ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
จัดทำโดย
วันหนึ่งท้าวชัยเสนกษัตริย์แห่งนครหัสดิน เสด็จประพาส
ป่ามาถึงอาศรมพระฤๅษี ตรงกับคืนวันเพ็ญที่มัทนากลาย
ร่างเป็นมนุษย์ และได้พบกับท้าวชัยเสนและเกิดความรัก
ต่อกัน พระฤๅษีจึงจัดพิธีอภิเษกให้ ชัยเสนได้พานาง
กลับนครหัสดิน ท้าวชัยเสนหลงใหลรักใคร่นางมัทนา
มาก ทาให้นางจัณฑี มเหสี หึงหวง และอิจฉาริษยา
จึงทาอุบายให้ท้าวชัยเสนเข้า ใจผิดว่ามัทนาเป็นชู้กับ
นายทหารเอก นางมัทนาจึงถูกสั่งประหารชีวิต แต่
เพชฌฆาตสงสารจึงปล่อยนางไป นางมัทนากลับไปยัง
อาศรมพระฤๅษีและวิงวอนให้สุเทษณ์เทพบุตรช่วย
สุเทษณ์เทพบุตรได้ขอความรักนางอีกครั้งหนึ่งแต่นาง
ปฏิเสธ สุเทษณ์เทพบุตรจึงสาปให้นางเป็นดอกกุหลาบ
ตลอดไป
ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง : ตัวละครทั้งหมดในเรื่อง
ประสบแต่ความทุกข์ระทมจากความรัก มีรักแล้วรักไม่
สมหวังก็เป็นทุกข์ อยู่กับคนที่ไม่รักก็เป็นทุกข์ มีรักแล้ว
ไม่ได้อยู่กับคนรักก็เป็นทุกข์ มีความรักแล้วถูกแย่งคนรัก
ก็เป็นทุกข์ มีรักแล้วพลัดพรากจากสิ่งที่รักก็เป็นทุกข์
แก่นของเรื่องมัทนะพาธาแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีความรัก
ต้องเจ็บปวดจากความรักทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เวลาที่เรามี
ความรักควรที่จะมีสติ ไม่ว่าจะเป็นรักในรูปแบบใดก็ตาม
ควรที่จะรู้จักรักให้เป็น รักให้พอดี
มัทนะพาธา
ตานานแห่งดอกกุหลาบ
ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๕
น.ส. อภิชญำ กิตติพัชรินทร์
รหัสนิสิต ๕๖๘๑๑๒๔๐๐๔ เลขที่๑ (D๑)
นิสิตชั้นปีที่ ๓ คณะครุศำสตร์ สำขำวิชำภำษำไทย
ควำมรักเหมือนโรคำ บันดำลตำให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล อุปะสัคคะใดใด
ผู้แต่ง :
พระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว
(รัชกาลที่๖)
ความเป็นมา : มัทนะพาธา แปลว่า “ความ
เจ็บปวดหรือความเดือดร้อนเพราะความรัก”
เป็นบทพระราชนิพนธ์จากจินตนาการใน
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
นางเอกของเรื่องมีนามว่า “มัทนา”
ซึ่งมีความหมายว่า “ความลุ่มหลง หรือความรัก”
แทนคาว่า “กุพชกะ” ที่แปลว่าดอกกุหลาบ
บทละครพูดคาฉันท์เรื่อง มัทนะพาธา
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเริ่ม
พระราชนิพนธ์เมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๔๖๖
