ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ทรัพยากรȨำ
โลกของเราประกอบขึ้นด้วยพื้นดินและพื้นน้้า โดยส่วนที่เป็นผืน
น้้านั้น มีอยู่ประมาณ 3 ส่วน (75%) และเป็นพื้นดิน 1 ส่วน (25%)
     น้้ามีความส้าคัญอย่างยิ่งกับชีวิตของพืชและสัตว์บนโลกรวมทั้ง
มนุษย์เราด้วย
น้้าเป็นทรัพยากรที่สามารถเกิดหมุนเวียนได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันหมดสิ้น เมื่อ
แสงแดดส่องมาบนพื้นโลก น้้าจากทะเลและมหาสมุทรก็จะระเหยเป็นไอน้้าลอย
ขึ้นสู่เบื้องบนเนื่องจากไอน้้ามีความเบากว่าอากาศ เมื่อไอน้้าลอยสู่เบื้องบนแล้ว
จะได้รับความเย็นและกลั่นตัวกลายเป็นละอองน้้าเล็ก ๆ ลอยจับตัวกันเป็นกลุ่ม
เฆม เมื่อจับตัวกันมากขึ้นและกระทบความเย็นก็จะกลั่นตัวกลายเป็นหยดน้้าตก
ลงสู่พื้นโลก น้้าบนพื้นโลกจะระเหยกลายเป็นไอน้้าอีกเมื่อได้รับความร้อนจาก
ดวงทิตย์ ไอน้้าจะรวมตัวกันเป็นเมฆและกลั่นตัวเป็นหยดน้้ากระบวนการเช่นนี้
เกิดขึ้นเป็นวัฏจักรหมุนเวียนต่อเนื่องกันตลอดเวลา เรียกว่า วัฏจักรน้้า ท้าให้
มีน้าเกิดขึ้นบนผิวโลกอยู่สม่้าเสมอ
วัฏจักรྺองȨ้า๶ป็Ȩย่างไร
ประเภทของแหล่งน้้า แหล่งน้้าจืดทีมนุษย์น้ามาใช้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
                                 ่
ใหญ่ๆ คือ น้้าบนดิน และน้้าใต้ดน
                               ิ

1.น้้าบนผิวดิน คือ น้้าในแม่น้าล้าคลอง หนอง บึง ทะเลสาบและอ่างเก็บน้้า
ความอุดมสมบูรณ์ของน้้าบนผิวดินจะมากหรือน้อยขึนอยู่กับปัจจัย 4 ประการ
                                                   ้

   ก. ปริมาณน้้าฝนที่ได้รับ
   ข. อัตราการสูญเสียของน้้าของน้้าเนื่องจากการระเหยและการคายน้้าของพืช

   ค. ความสามารถในการกักเก็บน้้าไว้บนพื้นผิวดิน
   ง. ปริมาณน้้าที่ได้รับเพิ่มเติมจากที่อื่น
2.น้้าใต้ดิน หมายถึง น้้าที่ซึมอยู่ใต้ดิน หรือรวมตัวกันอยู่ในแหล่งเก็บกัก
 น้้าใต้ดิน เช่น น้้าบ่อ น้้าบาดาล
     ความอุดมสมบูรณ์ของน้้าใต้ดนจะมีมากหรือน้อยเพียงใดขึนอยู่กับ
                                      ิ                         ้
 ปัจจัยส้าคัญ 2 ประการ คือ

ก. ปริมาณน้้าที่ไหลลงไปจากพื้นดิน

ข. ความสามารถในการกักเก็บน้้าไว้ในชั้นหินใต้ดิน
ค้าถามทดสอบความรู้

1. น้้า คืออะไร มีความส้าคัญต่อมนุษย์อย่างไร
2. มลพิษของน้้า มีสาเหตุเกิดจากอะไร มีวิธีการแก้ไขอย่างไร

