่แท้จริงได้ (คำพิพำกษำฎีกำที่1416/2522) เมื่อผู้สงั่จ่ำยตำย ทำยำทก็ต้องรับผิด 14/11/2551 16
  • 18. คำพิพำกษำฎีกำที่ 383/2530 บ.ลูกจ้ำงของโจทก์ขับรถ ด้วยควำมประมำทชนขบวนรถไฟ เป็นเหตุให้รถโจทก์ และรถไฟเสียหำย ต่อมำ บ. ถึงแก่กรรม โจทก์ย่อมฟ้อง ให้จำเลยซึ่งเป็นทำยำทโดยชอบด้วยกฎหมำยของ บ. ใน ฐำนะทำยำทโดยธรรมรับผิดชดใช้ค่ำเสียหำยดังกล่ำวได้ ตำม มำตรำ 1599 1600 และ ม .1629 วรรค 2 14/11/2551 18
  • 19. คำพิพำกษำฎีกำที่ 3240/2537 มำรดำจำเลยปักเสำไฟฟ้ำและเดิน สำยไฟฟ้ำผ่ำนที่ดินของโจทก์ โดยโจทก์ไม่ยินยอมเป็นละเมิด เมื่อ มำรดำจำเลยตำย จำเลยเป็นทำยำทต้องรับผิดรือ้ถอนเสำไฟฟ้ำ และ ทำที่ดินให้เป็นดังเดิม คำพิพำกษำฎีกำที่ 1936/2517 ค่ำเสื่อมสุขภำพอนำมัย โจทก์ เรียกร้องให้จำเลยชดใช้ฐำนละเมิด ทำให้โจทก์เสียหำยแก่ ร่ำงกำยอนำมัย เป็นค่ำทดแทนควำมเสียหำยอันไม่ใช่ตัวเงิน ม.446 ซึ่งศำลกำหนดให้ตำมพฤติกำรณ์ควำมร้ำยแรงแห่ง ละเมิด 14/11/2551 19
  • 20. คำพิพำกษำฎีกำที่ 2501/2517 ค่ำเสียหำยที่โจทก์ต้องให้แพทย์ทำศัลยกรรม ตกแต่งเพื่อลบลอยแผลเป็นบนใบหน้ำ คำพิพำกษำฎีกำที่ 3344/2533,3807/2535 ค่ำป่วยเจ็บทนทุกข์ทรมำนเสียขำ ไปข้ำงหนึ่ง คำพิพำกษำฎีกำที่ 427/2538,5220/2539 ค่ำขำดควำมสุขสำรำญ เพรำะ ร่ำงกำยพิกำรทำให้สังคมรังเกียจ อับอำยขำยหน้ำ ไม่ได้เล่นกีฬำ เป็น ค่ำเสียหำยเกี่ยวกับควำมรู้สึกทำงด้ำนจิตใจ คำพิพำกษำฎีกำที่ 9221/2538,5220/2539 ค่ำที่โจทก์สูญเสียควำมสำมำรถใน กำรสืบพันธ์ุ (เสียบุคลิกภำพทำงร่ำงกำย) 14/11/2551 20
  • 21. คำพิพำกษำฎีกำที่ 3208/2538 สิทธิในกำรเรียกค่ำสินไหม ทดแทนกำรปลงศพ เป็นสิทธิของทำยำทที่จะเรียกเอำกับผู้ทำ ละเมิด ทำให้เจ้ำมรดกตำย ส่วนสิทธิในกำรเรียกค่ำสินไหม ทดแทนอันเกิดแก่ทรัพย์สินของเจ้ำมรดกเนื่องจำกกำรกระทำ ละเมิดก็เป็นสิทธิของเจ้ำมรดกที่ตกทอดแก่ทำยำทเช่นกัน ฉะนัน้ เมื่อ ส.ได้รับรองโจทก์ที่ 2 และที่ 3 ว่ำเป็นบุตรแล้ว และ ตำม ม.1627 ถือว่ำเป็นผู้สืบสันดำนมีสิทธิรับมรดกของ ส. โจทก์ที่ 2 และ 3 จึงมีสิทธิฟ้องเรียกค่ำปลงศพ ส. และค่ำ รถจักรยำนยนต์ของ ส. ที่เสียหำยได้ 14/11/2551 21
