ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
อุปกรณ์เครือข่าย
คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์ มี 8 ชนิด
1.โมเด็ม (Modem)
โมเด็มเป็นฮาร์ดแวร์ที่ทาหน้าที่แปลงสัญญาณแอนะล็อกให้เป็นสัญญาณดิจิตัล
เมื่อข้อมูลถูกส่งมายังผู้รับละแปลงสัญญาณดิจิตัลให้เป็นแอนะล็อก เมื่อต้องการส่ง
ข้อมูลไปบนช่องสื่อสาร กระบวนการที่โมเด็มแปลงสัญญาณดิจิตัลให้เป็นสัญญาณแอ
นะล็อก เรียกว่า มอดูเลชัน (Modulation) โมเด็มทาหน้าที่ มอดูเลเตอร์ (Modulator)
กระบวนการที่โมเด็มแปลงสัญญาณแอนะล็อก ให้เป็นสัญญาณแอนะล็อก ให้เป็น
สัญญาณดิจิตัล เรียกว่า ดีมอดูเลชัน (Demodulation)โมเด็มหน้าที่ ดีมอดูเลเตอร์
(Demodulator)โมเด็มที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันมี 2ประเภทโมเด็กในปัจจุบัน
ทางานเป็นทั้งโมเด็มและ เครื่องโทรสาร เราเรียกว่า Faxmodem
2.การ์ดเครือข่าย (Network Adapter) หรือ การ์ด LAN
เป็นอุปกรณ์ทาหน้าที่สื่อสารระหว่างเครื่องต่างกันได้ไม่จาเป็นต้องเป็นรุ่นหรือยี่ห้อเดียวกันแต่
หากซื้อพร้อมๆกันก็แนะนาให้ซื้อรุ่นและยีห้อเดียวกันจะดีกว่า
และควรเป็น การ์ดแบบ PCIเพราะสามารถส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบ ISAและเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ
มักจะไม่มี Slot ISA ควรเป็นการ์ดที่มีความเร็วเป็น 100Mbps
ซึ่งจะมีราคามากกว่าการ์ดแบบ 10Mbpsไม่มากนัก แต่ส่งขอมูลได้เร็วกว่า นอกจากนี้คุณควรคา
หนึงถึงขั้วต่อหรือคอนเน็กเตอร์ของการ์ดด้วยโดยทั่วไปคอนเน็กเตอร์ ของการ์ด LANจะมีหลาย
แบบ เช่น BNC, RJ-45เป็นต้น ซึ่งคอนเน็กเตอร์แต่ละแบบก็จะใช้สายที่แตกต่างกัน
3.เกตเวย์ (Gateway)
เกตเวย์ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกอย่างหนึ่งที่ช่วยในการสื่อสาร
ข้อมูลคอมพิวเตอร์หน้าที่หลักคือช่วยให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2 เครือข่าย
หรือมากกว่า ซึ่งมีลักษณะไม่เหมือนกันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้เหมือน
เป็นเครือข่ายเดียวกัน
4.เราเตอร์ (Router)
เราเตอร์เป็นอุปกรณ์ใȨะบบเครือข่ายที่ทาหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงให้เครือข่ายที่มีขนาดหรือ
มาตรฐานในการส่งข้อมูลต่างกัน สามารถติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูล
ระหว่างกันได้ เราเตอร์จะทางานอยู่ชั้น Networkหน้าที่ของเราเตอร์ก็คือ ปรับโปรโตคอล
(Protocol)(โปรโตคอลเป็นมาตรฐานในการสื่อสารข้อมูล บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์)ที่ต่างกัน
ให้สามารถสื่อสารกันได้
5.บริดจ์ (Bridge)
บริดจ์มีลักษณะคล้ายเครื่องขยายสัญญาณ บริดจ์จะทางานอยู่ในชั้น DataLinkบริดจ์
ทางานคล้ายเครื่องตรวจตาแหน่งของข้อมูล โดยบริดจ์จะรับข้อมูล จากต้นทางและส่ง
ให้กับปลายทาง โดยที่บริดจ์จะไม่มีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงใดๆแก่ข้อมูล บริดจ์ทาให้
การเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายมีประสิทธิภาพลดการชนกัน ของข้อมูลลง บริดจ์จึงเป็น
สะพานสาหรับข้อมูลสองเครือข่าย
6.รีพีตเตอร์ (Repeater)
รีพีตเตอร์ เป็นเครื่องทบทวนสัญญาณข้อมูลในการส่งสัญญาณข้อมูลในระยะทางไกลๆสาหรับ
สัญญาณแอนะล็อกจะต้องมีการขยายสัญญาณข้อมูลที่
เริ่มเบาบางลงเนื่องจากระยะทาง และสาหรับสัญญาณดิจิตัลก็จะต้องมีการทบทวนสัญญาณเพื่อ
ป้ องกันการขาดหายของสัญญาณเนื่องจากการส่งระยะทางไกลๆ
เช่นกัน รีพีตเตอร์จะทางานอยู่ในชั้น Physical
7. สายสัญญาณ
เป็นสายสาหรับเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆในระบบเข้าด้วยกัน หากเป็นระบบที่มีจานวนเครื่อง
มากกว่า 2 เครื่องก็จะต้องต่อผ่านฮับอีกทีหนึ่ง โดยสายสัญญาณสาหรับเชื่อมต่อเครื่องในระบบเครือข่าย
จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ
- สาย Coax มีลักษณะเป็นสายกลม คล้ายสายโทรทัศน์ ส่วนมากจะเป็นสีดาสายชนิดนี้จะใช้กับ
การ์ด LANที่ใช้คอนเน็กเตอร์แบบ BNCสามารถส่งสัญญาณได้ไกลประมาณ 200 เมตร สายประเภทนี้
จะต้องใช้ตัว T Connectorสาหรับเชื่อมต่อสายสัญญาณกับการ์ด LANต่างๆในระบบ และต้องใช้ตัว
Terminatorขนาด 50โอห์ม สาหรับปิดหัวและท้ายของสาย
- สาย UTP(Unshied Twisted Pair) เป็นสายสาหรับการ์ด LANที่ใช้คอนเน็กเตอร์แบบ RJ-
45 สามารถส่งสัญญาณได้ไกล
ประมาณ 100เมตร หากคุณใข้สายแบบนี้จะต้องเลือกประเภทของสายอีก โดยทั่วไปนิยมใช้กัน 2
รุ่น คือ CAT 3 กับ CAT5 ซึ่งแบบ CAT3จะมีความเร็วในการส่งสัญญาณ10Mbpsและแบบ CAT 5
จะมีความเร็วในการส่งข้อมูลที่ 100Mbpsแนะนาว่าควรเลือกแบบ CAT5 เพื่อการอัพเกรดใน
ภายหลังจะได้ไม่ต้องเดินสายใหม่ ในการใช้งานสายนี้ สาย 1 เส้นจะต้องใช้ตัว RJ -45 Connector
จานวน 2 ตัว เพื่อเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างสายสัญญาณจากการ์ด LANไปยังฮับหรือเครื่องอื่น
เช่นเดียวกับสายโทรศัพท์ ในกรณีเป็นการเชื่อมต่อเครื่อง 2 เครื่องสามารถใช้ต่อผ่านสายเพียงเส้นเดีย
ได้แต่ถ้ามากกว่า 2 เครื่อง ก็จาเป็นต้องต่อผ่านฮับ
8. ฮับ (HUB)
เป็นอุปกรณ์ช่วยกระจ่ายสัญญาณไปยังเครื่อง
ต่างๆที่อยู่ในระบบ หากเป็นระบบเครือข่ายที่มี 2
เครื่องก็ไม่จาเป็นต้องใช้ฮับสามารถใช้สายสัญญาณ
เชื่อมต่อ ถึงกันได้โดยตรง แต่หากเป็นระบบที่มี