3. หลักการที่อนุรักษ์น้าที่ส้าคัญมีอะไรบ้าง

4. ดัชนีชี้วัดคุณภาพน้้า มีอะไรบ้าง
5. ระบบบ้าบัดน้้าเสีย ท้าได้อย่างไรบ้าง

6. นักเรียนคิดว่าเราควรมีการจัดการทรัพยากรน้้าอย่างไรบ้าง
ค้าถามทดสอบความรู้
 1. น้้า คืออะไร มีความส้าคัญต่อมนุษย์อย่างไร
แนวตอบ
 น้้า คือของเหลวที่เกิดจากการรวมตัวอย่างเหมาะสมระหว่างก๊าซ
ออกซิเจน กับก๊าซไฮโดรเจน และจัดเป็นทรัพยากรธรรมชาติชนิดหนึ่งที่
ใช้ไม่มีวันหมดสิ้น

ความส้าคัญของน้้าต่อมนุษย์คือ     4. ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
 1. การชลประทาน                   5. ใช้ในการคมนาคมขนส่ง
2. การอุตสาหกรรม                  6. ใช้เพื่อการนันทนาการ
3. ใช้ในการอุปโภคบริโภค           7. เป็นแหล่งอาหารที่ส้าคัญ
ค้าถามทดสอบความรู้
   2. มลพิษของน้้า มีสาเหตุเกิดจากอะไร มีวิธีการแก้ไขอย่างไร
แนวตอบ
 สาเหตุของมลพิษทางน้้าเกิดจาก
 1. สิ่งโสโครกจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น โลหะหนัก สารพิษต่างๆ
 2. สิ่งปฏิกูลจากบ้านเรือน เช่น เศษอาหาร ขยะมูลฝอย น้้าโสโครก
 3. เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น น้้าฝนชะล้างมูลสัตว์ ซากพืชซากสัตว์ลงสู่
    แหล่งน้้า
 4. การเพาะปลูกที่ผิดวิธี ใช้สารเคมีมากเกินไปไม่ถูกหลักวิชา
 5. การเลี้ยงสัตว์
 6. การท้าเหมืองแร่ น้้าขุ่น แร่ธาตุบางชนิดท้าให้เกิดมลพิษของน้้า
วิธีการแก้ไขมลพิษของน้้ามีแนวทาง คือ
1. ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยที่เกิด
จากมลพิษของน้้า
2. ก้าจัดน้้าเสียจากโรงงานก่อนปล่อยลงสู่แม่น้าล้าคลอง
3. ปรับปรุงการเพาะปลูกให้ถูกต้องตามหลักวิชาการแผนใหม่
ค้าถามทดสอบความรู้

3. หลักการที่อนุรักษ์น้าที่ส้าคัญมีอะไรบ้าง
แนวตอบ
หลักการอนุรักษ์น้าที่ส้าคัญมีแนวทางดังนี้
1. จัดหาน้้าที่มีคุณภาพมาใช้ให้เพียงพอ
2. ป้องกันการเกิดมลพิษของน้้า
3. ป้องกันการเกิดน้้าท่วม
4. น้าน้้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
5. รักษาสภาพแหล่งน้้าธรรมชาติ
ค้าถามทดสอบความรู้
4. ดัชนีชี้วัดคุณภาพน้้า มีอะไรบ้าง
แนวตอบ
1. ออกซิเจนที่ละลายน้้า (DO) น้อยกว่า 3 ppm เป็นน้้าเสีย
2. ปริมาณออกซิเจนที่ถูกจุลินทรีย์ใช้ไปส้าหรับการย่อยสลาย
สารอินทรีย์ชนิดที่ย่อยสลายได้ (BOD) มากกว่า 100 ppm เป็นน้้า
เสีย
วิธีการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้้า
1. จัดการวางแผนการใช้น้าที่ดี เช่น จัดสร้างสระน้า อ่างเก็บน้้า
                                                ้
2. การส้ารวจและน้าน้้าใต้ดินมาใช้
3. การน้าน้้ามาใช้หมุนเวียน
4. การท้าฝนเทียม
5. การป้องกันการสูญเสียน้้าจากการระเหย
เป็นไง เข้าใจไม๊..