  • 22. คำพิพำกษำฎีกำที่ 1202/2549 สิทธิในกำรเรียกค่ำสินไหม ทดแทนเกี่ยวค่ำปลงศพ ม. 443 วรรคแรก เป็นสิทธิของทำยำท จะเรียกเอำกับผู้ที่กระทำละเมิดทำให้เจ้ำมรดกถึงตำยภำยใต้ ม.1649 และเมื่อโจทก์ที่ 2 และที่ 4 เป็นบุตรนอกกฎหมำยที่ บิดำรับรองแล้ว จึงเป็นผู้สืบสันดำนเหมือนบุตรชอบด้วย กฎหมำย ตำม ม.1627 มีสิทธิเรียกค่ำปลงศพของเจ้ำมรดก และเมื่อโจทก์ทัง้สี่ร่วมกันฟ้องเรียกค่ำสินไหมทดแทนในกำร ปลงศพดังกล่ำว จึงไม่ต้องระบุว่ำโจทก์คนใดเป็นผู้ออก ค่ำใช้จ่ำยในส่วนนี้ จึงมีอำนำจฟ้องได้ โจทก์ที่2 ถึง 4 จึงมี อำนำจฟ้องเรียกค่ำสินไหมทดแทนในกำรปลงศพได้ 14/11/2551 22
  • 23. คำพิพำกษำฎีกำที่ 2604/2516 บิดำเปิดบัญชีเงินฝำกประจำที่ ธนำคำรให้บุตรผู้เยำว์ โดยมอบหมำยให้มำรดำเป็นผู้ทีอำนำจในกำร ถอนเงินจำกบัญชีมำใช้เพื่อกำรศึกษำของบุตร แล้วบิดำมำรดำได้นำ เงินเข้ำฝำกในบัญชีดังกล่ำวระคนปนไปกับเงินได้ของบุตร โดยมี เจตนำยกเงินที่นำฝำกให้แก่บุตร ดังนัน้ เงินในบัญชีหำใช่เงินที่บิดำ มำรดำฝำกไว้เป็นของตนโดยฝำกไว้ในนำมบุตรหรือนำมแฝงไม่ แม้มี ข้อตกลงกับธนำคำรผู้ใดจะเป็นผู้ถอนเงินจำกบัญชีดังกล่ำวจำก ธนำคำรนัน้ได้ ก็เป็นเรื่องระเบียบและวิธีกำรตำมธรรมดำของธนำคำร ซงึ่เป็นอีกเรื่องหนงึ่ต่ำงหำก บุตรมีอำนำจในกำรติดตำมเงินจำกผู้ที่ไม่ มีสิทธิได้ 14/11/2551 23
  • 24. คำพิพำกษำฎีกำที่ 7487/2538 จ. ครอบครองที่ดิน โดยสงบเปิดเผยเปิดเจตนำเป็นเจ้ำของมำตลอดจนถึงแก่ ควำมตำย เป็นเวลำเกิน 10 ปี แล้ว จ. จึงได้กรรมสิทธิ์ โดยกำรครอบครองปรปักษ์ ตำม ม.1382 ซึ่งกำรได้ กรรมสิทธิ์เป็นทรัพยสิทธิอย่ำงหนึ่ง ซึ่งเป็นมรดกตกทอด ไปยังทำยำท ตำม ม.1599 1600 จึงตกทอดแก่โจทก์ซึ่ง เป็นบุตรของ จ. แม้โจทก์ไม่ได้ครอบครองที่ดินต่อเนื่องมำ โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่ำวทำงมรดก(คำพิพำกษำ ฎีกำที่ 729/2525) 14/11/2551 24
