การใช้ทคโนโลยีสารสȨทศȨสนองาน
- 3. การนาเสนอ (Presentation) เป็นวิธีการหรือเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร (Communication) ด้วยการถ่ายทอด (Delivery) ข้อมูล แผนงาน โครงการ ข้อเสนอ ฯลฯ จากผู้นาเสนอผลงาน กับผู้พิจารณา ผลงานหรือจากผู้นาเสนอไปสู่บุคคลกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันให้บุคคลกลุ่มเป้าหมาย หรือผู้รับสารเห็นด้วยคล้อยตามสนับสนุนอนุมัติให้ดาเนินการ
- 5. ผู้ฟัง มารยาทในการฟัง ถือเป็นวัฒนธรรมประจาชาติอย่างหนึ่งที่ผู้ฟังควรยึดถือและปฏิบัติให้ถูกต้อง เหมาะสม การมีมารยาทในการฟังย่อมแสดงให้เห็นว่า บุคคลนั้นได้รับการอบรมบ่มนิสัย ให้เป็นผู้มี วัฒนธรรมอันดีงาม การมีมารยาทที่ดี ถือเป็นการให้เกียรติต่อผู้พูด ให้เกียรติ ต่อสถานที่และให้ เกียรติต่อชุมชน มารยาทเหล่านี้จึงเป็นเรื่องจาเป็นที่ทุกคนควรยึดถือ และปฏิบัติโดยเคร่งครัด
- 6. ผู้นาเสนองาน ในการนาเสนอด้วยวาจาคุณสมบัติอันเป็นลักษณะประจาตัวของผู้นาเสนอถือได้ว่าเป็นส่วนสาคัญของ ความสาเร็จในการนาเสนอ เพราะคุณสมบัติของผู้นาเสนอจะมีอิทธิพลต่อการโน้นน้าวชักจูงให้เกิดความ สนใจ ความไว้วางใจ เชื่อถือ และการยอมรับได้มาก เท่ากับหรือมากกว่าเนื้อหาที่นาเสนอ
- 7. ผู้นาเสนอที่ประสพความสาเร็จส่วนใหญ่ จะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 1. มีบุคลิกดี 2. มีความรู้อย่างถ่องแท้ 3. มีความน่าเชื่อถือไว้วางใจ 4. มีความเชื่อมั่นในตนเอง 5. มีภาพลักษณ์ที่ดี 6. มีน้าเสียงชัดเจน 7. มีจิตวิทยาโน้นน้าวใจ 8. มีความสามารถในการใช้โสตทัศนอุปกรณ์ 9. มีความช่างสังเกต 10. มีไหวพริบปฏิภาณในการคาถามดี
- 8. ข้อมูลที่ใช้ในการนาเสนองาน 1 ความสาคัญหรือความน่าสนใจของเรื่อง เรื่องที่จะทารายงานควรเป็นเรื่องที่มี ประเด็น น่าสนใจและน่าติดตาม 2 เรื่องที่จะทารายงานควรเป็นเรื่องที่ผู้เรียนสนใจและถนัด เพราะจะช่วยให้ผู้เรียน เกิด ความกระตือรือร้นในการทารายงานและสามารถศึกษาค้นคว้าได้อย่างมีประสิทธิผล 3 แหล่งข้อมูลที่ใช้ศึกษาเรื่องที่จะทารายงาน ควรมีแหล่งข้อมูลและข้อมูลมากพอที่จะ ศึกษาได้ ไม่ควรเลือกเรื่องที่มีข้อมูลน้อยหรือไม่สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ 4 ขอบเขตของเรื่อง ผู้เรียนควรกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาให้เหมาะสมกับ เวลาที่ ใช้ในการทารายงาน และความสามารถของผู้เรียน
- 9. กระบวนการในการนาเสนอ -กาหนดวัตถุประสงค์ในการนาเสนอ -วิเคราะห์ผู้ฟัง *อาชีพการศึกษา อายุและเพศ -การเตรียมเนื้อหา *กาหนดเป้าหมาย วางโครงเรื่อง -ฝึกซ้อมก่อนนาเสนอ -ขณะนาเสนอ *ใช้ภาษาท่าทางที่สุภาพ ไม่หันหลังในผู้ฟัง -หลังนาเสนอ *ประเมินผู้ฟังด้วยแบบสอบถาม