มากกว่า 2 เครื่องจาเป็นต้องมีฮับเพื่อทาหน้าที่เป็น
ตัวกลาง ในการเลือกซื้อฮับควรเลือกฮับที่มีความเร็ว
เท่ากับความเร็ว ของการ์ด เช่น การ์ดมีความเร็ว 100
Mbpsก็ควรเลือกใช้ฮับที่มีความเร็วเป็น 100Mbps
ด้วย ควรเป็นฮับที่มีจานวนพอร์ตสาหรับต่อสายที่
เพียงพอกับ เครื่องใช้ในระบบ หากจานวนพอร์ตต่อ
สายไม่เพียงพอก็สามารถต่อพ่วงได้ แนะนาว่าควร
เลือกซื้อฮับที่สามารถต่อพ่วงได้ เพื่อรองรับการ
ขยายตัวในอนาคต
Server ทำหน้ำที่อะไร
Server ทาหน้าที่เป็นเหมือนผู้ให้บริการต่าง ๆ ในโครงข่ายอินเตอร์เน็ต
หรือโครงข่ายที่มีลูกข่าย เมื่อมีผู้ใช้งานมาขอใช้บริการ Server เครื่อง
Server จะจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ในเครื่องเพื่อให้บริการในทันที
ซึ่งบริการของ Server นั้นมีหลากหลายอย่างด้วยกัน
โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 หน้าที่หลักๆ ดังต่อไปนี้
1. Web server คือโปรแกรมที่มีหน้าที่ให้บริการด้านการจัดการ
เว็บไซต์ โดยส่วนมากโปรแกรมที่นิยมใช้เป็น Web server จะเป็น
Apache web server
2. Mail server คือโปรแกรมที่มีหน้าที่ให้บริการด้าน E-mail
โปรแกรมที่ใช้ในด้าน Mail server มีอยู่หลายโปรแกรมด้วยกันแต่ที่
นิยมกันจะมีอยู่ 3 โปรแกรมคือPostfix, qmail, courier
3. DNS server คือโปรแกรมที่มีหน้าที่ให้บริการด้านโดเมนเนมที่จะ
ค่อยเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ที่เราต้องการให้เป็น IP Address โปรแกรมที่
นิยมใช้คือ bind9
4. Database server คือโปรแกรมที่ทาหน้าที่
ให้บริการด้านการจัดการดูแลข้อมูลต่างๆภายในเว็บไซต์
โปรแกรมที่มีการใช้งานส่วนใหญ่จะเป็น mysql,
postgresql, DB2
โดยการทางานของ Server จะทางานพร้อมกันหลาย ๆ
อย่างได้ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากความสามารถของเครื่อง
Server ส่วนใหญ่จะมีความสามารถที่สูง โดยการทางาน
แต่ละอย่างของ Server จะทางานใน Port ที่ต่างกันไป
Server มีประโยชน์อย่ำงไร
Server เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการให้บริการ
ที่สูงมาก โดยประโยชน์หลัก ๆของ Server นั้นเป็นเครื่อง
คอมพิวเตอร์ที่คอยให้บริการกับผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เข้ามาขอใช้บริการ
นอกจากที่เครื่อง Server ยังสามารถนามาใช้ในสานักงานได้อีกด้วย
โดยประโยชน์ในการใช้เครื่อง Server ในสานักงาน คือ ช่วยให้
ประหยัดทรัพยากรต่าง ๆได้ เพราะว่าคอมพิวเตอร์ทุกตัวสามารถใช้งาน
ทรัพยากรนั้น ๆ ได้เช่น เครื่องพิมพ์ ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น
Server มีกี่ประเภท
Server สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน โดยแบ่งตามลักษณะการ
ทางานเป็นหลัก
1. File Server มีหน้าที่ในการจัดเก็บไฟล์เหมือนกับฮาร์ดดิสก์ ซึ่งผู้ใช้งาน
สามารถที่จะนาไฟล์มาฝากไว้ใน File Server ได้
2. Print Server มีหน้าที่ในการเชื่อมต่อเครื่องปริ้นท์ให้สามารถใช้งานกับ
คอมพิวเตอร์ลูกข่าย เพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากรนั่นเอง ซึ่งส่วนมากจะมีใช้ใน
องค์กรขนาดใหญ่
3. Database Server มีหน้าที่ในการรันระบบที่เป็นฐานข้อมูล
DBMS (Database Management System ) ซึ่งเป็น
โปรแกรมฐานข้อมูลและตัวจัดการฐานข้อมูล เช่น SQL , Informix
4. Application Server มีหน้าที่ในการรันโปรแกรม
ประยุกต์ โดยมีการทางานที่สอดคล้องกับผู้ใช้งาน
Server เป็นอุปกรณ์ที่มีส่วนสาคัญมากในระบบอิȨตอร์๶Ȩตและ
ในระบบเครือข่าย ซึ่งความสามารถของ Server นั้นเราสามารถ
ประยุกต์ใช้ได้ตามหน้าที่และลักษณะงานให้เข้ากับ Server
ประเภทต่าง ๆเพื่อประสิทธิภาพในการทางานที่ดีที่สุดนั่นเอง
สวิตซ์ (Switch)
เป็นอุปกรณ์ที่พัฒนาการต่อจากฮับอีกทีหนึ่งมีความสามารถ
มากกว่า Hub โดยการทางานของสวิตซ์จะส่งข้อมูลออกไปเฉพาะพอร์ตที่
ใช้ในการติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีปลายทางเท่านั้น ไม่ส่งกระจาย
ข้อมูลไปยังทุกพอร์ตเหมือนอย่างฮับ ทาให้ในสวิตซ์ไม่มีปัญหาการชนของ
ข้อมูล สวิตซ์จะทางานอยู่ในชั้น Data Link Layer คือจะรับผิดชอบ
ในการเชื่อมโยงของข้อมูล
ตรวจสอบความถูกต้องของการติดต่อจากโหนดหนึ่งไปอีกโหนด
หนึ่งและความสมบูรณ์ของการรับส่งข้อมูล สาหรับในชั้นเชื่อมโยง
ข้อมูลนั่นจะทาการแบ่งข้อมูลระดับบิตที่ได้รับจาก
ชั้น Physical Layer เป็นข้อมูลชนิดที่เรียกว่า เฟรม ก่อน
จะส่งไปยังชั้นถัดไป ก็คือ Network Layer
หลักการทาางานของSwitch
หลักการทางานของSwitchเหมือนการทางานขอHub เพียงแต่ว่าทางาน
ได้เร็วกว่าและยังมีจานวนพอร์ตที่มากกว่า
Hub กับSWITCH แตกต่างกันอย่างไร
HUB กับ SWITCHนั้นจะทาหน้าที่คล้าย กันเพียงแต่HUB นั้นเวลาส่ง
ข้อมูลนั้นจะเป็นแบบ broadcast กระจายไปทุกเครื่องแต่ถ้าเป็นswitch นั้น จะ
ดูว่าข้อมูลนี่เป็น ของเครื่องไหนแล้วค่อยส่งไปยังเครื่องนั้น ดังนั้นHUBจึง
สามารถLAN ได้มากกว่านอกจากนี้ความเร็วในการส่งข้อมูลก็ต่างกัน
คือ speed HUB คือspeed / N เครื่องเช่น LAN 100 Mbps 10 เครื่อง ทุก
เครื่องได้แค่ 10 Mpbsส่วน speed switch นั้น Lan 100 mpbs ทุกเครื่องได้
100 mbps
ส่วนประกอบการทางานที่สาคัญของSwitch สามารถแบ่ง
ส่วนประกอบที่สาคัญของSwitchได้ดังนี้
– InputController – Control Process
– SwitchingElement – OutputController