  • 25. คำพิพำกษำฎีกำที่ 1016/2513 จำเลยจด ทะเบียนยกที่ดินให้ ส. โดยมิได้ตัง้ใจให้โดยเสน่หำ แต่เพื่อให้ ส. สมัครเป็นสมำชิกสหกรณ์ เอำที่ดิน จำนองสหกรณ์ได้เท่ำนัน้ นิติกรรมดังกล่ำวจึงตก เป็นโมฆะ ผลคือ ที่ดินไม่เคยตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ ส. ส.ตำยเสียก่อนจะนำที่ดินไปจำนอง ที่ดิน ดังกล่ำวไม่ใช่มรดกของ ส. 14/11/2551 25
  • 26. คำพิพำกษำฎีกำที่ 17/2524 อำวุธปืนที่ใช้ในกำรกระทำควำมผิด เมื่อปรำกฎ ว่ำศำลยังไม่มีคำพิพำกษำว่ำให้ยึด อำวุธปืนกระบอกดังกล่ำวจึงยังคงเป็น กรรมสิทธิ์ของเจ้ำของอยู่และตกทอดไปยังทำยำท คำพิพำกษำฎีกำที่ 1953/2515 เงินสะสมที่ทำงรำชกำรหักเก็บไว้จำกเงินเดือน ของข้ำรำชกำรทุกคน ซึ่งจะจ่ำยคืนเมื่อออกจำกรำชกำร เงินสะสมจึงเป็น มรดกของข้ำรำชกำรที่ถึงแก่ควำมตำย คำพิพำกษำฎีกำที่ 1131/2506 เมื่อปรำกฏว่ำเงินกองทุนสงเครำะห์(ท.ส.ค.) ของผู้ปฎิบัติงำนในกำรรถไฟเป็นเงินที่เก็บจำกผู้ปฎิบัติงำนร้อยละ 5 ของ เงินเดือนทุกเดือน กำรรถไฟจ่ำยสมทบอีกร้อยละ 10 ถ้ำผู้ปฎิบัตงิำนรวมทัง้ ดอกเบยี้และกองทุนจ่ำยเงินเพิ่มให้อีกเป็นจำนวนเท่ำกัน ถือว่ำเงินสงเครำะห์ นีเ้ป็นเงินที่ผู้ปฎิบัติมีสิทธิได้รับอยู่ก่อนแล้ว หำกผู้นัน้ตำยลงย่อมตกเป็นมรดก 14/11/2551 26
  • 27. คำพิพำกษำฎีกำที่ 1288/2535 เงินตำมโครงกำร ผลประโยชน์เมื่อออกจำกงำนบริษัท ช.คิดให้ผู้ตำย 2.25 เท่ำ ของเงินเดือนเดือนสุดท้ำยต่ออำยุงำน 1ปี นัน้ถือว่ำ เป็นเงินของตำย หำกผู้ตำยยังไม่ตำยและออกจำกบริษัท ไป บริษัทฯ ก็ต้องจ่ำยเงินจำนวนนีใ้ห้แก่ผู้ตำย ดังนัน้ เงินตำมโครงกำรผลประโยชน์เมื่อออกงำนจึงเป็นมรดก ของผู้ตำย มิใช่สินสมรส 14/11/2551 27
  • 28. คำพิพำกษำฎีกำที่ 2074/2541 ผู้ตำยทำสัญญำเบิกเงินเกิน บัญชีไว้แก่ธนำคำร โดยมอบให้จำเลยสงั่จ่ำยเบิกเงินจำกบัญชี ได้ หลังจำกผู้ตำยถึงแก่ควำมตำยจำเลยได้สงั่จ่ำยเช็คเบิกเงิน จำกบัญชีของจำเลย โดยโจทก์และทำยำทอื่นไม่ทรำบ แม้จะ เป็นเหตุให้กองมรดกเสียหำยก็ตำม แต่เงินตำมจำนวนที่จำเลย สงั่จ่ำยเช็คเบิกเงินไปจำกบัญชีกระแสรำยวันที่ผู้ตำยมีแก่ ธนำคำรเจ้ำหนีไ้ม่ใช่ทรัพย์สินของผู้ตำย ที่ผู้ตำยมีอยู่ก่อนถึงแก่ ควำมตำย แต่เป็นเงินของธนำคำรเจ้ำหนีที้่ตกลงให้ผู้ตำยทำ สัญญำเบิกเงินเกินบัญชีไว้เท่ำนัน้ กำรกระทำของจำเลยจึงไม่ มีควำมผิดฐำนยักยอกทรัพย์มรดกของผู้ตำย ตำม ป.อ. 352 14/11/2551 28