More Related Content

ทรัพยากรȨำ

  • 2. โลกของเราประกอบขึ้นด้วยพื้นดินและพื้นน้้า โดยส่วนที่เป็นผืน น้้านั้น มีอยู่ประมาณ 3 ส่วน (75%) และเป็นพื้นดิน 1 ส่วน (25%) น้้ามีความส้าคัญอย่างยิ่งกับชีวิตของพืชและสัตว์บนโลกรวมทั้ง มนุษย์เราด้วย
  • 3. น้้าเป็นทรัพยากรที่สามารถเกิดหมุนเวียนได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันหมดสิ้น เมื่อ แสงแดดส่องมาบนพื้นโลก น้้าจากทะเลและมหาสมุทรก็จะระเหยเป็นไอน้้าลอย ขึ้นสู่เบื้องบนเนื่องจากไอน้้ามีความเบากว่าอากาศ เมื่อไอน้้าลอยสู่เบื้องบนแล้ว จะได้รับความเย็นและกลั่นตัวกลายเป็นละอองน้้าเล็ก ๆ ลอยจับตัวกันเป็นกลุ่ม เฆม เมื่อจับตัวกันมากขึ้นและกระทบความเย็นก็จะกลั่นตัวกลายเป็นหยดน้้าตก ลงสู่พื้นโลก น้้าบนพื้นโลกจะระเหยกลายเป็นไอน้้าอีกเมื่อได้รับความร้อนจาก ดวงทิตย์ ไอน้้าจะรวมตัวกันเป็นเมฆและกลั่นตัวเป็นหยดน้้ากระบวนการเช่นนี้ เกิดขึ้นเป็นวัฏจักรหมุนเวียนต่อเนื่องกันตลอดเวลา เรียกว่า วัฏจักรน้้า ท้าให้ มีน้าเกิดขึ้นบนผิวโลกอยู่สม่้าเสมอ
  • 5. ประเภทของแหล่งน้้า แหล่งน้้าจืดทีมนุษย์น้ามาใช้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ่ ใหญ่ๆ คือ น้้าบนดิน และน้้าใต้ดน ิ 1.น้้าบนผิวดิน คือ น้้าในแม่น้าล้าคลอง หนอง บึง ทะเลสาบและอ่างเก็บน้้า ความอุดมสมบูรณ์ของน้้าบนผิวดินจะมากหรือน้อยขึนอยู่กับปัจจัย 4 ประการ ้ ก. ปริมาณน้้าฝนที่ได้รับ ข. อัตราการสูญเสียของน้้าของน้้าเนื่องจากการระเหยและการคายน้้าของพืช ค. ความสามารถในการกักเก็บน้้าไว้บนพื้นผิวดิน ง. ปริมาณน้้าที่ได้รับเพิ่มเติมจากที่อื่น
  • 6. 2.น้้าใต้ดิน หมายถึง น้้าที่ซึมอยู่ใต้ดิน หรือรวมตัวกันอยู่ในแหล่งเก็บกัก น้้าใต้ดิน เช่น น้้าบ่อ น้้าบาดาล ความอุดมสมบูรณ์ของน้้าใต้ดนจะมีมากหรือน้อยเพียงใดขึนอยู่กับ ิ ้ ปัจจัยส้าคัญ 2 ประการ คือ ก. ปริมาณน้้าที่ไหลลงไปจากพื้นดิน ข. ความสามารถในการกักเก็บน้้าไว้ในชั้นหินใต้ดิน
  • 7. ค้าถามทดสอบความรู้ 1. น้้า คืออะไร มีความส้าคัญต่อมนุษย์อย่างไร 2. มลพิษของน้้า มีสาเหตุเกิดจากอะไร มีวิธีการแก้ไขอย่างไร 3. หลักการที่อนุรักษ์น้าที่ส้าคัญมีอะไรบ้าง 4. ดัชนีชี้วัดคุณภาพน้้า มีอะไรบ้าง 5. ระบบบ้าบัดน้้าเสีย ท้าได้อย่างไรบ้าง 6. นักเรียนคิดว่าเราควรมีการจัดการทรัพยากรน้้าอย่างไรบ้าง