ณ พระราชวังพญาไท และเสร็จสมบูรณ์ ในวันที่
๑๘ ตุลาคม ปีเดียวกัน ( ๑ เดือน ๑๖ วัน )
เมื่อพระราชนิพนธ์เสร็จก็พระราชทานแก่สมเด็จ
พระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจีพระวรชายา
เนื้อเรื่องย่อ
ภาคสวรรค์ : กล่าวถึงสุเทษณ์เทพบุตรซึ่งในอดีตกาล
เป็นกษัตริย์ครองแคว้นปัญจาลม มัทนาเป็นพระธิดา
กษัตริย์ของแคว้นสุราษฎร์ สุเทษณ์ได้ส่งทูตไปสู่ขอนาง
แต่ท้าวสุราษฎร์พระบิดาของนางไม่ยอมยกให้
สุเทษณ์จึงยกทัพไปรบทาลายบ้านเมืองของท้าวสุราษฎร์
จนย่อยยับ และจับท้าวสุราษฎร์มาเป็นเชลย และจะ
ประหารชีวิต แต่มัทนาขอไถ่ชีวิตพระบิดาไว้ โดยยินยอม
เป็นบาทบริจาริกาของสุเทษณ์ ท้าวสุราษฎร์จึงรอดจาก
พระอาญา จากนั้นมัทนาก็ปลงพระชนม์ตนเอง และไป
เกิดเป็นเทพธิดาบนสวรรค์ นามว่า “มัทนา” ส่วนท้าว
สุเทษณ์ก็ทาพลีกรรมจนสาเร็จ เมื่อสิ้นพระชนม์ก็ไป
บังเกิดบนสวรรค์เช่นกัน ด้วยผลกรรมที่เคยได้นางมาเป็น
คู่ทาให้มีโอกาสได้พบกันอีกบนสวรรค์ แต่นางมัทนาก็ยัง
ไม่มีใจรักสุเทษณ์เทพบุตรเช่นเดิม
ณ วิมานของสุเทษณ์ ได้มีคนธรรพ์เทพบุตร เทพธิดาที่
เป็นบริวารต่างมาบาเรอขับกล่อมถวาย แต่ถึงกระนั้น
สุเทษณ์เทพบุตรก็ไม่มีความสุข เพราะรักนางมัทนา
แต่ไม่อาจสมหวังเพราะผลกรรมที่ทาไว้ในอดีต จึงให้
วิทยาธรชื่อมายาวินใช้เวทมนตร์ คาถาไปสะกดให้นาง
มายังวิมานของสุเทษณ์เทพบุตร ฝ่ายมัทนาเมื่อถูกเวทย์
มนตร์สะกด สุเทษณ์จะตรัสถามอย่างไรนางก็ทวน
คาถามอย่างนั้นทุกครั้งไป จนสุเทษณ์เทพพระบุตร
ขัดพระทัย รู้สึกเหมือนตรัสกับหุ่นยนต์ จึงให้มายา
วินคลายมนตร์สะกด เมื่อนางรู้สึกตัวก็ตกใจกลัวที่
ล่วงล้า เข้าไปถึงวิมานของสุเทษณ์เทพบุตร
สุเทษณ์เทพบุตรถือโอกาสฝากรัก มัทนาแสดงความ
จริงใจ ว่า นางไม่ได้รักสุเทษณ์เทพบุตรจึงไม่อาจรับ
รักได้ เมื่อได้ยินดังนั้นสุเทษณ์เทพบุตรรู้สึกกริ้วนาง
มัทนาเป็นที่สุด จึงสาปให้มัทนาจุติจากสวรรค์ไปเกิด
เป็นดอกกุหลาบในป่า หิมาวันในโลกมนุษย์ และเปิด
โอกาสให้นางกลายร่างเป็น มนุษย์ได้เมื่อถึงคืนวัน
เพ็ญเพียงหนึ่งวันกับหนึ่งคืนเท่านั้นเมื่อใดที่ นางมีรัก
เมื่อนั้นจึงจะพ้นคาสาปและกลายร่างเป็น มนุษย์ได้
อย่างปกติ หากเมื่อใดที่นางมีทุกข์เพราะ ความรักก็ให้
นางอ้อนวอนต่อพระองค์จึงจะยกโทษทัณฑ์ให้
ภาคพื้นดิน : พระฤๅษีได้ขุดเอาดอกกุหลาบจากป่า
หิมาวันไปปลูกไว้กับ
อาศรม เมื่อคืนวันเพ็ญ
พระจันทร์เต็มดวง นางจะ
ปรากฏโฉมเป็นมนุษย์มา
ปรนนิบัติรับใช้พระฤๅษี
มัทนะพาธา