Input Controller
InputController จะควบคุมดูแลให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกส่งเข้า
มายังSwitchesสามารถดาเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หน้าที่
หลักของInputController ได้แก่การรับข้อมูลในรูปของแพ็กเก็ตเข้ามา
จากนั้นจึงนาส่งไปยังที่ControlProcess สาหรับการ
ใช้ Switchแบบ Cut– Throughตัว InputController
จะทาหน้าที่ Forward หรือส่งผ่านข้อมูลไปที่ ControlProcess โดยเร็วที่สุด
หลังจากตรวจสอบพบMAC Address ปลายทางที่มีขนาด6 ไบต์ขึ้นอยู่กับ
ส่วนประกอบของ Switch และOutputController ดังรูปด้านล่าง
หมายเหตุ
Mac Address คือ MAC Address เป็นรหัส HEX (เลขฐาน16) มี 12 ดิจิต ซึ่ง
มีมาตรฐานการออกตัว
ติดมากับอุปกรณ์เน็ตเวิร์ค ได้แก่ NIC (NetworkInterfaceCard) จะไม่ซ้ากัน
นะครับเพื่อน ๆ
ControlProcess คือ บล็อคควบคุมการทางาน
เครือข่ายท้องถิ่น (LAN)
เครือข่ายแลน หรือเครือข่ายท้องถิ่น เป็นเครือข่ายขนาดเล็ก ใช้กันอยู่ใน
บริเวณไม่กว้าง ซึ่งเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารที่อยู่ในท้องที่
บริเวณเดียวกันเข้าด้วยกัน เช่น ภายในอาคาร หรือภายในองค์การที่มีระยะทาง
ไม่ไกลมากนัก เครือข่ายแลนจัดได้ว่าเป็นเครือข่ายเฉพาะขององค์การ การสร้าง
เครือข่ายแลนนี้องค์การสามารถดาเนินการทาเองได้ โดยวางสายสัญญาณ
สื่อสารภายในอาคาร หรือภายในพื้นที่ของตนเอง
1.Bus มีการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็ว 10-100 MB/s จะเชื่อมต่อกันบน
สายสัญญาณเส้นเดียวกัน
2.Star เป็นระบบที่มีเป็นการต่อแบบรวมศูนย์
3.Ring เป็นระบบที่มีการส่งข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะมีเครื่อง
Server หรือ Switch ในการปล่อย Token
ข้อดี ของระบบ LAN
-เนื่องจาผู้ใช้คอมพิเตอร์ในวง LAN เดียวกันสามารถใช้ทรัพยากรที่มีในวง
LAN ร่วมกันได้ ทาให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อสาหรับอุปกรณ์ที่
สามารถใช้งานร่วมกันได้
ข้อเสีย ของระบบ LAN
-ถ้าสายเคเบิ้ลขาดจะไม่สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้
ระบบเครือข่ายแบบ WAN
ระบบเครือข่ายแบบ WAN หรือระบบเครือข่ายบริเวณกว้าง จะเป็น
ระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงเครือข่ายแบบท้องถิ่นตั้งแต่ 2 เครือข่ายขึ้นไป
เข้าด้วยกันผ่านระยะทางที่ไกลมาก
ประเภทของเครือข่าย WAN
เครือข่าย WAN สามารถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ คือ
1 . เครือข่ายส่วนตัว (private network)
2. เครือข่ายสาธารณะ (PDN: public data network) /เครือข่าย
มูลค่าเพิ่ม (VAN: Value Added Network)
เครือข่ายระดับเมือง (MAN)
ระบบแมน (MAN ) เป็นระบบเครือข่ายที่มีการเชื่อมต่อกันในระหว่างที่กว้าง
ใหญ่ ครอบคลุมระยะทางเป็น 100 กิโลเมตร ที่มีการติดต่อกันในระยะที่ไกลกว่า
ระบบแลนและใกล้กว่าระบบแวน เป็นการติดต่อระหว่างเมือง เช่น กรุงเทพฯ กับ
เชียงใหม่ เชียงใหม่กับยะลาหรือเป็นการติดต่อระหว่างรัฐ
Metropolitan Area Network(MAN) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์
มักจะขยายวิทยาเขตหรือเมืองซึ่งโดยปกติจะเชื่อมต่อไม่กี่ระบบ
เครือข่ายท้องถิ่นโดยใช้เทคโนโลยีหลักความเร็วสูงAMAN often
provides efficientconnections to a wide area network
(WAN). MAN มักจะให้การเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่
กว้าง (WAN) มีสามคุณสมบัติที่สาคัญซึ่งเห็นความแตกต่าง
จาก Mans LANs หรือ WANs
ใช้ลักษณะหน้าที่การทางานของคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายเป็นเกณฑ์
สามารถแบ่งได้เป็ น 2 ประเภทดังนี้
1. Peer-to-Peer Network 2. Client-ServerNetwork
- หรือเครือข่ายแบบเท่าเทียม - หรือเครือข่ายแบบผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ
ใช้ระดับความปลอดภัยของข้อมูลเป็นเกณฑ์
แบ่งออกได้เป็ น 3 ประเภทดังนี้
1.อินเทอร์เน็ต (Internet) 2.อินทราเน็ต (Intranet) 3.เอ็กส์ทราเน็ต
(Extranet)
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (computer network)
-ระบบที่มีคอมพิวเตอร์อย่เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ ฮาร์ดดิสก์เป็นต้น
องค์ประกอบพื้นฐานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ - คอมพิวเตอร์อย่างน้อย
2 เครื่อง
- เน็ตเวิร์คการ์ด(NIC : Network Interface Card)
- สายสัญญาณและอุปกรณ์รับส่งข้อมูล เช่น เราท์เตอร์ เกตเวย์ เป็นต้น
- โปรโตคอล(Protocol) หรือ ภาษาที่คอมพิวเตอร์ใช้สื่อสารผ่านเครือข่าย
คอมพิวเตอร์
- ระบบปฏิบัติการเครือข่าย(NOS : Network Operating System)
ไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์ (Client/ServerNetwork)
คือ การที่มีเครื่องผู้ให้บริการ (server) และเครื่องผู้ใช้บริการ
(client) เชื่อมต่อกันอยู่ และเครื่องผู้ใช้บริการได้มีการติดต่อร้องขอบริการ
จากเครื่องผู้ให้บริการ เครื่องผู้ให้บริการก็จะจัดการตามที่เครื่องผู้ขอใช้
บริการร้องขอ แล้วส่งข้อมูลกลับไปให้เครือข่ายแบบไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์
เหมาะกับระบบเครือข่ายที่ต้องการเชื่อมต่อกับเครื่องลูกข่ายจานวนมาก
โดยการรองรับจานวนเครื่องลูกข่าย (Client) อาจเป็นหลักสิบหลัก
ร้อย หรือหลักพัน
THE END.