- 10. หลักการนาเสนอที่ดี 1. มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน กล่าวคือมีความต้องการที่แน่ชัดว่า เสนอเพื่ออะไร 2. มีรูปแบบการนาเสนอเหมาะสม กล่าวคือมีความกระทัดรัดได้ใจความ เรียงลาดับ ไม่สนใช้ภาษาเข้าใจง่าย 3. เนื้อหาสาระดี กล่าวคือมีความน่าเชื่อถือ เที่ยงตรง ถูกต้อง สมบูรณ์ครบถ้วน ตรงตามความต้องการ มีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันทันสมัย 4. มีข้อเสนอที่ดี กล่าวคือมีข้อเสนอที่สมเหตูสมผล มีข้อพิจารณา เปรียบเทียบ ทางเลือกที่เห็นได้ชัด เสนอแนะแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
- 11. การนาเสนองานเป็นการสื่อสารเพื่อนาเสนอข้อมูล ความต้องการไปยังผู้ฟังหรือผู้รับสาร โดยใช้วิธีการเทคนิคต่างๆ และเนื่องจากในปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีความ เจริญก้าวหน้า ทาให้รูปแบบการนาเสนองานในปัจจุบันมีความแตกต่างจากสมัยก่อน ผู้นา เสนองานจึงต้องเลือกรูปแบบการนาเสนอ เลือกประเภทของซอฟต์แวร์เพื่อสร้างงาน นาเสนอ รวมทั้งเลือกใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ช่วยในการนาเสนอ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนองาน
- 13. โพรเจกเตอร์ (Projector) เป็นอุปกรณ์ฉายภาพที่ใช้ในการนาเสนอ โดยสามารถรองรับสัญญาณภาพจาก เครื่องกาเนิดภาพแล้วแสดงผล ขยายขนาดบนจอรับภาพช่วยให้มองเห็นได้ไกลขึ้น เหมาะสาหรับการนาเสนอข้อมูลในห้องประชุม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถ มองเห็นภาพหรือข้อความได้อย่างชัดเจน
- 14. วิชวลไลเซอร์ (Visualizer) เป็นอุปกรณ์ฉายภาพระบบดิจิทัลประเภทหนึ่ง ซึ่งพัฒนามาจากโอเวอร์เฮดหรือเครื่อง ฉายข้ามศีรษะ ใช้แสดงภาพวัตถุและเอกสารสู่จอรับภาพที่มีอยู่จริงได้เลย โดยไม่ต้อง ดัดแปลง และใช้ได้ดีในการนาเสนอภาพนิ่งมากกว่าภาพเคลื่อนไหว แต่ภาพที่แสดง ออกมานั้นก็ให้ความคมชัด มีสีสดใส การควบคุมการทางานสามารถทาได้โดยใช้รีโมต
- 15. กล้องถ่ายรูปดิจิทัล (Digital Camera) เป็นอุปกรณ์รับภาพที่เปลี่ยนจากฟิล์มมาเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเมื่อถ่ายรูปที่ ต้องการแล้ว รูปจะถูกเก็บลงในหน่วยความจา (memory) ที่อยู่ในกล้อง ภาพที่ได้ จะมีขนาดตามที่ต้องการ และเมื่อจะถ่ายใหม่ ก็สามารถใช้หน่วยความจาเดิมได้เลย โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อฟิล์ม
- 16. กล้องถ่ายวีดิทัศน์ดิจิทัล เป็นอุปกรณ์รับภาพที่บันทึกข้อมูล ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เก็บไว้ใน หน่วยความจาแบบแฟลชภายในกล้อง สามารถย่อหรือขยาย ปรับแสงเงาของภาพได้ และ ในปัจจุบันสามารถคัดลอกข้อมูลลงในแผ่นดีวีดีได้เลย โดยไม่ต้องโอนลงในเครื่อง คอมพิวเตอร์