  • 29. ดอกผลเป็นมรดกหรือไม่ ดอกผลของกองมรดกที่ยังไม่ได้มีกำรแบ่งปันกันระหว่ำงทำยำท จะ ถือเป็นมรดกหรือไม่ เพรำะผลทำงกฎหมำยต่ำงกัน 1.เจ้ำหนีบั้งคับเอำได้ 3.เจ้ำหนีต้้องฟ้องภำยใน 1754 ว.1 2.ทำยำทยักย้ำยปิดบัง ย่อมถูกกำจัด 1605 14/11/2551 29
  • 31. คำพิพำกษำฎีกำที่ 370/2506 ลูกสุกรอันเกิดจำกพ่อแม่สุกร ซงึ่เลีย้ง ไว้ระหว่ำงนำยสนนั่เจ้ำมรดกยังมีชีวิตอยู่ แต่เกิดเมื่อนำยสนนั่ตำย แล้ว ลูกสุกรและเงินที่ขำยสุกรได้ ย่อมเป็นสินสมรสระหว่ำงนำยสนั่น เจ้ำมรดกกับจำเลย ส่วนของนำยสนั่นย่อมตกทอดไปยังทำยำท ทำยำทมีส่วนแบ่งสุกรพ่อและแม่อย่ำงไร ก็มีส่วนแบ่งในลูกสุกรหรือ เงินที่ขำยได้อย่ำงนัน้ คำพิพำกษำฎีกำที่ 678-680/2535 เงินรำยได้จำกกิจกำรของโรงแรมรวมทัง้ ร้ำนตัดผม ที่ได้มำหลังจำกผู้ตำยถึงแก่กรรม มิใช่ทรัพย์มรดก เพรำะไม่เป็น ทรัพย์ที่มีอยู่ก่อนหรือขณะถึงแก่ควำมตำย แต่เป็นของโรงแรม ได้แก่ผู้ที่เป็น ทำยำทตำมสิทธิตำมหลักทวั่ไปในมำตรำ 148 และ ม.1360 เพรำะทำยำทเป็น เจ้ำของร่วมกันตำม ม.1745 14/11/2551 31
  • 32. คำพิพำกษำฎีกำที่ 8485/2544 รำยได้จำกกำรกรีดยำงของสวนยำง มรดกที่ได้มำจำกหลังเจ้ำมรดกตำย มิใช่ทรัพย์มรดกที่มีอยู่ก่อนหรือ ขณะเจ้ำมรดกตำย จึงไม่ใช่มรดก แต่เป็นดอกผลของที่ดินทรัพย์มรดก ได้แก่เจ้ำของที่ดิน ตำมสัดส่วนแห่งควำมเป็นเจ้ำของที่ดิน ตำม ป.พ.พ. ม .1336 และม.1360 คำพิพำกษำฎีกำที่ 4/2502 บำนำญตกทอดเป็นกำรใช้สิทธิที่จะได้รับ เงินช่วยเหลือทำยำทหรือผู้อุปกำระ หรือผู้อยู่ในอุปกำระโดยตรง ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ผู้ตำยมีอยู่ในขณะที่ตำยจึงไม่ใช่มรดกตำมกฎหมำย (คำพิพำกษำฎีกำที่ 1056/2525,2114/2524,139/2530,132/2507) 14/11/2551 32