วิชา คอมพิวเตอร์
เรื่อง อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
จัดทาโดย
1.นายสหัสวรรษ ศรีชุมพล เลขที่ 1
2.นายจิรายุ นาภา เลขที่ 27
3.นางสาวพรธิดา มะธิโตปะนา เลขที่ 33
4.นางสาวจิรัชญา สิมมา เลขที่ 34
5.นายศิรวิทย์ แก้วรักษา เลขที่ 35
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4
เสนอ
มิสเขมจิรา ปลงไสว
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
Ad

Recommended

อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
supansa phuprasong
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
Bm Kongpop
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Look-wa Airin
powerpointอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
powerpointอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Weina Fomedajs
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Weina Fomedajs
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Toy Varintorn
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
cnfook 11
ความหมายและประโยชน์ྺองคอมพิว๶ตอร์
ความหมายและประโยชน์ྺองคอมพิว๶ตอร์
Sujit Chuajine
หน่วยที่ 4 อุปกรณ์เครือข่าย
หน่วยที่ 4 อุปกรณ์เครือข่าย
Sisaketwittayalai School
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Narathip Limkul
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Nipat Deenan
อุปกรณ์ྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
supansa phuprasong
อุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
Khemjira_P
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1
Morn Suwanno
ระบบอิȨตอร์๶Ȩต
ระบบอิȨตอร์๶Ȩต
Wanphen Wirojcharoenwong
ระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Wanphen Wirojcharoenwong
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์4
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์4
chanon555za
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์3
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์3
singto momepoko
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์2
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์2
singto momepoko
อุปกรณ์ใȨะบบเครือข่าย
อุปกรณ์ใȨะบบเครือข่าย
Ta Khanittha
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Worapong Jaipadungwong
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Nthw Trty

More Related Content

What's hot (17)

หน่วยที่ 4 อุปกรณ์เครือข่าย
หน่วยที่ 4 อุปกรณ์เครือข่าย
Sisaketwittayalai School
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Narathip Limkul
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Nipat Deenan
อุปกรณ์ྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
supansa phuprasong
อุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
Khemjira_P
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1
Morn Suwanno
ระบบอิȨตอร์๶Ȩต
ระบบอิȨตอร์๶Ȩต
Wanphen Wirojcharoenwong
ระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Wanphen Wirojcharoenwong
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์4
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์4
chanon555za
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์3
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์3
singto momepoko
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์2
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์2
singto momepoko
หน่วยที่ 4 อุปกรณ์เครือข่าย
หน่วยที่ 4 อุปกรณ์เครือข่าย
Sisaketwittayalai School
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Narathip Limkul
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Nipat Deenan
อุปกรณ์ྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
supansa phuprasong
อุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Tunyachanok Poungthongkhum
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
Khemjira_P
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1
Morn Suwanno
ระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Wanphen Wirojcharoenwong
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์4
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์4
chanon555za
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์3
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์3
singto momepoko
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์2
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์2
singto momepoko

Similar to อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ (20)

อุปกรณ์ใȨะบบเครือข่าย
อุปกรณ์ใȨะบบเครือข่าย
Ta Khanittha
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Worapong Jaipadungwong
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Nthw Trty
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์ powerpoint
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์ powerpoint
pattaratada
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
pattaratada
รายงานการเข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต2
รายงานการเข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต2
guest9588e7f
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
