วัึϸ้าȨป่ง
- 3. • วัึϸ้าȨป่ง คาว่า “โป่ง” มาจากคาว่า “ดินโป่ง” ซึ่งเป็นดินที่มีรสเค็ม
และเป็นอาหารมีรสอันโอชะของสัตว์นานาชนิด เดิมเขตอาเภอบ้าน
โป่งนี้เป็นป่าใหญ่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด เป็นที่อยู่ของสัตว์น้อย
ใหญ่ทั้งหลายและยังมีแม่น้าแม่กลองไหลผ่าน จึงนับได้ว่าดินแดนแถบ
นี้อุดมสมบูรณ์ เมื่อมีคนมาอาศัยดินแดนแถบนี้ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยเป็น
หมู่บ้าน หมู่บ้านนี้จึงเรียกชื่อตามลักษณะดินในแถบนี้ว่า “บ้านโป่ง”
และเมื่อมีวัดเกิดขึ้นก็เรียกชื่อวัดตามหมู่บ้านนั้นว่า “วัึϸ้าȨป่ง”
- 4. • วัึϸ้าȨป่ง เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง ซึ่งมีอายุนานเกือบ ๒๐๐ ปี ตั้งอยู่
ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้าแม่กลอง ซึ่งไม่ห่างจากสถานีรถไฟเท่าใด
นัก เนื้อที่รอบๆ บริเวณวัดประมาณ ๕๐ กว่าไร่ มีประวัติความเป็นมา
ตามที่ผู้เฒ่าได้เล่าสืบต่อๆ กันมาพอจะจับใจความได้ดังนี้ เดิมทีได้มี
พระภิกษุลาวรูปหนึ่ง ได้มาสร้างกระท่อมมุงด้วยแฝกและได้จัดตั้งเป็น
สานักสงฆ์ขึ้นหากแต่ที่วัึϸ้าȨป่ง นั้นเต็มไปด้วยป่าไม้ใบหนา เป็นที่
อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด เต็มไปด้วยภัยอันตรายมาก จึงไม่มีผู้ใด
อาศัยอยู่ ต่อมาจึงเสื่อมโทรมลงและไม่มีผู้ใดทราบว่าพระภิกษุลาวรูป
นั้นไปไหนและที่ใด
- 5. • ต่อมาราวพุทธศตวรรษที่ ๒๓ เมืองหงสาวดีเกิดความปั่นป่วนขึ้น
เนื่องจากภัยทางสงคราม ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างพม่ากับอังกฤษ เป็นเหตุ
ให้ชาวรามัญพากันอพยพหลบภัยแล้วข้ามมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
พระมหากษัตริย์ไทย โดยเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์บ้าง ด่านสิงขร
บ้าง และได้เข้ามาตั้งรกรากทามาหากินกันเป็นหมู่ๆ ตามแถบฝั่ง
แม่น้าแม่กลอง ในครั้งกระนั้นก็ได้มีพระภิกษุชาวรามัญรูปหนึ่งที่ได้
อพยพหลบภัยสงครามเข้ามาในเมืองไทยด้วย พระภิกษุรามัญรูปนั้น
ชื่อว่า “พระภิกษุด่าง”
- 6. • หลวงพ่อด่างได้เข้ามาในสภาพที่เป็นพระสงฆ์ จึงไม่อาจจะอยู่ใน
หมู่บ้านรามัญร่วมกับเขาได้ จึงได้มาหาที่พานักใหม่และได้มาปลูก
กระท่อมมุงแฝก ณ ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้าแม่กลอง ซึ่งเดิมเป็น
สานักสงฆ์เก่าที่รกร้างไปแล้วนั้น หลวงพ่อด่างได้นาพระธาตุจากเมือง
ย่างกุ้งติดตัวมาด้วย และเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความหลังให้ระลึกถึง
มาตุภูมิเดิม หลวงพ่อด่างจึงได้สร้างเจดีย์ขึ้นองค์หนึ่งมี ๕ ยอด คล้าย
กับเจดีย์ชะเวดากองที่เมืองย่างกุ้ง เจดีย์องค์นี้ประชาชนทั่ว ๆ ไป
เรียกกันว่า“เจดีย์ ๕ ยอด” อันเป็นปูชนีสถานอันศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ของ
วัึϸ้าȨป่งนี้ด้วย
- 8. • พระพิศาลพัฒนโสภณ เกิดวันที่ ๖ กรกฏาคม ๒๔๗๕ วิทยฐานะ ป.ธ.
๕ น.ธ.เอก เจ้าอาวาสวัึϸ้าȨป่ง อาเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๓๒ – ๒๑๑๒๐๑ มือถือ ๐๘๑ – ๘๑๔๙๘๗๒
ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับศาลาการเปรียญวัึϸ้าȨป่ง ดังนี้
- 10. • องค์พระประธานมีนามว่า “สมเด็จพระพุทธมงคลบพิตร” ซึ่งได้กระทา
พิธีหล่อ ณ วัึϸ้าȨป่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๒ และสมเด็จพระพุทธโฆษา
จารย์ประทานนามให้ สาหรับผนังภายในศาลาการเปรียญ มีภาพพระ
พุทธประวัติและภาพโพธิ์ตรัสรู้
• ศาลาเอนกประสงค์แห่งนี้มีชื่อว่า “วิจิตรธรรมรสวิโรจน์ประชาพิทักษ์”
คาว่า “วิจิตรธรรมรส” หมายถึง พระครูวิจิตรธรรมรส “วิโรจน์”
หมายถึง พระครูวิโรจน์ธรรมาภรณ์ “ประชา” หมายถึง ประชาชน
ทั่วไป และ”พิทักษ์” หมายถึง เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันในสมัยนั้น คือ
พระครูพิทักษ์โลนภูมิ
- 11. • การก่อสร้างยังไม่สมบูรณ์แบบ เพราะยังไม่ได้ยกช่อฟ้า และชาวบ้าน
มีความเลื่อมใสจงรักภักดีในองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยาม
บรมราชกุมารี จึงกราบบังคมทูลขอพระปรมาภิไธยย่อ “สธ” มา
ประดิษฐานบนหน้าบันลงรักปิดทองกระจกเรียบร้อยเมื่อวันที่ ๑๑
เมษายน ๒๕๓๗ และเสด็จมาเป็นประธานประกอบพิธียกช่อฟ้าศาลา
การเปรียญและทรงเปิดหน้าบัน “สธ” ศาลาการเปรียญ ในวันที่ ๒๙
กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่วัดบ้าน
โป่งและชาวบ้านโป่ง
- 13. จัดทาโดย
มัธยมศึกษาปีที่ 4/1
นายเกียรติศักดิ์ วันนะ เลขที่ 2
นายณัฐชานนท์ ทองประเพียร เลขที่ 4
นายธันวา สระสม เลขที่ 5
นางสาวนวลจรี แจ้งคา เลขที่ 18
นางสาวฐิชฌาภรณ์ จันทร์ที เลขที่ 31
นางสาวนนทพัทธ์ ลี่รัตนวิสุทธิ์ เลขที่ 32
นางสาวเปมิกา ผานาค เลขที่ 33
นางสาวศศิมณฑา รอดเทศ เลขที่ 34