More Related Content

แผ่นพับมัทȨพาธา

  • 1. จัดทำโดย วันหนึ่งท้าวชัยเสนกษัตริย์แห่งนครหัสดิน เสด็จประพาส ป่ามาถึงอาศรมพระฤๅษี ตรงกับคืนวันเพ็ญที่มัทนากลาย ร่างเป็นมนุษย์ และได้พบกับท้าวชัยเสนและเกิดความรัก ต่อกัน พระฤๅษีจึงจัดพิธีอภิเษกให้ ชัยเสนได้พานาง กลับนครหัสดิน ท้าวชัยเสนหลงใหลรักใคร่นางมัทนา มาก ทาให้นางจัณฑี มเหสี หึงหวง และอิจฉาริษยา จึงทาอุบายให้ท้าวชัยเสนเข้า ใจผิดว่ามัทนาเป็นชู้กับ นายทหารเอก นางมัทนาจึงถูกสั่งประหารชีวิต แต่ เพชฌฆาตสงสารจึงปล่อยนางไป นางมัทนากลับไปยัง อาศรมพระฤๅษีและวิงวอนให้สุเทษณ์เทพบุตรช่วย สุเทษณ์เทพบุตรได้ขอความรักนางอีกครั้งหนึ่งแต่นาง ปฏิเสธ สุเทษณ์เทพบุตรจึงสาปให้นางเป็นดอกกุหลาบ ตลอดไป ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง : ตัวละครทั้งหมดในเรื่อง ประสบแต่ความทุกข์ระทมจากความรัก มีรักแล้วรักไม่ สมหวังก็เป็นทุกข์ อยู่กับคนที่ไม่รักก็เป็นทุกข์ มีรักแล้ว ไม่ได้อยู่กับคนรักก็เป็นทุกข์ มีความรักแล้วถูกแย่งคนรัก ก็เป็นทุกข์ มีรักแล้วพลัดพรากจากสิ่งที่รักก็เป็นทุกข์ แก่นของเรื่องมัทนะพาธาแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีความรัก ต้องเจ็บปวดจากความรักทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เวลาที่เรามี ความรักควรที่จะมีสติ ไม่ว่าจะเป็นรักในรูปแบบใดก็ตาม ควรที่จะรู้จักรักให้เป็น รักให้พอดี มัทนะพาธา ตานานแห่งดอกกุหลาบ ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๕ น.ส. อภิชญำ กิตติพัชรินทร์ รหัสนิสิต ๕๖๘๑๑๒๔๐๐๔ เลขที่๑ (D๑) นิสิตชั้นปีที่ ๓ คณะครุศำสตร์ สำขำวิชำภำษำไทย ควำมรักเหมือนโรคำ บันดำลตำให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยล อุปะสัคคะใดใด
  • 2. ผู้แต่ง : พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่๖) ความเป็นมา : มัทนะพาธา แปลว่า “ความ เจ็บปวดหรือความเดือดร้อนเพราะความรัก” เป็นบทพระราชนิพนธ์จากจินตนาการใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นางเอกของเรื่องมีนามว่า “มัทนา” ซึ่งมีความหมายว่า “ความลุ่มหลง หรือความรัก” แทนคาว่า “กุพชกะ” ที่แปลว่าดอกกุหลาบ บทละครพูดคาฉันท์เรื่อง มัทนะพาธา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเริ่ม พระราชนิพนธ์เมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๔๖๖ ณ พระราชวังพญาไท และเสร็จสมบูรณ์ ในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ปีเดียวกัน ( ๑ เดือน ๑๖ วัน ) เมื่อพระราชนิพนธ์เสร็จก็พระราชทานแก่สมเด็จ พระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจีพระวรชายา เนื้อเรื่องย่อ ภาคสวรรค์ : กล่าวถึงสุเทษณ์เทพบุตรซึ่งในอดีตกาล เป็นกษัตริย์ครองแคว้นปัญจาลม มัทนาเป็นพระธิดา กษัตริย์ของแคว้นสุราษฎร์ สุเทษณ์ได้ส่งทูตไปสู่ขอนาง แต่ท้าวสุราษฎร์พระบิดาของนางไม่ยอมยกให้ สุเทษณ์จึงยกทัพไปรบทาลายบ้านเมืองของท้าวสุราษฎร์ จนย่อยยับ และจับท้าวสุราษฎร์มาเป็นเชลย และจะ ประหารชีวิต แต่มัทนาขอไถ่ชีวิตพระบิดาไว้ โดยยินยอม เป็นบาทบริจาริกาของสุเทษณ์ ท้าวสุราษฎร์จึงรอดจาก พระอาญา จากนั้นมัทนาก็ปลงพระชนม์ตนเอง และไป เกิดเป็นเทพธิดาบนสวรรค์ นามว่า “มัทนา” ส่วนท้าว สุเทษณ์ก็ทาพลีกรรมจนสาเร็จ เมื่อสิ้นพระชนม์ก็ไป บังเกิดบนสวรรค์เช่นกัน ด้วยผลกรรมที่เคยได้นางมาเป็น คู่ทาให้มีโอกาสได้พบกันอีกบนสวรรค์ แต่นางมัทนาก็ยัง ไม่มีใจรักสุเทษณ์เทพบุตรเช่นเดิม ณ วิมานของสุเทษณ์ ได้มีคนธรรพ์เทพบุตร เทพธิดาที่ เป็นบริวารต่างมาบาเรอขับกล่อมถวาย แต่ถึงกระนั้น สุเทษณ์เทพบุตรก็ไม่มีความสุข เพราะรักนางมัทนา แต่ไม่อาจสมหวังเพราะผลกรรมที่ทาไว้ในอดีต จึงให้ วิทยาธรชื่อมายาวินใช้เวทมนตร์ คาถาไปสะกดให้นาง มายังวิมานของสุเทษณ์เทพบุตร ฝ่ายมัทนาเมื่อถูกเวทย์ มนตร์สะกด สุเทษณ์จะตรัสถามอย่างไรนางก็ทวน คาถามอย่างนั้นทุกครั้งไป จนสุเทษณ์เทพพระบุตร ขัดพระทัย รู้สึกเหมือนตรัสกับหุ่นยนต์ จึงให้มายา วินคลายมนตร์สะกด เมื่อนางรู้สึกตัวก็ตกใจกลัวที่ ล่วงล้า เข้าไปถึงวิมานของสุเทษณ์เทพบุตร สุเทษณ์เทพบุตรถือโอกาสฝากรัก มัทนาแสดงความ จริงใจ ว่า นางไม่ได้รักสุเทษณ์เทพบุตรจึงไม่อาจรับ รักได้ เมื่อได้ยินดังนั้นสุเทษณ์เทพบุตรรู้สึกกริ้วนาง มัทนาเป็นที่สุด จึงสาปให้มัทนาจุติจากสวรรค์ไปเกิด เป็นดอกกุหลาบในป่า หิมาวันในโลกมนุษย์ และเปิด โอกาสให้นางกลายร่างเป็น มนุษย์ได้เมื่อถึงคืนวัน เพ็ญเพียงหนึ่งวันกับหนึ่งคืนเท่านั้นเมื่อใดที่ นางมีรัก เมื่อนั้นจึงจะพ้นคาสาปและกลายร่างเป็น มนุษย์ได้ อย่างปกติ หากเมื่อใดที่นางมีทุกข์เพราะ ความรักก็ให้ นางอ้อนวอนต่อพระองค์จึงจะยกโทษทัณฑ์ให้ ภาคพื้นดิน : พระฤๅษีได้ขุดเอาดอกกุหลาบจากป่า หิมาวันไปปลูกไว้กับ อาศรม เมื่อคืนวันเพ็ญ พระจันทร์เต็มดวง นางจะ ปรากฏโฉมเป็นมนุษย์มา ปรนนิบัติรับใช้พระฤๅษี มัทนะพาธา