Chi Cha Pui Fai
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
Chanon Juengcharoenpoon
การเข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต2
การเข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต2
guest9f9520
Ȩ๶สนอการ๶ข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต
Ȩ๶สนอการ๶ข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต
guest9f9520
อุปกรณ์เชื่อต่อคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เชื่อต่อคอมพิวเตอร์
Napong Sriprasit
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่าย
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่าย
Bell Andaman
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่าย
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่าย
attakowit
Random 130902095713-phpapp01
Random 130902095713-phpapp01
Kin Kanin
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
Achiraya Bamrungsin
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
Achiraya Bamrungsin
ความรู้เบื้องต้น๶กี่ยวกับคอมพิว๶ตอร์และเทคโนโลยีสารสȨทศ
ความรู้เบื้องต้น๶กี่ยวกับคอมพิว๶ตอร์และเทคโนโลยีสารสȨทศ
Radompon.com
อุปกรณ์ใȨะบบเครือข่าย
อุปกรณ์ใȨะบบเครือข่าย
Ta Khanittha
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Worapong Jaipadungwong
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Nthw Trty
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์ powerpoint
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์ powerpoint
pattaratada
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
pattaratada
รายงานการเข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต2
รายงานการเข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต2
guest9588e7f
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
Chi Cha Pui Fai
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
Chanon Juengcharoenpoon
การเข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต2
การเข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต2
guest9f9520
Ȩ๶สนอการ๶ข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต
Ȩ๶สนอการ๶ข้าสู่ระบบอิȨทอร์๶Ȩต
guest9f9520
อุปกรณ์เชื่อต่อคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เชื่อต่อคอมพิวเตอร์
Napong Sriprasit
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่าย
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่าย
Bell Andaman
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่าย
อุปกรณ์ที่ใช้ใȨะบบเครือข่าย
attakowit
Random 130902095713-phpapp01
Random 130902095713-phpapp01
Kin Kanin
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
Achiraya Bamrungsin
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิว๶ตอร์
Achiraya Bamrungsin
ความรู้เบื้องต้น๶กี่ยวกับคอมพิว๶ตอร์และเทคโนโลยีสารสȨทศ
ความรู้เบื้องต้น๶กี่ยวกับคอมพิว๶ตอร์และเทคโนโลยีสารสȨทศ
Radompon.com
Ad

More from fahsai imjai (10)

คอม
คอม
fahsai imjai
Introduction to programming
Introduction to programming
fahsai imjai
ลักษณะของการ๶ชื่อมต่ออิȨทอร์๶Ȩตแต่ละประเภท
ลักษณะของการ๶ชื่อมต่ออิȨทอร์๶Ȩตแต่ละประเภท
fahsai imjai
ลักษณะของการ๶ชื่อมต่ออิȨทอร์๶Ȩตแต่ละประเภท
ลักษณะของการ๶ชื่อมต่ออิȨทอร์๶Ȩตแต่ละประเภท
fahsai imjai
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
fahsai imjai
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
fahsai imjai
ห้องสนทนา
ห้องสนทนา
fahsai imjai
ห้องสนทนา
ห้องสนทนา
fahsai imjai
ห้องสนทนา
ห้องสนทนา
fahsai imjai
นิก คุณาทิป ปิ่นประดับ
นิก คุณาทิป ปิ่นประดับ
fahsai imjai
Introduction to programming
Introduction to programming
fahsai imjai
ลักษณะของการ๶ชื่อมต่ออิȨทอร์๶Ȩตแต่ละประเภท
ลักษณะของการ๶ชื่อมต่ออิȨทอร์๶Ȩตแต่ละประเภท
fahsai imjai
ลักษณะของการ๶ชื่อมต่ออิȨทอร์๶Ȩตแต่ละประเภท
ลักษณะของการ๶ชื่อมต่ออิȨทอร์๶Ȩตแต่ละประเภท
fahsai imjai
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
fahsai imjai
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
fahsai imjai
ห้องสนทนา
ห้องสนทนา
fahsai imjai
ห้องสนทนา
ห้องสนทนา
fahsai imjai
ห้องสนทนา
ห้องสนทนา
fahsai imjai
นิก คุณาทิป ปิ่นประดับ
นิก คุณาทิป ปิ่นประดับ
fahsai imjai
Ad

Recently uploaded (6)

ไฟล์งานการวิเคราะห์ผลจากโปรแกรม SPSS ของ
ไฟล์งานการวิเคราะห์ผลจากโปรแกรม SPSS ของ
AkradechBamrungnam
ระบบประสาทȨ..............................................
ระบบประสาทȨ..............................................
Tanachai Junsuk
ต่อมไร้ท่อ...............................................
ต่อมไร้ท่อ...............................................
Tanachai Junsuk
๶ฉลย_แบบฝึกหัึϸิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาปีที่6ความȨาจะเป็น(ตัวแปรสุ่ม)
๶ฉลย_แบบฝึกหัึϸิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาปีที่6ความȨาจะเป็น(ตัวแปรสุ่ม)
Thanuphong Ngoapm
ขั้นตอนการแทงเข็มพอร์ต A Cath ในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด
ขั้นตอนการแทงเข็มพอร์ต A Cath ในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด
AkradechBamrungnam
ขั้นตอนการให้บริการแผนกผู้ป่วยนอก (หน่วย.pdf
ขั้นตอนการให้บริการแผนกผู้ป่วยนอก (หน่วย.pdf
AkradechBamrungnam
ไฟล์งานการวิเคราะห์ผลจากโปรแกรม SPSS ของ