- 17. คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และคอมพิวเตอร์ขนาดสมุดบันทึกหรือโน้ตบุ๊ก เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สร้างงานนาเสนอ เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น โพรเจกเตอร์ เพื่อนาเสนองาน และใช้นาเสนองานผ่านจอภาพของเครื่อง คอมพิวเตอร์
- 18. เครื่องเล่นเสียง หรือเครื่องเล่นเอ็มพีสาม (MP3) เป็นอุปกรณ์ซึ่งบรรจุข้อมูลเสียงที่ใช้เล่นในคอมพิวเตอร์และสามารถถ่ายโอนข้อมูลเข้า ไปในคอมพิวเตอร์ได้ โดยข้อมูลเสียงนั้นใช้เทคโนโลยีบีบอัดให้มีขนาดเล็กลงมากกว่า ข้อมูลเสียงปกติถึง 12 เท่า แม้ขนาดข้อมูลจะเล็กลง แต่คุณภาพเสียงไม่ได้เสียไป
- 19. โทรศัพท์เคลื่อนที่บางรุ่น เป็นอุปกรณ์ตัวกลางที่ผู้ใช้สามารถนาเสนองานที่สร้างด้วยซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์ เพาเวอร์พอยต์ผ่านเครื่องโพรเจกเตอร์ได้สะดวก ง่ายต่อการติดตั้ง เพียงเชื่อมต่อ โพรเจกเตอร์เข้ากับโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านสายเคเบิล แล้วเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยบลูทูธ
- 21. Microsoft PowerPoint (ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์) เป็นสุดยอดโปรแกรมนาเสนอข้อมูล(พรีเซนเตชั่น) ที่มีผู้ใช้มากพราะใช้งานได้ง่ายที่สุด
- 22. เป็นโปรแกรมประมวลผลคาแบบพิเศษ ช่วยให้สร้างเอกสารแบบมืออาชีพอย่างมี ประสิทธิภาพและประหยัด เช่น เหมาะกับงานด้านการพิมพ์เอกสารทุกชนิด บันทึก ข้อความ รายงาน บทความ ประวัติย่อ และยังสามารถตรวจสอบ ทบทวน แก้ไข ปรับปรุงความถูกต้องในการพิมพ์เอกสารได้อย่างง่ายดาย Microsoft Word
- 23. เป็นโปรแกรมประเภท สเปรดชีต (spreadsheet) หรือตารางคานวณ อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เก็บบันทึกข้อมูลในลักษณะต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักเก็บข้อมูลประเภท การคานวณ โดยจะเก็บข้อมูลลงในตารางสี่เหลี่ยมที่เรียกว่า เซล (Cell)ที่สามารถ นาเอาเซลมาอ้างอิงใส่ในสูตร เพื่อให้โปรแกรมคานวณหาผลลัพธ์จากข้อมูลที่บันทึกไว้ได้ Microsoft Excel
- 24. Macromedia Authorware เป็นโปรแกรมลักษณะ multimedia ที่ใช้สร้างบทเรียน CAI เพื่อช่วยใน การเรียนการสอน
- 25. Adobe Acrobat เป็นโปรแกรมที่รองรับการใช้งานเอกสารที่เป็นไฟล์ PDF พื่อใช้งานทางด้าȨว็บไซต์
- 27. จัดทาโดย ด.ญ.ณัฐนันท์ วิเศษสุมน ม.3/1 เลขที่ 32 ด.ญ.ภควดี คล้ายแท้ ม.3/1 เลขที่ 43