  • 33. คำพิพำกษำฎีกำที่1602/2548 โจทก์เป็นเจ้ำของตึกพิพำทโดยได้รับมรดกจำก ป. ซึ่ง ป. ได้ทำสัญญำเช่ำให้จำเลยเช่ำตึกพิพำท กำหนดอำยุกำรเช่ำ 15 ปี โดยมีข้อตกลงในสัญญำเช่ำ ข้อ 11. ระบุว่ำ เมื่อครบกำหนดอำยุสัญญำเช่ำ แล้ว ผู้ให้เช่ำจะต่ออำยุสัญญำเช่ำให้ทุก ๆ 3 ปี ซงึ่ข้อตกลงดังกล่ำวเป็นเพียง คำมนั่ของ ป. ว่ำจะให้ผู้เช่ำต่ออำยุสัญญำในครัง้ต่อไป ยังไม่ก่อให้เกิดสัญญำ แต่คำมนั่ยังไม่มีผลผูกพัน ป. เพรำะยังไม่ได้ควำมว่ำจำเลยสนองรับก่อน ป. ตำย ทัง้เมื่อจำเลยได้รู้ว่ำ ป. ผู้เสนอตำยในวันที่ 5 กรกฎำคม 2537 ก่อน สัญญำเช่ำครบกำหนด คือวันที่ 31 ธันวำคม 2538 กรณีต้องบังคับตำม ม.360 ซงึ่ห้ำมมิให้นำบทบัญญัติแห่ง ม. 169 วรรค 2 มำใช้บังคับ ดังนัน้ คำมนั่ของ ป. ดังกล่ำวย่อมตกไปไม่มีผลใช้บังคับและไม่เป็นมรดกตกทอดอันจะผูกพันโจทก์ ซึ่งเป็นทำยำทที่จะต้องปฏิบัติตำม บทบัญญัติแห่ง ม.1599 และ 1600 หนังสือ ต่อสัญญำของจำเลยจึงไร้ผลไม่ก่อให้เกิดสัญญำเช่ำใหม่ โจทก์บอกเลิกสัญญำ เช่ำและฟ้องจำเลยและบริวำรให้ออกจำกตึกแถวพิพำทได้ 14/11/2551 33
  • 34. หน้ำที่และควำมรับผิด มำตรำ 1734 เจ้ำหนีก้องมรดกชอบแต่จะได้รับชำระหนีจ้ำกทรัพย์สิน ในกองมรดกเท่ำนัน้ มำตรำ 1737 เจ้ำหนีก้องมรดกจะบังคับสิทธิเรียกร้องต่อทำยำทคน ใดก็ได้ แต่ถ้ำมีผู้จัดกำรมรดก ให้เจ้ำหนีเ้รียกเข้ำมำในคดีด้วย 14/11/2551 34
  • 35. นำย ก. กู้เงิน นำย ข . จำนวน 10,000,000 บำท นำย ก ตำย ควำมรับผิดของนำย ก ย่อมตกทอดไปยังทำยำทของนำย ก คำพิพำกษำฎีกำที่ 1416/2522 ผู้ออกเช็คตำยก่อนวันที่ลงวันที่ ในเช็คกองมรดกต้องรับผิดตำมลำยมือชื่อผู้สงั่จ่ำยในเช็คนัน้ ผู้ ทรงฟ้องเรียกเงินตำมเช็คได้ สิทธิหน้ำที่และควำมรับผิดต่ำง ๆ ซงึ่โดยสภำพแล้ว เป็นกำรเฉพำะตัวของผู้ตำยโดยแท้ กรณี เช่นนีไ้ม่เป็นมรดก เรื่องใดเป็นกำรเฉพำะตัวหรือไม่แล้วแต่ กรณีเรื่อง ๆ ไป 14/11/2551 35
  • 36. สิทธิหน้ำที่ตำมกฎหมำยหรือโดยสภำพเป็นกำร เฉพำะตัวของผู้ตำยโดยแท้ กำรเฉพำะตัวตำมกฎหมำย คือ สิทธิและหน้ำที่ที่กฎหมำย เป็นกำรเฉพำะ กำรเฉพำะโดยสภำพ คือ สิทธิและหน้ำที่ซึ่งโดยสภำพแล้ว ผู้ตำยจะเป็นผู้ใช้หรือกระทำด้วยตนเองเท่ำนัน้ 14/11/2551 36
  • 37. สิทธิที่เป็นกำรเฉพำะตัวของผู้ตำยโดยแท้ 1.กรณีที่ไม่เกี่ยวกับทรัพย์ คือ ปริญญำ คุณสมบัติอันมีสิทธิสอบแข่งขันเข้ำรับ รำชกำร 2.เกี่ยวข้องกับกฎหมำย เช่น พ.ร.บ.อำวุธปืน(กำรอนุญำตให้มีอำวุธปืน) พ.ร.บ.จรำจรทำงบก(ใบอนุญำตขับขี่) 3.เกี่ยวกับนิติกรรมสัญญำ เช่น ตัวแทน สัญญำเช่ำ 4.ทรัพยสิทธิบำงประเภท เช่น สิทธิอำศัย 1404 สิทธิเรียกค่ำทดแทนบำง ประกำร ม.1447 14/11/2551 37