ไฟล์งานการวิเคราะห์ผลจากโปรแกรม SPSS ของ
AkradechBamrungnam
ระบบประสาทȨ..............................................
ระบบประสาทȨ..............................................
Tanachai Junsuk
ต่อมไร้ท่อ...............................................
ต่อมไร้ท่อ...............................................
Tanachai Junsuk
๶ฉลย_แบบฝึกหัึϸิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาปีที่6ความȨาจะเป็น(ตัวแปรสุ่ม)
๶ฉลย_แบบฝึกหัึϸิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาปีที่6ความȨาจะเป็น(ตัวแปรสุ่ม)
Thanuphong Ngoapm
ขั้นตอนการแทงเข็มพอร์ต A Cath ในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด
ขั้นตอนการแทงเข็มพอร์ต A Cath ในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด
AkradechBamrungnam
ขั้นตอนการให้บริการแผนกผู้ป่วยนอก (หน่วย.pdf
ขั้นตอนการให้บริการแผนกผู้ป่วยนอก (หน่วย.pdf
AkradechBamrungnam

อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์

  • 2. อุปกรณ์ มี 8 ชนิด 1.โมเด็ม (Modem) โมเด็มเป็นฮาร์ดแวร์ที่ทาหน้าที่แปลงสัญญาณแอนะล็อกให้เป็นสัญญาณดิจิตัล เมื่อข้อมูลถูกส่งมายังผู้รับละแปลงสัญญาณดิจิตัลให้เป็นแอนะล็อก เมื่อต้องการส่ง ข้อมูลไปบนช่องสื่อสาร กระบวนการที่โมเด็มแปลงสัญญาณดิจิตัลให้เป็นสัญญาณแอ นะล็อก เรียกว่า มอดูเลชัน (Modulation) โมเด็มทาหน้าที่ มอดูเลเตอร์ (Modulator) กระบวนการที่โมเด็มแปลงสัญญาณแอนะล็อก ให้เป็นสัญญาณแอนะล็อก ให้เป็น สัญญาณดิจิตัล เรียกว่า ดีมอดูเลชัน (Demodulation)โมเด็มหน้าที่ ดีมอดูเลเตอร์ (Demodulator)โมเด็มที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันมี 2ประเภทโมเด็กในปัจจุบัน ทางานเป็นทั้งโมเด็มและ เครื่องโทรสาร เราเรียกว่า Faxmodem
  • 3. 2.การ์ดเครือข่าย (Network Adapter) หรือ การ์ด LAN เป็นอุปกรณ์ทาหน้าที่สื่อสารระหว่างเครื่องต่างกันได้ไม่จาเป็นต้องเป็นรุ่นหรือยี่ห้อเดียวกันแต่ หากซื้อพร้อมๆกันก็แนะนาให้ซื้อรุ่นและยีห้อเดียวกันจะดีกว่า และควรเป็น การ์ดแบบ PCIเพราะสามารถส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบ ISAและเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ มักจะไม่มี Slot ISA ควรเป็นการ์ดที่มีความเร็วเป็น 100Mbps ซึ่งจะมีราคามากกว่าการ์ดแบบ 10Mbpsไม่มากนัก แต่ส่งขอมูลได้เร็วกว่า นอกจากนี้คุณควรคา หนึงถึงขั้วต่อหรือคอนเน็กเตอร์ของการ์ดด้วยโดยทั่วไปคอนเน็กเตอร์ ของการ์ด LANจะมีหลาย แบบ เช่น BNC, RJ-45เป็นต้น ซึ่งคอนเน็กเตอร์แต่ละแบบก็จะใช้สายที่แตกต่างกัน
  • 4. 3.เกตเวย์ (Gateway) เกตเวย์ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกอย่างหนึ่งที่ช่วยในการสื่อสาร ข้อมูลคอมพิวเตอร์หน้าที่หลักคือช่วยให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2 เครือข่าย หรือมากกว่า ซึ่งมีลักษณะไม่เหมือนกันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้เหมือน เป็นเครือข่ายเดียวกัน
  • 5. 4.เราเตอร์ (Router) เราเตอร์เป็นอุปกรณ์ใȨะบบเครือข่ายที่ทาหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงให้เครือข่ายที่มีขนาดหรือ มาตรฐานในการส่งข้อมูลต่างกัน สามารถติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างกันได้ เราเตอร์จะทางานอยู่ชั้น Networkหน้าที่ของเราเตอร์ก็คือ ปรับโปรโตคอล (Protocol)(โปรโตคอลเป็นมาตรฐานในการสื่อสารข้อมูล บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์)ที่ต่างกัน ให้สามารถสื่อสารกันได้
  • 6. 5.บริดจ์ (Bridge) บริดจ์มีลักษณะคล้ายเครื่องขยายสัญญาณ บริดจ์จะทางานอยู่ในชั้น DataLinkบริดจ์ ทางานคล้ายเครื่องตรวจตาแหน่งของข้อมูล โดยบริดจ์จะรับข้อมูล จากต้นทางและส่ง ให้กับปลายทาง โดยที่บริดจ์จะไม่มีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงใดๆแก่ข้อมูล บริดจ์ทาให้ การเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายมีประสิทธิภาพลดการชนกัน ของข้อมูลลง บริดจ์จึงเป็น สะพานสาหรับข้อมูลสองเครือข่าย
  • 7. 6.รีพีตเตอร์ (Repeater) รีพีตเตอร์ เป็นเครื่องทบทวนสัญญาณข้อมูลในการส่งสัญญาณข้อมูลในระยะทางไกลๆสาหรับ สัญญาณแอนะล็อกจะต้องมีการขยายสัญญาณข้อมูลที่ เริ่มเบาบางลงเนื่องจากระยะทาง และสาหรับสัญญาณดิจิตัลก็จะต้องมีการทบทวนสัญญาณเพื่อ ป้ องกันการขาดหายของสัญญาณเนื่องจากการส่งระยะทางไกลๆ เช่นกัน รีพีตเตอร์จะทางานอยู่ในชั้น Physical
  • 8. 7. สายสัญญาณ เป็นสายสาหรับเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆในระบบเข้าด้วยกัน หากเป็นระบบที่มีจานวนเครื่อง มากกว่า 2 เครื่องก็จะต้องต่อผ่านฮับอีกทีหนึ่ง โดยสายสัญญาณสาหรับเชื่อมต่อเครื่องในระบบเครือข่าย จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ - สาย Coax มีลักษณะเป็นสายกลม คล้ายสายโทรทัศน์ ส่วนมากจะเป็นสีดาสายชนิดนี้จะใช้กับ การ์ด LANที่ใช้คอนเน็กเตอร์แบบ BNCสามารถส่งสัญญาณได้ไกลประมาณ 200 เมตร สายประเภทนี้ จะต้องใช้ตัว T Connectorสาหรับเชื่อมต่อสายสัญญาณกับการ์ด LANต่างๆในระบบ และต้องใช้ตัว Terminatorขนาด 50โอห์ม สาหรับปิดหัวและท้ายของสาย
  • 9. - สาย UTP(Unshied Twisted Pair) เป็นสายสาหรับการ์ด LANที่ใช้คอนเน็กเตอร์แบบ RJ- 45 สามารถส่งสัญญาณได้ไกล ประมาณ 100เมตร หากคุณใข้สายแบบนี้จะต้องเลือกประเภทของสายอีก โดยทั่วไปนิยมใช้กัน 2 รุ่น คือ CAT 3 กับ CAT5 ซึ่งแบบ CAT3จะมีความเร็วในการส่งสัญญาณ10Mbpsและแบบ CAT 5 จะมีความเร็วในการส่งข้อมูลที่ 100Mbpsแนะนาว่าควรเลือกแบบ CAT5 เพื่อการอัพเกรดใน ภายหลังจะได้ไม่ต้องเดินสายใหม่ ในการใช้งานสายนี้ สาย 1 เส้นจะต้องใช้ตัว RJ -45 Connector จานวน 2 ตัว เพื่อเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างสายสัญญาณจากการ์ด LANไปยังฮับหรือเครื่องอื่น เช่นเดียวกับสายโทรศัพท์ ในกรณีเป็นการเชื่อมต่อเครื่อง 2 เครื่องสามารถใช้ต่อผ่านสายเพียงเส้นเดีย ได้แต่ถ้ามากกว่า 2 เครื่อง ก็จาเป็นต้องต่อผ่านฮับ
