กฎหมายหนี้
- 5. มี 5 ประการ ได้แก่
1. สัญญา หมายถึง นิติกรรมสองฝ่ายหรือหลายฝ่ายที่เกิดจากการ
แสดงเจตนาเสนอและสนองต้องตรงกันของบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไปโดย
มุ่งจะก่อให้เกิดหนี้ขึ้นตามกฎหมาย
2. ละเมิด หมายถึง การที่บุคลใดได้กระทาโดยจงใจหรือประมาทต่อ
บุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้บุคคลนั้นได้รับความเสียหาย
3. จัดการงานนอกสั่ง หมายถึง บุคคลคนหนึ่งเข้าทาบางสิ่งบางอย่าง
แทนอีกบุคคลหนึ่งโดยที่เขามิได้มอบหมายเลยก็ดี หรือโดยที่ไม่มีสิทธิทา
เช่นนั้นเลยก็ดี เป็นเหตุให้บุคคลทั้งสองนี้เกิดสิทธิและหน้าที่ต่อกันตามที่
- 6. 4. ลาภมิควรได้ หมายถึง การที่บุคลหนึ่งได้ทรัพย์สินจากการที่ผู้อื่น
ชาระหนี้หรือได้มาด้วยประการใดๆ อันปราศจากมูลจะอ้างกฎหมายได้
บุคคลที่ได้รับทรัพย์สินมาต้องคืนทรัพย์นั้นมาให้ตน
5. กฎหมาย หมายถึง หนี้ที่กฎหมายกาหนดให้บุคคลมีหน้าที่กระทา
การหรืองดเว้นกระทาการอย่างใดอย่างหนึ่ง
กฎหมายบัญญัติ แม้อันที่จริงแล้ว เขาอาจไม่ประสงค์จะผูกความสัมพันธ์
กันในทางกฎหมายเลยก็ตาม
- 11. ตัวอย่าง แดงเป็นลูกหนี้เงินกู้ดาจานวน 500,000 บาท และแดงเป็น
เจ้าหนี้เงินกู้เขียวจานวน300,000 บาท หนี้สองรายถึงกาหนดชาระแล้ว
ปรากฏว่าแดงไม่ยอมชาระหนี้เงินกู้จานวน500,000 บาทแก่ดา และแดงก็
ไม่ยอมเรียกให้เขียวชาระหนี้เงินกู้จานวน300,000 บาทแก่ตนขณะนั้น
แดงมีทรัพย์สินอยู่เพียง 200,000 บาท ทาให้ดาไม่อาจได้รับชาระหนี้เต็ม
จานวน ดังนี้ ดาจึงสามารถฟ้องศาลบังคับให้เขียวชาระหนี้เงินกู้แก่แดง
ได้ทาให้แดงซึ่งเป็นลูกหนี้ของดามีทรัพย์สินเป็นจานวน500,000 บาท
เพียงพอที่ดาจะได้รับชาระหนี้ครบถ้วน
- 14. ตัวอย่าง ดาเป็นหนี้เงินกู้แดงจานวน 60,000 บาท โดยดามีทรัพย์สิน
ทั้งหมดคิดเป็นเงิน 80,000 บาท ต่อมาดาได้ยกรถจักรยานยนต์ราคา
40,000 บาท ให้แก่เขียวหวานของตนโดยรู้อยู่ว่าจะทาให้ตนมีทรัพย์สิน
ไม่พอที่จะชาระหนี้แดง กล่าวคือ รู้อยู่ว่าตนจะมีทรัพย์สินเหลือเพียง
40,000 บาท ดังนี้ แดงสามารถฟ้องศาลขอให้เพิกถอนนิติกรรมการให้
อันเป็นการฉ้อฉลได้ไม่ว่าเขียวจะรู้ว่านิติกรรมดังกล่าวทาให้แดง
เสียเปรียบหรือไม่ก็ตาม
- 18. 3.การหักกลบลบหนี้ หมายถึง การที่บุคคลสองคนต่างมีฐานะเป็น
เจ้าหนี้ลูกหนี้ซึ่งกันและกัน โดยมีฐานะสลับกันในหนี้สองราย ซึ่งหนี้ทั้ง
สองรายต้องมีวัตถุแห่งหนี้เหมือนกันและถึงกาหนดชาระแล้ว บุคคลทั้ง
สองจึงสามารถนาหนี้ที่ตนมีสิทธิเรียกร้องมาหักกันลบกันได้หนี้ที่ถูก
หักไปย่อมระงับลง
4.การแปลงหนี้ใหม่ หมายถึง การที่เจ้าหนี้และลูกหนี้ตกลงกัน
เปลี่ยนแปลงสาระสาคัญแห่งหนี้
5.หนี้เกลื่อนกลืนกัน หมายถึง การที่สิทธิและหน้าที่ของหนี้ราย
หนึ่งตกแก่บุคคลคนเดียว กล่าวคือบุคคลนั้นมีฐานะเป็นทั้งเจ้าหนี้และ
ลูกหนี้ในหนี้รายเดียวกัน
- 22. ข้อที่ 1 บ่อเกิดแห่งนี้มีกี่ประการ
ก. 2 ประการ ข. 3ประการ
ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
ข้อที่ 2 การผิดนัดของลูกหนี้แบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ
ก. ลูกหนี้ผิดนัดเพราะเจ้าหนี้เตือนแล้ว , ลูกหนี้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม่ต้อง
เตือน
ข. ลูกหนี้ผิดนัดเพราะไม่มีในสัญญา , ลูกหนี้ผิดนัดเพราะ
ค. ลูกหนี้ผิดนัดเพราะอุบัติเหตุ , ลุกหนี้ผิดนัดเพราะเจ้าหนี้เตือนแล้ว
ง. ไม่มีข้อถูก
- 23. ข้อที่ 3 การชาระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยมีกี่กรณี
ก. 2 กรณี ข. 3 กรณี
ค. 4 กรณี ง. 5 กรณี
ข้อที่ 4 ความระงับแห่งหนี้ หมายถึง
ก. สัญญาที่ทาระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ในการโอนทรัพย์สิน
ข. การพักนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้
ค.เหตุที่ทาให้หนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ไม่มีอีกต่อไป
ง. ถูกทั้ง ก และ ข