  • 8. ค้าถามทดสอบความรู้ 1. น้้า คืออะไร มีความส้าคัญต่อมนุษย์อย่างไร แนวตอบ น้้า คือของเหลวที่เกิดจากการรวมตัวอย่างเหมาะสมระหว่างก๊าซ ออกซิเจน กับก๊าซไฮโดรเจน และจัดเป็นทรัพยากรธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ ใช้ไม่มีวันหมดสิ้น ความส้าคัญของน้้าต่อมนุษย์คือ 4. ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า 1. การชลประทาน 5. ใช้ในการคมนาคมขนส่ง 2. การอุตสาหกรรม 6. ใช้เพื่อการนันทนาการ 3. ใช้ในการอุปโภคบริโภค 7. เป็นแหล่งอาหารที่ส้าคัญ
  • 9. ค้าถามทดสอบความรู้ 2. มลพิษของน้้า มีสาเหตุเกิดจากอะไร มีวิธีการแก้ไขอย่างไร แนวตอบ สาเหตุของมลพิษทางน้้าเกิดจาก 1. สิ่งโสโครกจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น โลหะหนัก สารพิษต่างๆ 2. สิ่งปฏิกูลจากบ้านเรือน เช่น เศษอาหาร ขยะมูลฝอย น้้าโสโครก 3. เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น น้้าฝนชะล้างมูลสัตว์ ซากพืชซากสัตว์ลงสู่ แหล่งน้้า 4. การเพาะปลูกที่ผิดวิธี ใช้สารเคมีมากเกินไปไม่ถูกหลักวิชา 5. การเลี้ยงสัตว์ 6. การท้าเหมืองแร่ น้้าขุ่น แร่ธาตุบางชนิดท้าให้เกิดมลพิษของน้้า
  • 10. วิธีการแก้ไขมลพิษของน้้ามีแนวทาง คือ 1. ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยที่เกิด จากมลพิษของน้้า 2. ก้าจัดน้้าเสียจากโรงงานก่อนปล่อยลงสู่แม่น้าล้าคลอง 3. ปรับปรุงการเพาะปลูกให้ถูกต้องตามหลักวิชาการแผนใหม่
  • 11. ค้าถามทดสอบความรู้ 3. หลักการที่อนุรักษ์น้าที่ส้าคัญมีอะไรบ้าง แนวตอบ หลักการอนุรักษ์น้าที่ส้าคัญมีแนวทางดังนี้ 1. จัดหาน้้าที่มีคุณภาพมาใช้ให้เพียงพอ 2. ป้องกันการเกิดมลพิษของน้้า 3. ป้องกันการเกิดน้้าท่วม 4. น้าน้้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 5. รักษาสภาพแหล่งน้้าธรรมชาติ
  • 12. ค้าถามทดสอบความรู้ 4. ดัชนีชี้วัดคุณภาพน้้า มีอะไรบ้าง แนวตอบ 1. ออกซิเจนที่ละลายน้้า (DO) น้อยกว่า 3 ppm เป็นน้้าเสีย 2. ปริมาณออกซิเจนที่ถูกจุลินทรีย์ใช้ไปส้าหรับการย่อยสลาย สารอินทรีย์ชนิดที่ย่อยสลายได้ (BOD) มากกว่า 100 ppm เป็นน้้า เสีย
  • 13. วิธีการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้้า 1. จัดการวางแผนการใช้น้าที่ดี เช่น จัดสร้างสระน้า อ่างเก็บน้้า ้ 2. การส้ารวจและน้าน้้าใต้ดินมาใช้ 3. การน้าน้้ามาใช้หมุนเวียน 4. การท้าฝนเทียม 5. การป้องกันการสูญเสียน้้าจากการระเหย