  • 10. 8. ฮับ (HUB) เป็นอุปกรณ์ช่วยกระจ่ายสัญญาณไปยังเครื่อง ต่างๆที่อยู่ในระบบ หากเป็นระบบเครือข่ายที่มี 2 เครื่องก็ไม่จาเป็นต้องใช้ฮับสามารถใช้สายสัญญาณ เชื่อมต่อ ถึงกันได้โดยตรง แต่หากเป็นระบบที่มี มากกว่า 2 เครื่องจาเป็นต้องมีฮับเพื่อทาหน้าที่เป็น ตัวกลาง ในการเลือกซื้อฮับควรเลือกฮับที่มีความเร็ว เท่ากับความเร็ว ของการ์ด เช่น การ์ดมีความเร็ว 100 Mbpsก็ควรเลือกใช้ฮับที่มีความเร็วเป็น 100Mbps ด้วย ควรเป็นฮับที่มีจานวนพอร์ตสาหรับต่อสายที่ เพียงพอกับ เครื่องใช้ในระบบ หากจานวนพอร์ตต่อ สายไม่เพียงพอก็สามารถต่อพ่วงได้ แนะนาว่าควร เลือกซื้อฮับที่สามารถต่อพ่วงได้ เพื่อรองรับการ ขยายตัวในอนาคต
  • 11. Server ทำหน้ำที่อะไร Server ทาหน้าที่เป็นเหมือนผู้ให้บริการต่าง ๆ ในโครงข่ายอินเตอร์เน็ต หรือโครงข่ายที่มีลูกข่าย เมื่อมีผู้ใช้งานมาขอใช้บริการ Server เครื่อง Server จะจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ในเครื่องเพื่อให้บริการในทันที ซึ่งบริการของ Server นั้นมีหลากหลายอย่างด้วยกัน
  • 12. โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 หน้าที่หลักๆ ดังต่อไปนี้ 1. Web server คือโปรแกรมที่มีหน้าที่ให้บริการด้านการจัดการ เว็บไซต์ โดยส่วนมากโปรแกรมที่นิยมใช้เป็น Web server จะเป็น Apache web server 2. Mail server คือโปรแกรมที่มีหน้าที่ให้บริการด้าน E-mail โปรแกรมที่ใช้ในด้าน Mail server มีอยู่หลายโปรแกรมด้วยกันแต่ที่ นิยมกันจะมีอยู่ 3 โปรแกรมคือPostfix, qmail, courier 3. DNS server คือโปรแกรมที่มีหน้าที่ให้บริการด้านโดเมนเนมที่จะ ค่อยเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ที่เราต้องการให้เป็น IP Address โปรแกรมที่ นิยมใช้คือ bind9
  • 13. 4. Database server คือโปรแกรมที่ทาหน้าที่ ให้บริการด้านการจัดการดูแลข้อมูลต่างๆภายในเว็บไซต์ โปรแกรมที่มีการใช้งานส่วนใหญ่จะเป็น mysql, postgresql, DB2 โดยการทางานของ Server จะทางานพร้อมกันหลาย ๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากความสามารถของเครื่อง Server ส่วนใหญ่จะมีความสามารถที่สูง โดยการทางาน แต่ละอย่างของ Server จะทางานใน Port ที่ต่างกันไป
  • 14. Server มีประโยชน์อย่ำงไร Server เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการให้บริการ ที่สูงมาก โดยประโยชน์หลัก ๆของ Server นั้นเป็นเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่คอยให้บริการกับผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เข้ามาขอใช้บริการ นอกจากที่เครื่อง Server ยังสามารถนามาใช้ในสานักงานได้อีกด้วย โดยประโยชน์ในการใช้เครื่อง Server ในสานักงาน คือ ช่วยให้ ประหยัดทรัพยากรต่าง ๆได้ เพราะว่าคอมพิวเตอร์ทุกตัวสามารถใช้งาน ทรัพยากรนั้น ๆ ได้เช่น เครื่องพิมพ์ ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น
  • 15. Server มีกี่ประเภท Server สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน โดยแบ่งตามลักษณะการ ทางานเป็นหลัก 1. File Server มีหน้าที่ในการจัดเก็บไฟล์เหมือนกับฮาร์ดดิสก์ ซึ่งผู้ใช้งาน สามารถที่จะนาไฟล์มาฝากไว้ใน File Server ได้ 2. Print Server มีหน้าที่ในการเชื่อมต่อเครื่องปริ้นท์ให้สามารถใช้งานกับ คอมพิวเตอร์ลูกข่าย เพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากรนั่นเอง ซึ่งส่วนมากจะมีใช้ใน องค์กรขนาดใหญ่ 3. Database Server มีหน้าที่ในการรันระบบที่เป็นฐานข้อมูล DBMS (Database Management System ) ซึ่งเป็น โปรแกรมฐานข้อมูลและตัวจัดการฐานข้อมูล เช่น SQL , Informix
  • 16. 4. Application Server มีหน้าที่ในการรันโปรแกรม ประยุกต์ โดยมีการทางานที่สอดคล้องกับผู้ใช้งาน Server เป็นอุปกรณ์ที่มีส่วนสาคัญมากในระบบอิȨตอร์๶Ȩตและ ในระบบเครือข่าย ซึ่งความสามารถของ Server นั้นเราสามารถ ประยุกต์ใช้ได้ตามหน้าที่และลักษณะงานให้เข้ากับ Server ประเภทต่าง ๆเพื่อประสิทธิภาพในการทางานที่ดีที่สุดนั่นเอง
  • 17. สวิตซ์ (Switch) เป็นอุปกรณ์ที่พัฒนาการต่อจากฮับอีกทีหนึ่งมีความสามารถ มากกว่า Hub โดยการทางานของสวิตซ์จะส่งข้อมูลออกไปเฉพาะพอร์ตที่ ใช้ในการติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีปลายทางเท่านั้น ไม่ส่งกระจาย ข้อมูลไปยังทุกพอร์ตเหมือนอย่างฮับ ทาให้ในสวิตซ์ไม่มีปัญหาการชนของ ข้อมูล สวิตซ์จะทางานอยู่ในชั้น Data Link Layer คือจะรับผิดชอบ ในการเชื่อมโยงของข้อมูล
  • 19. หลักการทาางานของSwitch หลักการทางานของSwitchเหมือนการทางานขอHub เพียงแต่ว่าทางาน ได้เร็วกว่าและยังมีจานวนพอร์ตที่มากกว่า Hub กับSWITCH แตกต่างกันอย่างไร HUB กับ SWITCHนั้นจะทาหน้าที่คล้าย กันเพียงแต่HUB นั้นเวลาส่ง ข้อมูลนั้นจะเป็นแบบ broadcast กระจายไปทุกเครื่องแต่ถ้าเป็นswitch นั้น จะ ดูว่าข้อมูลนี่เป็น ของเครื่องไหนแล้วค่อยส่งไปยังเครื่องนั้น ดังนั้นHUBจึง สามารถLAN ได้มากกว่านอกจากนี้ความเร็วในการส่งข้อมูลก็ต่างกัน คือ speed HUB คือspeed / N เครื่องเช่น LAN 100 Mbps 10 เครื่อง ทุก เครื่องได้แค่ 10 Mpbsส่วน speed switch นั้น Lan 100 mpbs ทุกเครื่องได้ 100 mbps