  • 38. สิทธิในกำรถอนคำร้องทุกข์ในคดีอำญำ คำพิพำกษำฎีกำที่ 206/2488 สิทธิเกี่ยวกับกำรถอนคำร้องทุกข์ในควำมผิดฐำน ยักยอก เป็นสิทธิเกี่ยวแก่ทรัพย์สิน ย่อมตกทอดไปยังทำยำท ในควำมผิดฐำน ยักยอก เมื่อผู้เสียหำยตำย ภริยำที่เป็นทำยำทย่อมมีสิทธิแถลงต่อศำลขอถอน คำร้องทุกข์ได้ตำมลำพัง คำพิพำกษำฎีกำที่ 11/2518 กำรถอนคำร้องทุกข์เป็นสิทธิซึ่ง ป.วิอำญำ ม.126 บัญญัติให้แก่ผู้ร้องทุกข์จะถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อไรก็ได้และสิทธิถอนคำร้อง ทุกข์ในควำมผิดฐำนทำให้เสียทรัพย์เป็นควำมผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน เมื่อผู้ร้อง ทุกข์ตำยย่อมตกทอดไปยังทำยำท มำรดำจึงมีสิทธิถอนคำร้องทุกข์ได้แม้คดีอยู่ ในระหว่ำงกำรพิจำรณำของศำลฎีกำ 14/11/2551 38
  • 39. สิทธิตำมสัญญำเช่ำ ม.537 คุณสมบัติของผู้เช่ำเป็นสำคัญ สิทธิเฉพำะตัว สัญญำเช่ำระงับ 14/11/2551 39
  • 40. กรณีที่ผู้เช่ำตำยสัญญำเช่ำย่อมระงับสิน้สุดลง ทำยำทของผู้เช่ำไม่มี สิทธิบังคับให้ผู้ให้เช่ำยอมให้ทำยำทของผู้เช่ำเช่ำทรัพย์สินนัน้ต่อไป สืบจำกผู้เช่ำเดิมได้ (คำพิพำกษำฎีกำที่ 568/2498,100/2531,1008/2537,4985/2537,6048/2539(ประชุม ใหญ่),383/2540) ผู้ให้เช่ำตำยสัญญำเช่ำระงับหรือไม่ ไม่เพรำะไม่ใช่สิทธิเฉพำะตัว 14/11/2551 40
  • 41. สัญญำต่ำงตอบแทนพิเศษยิ่งกว่ำกำรเช่ำธรรมดำ คำพิพำกษำฎีกำที่1236/2501 สัญญำเช่ำให้ปลูกห้องแถวในที่ดินโดยจะให้ เช่ำต่อไปอีก 8 ปี ผู้ปลูกยกกรรมสิทธิ์ห้องแถวให้ มิใช่สัญญำเช่ำธรรมดำ บังคับกันได้แม้ไม่จดทะเบียนและตกทอดไปยังทำยำทผู้ให้เช่ำ คำพิพำกษำฎีกำที่ 1236/2501 ผู้ให้เช่ำทำสัญญำเช่ำกับผู้เช่ำ ยอมให้ผู้เช่ำรือ้ ตึกแล้วทำใหม่ด้วยทุนทรัพย์ของผู้เช่ำและว่ำเมื่อทำเสร็จแล้ว ผู้ให้เช่ำยอมให้ผู้ เช่ำเช่ำต่อไปอีก 15 ปี ในอัตรำค่ำเช่ำเดิม ต่อมำผู้เช่ำตำย สิทธิตำมสัญญำเช่ำ ย่อมตกทอดไปยังทำยำท 14/11/2551 41
