โครงงาȨฟมแปลงร่าง
- 5. ประโยชน์ของโฟม โฟมมีประโยชน์ดังต่อไปนี้ 1.นำกลับไปผ่ำนกระบวนกำรรีไซเคิล 2.ผสมดินเพื่อใช้ในกำรเพำะปลูกเนื่องจำกโฟม EPS ที่บดแล้วจะช่วย ให้ดินร่วนซุยและอำกำศที่อยู่ภำยในจะเป็นประโยชน์ต่อรำกของพืช 3.ผสมคอนกรีตเพื่อใช้ในกำรก่อสร้ำงเนื่องจำกโฟม EPS มีคุณสมบัติ เป็นฉนวนและมีน้ำหนักเบำกำรใช้โฟมEPS ที่บดแล้วผสมในคอนกรีตจะ ทำให้ลดน้ำหนักวัสดุนั้นและยังรักษำ อุณหภูมิของสถำนที่ก่อสร้ำงได้อย่ำงดี
- 6. โทษของโฟม โฟม (Foam) เป็นผลิตภัณฑ์จำกพลำสติก ที่ทำกำรใช้สำรเร่ง (Additive) หรือยำพอง (Blowing Agents) ทำให้เกิดกำรฟูพอง จำกกำรใช้ ควำมร้อนสูง ประกอบกับกำรอัดลงในแบบ (Mold) ที่มีรูปร่ำงต่ำงๆ ที่ต้องกำร คุณสมบัติที่ได้คือ มีน้ำหนักเบำ ทำเป็นรูปลักษณะต่ำงๆ ได้ดี และทนควำมร้อน ทำให้ โฟม จึงเป็นที่นิยมในกำรนำมำทำเป็นภำชนะ บรรจุหรือหีบห่ออำหำรทั่วไป ปัญหำของ โฟมที่มีต่อสุขภำพคือกำรนำ โฟมมำใช้ไม่ถูกประเภท เช่น กำรนำโฟมมำใช้บรรจุอำหำร ร้อน จำกกำรปรุงประกอบ และไมโครเวฟ เป็นเวลำนำน ทำให้เกิดกำรหลอมละลำยสำร Styrene ที่อยู่ในโฟม ออกมำผสมอำหำร ซึ่งสำรนี้เป็นสำรก่อมะเร็ง แต่สำร Styrene จะมำกหรือน้อยในอำหำรขึ้นอยู่กับ ไขมันในอำหำร ระยะเวลำ และอุณหภูมิ กำรสัมผัสกับโฟม
- 7. น้ามันเหลือใช้ น้ามันเหลือใช้ เป็นน้ำมันที่ได้จำกกำรประกอบอำหำรใน ชีวิตประจำวัน อำจจะใช้ในปริมำณที่มำกเกินไปจึงทำให้เกิดเป็นน้ำมัน เหลือใช้หรืออำจจะเกิดจำกกำรใช้น้ำมันชนิดนั้นซ้ำๆบ่อยๆ น้ำมันที่ใช้ ในกำรปรุงอำหำรล้วนมีทั้งโทษและประโยชน์ที่แตกต่ำงกันออกไปจำก เดิม เช่น น้ำมันที่ใช้แล้วนำมำใช้ซ้ำอำจจะมีประโยชน์เพรำะไม่ต้องใช้ น้ำมันใหม่อำจจะช่วยประหยัดค่ำใช้จ่ำยได้แต่ในประโยชน์ล้วนมีโทษ แฝงอยู่อย่ำงแน่นอน เช่น หำกใช้น้ำมันซ้ำกันนำนๆอำจทำให้เกิดสำรก่อ มะเร็งและทำลำยสุขภำพได้ไม่ควรใช้น้ำมันทอดซ้ำเกิน 2 ครั้ง เพื่อ สุขอนำมัยที่ดีต่อผู้บริโภค
- 8. วัสดุ-อุปกรณ์ 1. โฟม 2. น้ำมัน 3. ช้อน 4. หม้อ 5. แม่พิมพ์ 6. ถ้วยตวงโฟมและน้ำมัน
- 9. วิธีการดาเนินงาน 1.นำน้ำมันที่ใช้แล้วใส่หม้อแล้วนำไปตั้งไฟให้น้ำมันเดือด 2.เมื่อน้ำมันเดือดใส่โฟมและน้ำมันในอัตรำส่วน 90 : 10 3. คนให้เนื้อโฟมละลำยเข้ำเป็นเนื้อเดียวกัน 4. ได้โฟมที่ละลำยแล้ว 5.เอำไปใส่ในแม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ตั้งไว้ให้แห้งแล้ว ค่อยแกะออกจำกแม่พิมม์
- 10. ผลการดาเนินงาน อัตราส่วน (โฟม : น้ามัน) ผลการดาเนินงาน 60 : 40 ชิ้นงำนเหลวไม่แห้ง 70 : 30 ชิ้นงำนเหลวไม่แห้ง 80 : 20 ชิ้นงำนต้องใช้เวลำนำนในกำรรอให้แห้งสนิท 90 : 10 ชิ้นงำนแห้งเร็วและเหมำะแก่กำรใช้งำน
- 11. ผลการดาเนินงาน อัตรำส่วน 90 : 10 เป็นอัตรำส่วนที่พอเหมำะที่สุดในกำรทดลอง เนื่องจำกถ้ำใช้อัตรำส่วนที่ 60 : 40 และอัตรำส่วนที่ 70 : 30 จะทำให้ชิ้นงำน เหลวไม่แห้ง ในอัตรำส่วนที่ 80 : 20 จะต้องใช้เวลำในกำรรอให้ชิ้นงำนมี ควำม แห้งมำกพอสมควรเพรำะฉะนั้นอัตรำส่วนอื่นๆได้ลองทำกำรทดลอง แล้วปรำกฏว่ำ ส่งผลให้ชิ้นงำนแห้งช้ำเพรำะหำกใส่น้ำมัน ในปริมำณที่ มำกกว่ำโฟมชิ้นงำนจะไม่ ประสบผลสำเร็จเนื่องจำกมีระยะเวลำที่ นำนใน กำรรอให้แห้งหรือบำงอัตรำส่วน ส่งผลให้ชิ้นงำนไม่แห้งจนทำให้ชิ้นงำน ไม่ ประสบผลสำเร็จ
- 12. สรุปผลการทดลอง จำกกำรทดลองเรื่องโฟมแปลงร่ำงมีกำรนำโฟมและน้ำมันมำเป็นวัสดุ หลักในกำรทดลอง ปรำกฏว่ำทำงกลุ่มเลือกใช้อัตรำส่วน 90 : 10 เป็อัตรำ ส่วนที่พอเหมำะพอดีในกำรทดลองเรื่องนี้ ผลกำรทดลองพบว่ำน้ำมันที่ เดือดแล้วนำไปใส่ในแม่พิมพ์และแห้งได้อย่ำงรวดเร็ว ชิ้นงำนมีควำม คงทนแข็งแรง ไม่แตกหักง่ำย และเป็นชิ้นงำนที่มีกำรใช้งำนสะดวกเมื่อ นำไปวำงไว้ในสนำมหญ้ำ กำรทดลองเรื่องโฟมแปลงร่ำงได้บรรลุตำม วัตถุประสงค์ที่วำงไว้ข้ำงต้น
- 14. จัดทาโดย นางสาวนุชรีย์ โพธิ์สงค์ เลขที่ 21 นางสาวสโรชา สมบุญ เลขที่ 35 นางสาวอริสา นวลงาม เลขที่ 39 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/8