  • 20. ส่วนประกอบการทางานที่สาคัญของSwitch สามารถแบ่ง ส่วนประกอบที่สาคัญของSwitchได้ดังนี้ – InputController – Control Process – SwitchingElement – OutputController Input Controller InputController จะควบคุมดูแลให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกส่งเข้า มายังSwitchesสามารถดาเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หน้าที่ หลักของInputController ได้แก่การรับข้อมูลในรูปของแพ็กเก็ตเข้ามา จากนั้นจึงนาส่งไปยังที่ControlProcess สาหรับการ ใช้ Switchแบบ Cut– Throughตัว InputController
  • 21. จะทาหน้าที่ Forward หรือส่งผ่านข้อมูลไปที่ ControlProcess โดยเร็วที่สุด หลังจากตรวจสอบพบMAC Address ปลายทางที่มีขนาด6 ไบต์ขึ้นอยู่กับ ส่วนประกอบของ Switch และOutputController ดังรูปด้านล่าง หมายเหตุ Mac Address คือ MAC Address เป็นรหัส HEX (เลขฐาน16) มี 12 ดิจิต ซึ่ง มีมาตรฐานการออกตัว ติดมากับอุปกรณ์เน็ตเวิร์ค ได้แก่ NIC (NetworkInterfaceCard) จะไม่ซ้ากัน นะครับเพื่อน ๆ ControlProcess คือ บล็อคควบคุมการทางาน
  • 22. เครือข่ายท้องถิ่น (LAN) เครือข่ายแลน หรือเครือข่ายท้องถิ่น เป็นเครือข่ายขนาดเล็ก ใช้กันอยู่ใน บริเวณไม่กว้าง ซึ่งเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารที่อยู่ในท้องที่ บริเวณเดียวกันเข้าด้วยกัน เช่น ภายในอาคาร หรือภายในองค์การที่มีระยะทาง ไม่ไกลมากนัก เครือข่ายแลนจัดได้ว่าเป็นเครือข่ายเฉพาะขององค์การ การสร้าง เครือข่ายแลนนี้องค์การสามารถดาเนินการทาเองได้ โดยวางสายสัญญาณ สื่อสารภายในอาคาร หรือภายในพื้นที่ของตนเอง
  • 23. 1.Bus มีการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็ว 10-100 MB/s จะเชื่อมต่อกันบน สายสัญญาณเส้นเดียวกัน 2.Star เป็นระบบที่มีเป็นการต่อแบบรวมศูนย์ 3.Ring เป็นระบบที่มีการส่งข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะมีเครื่อง Server หรือ Switch ในการปล่อย Token ข้อดี ของระบบ LAN -เนื่องจาผู้ใช้คอมพิเตอร์ในวง LAN เดียวกันสามารถใช้ทรัพยากรที่มีในวง LAN ร่วมกันได้ ทาให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อสาหรับอุปกรณ์ที่ สามารถใช้งานร่วมกันได้ ข้อเสีย ของระบบ LAN -ถ้าสายเคเบิ้ลขาดจะไม่สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้
  • 24. ระบบเครือข่ายแบบ WAN ระบบเครือข่ายแบบ WAN หรือระบบเครือข่ายบริเวณกว้าง จะเป็น ระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงเครือข่ายแบบท้องถิ่นตั้งแต่ 2 เครือข่ายขึ้นไป เข้าด้วยกันผ่านระยะทางที่ไกลมาก ประเภทของเครือข่าย WAN เครือข่าย WAN สามารถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ คือ 1 . เครือข่ายส่วนตัว (private network) 2. เครือข่ายสาธารณะ (PDN: public data network) /เครือข่าย มูลค่าเพิ่ม (VAN: Value Added Network)
  • 25. เครือข่ายระดับเมือง (MAN) ระบบแมน (MAN ) เป็นระบบเครือข่ายที่มีการเชื่อมต่อกันในระหว่างที่กว้าง ใหญ่ ครอบคลุมระยะทางเป็น 100 กิโลเมตร ที่มีการติดต่อกันในระยะที่ไกลกว่า ระบบแลนและใกล้กว่าระบบแวน เป็นการติดต่อระหว่างเมือง เช่น กรุงเทพฯ กับ เชียงใหม่ เชียงใหม่กับยะลาหรือเป็นการติดต่อระหว่างรัฐ
  • 26. Metropolitan Area Network(MAN) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มักจะขยายวิทยาเขตหรือเมืองซึ่งโดยปกติจะเชื่อมต่อไม่กี่ระบบ เครือข่ายท้องถิ่นโดยใช้เทคโนโลยีหลักความเร็วสูงAMAN often provides efficientconnections to a wide area network (WAN). MAN มักจะให้การเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ กว้าง (WAN) มีสามคุณสมบัติที่สาคัญซึ่งเห็นความแตกต่าง จาก Mans LANs หรือ WANs
  • 27. ใช้ลักษณะหน้าที่การทางานของคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งได้เป็ น 2 ประเภทดังนี้ 1. Peer-to-Peer Network 2. Client-ServerNetwork - หรือเครือข่ายแบบเท่าเทียม - หรือเครือข่ายแบบผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ ใช้ระดับความปลอดภัยของข้อมูลเป็นเกณฑ์ แบ่งออกได้เป็ น 3 ประเภทดังนี้ 1.อินเทอร์เน็ต (Internet) 2.อินทราเน็ต (Intranet) 3.เอ็กส์ทราเน็ต (Extranet)
  • 28. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (computer network) -ระบบที่มีคอมพิวเตอร์อย่เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ ฮาร์ดดิสก์เป็นต้น องค์ประกอบพื้นฐานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ - คอมพิวเตอร์อย่างน้อย 2 เครื่อง - เน็ตเวิร์คการ์ด(NIC : Network Interface Card) - สายสัญญาณและอุปกรณ์รับส่งข้อมูล เช่น เราท์เตอร์ เกตเวย์ เป็นต้น - โปรโตคอล(Protocol) หรือ ภาษาที่คอมพิวเตอร์ใช้สื่อสารผ่านเครือข่าย คอมพิวเตอร์ - ระบบปฏิบัติการเครือข่าย(NOS : Network Operating System)
  • 29. ไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์ (Client/ServerNetwork) คือ การที่มีเครื่องผู้ให้บริการ (server) และเครื่องผู้ใช้บริการ (client) เชื่อมต่อกันอยู่ และเครื่องผู้ใช้บริการได้มีการติดต่อร้องขอบริการ จากเครื่องผู้ให้บริการ เครื่องผู้ให้บริการก็จะจัดการตามที่เครื่องผู้ขอใช้ บริการร้องขอ แล้วส่งข้อมูลกลับไปให้เครือข่ายแบบไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์ เหมาะกับระบบเครือข่ายที่ต้องการเชื่อมต่อกับเครื่องลูกข่ายจานวนมาก โดยการรองรับจานวนเครื่องลูกข่าย (Client) อาจเป็นหลักสิบหลัก ร้อย หรือหลักพัน
  • 31. วิชา คอมพิวเตอร์ เรื่อง อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ จัดทาโดย 1.นายสหัสวรรษ ศรีชุมพล เลขที่ 1 2.นายจิรายุ นาภา เลขที่ 27 3.นางสาวพรธิดา มะธิโตปะนา เลขที่ 33 4.นางสาวจิรัชญา สิมมา เลขที่ 34 5.นายศิรวิทย์ แก้วรักษา เลขที่ 35 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 เสนอ มิสเขมจิรา ปลงไสว ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558