  • 42. คำพิพำกษำฎีกำที่ 1224/2511(ประชุมใหญ่) มำรดำ โจทก์เช่ำที่ดินมำ และให้จำเลยปลูกบ้ำนอยู่ในที่ดินที่เช่ำ บำงส่วน ต่อมำมำรดำโจทก์ตำยและสัญญำเช่ำระงับก็ ตำม โจทก์ยังคงมีสิทธิและหน้ำที่ และควำมรับผิดตำม สัญญำเช่ำ ตกทอดมำจำกมำรดำ เมื่อโจทก์เป็นผู้ ครอบครองที่ดินอยู่ และได้ทำสัญญำเช่ำต่อจำกผู้ให้เช่ำ เดิมแล้ว จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ โดยผู้ให้เช่ำเดิมไม่ จำเป็นต้องส่งมอบที่ดินให้แก่โจทก์อีก 14/11/2551 42
  • 43. คำพิพำกษำฎีกำที่ 1695/2531(ประชุมใหญ่) กองมรดกที่ไม่มี ทำยำทแม้จะตกทอดแก่แผ่นดิน แผนดินก็ไม่ใช่ทำยำท เจ้ำหนี้ ไม่อำจรับชำระหนีไ้ด้จนกว่ำจะได้ตัง้ผู้จัดกำรมรดกขึน้ และ หำกไม่มีผู้จัดกำรมรดกอยู่ตรำบใด เจ้ำหนีก้็ไม่มีทำงได้รับ ชำระหนีไ้ด้เลย กำรที่เจ้ำหนีจ้ะได้รับชำระหนีขึ้น้อยู่กับกำรที่ กองมรดกมีผู้จัดกำรมรดก ในกรณีเช่นนีจึ้งถือว่ำเจ้ำหนีเ้ป็นผู้มี ส่วนได้เสียและมีสิทธิร้องขอต่อศำลขอให้ตัง้ผู้จัดกำรมรดกได้ ตำม ม. 1713 14/11/2551 43
  • 44. คำพิพำกษำฎีกำที่ 2716/2530 สิทธิของเจ้ำหนีที้่จะ ได้รับชำระหนีต้ำมคำพิพำกษำมีอยู่ก่อนโจทก์ถึงแก่กรรม ย่อมตกทอดแก่ทำยำท ผู้ร้องเป็นทำยำทโดยธรรมย่อมมี สิทธิที่จะขอเป็นเจ้ำหนีต้ำมคำพิพำกษำ เพื่อรับชำระหนี้ แทนโจทก์ ตำม ม. 1599 และกำรยื่นคำร้องดังกล่ำวไม่ จำเป็นต้องยื่นภำยในเวลำ 1 ปี นับแต่โจทก์มรณะ ตำม ม. 42 วรรคแรก แห่ง ป.วิแพ่ง 14/11/2551 44
  • 45. คำพิพำกษำฎีกำที่ 7706/2548 ม. เจ้ำมรดกผู้มีชื่อในหนังสือ รับรองกำรทำประโยชน์(น.ส.3 ก) จึงมีเพียงสิทธิครอบครอง กำรที่เจ้ำมรดกยกที่ดินให้แก่โจทก์และจำเลยที่ 1 คนละกึ่งหนึ่ง และต่ำงฝ่ำยต่ำงเข้ำครอบครองคนละส่วนตำมที่ได้รับกำรยกให้ เป็นกำรที่เจ้ำมรดกโอนไปซึ่งสิทธิกำรครอบครองที่ดินที่พิพำท ให้แก่โจทก์และจำเลยที่ 1 โจทก์และจำเลยที่ 1 ได้สิทธิ ครอบครองในที่ดินที่พิพำทตำมที่ได้รับกำรโอนกำรครอบครอง มำจำกเจ้ำมรดก เจ้ำมรดกไม่มีสิทธิครอบครองในที่ดินที่พิพำท ต่อไปอีก เมื่อ ม. ถึงแก่ควำมตำย ที่ดินที่พิพำทจึงไม่ใช่ทรัพย์ มรดกของ ม. 14/11/2551 45